เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 196 เจอกันตัวต่อตัว

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 196 เจอกันตัวต่อตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากส่งข้อความเสร็จ ฉินหร่านก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างๆ

 

 

เธอหยิบขนมปังขึ้นมาและมองไปทางกู้ซีฉือ

 

 

ก่อนจะถามอะไรบางอย่างออกไป เฉิงเจวี้ยนที่นั่งตรงข้ามเธอก็พูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “เมื่อไหร่ผลจะออก?”

 

 

ทางองค์กรการแพทย์ได้ประชาสัมพันธ์ออกไปแล้ว

 

 

เหมือนมีระลอกคลื่นนับพันกระตุ้นวงการแพทย์ระดับโลก แต่ปฏิกิริยาในโลกออนไลน์ไม่ได้เป็นที่ฮือฮาเท่าเรื่องอื้อฉาวของดาราแถวหน้า

 

 

“การเร่งปฏิกิริยาการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อชุดแรกจะออกมาเย็นนี้” ใบหน้ากู้ซีฉือที่แต่เดิมเซื่องซึมอยู่พลันเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

 

 

เขานั่งข้างฉินหร่านและเห็นเฉิงเจวี้ยนมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

 

 

กู้ซีฉือนิ่งไปสักพักแล้วขยับไปด้านข้าง

 

 

เจียงตงเย่ที่บังเอิญนั่งอยู่ข้างๆ กู้ซีฉือง่วงนอนเล็กน้อย พอเห็นกู้ซีฉือขยับมาทางนี้ เขาก็เบี่ยงมาด้านข้าง

 

 

“รุ่นพี่ ผมมีข้อมูลที่ยังต้องให้คุณช่วยทำ” กู้ซีฉือคิดได้สักพักก็เงยหน้ามองไปทางเฉิงเจวี้ยน “รอผมกลับมาจากอวิ๋นเฉิง ผมจะไปหาอาจารย์ที่นั่นสักรอบ”

 

 

เฉิงเจวี้ยนที่ยื่นมือหยิบแก้วน้ำได้ยินดังนั้นก็ตอบเพียง “อืม” และไม่ได้พูดอะไรต่อ 

 

 

ฉินหร่านกัดขนมปังพลันนึกถึงเรื่องที่เหยียนซีส่งข้อความมาหาเธอเมื่อวานตอนเย็น เธอไม่ได้ตอบกลับไปทันที เพราะจุดประสงค์ที่เธอมาเซี่ยงไฮ้คือรอผลการทดลองจากกู้ซีฉือเป็นหลัก

 

 

ทว่าตอนนี้ผลการทดลองของกู้ซีฉือยังไม่ออกมา คาดว่าเธอยังพอมีเวลาไปพบเหยียนซีสักครั้ง

 

 

หลังจากทานอาหารเสร็จ เฉิงเจวี้ยนและกู้ซีฉือก็ไปที่ชั้นสามเพื่อจัดเรียงผลการทดลองขั้นสุดท้าย

 

 

ส่วนลู้จ่าวอิ่งไม่มีอะไรทำหลังจากทานอาหารเสร็จ พอเขาเห็นโอวหยางเวยกำลังชวนเขาเล่นเกม เขาคิดอยู่สักพักก็นั่งลงที่คอมพิวเตอร์ตรงมุมห้องโถง

 

 

“ฉินเสี่ยวหร่าน เทพพระอาทิตย์ มาเล่นด้วยกันไหม?” ลู่จ้าวอิ่งแตะหูฟังแล้วหันมามองหยางเฟย

 

 

หยางเฟยลุกจากโซฟาพลางส่ายหัว “ไม่ละ ผมต้องกลับทีมแล้ว”

 

 

กู้ซีฉือบอกว่าอาการเขาดีขึ้นแล้ว หยางเฟยจึงไม่อยู่ที่บ้านกู้ซีฉือต่อ

 

 

เฉิงมู่หยิบกุญแจที่อยู่บนโต๊ะแล้วผงกหัว “ผมไปส่งคุณเอง”

 

 

“งั้นก็ได้” ลู่จ้าวอิ่งมองหยางเฟยด้วยความเสียดาย จากนั้นก็ออกไปส่งเขา

 

 

หลังจากทั้งสองไปกันแล้ว ฉินหร่านก็มองไปที่แผ่นหลังลู่จ้าวอิ่งพลางแตะคางคิด จากนั้นก็กลับห้องของเธอที่อยู่ชั้นสอง

 

 

ก้มหน้าดูโทรศัพท์ ทางด้านเหยียนซีก็ยังไม่ตอบกลับ

 

 

เธอเปิดคอมพิวเตอร์ที่กู้ซีฉือให้ติดตัวมา

 

 

และล็อกอินเข้าไอดีเกมตัวเอง

 

 

**

 

 

ชั้นล่าง หลังจากลู่จ้าวอิ่งไปส่งหยางเฟยเสร็จก็กลับมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์และเปิดเข้าเกม

 

 

วันนี้ฉินหร่านไม่อยู่ เฉิงมู่ก็ไม่อยู่ ส่วนเจียงตงเย่ กู้ซีฉือ กับเฉิงเจวี้ยนก็ขึ้นไปชั้นสาม

 

 

ลู่จ้าวอิ่งจึงเล่นคู่กับโอวหยางเวย

 

 

“วันนี้นายว่างอยู่คนเดียวเหรอ?” เสียงของโอวหยางเวยฟังดูนุ่มนวลและสุภาพ

 

 

“อืม พวกเขามีธุระน่ะ” ลู่จ้าวอิ่งควบคุมการ์ดไพ่ตามหลังโอวหยางเวย ทั้งสองเล่นไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่ แต่เกมนี้ก็ชนะอย่างทุลักทุเล

 

 

ตอนที่ลู่จ้าวอิ่งเล่นคู่กับโอวหยางเวยครั้งแรก ลู่จ้าวอิ่งก็รู้แล้วว่าตัวเองกับโอวหยางเวยเล่นไม่เข้าขากัน

 

 

ตอนแรกยังเคยตกใจที่ฉินหร่านเล่นไพ่เสริมได้ดี

 

 

พอตอนนี้ลู่จ้าวอิ่งได้รู้ความจริง…

 

 

เขาถอนตัวออกมาหลังจากเล่นเกมแรกจบ

 

 

เสียงของโอวหยางเวยที่อยู่อีกด้านเริ่มพูดขึ้นมาว่า “คราวที่แล้วฉันได้ยินเฉิงมู่บอกว่าตอนนี้พวกนายอยู่เซี่ยงไฮ้?”

 

 

“ใช่แล้ว” หลังจากลู่จ้าวอิ่งถอนตัวก็ยังคิดจะเล่นด่านต่อไปต่อ

 

 

เพียงแวบเดียวเขาก็เห็นจุดสีแดงที่อยู่หลังโลโก้เพื่อนตรงมุมขวาบนของหน้าเกม เขาควบเมาส์ไปคลิกดู——

 

 

(OST,QR เพิ่มคุณเป็นเพื่อน)

 

 

ลู่จ้าวอิ่งมือสั่น จากนั้นก็กดยอมรับ

 

 

“นายรอเดี๋ยวนะ เพื่อนของฉันจะเข้ามาอีกคน” ลู่จ้าวอิ่งไม่ได้เริ่มเกมทันที แต่เปิดหน้าเพื่อนและเชิญฉินหร่านเข้าร่วมเกมโดยเล่นกันสามคน

 

 

ฉินหร่านปฏิเสธเขา

 

 

ลู่จ้าวอิ่งแอบคิดในใจ “งั้นจะเพิ่มฉันทำไม” เขาเห็นจุดสีแดงบนกล่องข้อความที่มุมขวาบนของหน้าเกม

 

 

ไม่รู้ว่าคิดอะไร ลู่จ้าวอิ่งถึงได้เอาแต่จ้องกล่องข้อความนั้น

 

 

นิ้วเรียวขยับเมาส์ช้าๆ และในที่สุดก็คลิกที่กล่องข้อความ——

 

 

(คุณได้รับไพ่เทพสามใบที่ส่งโดย OST, QR เพื่อนของคุณ)

 

 

มือของลู่จ้าวอิ่งที่กำลังถือเมาส์เริ่มสั่นระริก เขาคลิกไปยังไพ่เทพสามใบที่ขยายใหญ่บนหน้าเกม เรียงเป็นแถวเดียว

 

 

ในเกม โอวหยางเวยรอนานมากแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นลู่จ้าวอิ่งเพื่อนของเขา

 

 

เขาอดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ ว่า “คุณชายลู่ เพื่อนนายคนนั้นมาหรือยัง?”

 

 

“ห๊ะ” ลู่จ้าวอิ่งตอบ ในไม่ช้าก็ได้สติ “โอวหยาง ฉันไม่เล่นแล้ว วันหลังค่อยนัดเล่นใหม่”

 

 

พอพูดเสร็จ เขาก็ถอนตัวออกจากทีมทันที

 

 

โอวหยางเวยที่อยู่อีกด้านก็ขมวดคิ้วมองลู่จ้าวอิ่งที่มีท่าทีแปลกไป

 

 

**

 

 

สถานที่ถ่าย MV ของเหยียนซี

 

 

เขาไม่ใช่ตัวเอกของ MV แค่มีส่วนร่วมกับพล็อตเรื่องและเข้าฉากไม่กี่ฉาก

 

 

สถานที่ถ่ายทำค่อนข้างเป็นความลับ แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงกรี๊ดเช่นนี้อยู่บางส่วน บางครั้งก็มีทีมงานชี้มาทางเหยียนซีและกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น

 

 

คนรอบข้างของเหยียนซีเจอจนไม่รู้สึกแปลกอะไรแล้ว

 

 

เหยียนซีตามทีมงานไปถ่ายทำ ผู้จัดการจึงเก็บโทรศัพท์ของเขาใส่ในกระเป๋า

 

 

ตอนที่ฉินหร่านส่งข้อความมา โทรศัพท์เหยียนซีก็สั่นได้สักพัก

 

 

นี่คือโทรศัพท์ส่วนตัวของเหยียนซี ผู้จัดการจึงดูไม่ได้

 

 

รอจนกว่าเหยียนซีกลับมาหลังจากถ่ายทำเสร็จก็ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ผู้จัดการยื่นเสื้อขนเป็ดตัวยาวให้เหยียนซี

 

 

“น่าจะไม่มีถ่ายเพิ่มแล้ว ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของตัวเอกสองคน ถ้านายรีบ เราก็กลับเมืองหลวงเย็นนี้เลยก็ได้นะ…” ผู้จัดการหยิบสมุดบันทึกออกมาและคุยกับเหยียนซีเกี่ยวกับตารางงานถัดไป

 

 

เนื่องจากต้องเข้าร่วมทำการถ่ายทำ เหยียนซีจึงสวมแค่เสื้อเชิ้ต ตอนนี้เขากำลังก้มลงสวมเสื้อขนเป็ดตัวยาวอย่างไม่รีบร้อน

 

 

นิ้วเรียวดึงซิปขึ้นอย่างระมัดระวัง

 

 

ขณะที่ฟังตารางงานจากผู้จัดการคร่าวๆ

 

 

“โทรศัพท์ผมล่ะ?” ทันใดนั้นเขาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงหันมาหาผู้จัดการ

 

 

ผู้จัดการดูสมุดบันทึก ตารางงานส่วนใหญ่เขาจำไว้ในใจหมดแล้วจึงปิดสมุดบันทึก จากนั้นก็ยัดใส่ในกระเป๋ากางเกงและหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เหยียนซี

 

 

เขารู้ดีว่าเหยียนซีจะต้องรอเจียงซานอี้ตอบข้อความแน่ๆ เขาจึงไม่ได้แปลกใจนัก

 

 

จากนั้นก็หยิบผ้าปิดจมูกพร้อมกับแว่นกันแดดยื่นให้เหยียนซี

 

 

ขณะที่สวมผ้าปิดจมูก เหยียนซีก็เปิดโทรศัพท์ไปด้วย  หน้าจอล็อกสกรีนมีหนึ่งข้อความ——

 

 

(ที่อยู่)

 

 

เหยียนซีที่กำลังสวมผ้าปิดจมูกอยู่ถึงกับตะลึง

 

 

คาดว่าตะลึงไปสามนาที

 

 

เป็นเวลานานมากจนผู้จัดการรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

เมื่อผู้จัดการที่กำลังยืนรอเหยียนซีสวมผ้าปิดจมูกเสร็จเห็นว่าเขาไม่กระดุกกระดิก เขาจึงเดินเข้ามาพลางเลิกคิ้วเรียก “เหยียนซี?”

 

 

“ห๊ะ” เหยียนซีรู้สึกตัว เขาเงยหน้าขึ้นพลางมองผู้จัดการด้วยดวงตาสีเข้มเป็นประกาย “ท่านเทพถามที่อยู่เรา”

 

 

**

 

 

ทางด้านกู้ซีฉือ

 

 

เฉิงเจวี้ยนทำมาตรฐานข้อมูลเสร็จไปแล้วหลายรายการ พอลงมาก็เห็นเพียงลู่จ้าวอิ่งนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แค่คนเดียว

 

 

เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่บนบันไดขั้นสุดท้าย จากนั้นก็เอนหลัง เขากวาดตามองไปทั่วห้องโถงก็พบว่าไม่มีร่องรอยของคนอื่นๆ อยู่เลย

 

 

คิ้วบางเลิกขึ้นพลางหันไปถามลู่จ้าวอิ่ง “คนอื่นล่ะ?”

 

 

ลู่จ้าวอิ่งเข้าใจดีว่า ‘คนอื่น’ ที่เฉิงเจวี้ยนถามไม่ใช่เฉิงมู่หรือหยางเฟย แต่เป็นฉินหร่านโดยไม่ต้องคิด 

 

 

“ฉินเสี่ยวหร่านออกไปเจอเพื่อน เฉิงมู่เป็นคนไปส่งเธอ” ในที่สุดลู่จ้าวอิ่งก็ดึงสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เอียงศีรษะมองเฉิงเจวี้ยน “คุณชายเจวี้ยน ฉินเสี่ยวหร่านมีเพื่อนในเซี่ยงไฮ้ด้วยเหรอ? ฉันถามเธอ เธอก็ไม่บอก พูดแค่ว่าเพื่อนเหมือนเป็นความลับ”  

 

 

ครั้งสุดท้ายที่เธอบอกว่าจะไปพบเพื่อนคนหนึ่ง

 

 

ผลก็คือกู้ซีฉือ

 

 

เพื่อนที่ไปพบตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร

 

 

ลู่จ้าวอิ่งคิดว่าน่าจะไม่ใช่เพื่อนระดับเดียวกับกู้ซีฉือ

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เฉิงเจวี้ยนก็ควานหาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกง เขาเหลือบมองลู่จ้าวอิ่งโดยไม่พูดอะไร

 

 

ลู่จ้าวอิ่งหดหัวกลับโดยไม่รู้ตัว “นายโทรศัพท์ไปถามเฉิงมู่ดูก็ได้นี่”

 

 

**

 

 

อีกด้านหนึ่ง เฉิงมู่กำลังขับรถตามจีพีเอสไปส่งฉินหร่านตามที่อยู่ที่เธอให้มา

 

 

ผ่านแม่น้ำสายหนึ่งก็ถึงหน้าประตูร้านกาแฟที่ดูเงียบสงบ

 

 

ดูแล้วเหมือนเป็นสถานที่นัดเดท เฉิงมู่คอยสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

 

 

“คุณฉิน ที่เพื่อนคุณพูดถึงคือที่นี่ใช่ไหมครับ?” เขาจอดรถตรงข้ามร้านและมองฉินหร่านผ่านกระจกมองหลัง

 

 

ฉินหร่านที่พิงหน้าต่างลุกนั่งตัวตรงพลางมองไปบริเวณรอบๆ เธอยื่นมือเปิดประตูแล้วลงจากรถ พูดเบาๆ “อืม”

 

 

เธอยังคงอยู่ในเสื้อสเวตเตอร์สีขาวและเสื้อโค้ตสีดำ ดึงหมวกเสื้อสเวตเตอร์มาบังลม

 

 

เขาจงใจเลือกสถานที่แห่งนี้และวันนี้ยังเป็นวันจันทร์ ตอนเช้าคนจึงไม่พลุกพล่าน

 

 

ฉินหร่านเดินตรงไปหาพนักงานเสิร์ฟ เธอชะงักสักพักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่เต็มไปด้วยความสุภาพ “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าห้องหมายเลข 12 ไปทางไหนคะ?”

 

 

หลังจากนั้นไม่นานฉินหร่านก็หยุดอยู่ที่ประตูห้องหมายเลข 12 เธอยกมือขึ้นเคาะประตู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 196 เจอกันตัวต่อตัว

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 196 เจอกันตัวต่อตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากส่งข้อความเสร็จ ฉินหร่านก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างๆ

 

 

เธอหยิบขนมปังขึ้นมาและมองไปทางกู้ซีฉือ

 

 

ก่อนจะถามอะไรบางอย่างออกไป เฉิงเจวี้ยนที่นั่งตรงข้ามเธอก็พูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “เมื่อไหร่ผลจะออก?”

 

 

ทางองค์กรการแพทย์ได้ประชาสัมพันธ์ออกไปแล้ว

 

 

เหมือนมีระลอกคลื่นนับพันกระตุ้นวงการแพทย์ระดับโลก แต่ปฏิกิริยาในโลกออนไลน์ไม่ได้เป็นที่ฮือฮาเท่าเรื่องอื้อฉาวของดาราแถวหน้า

 

 

“การเร่งปฏิกิริยาการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อชุดแรกจะออกมาเย็นนี้” ใบหน้ากู้ซีฉือที่แต่เดิมเซื่องซึมอยู่พลันเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

 

 

เขานั่งข้างฉินหร่านและเห็นเฉิงเจวี้ยนมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

 

 

กู้ซีฉือนิ่งไปสักพักแล้วขยับไปด้านข้าง

 

 

เจียงตงเย่ที่บังเอิญนั่งอยู่ข้างๆ กู้ซีฉือง่วงนอนเล็กน้อย พอเห็นกู้ซีฉือขยับมาทางนี้ เขาก็เบี่ยงมาด้านข้าง

 

 

“รุ่นพี่ ผมมีข้อมูลที่ยังต้องให้คุณช่วยทำ” กู้ซีฉือคิดได้สักพักก็เงยหน้ามองไปทางเฉิงเจวี้ยน “รอผมกลับมาจากอวิ๋นเฉิง ผมจะไปหาอาจารย์ที่นั่นสักรอบ”

 

 

เฉิงเจวี้ยนที่ยื่นมือหยิบแก้วน้ำได้ยินดังนั้นก็ตอบเพียง “อืม” และไม่ได้พูดอะไรต่อ 

 

 

ฉินหร่านกัดขนมปังพลันนึกถึงเรื่องที่เหยียนซีส่งข้อความมาหาเธอเมื่อวานตอนเย็น เธอไม่ได้ตอบกลับไปทันที เพราะจุดประสงค์ที่เธอมาเซี่ยงไฮ้คือรอผลการทดลองจากกู้ซีฉือเป็นหลัก

 

 

ทว่าตอนนี้ผลการทดลองของกู้ซีฉือยังไม่ออกมา คาดว่าเธอยังพอมีเวลาไปพบเหยียนซีสักครั้ง

 

 

หลังจากทานอาหารเสร็จ เฉิงเจวี้ยนและกู้ซีฉือก็ไปที่ชั้นสามเพื่อจัดเรียงผลการทดลองขั้นสุดท้าย

 

 

ส่วนลู้จ่าวอิ่งไม่มีอะไรทำหลังจากทานอาหารเสร็จ พอเขาเห็นโอวหยางเวยกำลังชวนเขาเล่นเกม เขาคิดอยู่สักพักก็นั่งลงที่คอมพิวเตอร์ตรงมุมห้องโถง

 

 

“ฉินเสี่ยวหร่าน เทพพระอาทิตย์ มาเล่นด้วยกันไหม?” ลู่จ้าวอิ่งแตะหูฟังแล้วหันมามองหยางเฟย

 

 

หยางเฟยลุกจากโซฟาพลางส่ายหัว “ไม่ละ ผมต้องกลับทีมแล้ว”

 

 

กู้ซีฉือบอกว่าอาการเขาดีขึ้นแล้ว หยางเฟยจึงไม่อยู่ที่บ้านกู้ซีฉือต่อ

 

 

เฉิงมู่หยิบกุญแจที่อยู่บนโต๊ะแล้วผงกหัว “ผมไปส่งคุณเอง”

 

 

“งั้นก็ได้” ลู่จ้าวอิ่งมองหยางเฟยด้วยความเสียดาย จากนั้นก็ออกไปส่งเขา

 

 

หลังจากทั้งสองไปกันแล้ว ฉินหร่านก็มองไปที่แผ่นหลังลู่จ้าวอิ่งพลางแตะคางคิด จากนั้นก็กลับห้องของเธอที่อยู่ชั้นสอง

 

 

ก้มหน้าดูโทรศัพท์ ทางด้านเหยียนซีก็ยังไม่ตอบกลับ

 

 

เธอเปิดคอมพิวเตอร์ที่กู้ซีฉือให้ติดตัวมา

 

 

และล็อกอินเข้าไอดีเกมตัวเอง

 

 

**

 

 

ชั้นล่าง หลังจากลู่จ้าวอิ่งไปส่งหยางเฟยเสร็จก็กลับมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์และเปิดเข้าเกม

 

 

วันนี้ฉินหร่านไม่อยู่ เฉิงมู่ก็ไม่อยู่ ส่วนเจียงตงเย่ กู้ซีฉือ กับเฉิงเจวี้ยนก็ขึ้นไปชั้นสาม

 

 

ลู่จ้าวอิ่งจึงเล่นคู่กับโอวหยางเวย

 

 

“วันนี้นายว่างอยู่คนเดียวเหรอ?” เสียงของโอวหยางเวยฟังดูนุ่มนวลและสุภาพ

 

 

“อืม พวกเขามีธุระน่ะ” ลู่จ้าวอิ่งควบคุมการ์ดไพ่ตามหลังโอวหยางเวย ทั้งสองเล่นไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่ แต่เกมนี้ก็ชนะอย่างทุลักทุเล

 

 

ตอนที่ลู่จ้าวอิ่งเล่นคู่กับโอวหยางเวยครั้งแรก ลู่จ้าวอิ่งก็รู้แล้วว่าตัวเองกับโอวหยางเวยเล่นไม่เข้าขากัน

 

 

ตอนแรกยังเคยตกใจที่ฉินหร่านเล่นไพ่เสริมได้ดี

 

 

พอตอนนี้ลู่จ้าวอิ่งได้รู้ความจริง…

 

 

เขาถอนตัวออกมาหลังจากเล่นเกมแรกจบ

 

 

เสียงของโอวหยางเวยที่อยู่อีกด้านเริ่มพูดขึ้นมาว่า “คราวที่แล้วฉันได้ยินเฉิงมู่บอกว่าตอนนี้พวกนายอยู่เซี่ยงไฮ้?”

 

 

“ใช่แล้ว” หลังจากลู่จ้าวอิ่งถอนตัวก็ยังคิดจะเล่นด่านต่อไปต่อ

 

 

เพียงแวบเดียวเขาก็เห็นจุดสีแดงที่อยู่หลังโลโก้เพื่อนตรงมุมขวาบนของหน้าเกม เขาควบเมาส์ไปคลิกดู——

 

 

(OST,QR เพิ่มคุณเป็นเพื่อน)

 

 

ลู่จ้าวอิ่งมือสั่น จากนั้นก็กดยอมรับ

 

 

“นายรอเดี๋ยวนะ เพื่อนของฉันจะเข้ามาอีกคน” ลู่จ้าวอิ่งไม่ได้เริ่มเกมทันที แต่เปิดหน้าเพื่อนและเชิญฉินหร่านเข้าร่วมเกมโดยเล่นกันสามคน

 

 

ฉินหร่านปฏิเสธเขา

 

 

ลู่จ้าวอิ่งแอบคิดในใจ “งั้นจะเพิ่มฉันทำไม” เขาเห็นจุดสีแดงบนกล่องข้อความที่มุมขวาบนของหน้าเกม

 

 

ไม่รู้ว่าคิดอะไร ลู่จ้าวอิ่งถึงได้เอาแต่จ้องกล่องข้อความนั้น

 

 

นิ้วเรียวขยับเมาส์ช้าๆ และในที่สุดก็คลิกที่กล่องข้อความ——

 

 

(คุณได้รับไพ่เทพสามใบที่ส่งโดย OST, QR เพื่อนของคุณ)

 

 

มือของลู่จ้าวอิ่งที่กำลังถือเมาส์เริ่มสั่นระริก เขาคลิกไปยังไพ่เทพสามใบที่ขยายใหญ่บนหน้าเกม เรียงเป็นแถวเดียว

 

 

ในเกม โอวหยางเวยรอนานมากแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นลู่จ้าวอิ่งเพื่อนของเขา

 

 

เขาอดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ ว่า “คุณชายลู่ เพื่อนนายคนนั้นมาหรือยัง?”

 

 

“ห๊ะ” ลู่จ้าวอิ่งตอบ ในไม่ช้าก็ได้สติ “โอวหยาง ฉันไม่เล่นแล้ว วันหลังค่อยนัดเล่นใหม่”

 

 

พอพูดเสร็จ เขาก็ถอนตัวออกจากทีมทันที

 

 

โอวหยางเวยที่อยู่อีกด้านก็ขมวดคิ้วมองลู่จ้าวอิ่งที่มีท่าทีแปลกไป

 

 

**

 

 

สถานที่ถ่าย MV ของเหยียนซี

 

 

เขาไม่ใช่ตัวเอกของ MV แค่มีส่วนร่วมกับพล็อตเรื่องและเข้าฉากไม่กี่ฉาก

 

 

สถานที่ถ่ายทำค่อนข้างเป็นความลับ แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงกรี๊ดเช่นนี้อยู่บางส่วน บางครั้งก็มีทีมงานชี้มาทางเหยียนซีและกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น

 

 

คนรอบข้างของเหยียนซีเจอจนไม่รู้สึกแปลกอะไรแล้ว

 

 

เหยียนซีตามทีมงานไปถ่ายทำ ผู้จัดการจึงเก็บโทรศัพท์ของเขาใส่ในกระเป๋า

 

 

ตอนที่ฉินหร่านส่งข้อความมา โทรศัพท์เหยียนซีก็สั่นได้สักพัก

 

 

นี่คือโทรศัพท์ส่วนตัวของเหยียนซี ผู้จัดการจึงดูไม่ได้

 

 

รอจนกว่าเหยียนซีกลับมาหลังจากถ่ายทำเสร็จก็ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ผู้จัดการยื่นเสื้อขนเป็ดตัวยาวให้เหยียนซี

 

 

“น่าจะไม่มีถ่ายเพิ่มแล้ว ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของตัวเอกสองคน ถ้านายรีบ เราก็กลับเมืองหลวงเย็นนี้เลยก็ได้นะ…” ผู้จัดการหยิบสมุดบันทึกออกมาและคุยกับเหยียนซีเกี่ยวกับตารางงานถัดไป

 

 

เนื่องจากต้องเข้าร่วมทำการถ่ายทำ เหยียนซีจึงสวมแค่เสื้อเชิ้ต ตอนนี้เขากำลังก้มลงสวมเสื้อขนเป็ดตัวยาวอย่างไม่รีบร้อน

 

 

นิ้วเรียวดึงซิปขึ้นอย่างระมัดระวัง

 

 

ขณะที่ฟังตารางงานจากผู้จัดการคร่าวๆ

 

 

“โทรศัพท์ผมล่ะ?” ทันใดนั้นเขาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงหันมาหาผู้จัดการ

 

 

ผู้จัดการดูสมุดบันทึก ตารางงานส่วนใหญ่เขาจำไว้ในใจหมดแล้วจึงปิดสมุดบันทึก จากนั้นก็ยัดใส่ในกระเป๋ากางเกงและหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เหยียนซี

 

 

เขารู้ดีว่าเหยียนซีจะต้องรอเจียงซานอี้ตอบข้อความแน่ๆ เขาจึงไม่ได้แปลกใจนัก

 

 

จากนั้นก็หยิบผ้าปิดจมูกพร้อมกับแว่นกันแดดยื่นให้เหยียนซี

 

 

ขณะที่สวมผ้าปิดจมูก เหยียนซีก็เปิดโทรศัพท์ไปด้วย  หน้าจอล็อกสกรีนมีหนึ่งข้อความ——

 

 

(ที่อยู่)

 

 

เหยียนซีที่กำลังสวมผ้าปิดจมูกอยู่ถึงกับตะลึง

 

 

คาดว่าตะลึงไปสามนาที

 

 

เป็นเวลานานมากจนผู้จัดการรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

เมื่อผู้จัดการที่กำลังยืนรอเหยียนซีสวมผ้าปิดจมูกเสร็จเห็นว่าเขาไม่กระดุกกระดิก เขาจึงเดินเข้ามาพลางเลิกคิ้วเรียก “เหยียนซี?”

 

 

“ห๊ะ” เหยียนซีรู้สึกตัว เขาเงยหน้าขึ้นพลางมองผู้จัดการด้วยดวงตาสีเข้มเป็นประกาย “ท่านเทพถามที่อยู่เรา”

 

 

**

 

 

ทางด้านกู้ซีฉือ

 

 

เฉิงเจวี้ยนทำมาตรฐานข้อมูลเสร็จไปแล้วหลายรายการ พอลงมาก็เห็นเพียงลู่จ้าวอิ่งนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แค่คนเดียว

 

 

เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่บนบันไดขั้นสุดท้าย จากนั้นก็เอนหลัง เขากวาดตามองไปทั่วห้องโถงก็พบว่าไม่มีร่องรอยของคนอื่นๆ อยู่เลย

 

 

คิ้วบางเลิกขึ้นพลางหันไปถามลู่จ้าวอิ่ง “คนอื่นล่ะ?”

 

 

ลู่จ้าวอิ่งเข้าใจดีว่า ‘คนอื่น’ ที่เฉิงเจวี้ยนถามไม่ใช่เฉิงมู่หรือหยางเฟย แต่เป็นฉินหร่านโดยไม่ต้องคิด 

 

 

“ฉินเสี่ยวหร่านออกไปเจอเพื่อน เฉิงมู่เป็นคนไปส่งเธอ” ในที่สุดลู่จ้าวอิ่งก็ดึงสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เอียงศีรษะมองเฉิงเจวี้ยน “คุณชายเจวี้ยน ฉินเสี่ยวหร่านมีเพื่อนในเซี่ยงไฮ้ด้วยเหรอ? ฉันถามเธอ เธอก็ไม่บอก พูดแค่ว่าเพื่อนเหมือนเป็นความลับ”  

 

 

ครั้งสุดท้ายที่เธอบอกว่าจะไปพบเพื่อนคนหนึ่ง

 

 

ผลก็คือกู้ซีฉือ

 

 

เพื่อนที่ไปพบตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร

 

 

ลู่จ้าวอิ่งคิดว่าน่าจะไม่ใช่เพื่อนระดับเดียวกับกู้ซีฉือ

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เฉิงเจวี้ยนก็ควานหาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกง เขาเหลือบมองลู่จ้าวอิ่งโดยไม่พูดอะไร

 

 

ลู่จ้าวอิ่งหดหัวกลับโดยไม่รู้ตัว “นายโทรศัพท์ไปถามเฉิงมู่ดูก็ได้นี่”

 

 

**

 

 

อีกด้านหนึ่ง เฉิงมู่กำลังขับรถตามจีพีเอสไปส่งฉินหร่านตามที่อยู่ที่เธอให้มา

 

 

ผ่านแม่น้ำสายหนึ่งก็ถึงหน้าประตูร้านกาแฟที่ดูเงียบสงบ

 

 

ดูแล้วเหมือนเป็นสถานที่นัดเดท เฉิงมู่คอยสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

 

 

“คุณฉิน ที่เพื่อนคุณพูดถึงคือที่นี่ใช่ไหมครับ?” เขาจอดรถตรงข้ามร้านและมองฉินหร่านผ่านกระจกมองหลัง

 

 

ฉินหร่านที่พิงหน้าต่างลุกนั่งตัวตรงพลางมองไปบริเวณรอบๆ เธอยื่นมือเปิดประตูแล้วลงจากรถ พูดเบาๆ “อืม”

 

 

เธอยังคงอยู่ในเสื้อสเวตเตอร์สีขาวและเสื้อโค้ตสีดำ ดึงหมวกเสื้อสเวตเตอร์มาบังลม

 

 

เขาจงใจเลือกสถานที่แห่งนี้และวันนี้ยังเป็นวันจันทร์ ตอนเช้าคนจึงไม่พลุกพล่าน

 

 

ฉินหร่านเดินตรงไปหาพนักงานเสิร์ฟ เธอชะงักสักพักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่เต็มไปด้วยความสุภาพ “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าห้องหมายเลข 12 ไปทางไหนคะ?”

 

 

หลังจากนั้นไม่นานฉินหร่านก็หยุดอยู่ที่ประตูห้องหมายเลข 12 เธอยกมือขึ้นเคาะประตู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+