เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 222 เริ่มฝึก บอสใหญ่แห่งอวิ๋นกวง

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 222 เริ่มฝึก บอสใหญ่แห่งอวิ๋นกวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่เฉิงหั่วเห็นศักยภาพในตัวถังชิงนั้นเป็นเพราะถังชิงมีความรู้ในด้านคอมพิวเตอร์บนโลกใบนี้อย่างถ่องแท้  ซึ่งพอจะเรียกได้ว่าเป็นมือฉกาจคนหนึ่ง

 

 

ทั้งคฤหาสน์นี้เธอกลัวแค่เฉิงหั่วคนเดียว

 

 

ถ้าให้เธอแฮ็กคอมพิวเตอร์ของเฉิงหั่ว เธอไม่เอาด้วยแน่นอน

 

 

เธอไม่ได้รู้สึกกลัวคนอื่นในคฤหาสน์แต่อย่างใด และเนื่องจากเมื่อตอนบ่ายเธอไม่รู้สถานะของฉินหร่านคนนั้นอย่างชัดเจน

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สอบถามเกี่ยวกับที่พักของเธอแล้ว พอตกกลางคืนไม่มีใครอยู่ เธอก็เริ่มแฮ็กเข้าไปในห้องทั้งสองที่ถูกล็อกไว้

 

 

แต่ทว่ายังไม่ทันได้แฮ็กพอร์ตไร้สายของฉินหร่าน จู่ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอก็กลายเป็นสีดำ

 

 

ถังชิงอึ้งไปสักพัก จากนั้นกดแป้นพิมพ์อีกครั้งและพิมพ์โค้ดชุดหนึ่ง

 

 

ไฟแสดงสถานะของคอมพิวเตอร์ยังคงสว่างอยู่ แต่หน้าจอไม่ตอบสนอง ในฐานะที่เป็นแฮ็กเกอร์ ถังชิงย่อมรู้สถานการณ์ดีว่าตอนนี้คอมพิวเตอร์ของเธอโดนคนแฮ็กกลับแล้ว!

 

 

อีกฝ่ายจะต้องมีฝีมือมากกว่าเธอมากแน่ๆ ถึงสามารถทำให้คอมพิวเตอร์ของเธอไร้การตอบสนอง

 

 

ถังชิงเอนหลังพิงเก้าอี้ เหงื่อท่วมไปทั้งแผ่นหลัง

 

 

จะใช่เฉิงหั่วหรือเปล่า?

 

 

แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะแม้แต่เฉิงหั่วก็ไม่สามารถแฮ็กคอมพิวเตอร์ของเธอจนไร้การตอบสนองแบบนี้ได้

 

 

ขณะที่ถังชิงกำลังอกสั่นขวัญแขวน อีกฝ่ายก็ถอนตัวกลับทันทีและไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีกต่อไป

 

 

ถังชิงกดแป้นพิมพ์ด้วยความงุนงง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นใครกันแน่?

 

 

วันนี้เฉิงหั่วพูดถึงคนของแมทธิว?

 

 

อีกด้านหนึ่ง ลู่จ้าวอิ่งก็เล่นเกมจบไปหนึ่งเกมแล้ว

 

 

ยังถามเร่งคนที่อยู่อีกด้านว่า “ฉินหร่าน เสร็จหรือยัง?”

 

 

“เสร็จแล้ว อย่าเร่ง” ฉินหร่านปรับตำแหน่งการค้นหา ในที่สุดตำแหน่งของห้องก็ปรากฏขึ้น——

 

 

ห้องนอนแขกบนชั้นสามของตึกด้านหลัง…

 

 

เป็นแฮกเกอร์สาวคนนั้นที่เฉิงหั่วพากลับมาวันนี้?

 

 

ฉินหร่านหรี่ตา

 

 

ลู่จ้าวอิ่งยังคงเร่งเธอ ฉินหร่านจึงค่อยๆ คุมตัวละครในเกมเข้าร่วมทีมกับลู่จ้าวอิ่ง ขณะที่เข้าคิวเธอก็เขียนแผนการฝึกซ้อมให้เฉิงมู่ไปด้วย

 

 

**

 

 

อีกด้านหนึ่ง เฉิงหั่วยังไม่ได้กลับไปยังห้องของตัวเอง แต่อยู่กับเฉิงสุ่ยและกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อรายงานสถานการณ์ในครั้งนี้

 

 

“สมาชิกของสมาคมแฮกเกอร์ค่อนข้างลึกลับ” เฉิงหั่วลากเก้าอี้มานั่ง “สร้างปัญหา ไม่ค่อยทำตามคำสั่ง ถังชิงประวัติขาวสะอาดก็จริง แต่เธอมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคืออวดดี”

 

 

เฉิงสุ่ยรินน้ำให้เขาหนึ่งแก้วพลางพยักหน้าเห็นด้วย “ดูก็รู้แล้ว”

 

 

คนวัยประมาณยี่สิบที่ประสบความสำเร็จด้านคอมพิวเตอร์แบบนี้ การอวดดีนั้นก็ถือว่าพอเข้าใจได้

 

 

“คอยจับตาดูไปสักพัก” เฉิงสุ่ยดื่มน้ำ จากนั้นก็วางแก้ว “รอการประเมินเดือนหน้าค่อยว่ากัน”

 

 

“ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน” เฉิงหั่วพยักหน้า ขณะถือถ้วยชาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “คนของหน่วยจัดซื้อบอกฉันว่าประมูลหุ่นยนต์ซีรีส์EAได้แล้ว ตอนนี้อยู่ไหนล่ะ?”

 

 

“ยังรอคิวตรวจสอบ พรุ่งนี้เช้าจะมีคนส่งมาให้นายวิจัย” เฉิงสุ่ยได้รับแจ้งเกี่ยวกับหุ่นยนต์มาแล้ว

 

 

เฉิงหั่วกระตือรือร้นอยากจะลองเล็กน้อย ตอนที่เขากำลังจะถามว่างานวิจัยอยู่ไหน โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น

 

 

เป็นโทรศัพท์จากพนักงานฝ่ายเทคนิคของคฤหาสน์ เฉิงหั่วขมวดคิ้ว “มีอะไร?”

 

 

เสียงจากอีกด้านดูจริงจังและร้อนใจ “คุณเฉิงหั่ว มีคนโจมตีระบบภายในของเรา”

 

 

“นายแน่ใจนะ?” เฉิงหั่วลุกจากเก้าอี้พลางขมวดคิ้ว “ค่อยๆ พูด ฉันจะรีบไป”

 

 

เขาหยิบเสื้อนอกเตรียมจะออกไป

 

 

เฉิงสุ่ยยันพนักแขนลุกขึ้นยืนและถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

“ระบบภายในคฤหาสน์มีปัญหา ถูกคนโจมตี ฉันจะไปดูสักหน่อย” เฉิงหั่วสวมเสื้อนอกและรีบเดินออกไป

 

 

ไฟร์วอลล์ที่เขาติดตั้งในคฤหาสน์นี้ได้มาจากประธานสมาคมแฮกเกอร์ น้อยมากที่บุคคลภายนอกจะสามารถโจมตีระบบได้สำเร็จ

 

 

มีเพียงบอสใหญ่ไม่กี่คนที่สามารถโจมตีระบบของพวกเขาได้ ใครบ้างที่มีสิทธิ์จะโจมตีระบบของคฤหาสน์นี้? เฉิงหั่วรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

บวกกับวันนี้เฉิงสุ่ยพูดถึงแมทธิว สีหน้าเขาดูเข้มขึ้น

 

 

เฉิงสุ่ยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเฉิงหั่ว เขาก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ดังนั้นเขาจึงหยิบเสื้อนอกและออกไปกับเฉิงหั่วด้วย

 

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เขาถาม

 

 

ขณะที่พวกเขาเดินไปที่หน่วยข่าวกรอง เฉิงหั่วก็อธิบายเรื่องทั้งหมดให้เฉิงสุ่ยฟัง

 

 

หน่วยข่าวกรองแยกออกไปอยู่ที่หอคอย ชั้นหนึ่งมีคอมพิวเตอร์อยู่ประมาณสิบกว่าเครื่อง ขณะนี้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องมีโค้ดขึ้นมาเป็นแถวๆ

 

 

เมื่อหัวหน้าหน่วยข่าวกรองเห็นเฉิงหั่วมาแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วหลีกทางให้

 

 

เฉิงหั่วกดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบพอร์ต

 

 

ตามความรู้ความเข้าใจของเขา คนที่สามารถเจาะไฟร์วอลล์ได้จะต้องเป็นบุคคลระดับขั้นสุดยอด เป็นบอสใหญ่ในวงการนักแฮ็กเกอร์อย่างแน่นอน เขาคิดว่าคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการต่อกรกับคนคนนี้

 

 

แต่ยังไม่ทันออกแรงทำอะไร อีกฝ่ายก็ถูกเขารุกกลับอย่างง่ายดาย…

 

 

เฉิงหั่วที่เป็นคนสุขุมมาโดยตลอด ตอนนี้ถึงกับงุนงงเล็กน้อย

 

 

เขาถือโอกาสนี้ทำการตรวจสอบต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ไม่นานก็จับได้ว่าวงจรห้องของถังชิงมีร่องรอยการแฮ็กห้องฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยน

 

 

เฉิงหั่วหรี่ตาโดยไม่รู้ตัว มือของเขาหยุดที่แป้นพิมพ์สีดำ “แปลกแฮะ…”

 

 

“มีอะไร?” เฉิงสุ่ยนั่งอยู่ตรงข้ามเขาโดยไม่ได้เข้าไปรบกวนเขา พอเห็นเฉิงหั่วนิ่งไปก็หันไปมอง “สถานการณ์ผิดปกติ?”

 

 

“แปลกมาก” เฉิงหั่วมองที่จุดสีแดงที่แสดงบนหน้าคอมพิวเตอร์ เขาชี้ไปที่จุดสีแดงแล้วมองเฉิงสุ่ย “อีกฝ่ายเป็นถึงบอสใหญ่ ฉันไม่พบร่องรอยแม้แต่นิดเดียว…แต่ว่า เขาไม่ได้แตะต้องข้อมูลอะไรของเราเลย คล้ายกับว่า…”

 

 

เขาอยากจะทำให้พวกเขาพบตัวถังชิง

 

 

เฉิงสุ่ยฟังจบก็เงียบไป “ถังชิงคนนี้ ลองสังเกตไปสักพัก นายดูข้อมูลคุณหนูฉินกับนายท่านดีๆ ซิ”

 

 

ในฐานะแฮ็กเกอร์ที่สืบค้นข้อมูลของคนอื่น เฉิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติหรือไม่ ถังชิงเองก็ไม่ได้แตะต้องข้อมูลของคฤหาสน์ แต่ทันทีที่เธอมาสืบข้อมูลของฉินหร่านและเฉิงเจวี้ยน ก็ทำลายความรู้สึกดีๆ ของเฉิงสุ่ยไปแล้ว

 

 

**

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

 

ฉินหร่านตื่นขึ้นมาทานอาหารเช้าเสร็จก็ลงไปชั้นล่าง

 

 

เวลาเจ็ดโมง ไม่เช้าไม่สายจนเกินไป 

 

 

เฉิงมู่ได้มารออยู่หน้าประตูใหญ่เรียบร้อยแล้ว

 

 

“คุณหนูฉิน ทำไมผมถึงไม่เจอเสี่ยวซือล่ะ?” เฉิงมู่กวาดตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นซือลี่หมิงแม้แต่เงา

 

 

เขาคิดว่ายังคงเป็นเขาและซือลี่หมิงที่เป็นคนพาฉินหร่านออกไปวันนี้

 

 

ในห้องโถง ฉินหร่านไม่ได้สวมเสื้อขนเป็ด เธอสวมแค่เสื้อสเวตเตอร์โดยมีเสื้อกันลมอยู่ด้านนอก

 

 

“เขายังมาไม่ถึง” ฉินหร่านยังถือเอกสารชุดหนึ่งอยู่ในมือ เธอยื่นเอกสารให้เฉิงมู่แล้วบอกว่า “ตามฉันมา”

 

 

เธอพาเฉิงมู่ไปยังห้องฝึกซ้อมขนาดเล็กของเฉิงเจวี้ยน

 

 

“นี่คือเครื่องเซนเซอร์ทดสอบพลังหมัด” ฉินหร่านหยุดอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัด เธอถอดเสื้อตัวนอกโยนไปกองกับพื้นพร้อมกับอธิบายอุปกรณ์ให้เฉิงมู่ฟังไปด้วย

 

 

มิเตอร์ของเครื่องมือทดสอบพลังหมัดประกอบไปด้วยห้าแถว

 

 

แถวแรกคือสรุปสถิติสูงสุด : 910

 

 

แถวที่สองคือสถิติสูงสุดของเครื่อง : 0

 

 

แถวที่สามคือสถิติหมัดแรกของเครื่อง : 0

 

 

แถวที่สี่คือสถิติหมัดที่สองของเครื่อง : 0

 

 

แถวที่ห้าคือสถิติหมัดที่สามของเครื่อง : 0

 

 

แถวแรกน่าจะเป็นสถิติสูงสุดของคนทั้งคฤหาสน์นี้ ถัดไปอีกสี่แถว…เฉิงเจวี้ยนน่าจะยังไม่เคยใช้เครื่องนี้มาก่อน

 

 

เฉิงมู่พยักหน้า เขาคิดว่าฉินหร่านจะพาเขาออกไป เขาจึงยังสวมเสื้อคลุมสีดำ

 

 

แต่พอได้ยินที่ฉินหร่านบอก เขาก็ถอดเสื้อคลุมยืนอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัด

 

 

เขาขยับตัวก่อนแล้วกำหมัดขวา หลังมือมีเอ็นปูด เบิกตาทั้งสองข้าง

 

 

“ปัง” มือขวาของเฉิงมู่ต่อยไปที่เครื่องอย่างแรงเหมือนภาพติดตา!

 

 

เครื่องส่งเสียงติ้ง

 

 

แถวที่สองกับแถวที่สามปรากฏค่าพลังหมัด——652

 

 

เฉิงมู่ “…”

 

 

มันแย่กว่าสถิติสูงสุดตั้งสองร้อยกว่าและไม่มีสถิติอื่นมาเปรียบเทียบ

 

 

เกือบจะห่างกันถึงสามร้อยแล้วแน่ะ…

 

 

ฉินหร่านกระแอม “ต่อยให้มากกว่านี้”

 

 

หมัดเดียวบอกอะไรไม่ได้

 

 

โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอดังขึ้น เธอหยิบมาดูก็พบว่าเป็นข้อความของซือลี่หมิง เขาถามเธอว่าอยู่ไหน

 

 

ฉินหร่านจึงส่งที่อยู่ชั้นหนึ่งให้เขา

 

 

**

 

 

ซือลี่หมิงสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปที่คฤหาสน์

 

 

ระหว่างทางได้พบกับเฉิงสุ่ยและหัวหน้าเข้าพอดี

 

 

เขาหยุดทักทายเสร็จก็สาวเท้าเดินไปหาฉินหร่าน

 

 

“ซือลี่หมิงก็ไม่ไปสนามฝึกเหรอ? เดือนหน้าจะประเมินแล้วนะ” หัวหน้าหยวนจำคนดังของหน่วยจัดซื้อก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี เขากระซิบถามหัวหน้าโจว

 

 

หัวหน้าโจวตอบไปว่า “หน้าที่หลักของเขาคือต้องอยู่กับคุณหนูฉินมั้ง”

 

 

“งั้นก็น่าเสียดาย” หัวหน้าหยวนส่ายหน้า

 

 

ไม่ไกลมากนัก คนรับใช้หยิบห่อของยื่นให้เฉิงสุ่ย

 

 

เดิมทีเฉิงสุ่ยคิดจะวางไว้ส่งๆ ทว่าสายตากลับเหลือบไปเห็นโลโก้อวิ๋นกวงกรุ๊ป

 

 

เขาที่มีท่าทีสงบเสงี่ยมมาตลอดเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “คนของอวิ๋นกวง?”

 

 

อวิ๋นกวงกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้ายักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย

 

 

ไม่ว่าบุคคลเบื้องหลังหรือพนักงานล้วนแล้วแต่ทำตัวลึกลับ และไม่มีการติดต่อทางธุรกิจใดๆ กับคฤหาสน์ของพวกเขาเลย

 

 

ตอนแรกเฉิงหั่วยังคิดหลายวิธีที่จะเข้าร่วมอวิ๋นกวงกรุ๊ปแต่ก็ไม่สำเร็จ แล้วทำไมถึงส่งของมาที่นี่ได้ล่ะ?

 

 

“อวิ๋นกวง? บริษัทที่สร้างหุ่นยนต์EAน่ะเหรอ? ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าคนที่เขียนโปรแกรมหุ่นยนต์EAจะต้องเป็นบอสใหญ่ที่ฉันรู้จักแน่ๆ” เฉิงหั่วมีความสนใจเกี่ยวกับบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายใต้การบริหารของอวิ๋นกวงกรุ๊ปเป็นพิเศษ เมื่อได้ยินเฉิงสุ่ยพูดถึงอวิ๋นกวง เขาที่ยังสะลึมสะลือก็สมองตื่นขึ้นมาทันที รับห่อของมาจากเฉิงสุ่ยแล้วพลิกดู “ทำไมพวกเขาส่งมาให้พวกเรา…”

 

 

ขณะที่กำลังจะดูด้านหน้าก็พบว่าเป็นชื่อฉินหร่าน

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 222 เริ่มฝึก บอสใหญ่แห่งอวิ๋นกวง

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 222 เริ่มฝึก บอสใหญ่แห่งอวิ๋นกวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่เฉิงหั่วเห็นศักยภาพในตัวถังชิงนั้นเป็นเพราะถังชิงมีความรู้ในด้านคอมพิวเตอร์บนโลกใบนี้อย่างถ่องแท้  ซึ่งพอจะเรียกได้ว่าเป็นมือฉกาจคนหนึ่ง

 

 

ทั้งคฤหาสน์นี้เธอกลัวแค่เฉิงหั่วคนเดียว

 

 

ถ้าให้เธอแฮ็กคอมพิวเตอร์ของเฉิงหั่ว เธอไม่เอาด้วยแน่นอน

 

 

เธอไม่ได้รู้สึกกลัวคนอื่นในคฤหาสน์แต่อย่างใด และเนื่องจากเมื่อตอนบ่ายเธอไม่รู้สถานะของฉินหร่านคนนั้นอย่างชัดเจน

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สอบถามเกี่ยวกับที่พักของเธอแล้ว พอตกกลางคืนไม่มีใครอยู่ เธอก็เริ่มแฮ็กเข้าไปในห้องทั้งสองที่ถูกล็อกไว้

 

 

แต่ทว่ายังไม่ทันได้แฮ็กพอร์ตไร้สายของฉินหร่าน จู่ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอก็กลายเป็นสีดำ

 

 

ถังชิงอึ้งไปสักพัก จากนั้นกดแป้นพิมพ์อีกครั้งและพิมพ์โค้ดชุดหนึ่ง

 

 

ไฟแสดงสถานะของคอมพิวเตอร์ยังคงสว่างอยู่ แต่หน้าจอไม่ตอบสนอง ในฐานะที่เป็นแฮ็กเกอร์ ถังชิงย่อมรู้สถานการณ์ดีว่าตอนนี้คอมพิวเตอร์ของเธอโดนคนแฮ็กกลับแล้ว!

 

 

อีกฝ่ายจะต้องมีฝีมือมากกว่าเธอมากแน่ๆ ถึงสามารถทำให้คอมพิวเตอร์ของเธอไร้การตอบสนอง

 

 

ถังชิงเอนหลังพิงเก้าอี้ เหงื่อท่วมไปทั้งแผ่นหลัง

 

 

จะใช่เฉิงหั่วหรือเปล่า?

 

 

แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะแม้แต่เฉิงหั่วก็ไม่สามารถแฮ็กคอมพิวเตอร์ของเธอจนไร้การตอบสนองแบบนี้ได้

 

 

ขณะที่ถังชิงกำลังอกสั่นขวัญแขวน อีกฝ่ายก็ถอนตัวกลับทันทีและไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีกต่อไป

 

 

ถังชิงกดแป้นพิมพ์ด้วยความงุนงง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นใครกันแน่?

 

 

วันนี้เฉิงหั่วพูดถึงคนของแมทธิว?

 

 

อีกด้านหนึ่ง ลู่จ้าวอิ่งก็เล่นเกมจบไปหนึ่งเกมแล้ว

 

 

ยังถามเร่งคนที่อยู่อีกด้านว่า “ฉินหร่าน เสร็จหรือยัง?”

 

 

“เสร็จแล้ว อย่าเร่ง” ฉินหร่านปรับตำแหน่งการค้นหา ในที่สุดตำแหน่งของห้องก็ปรากฏขึ้น——

 

 

ห้องนอนแขกบนชั้นสามของตึกด้านหลัง…

 

 

เป็นแฮกเกอร์สาวคนนั้นที่เฉิงหั่วพากลับมาวันนี้?

 

 

ฉินหร่านหรี่ตา

 

 

ลู่จ้าวอิ่งยังคงเร่งเธอ ฉินหร่านจึงค่อยๆ คุมตัวละครในเกมเข้าร่วมทีมกับลู่จ้าวอิ่ง ขณะที่เข้าคิวเธอก็เขียนแผนการฝึกซ้อมให้เฉิงมู่ไปด้วย

 

 

**

 

 

อีกด้านหนึ่ง เฉิงหั่วยังไม่ได้กลับไปยังห้องของตัวเอง แต่อยู่กับเฉิงสุ่ยและกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อรายงานสถานการณ์ในครั้งนี้

 

 

“สมาชิกของสมาคมแฮกเกอร์ค่อนข้างลึกลับ” เฉิงหั่วลากเก้าอี้มานั่ง “สร้างปัญหา ไม่ค่อยทำตามคำสั่ง ถังชิงประวัติขาวสะอาดก็จริง แต่เธอมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคืออวดดี”

 

 

เฉิงสุ่ยรินน้ำให้เขาหนึ่งแก้วพลางพยักหน้าเห็นด้วย “ดูก็รู้แล้ว”

 

 

คนวัยประมาณยี่สิบที่ประสบความสำเร็จด้านคอมพิวเตอร์แบบนี้ การอวดดีนั้นก็ถือว่าพอเข้าใจได้

 

 

“คอยจับตาดูไปสักพัก” เฉิงสุ่ยดื่มน้ำ จากนั้นก็วางแก้ว “รอการประเมินเดือนหน้าค่อยว่ากัน”

 

 

“ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน” เฉิงหั่วพยักหน้า ขณะถือถ้วยชาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “คนของหน่วยจัดซื้อบอกฉันว่าประมูลหุ่นยนต์ซีรีส์EAได้แล้ว ตอนนี้อยู่ไหนล่ะ?”

 

 

“ยังรอคิวตรวจสอบ พรุ่งนี้เช้าจะมีคนส่งมาให้นายวิจัย” เฉิงสุ่ยได้รับแจ้งเกี่ยวกับหุ่นยนต์มาแล้ว

 

 

เฉิงหั่วกระตือรือร้นอยากจะลองเล็กน้อย ตอนที่เขากำลังจะถามว่างานวิจัยอยู่ไหน โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น

 

 

เป็นโทรศัพท์จากพนักงานฝ่ายเทคนิคของคฤหาสน์ เฉิงหั่วขมวดคิ้ว “มีอะไร?”

 

 

เสียงจากอีกด้านดูจริงจังและร้อนใจ “คุณเฉิงหั่ว มีคนโจมตีระบบภายในของเรา”

 

 

“นายแน่ใจนะ?” เฉิงหั่วลุกจากเก้าอี้พลางขมวดคิ้ว “ค่อยๆ พูด ฉันจะรีบไป”

 

 

เขาหยิบเสื้อนอกเตรียมจะออกไป

 

 

เฉิงสุ่ยยันพนักแขนลุกขึ้นยืนและถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

“ระบบภายในคฤหาสน์มีปัญหา ถูกคนโจมตี ฉันจะไปดูสักหน่อย” เฉิงหั่วสวมเสื้อนอกและรีบเดินออกไป

 

 

ไฟร์วอลล์ที่เขาติดตั้งในคฤหาสน์นี้ได้มาจากประธานสมาคมแฮกเกอร์ น้อยมากที่บุคคลภายนอกจะสามารถโจมตีระบบได้สำเร็จ

 

 

มีเพียงบอสใหญ่ไม่กี่คนที่สามารถโจมตีระบบของพวกเขาได้ ใครบ้างที่มีสิทธิ์จะโจมตีระบบของคฤหาสน์นี้? เฉิงหั่วรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

บวกกับวันนี้เฉิงสุ่ยพูดถึงแมทธิว สีหน้าเขาดูเข้มขึ้น

 

 

เฉิงสุ่ยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเฉิงหั่ว เขาก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ดังนั้นเขาจึงหยิบเสื้อนอกและออกไปกับเฉิงหั่วด้วย

 

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เขาถาม

 

 

ขณะที่พวกเขาเดินไปที่หน่วยข่าวกรอง เฉิงหั่วก็อธิบายเรื่องทั้งหมดให้เฉิงสุ่ยฟัง

 

 

หน่วยข่าวกรองแยกออกไปอยู่ที่หอคอย ชั้นหนึ่งมีคอมพิวเตอร์อยู่ประมาณสิบกว่าเครื่อง ขณะนี้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องมีโค้ดขึ้นมาเป็นแถวๆ

 

 

เมื่อหัวหน้าหน่วยข่าวกรองเห็นเฉิงหั่วมาแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วหลีกทางให้

 

 

เฉิงหั่วกดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบพอร์ต

 

 

ตามความรู้ความเข้าใจของเขา คนที่สามารถเจาะไฟร์วอลล์ได้จะต้องเป็นบุคคลระดับขั้นสุดยอด เป็นบอสใหญ่ในวงการนักแฮ็กเกอร์อย่างแน่นอน เขาคิดว่าคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการต่อกรกับคนคนนี้

 

 

แต่ยังไม่ทันออกแรงทำอะไร อีกฝ่ายก็ถูกเขารุกกลับอย่างง่ายดาย…

 

 

เฉิงหั่วที่เป็นคนสุขุมมาโดยตลอด ตอนนี้ถึงกับงุนงงเล็กน้อย

 

 

เขาถือโอกาสนี้ทำการตรวจสอบต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ไม่นานก็จับได้ว่าวงจรห้องของถังชิงมีร่องรอยการแฮ็กห้องฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยน

 

 

เฉิงหั่วหรี่ตาโดยไม่รู้ตัว มือของเขาหยุดที่แป้นพิมพ์สีดำ “แปลกแฮะ…”

 

 

“มีอะไร?” เฉิงสุ่ยนั่งอยู่ตรงข้ามเขาโดยไม่ได้เข้าไปรบกวนเขา พอเห็นเฉิงหั่วนิ่งไปก็หันไปมอง “สถานการณ์ผิดปกติ?”

 

 

“แปลกมาก” เฉิงหั่วมองที่จุดสีแดงที่แสดงบนหน้าคอมพิวเตอร์ เขาชี้ไปที่จุดสีแดงแล้วมองเฉิงสุ่ย “อีกฝ่ายเป็นถึงบอสใหญ่ ฉันไม่พบร่องรอยแม้แต่นิดเดียว…แต่ว่า เขาไม่ได้แตะต้องข้อมูลอะไรของเราเลย คล้ายกับว่า…”

 

 

เขาอยากจะทำให้พวกเขาพบตัวถังชิง

 

 

เฉิงสุ่ยฟังจบก็เงียบไป “ถังชิงคนนี้ ลองสังเกตไปสักพัก นายดูข้อมูลคุณหนูฉินกับนายท่านดีๆ ซิ”

 

 

ในฐานะแฮ็กเกอร์ที่สืบค้นข้อมูลของคนอื่น เฉิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติหรือไม่ ถังชิงเองก็ไม่ได้แตะต้องข้อมูลของคฤหาสน์ แต่ทันทีที่เธอมาสืบข้อมูลของฉินหร่านและเฉิงเจวี้ยน ก็ทำลายความรู้สึกดีๆ ของเฉิงสุ่ยไปแล้ว

 

 

**

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

 

ฉินหร่านตื่นขึ้นมาทานอาหารเช้าเสร็จก็ลงไปชั้นล่าง

 

 

เวลาเจ็ดโมง ไม่เช้าไม่สายจนเกินไป 

 

 

เฉิงมู่ได้มารออยู่หน้าประตูใหญ่เรียบร้อยแล้ว

 

 

“คุณหนูฉิน ทำไมผมถึงไม่เจอเสี่ยวซือล่ะ?” เฉิงมู่กวาดตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นซือลี่หมิงแม้แต่เงา

 

 

เขาคิดว่ายังคงเป็นเขาและซือลี่หมิงที่เป็นคนพาฉินหร่านออกไปวันนี้

 

 

ในห้องโถง ฉินหร่านไม่ได้สวมเสื้อขนเป็ด เธอสวมแค่เสื้อสเวตเตอร์โดยมีเสื้อกันลมอยู่ด้านนอก

 

 

“เขายังมาไม่ถึง” ฉินหร่านยังถือเอกสารชุดหนึ่งอยู่ในมือ เธอยื่นเอกสารให้เฉิงมู่แล้วบอกว่า “ตามฉันมา”

 

 

เธอพาเฉิงมู่ไปยังห้องฝึกซ้อมขนาดเล็กของเฉิงเจวี้ยน

 

 

“นี่คือเครื่องเซนเซอร์ทดสอบพลังหมัด” ฉินหร่านหยุดอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัด เธอถอดเสื้อตัวนอกโยนไปกองกับพื้นพร้อมกับอธิบายอุปกรณ์ให้เฉิงมู่ฟังไปด้วย

 

 

มิเตอร์ของเครื่องมือทดสอบพลังหมัดประกอบไปด้วยห้าแถว

 

 

แถวแรกคือสรุปสถิติสูงสุด : 910

 

 

แถวที่สองคือสถิติสูงสุดของเครื่อง : 0

 

 

แถวที่สามคือสถิติหมัดแรกของเครื่อง : 0

 

 

แถวที่สี่คือสถิติหมัดที่สองของเครื่อง : 0

 

 

แถวที่ห้าคือสถิติหมัดที่สามของเครื่อง : 0

 

 

แถวแรกน่าจะเป็นสถิติสูงสุดของคนทั้งคฤหาสน์นี้ ถัดไปอีกสี่แถว…เฉิงเจวี้ยนน่าจะยังไม่เคยใช้เครื่องนี้มาก่อน

 

 

เฉิงมู่พยักหน้า เขาคิดว่าฉินหร่านจะพาเขาออกไป เขาจึงยังสวมเสื้อคลุมสีดำ

 

 

แต่พอได้ยินที่ฉินหร่านบอก เขาก็ถอดเสื้อคลุมยืนอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัด

 

 

เขาขยับตัวก่อนแล้วกำหมัดขวา หลังมือมีเอ็นปูด เบิกตาทั้งสองข้าง

 

 

“ปัง” มือขวาของเฉิงมู่ต่อยไปที่เครื่องอย่างแรงเหมือนภาพติดตา!

 

 

เครื่องส่งเสียงติ้ง

 

 

แถวที่สองกับแถวที่สามปรากฏค่าพลังหมัด——652

 

 

เฉิงมู่ “…”

 

 

มันแย่กว่าสถิติสูงสุดตั้งสองร้อยกว่าและไม่มีสถิติอื่นมาเปรียบเทียบ

 

 

เกือบจะห่างกันถึงสามร้อยแล้วแน่ะ…

 

 

ฉินหร่านกระแอม “ต่อยให้มากกว่านี้”

 

 

หมัดเดียวบอกอะไรไม่ได้

 

 

โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอดังขึ้น เธอหยิบมาดูก็พบว่าเป็นข้อความของซือลี่หมิง เขาถามเธอว่าอยู่ไหน

 

 

ฉินหร่านจึงส่งที่อยู่ชั้นหนึ่งให้เขา

 

 

**

 

 

ซือลี่หมิงสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปที่คฤหาสน์

 

 

ระหว่างทางได้พบกับเฉิงสุ่ยและหัวหน้าเข้าพอดี

 

 

เขาหยุดทักทายเสร็จก็สาวเท้าเดินไปหาฉินหร่าน

 

 

“ซือลี่หมิงก็ไม่ไปสนามฝึกเหรอ? เดือนหน้าจะประเมินแล้วนะ” หัวหน้าหยวนจำคนดังของหน่วยจัดซื้อก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี เขากระซิบถามหัวหน้าโจว

 

 

หัวหน้าโจวตอบไปว่า “หน้าที่หลักของเขาคือต้องอยู่กับคุณหนูฉินมั้ง”

 

 

“งั้นก็น่าเสียดาย” หัวหน้าหยวนส่ายหน้า

 

 

ไม่ไกลมากนัก คนรับใช้หยิบห่อของยื่นให้เฉิงสุ่ย

 

 

เดิมทีเฉิงสุ่ยคิดจะวางไว้ส่งๆ ทว่าสายตากลับเหลือบไปเห็นโลโก้อวิ๋นกวงกรุ๊ป

 

 

เขาที่มีท่าทีสงบเสงี่ยมมาตลอดเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “คนของอวิ๋นกวง?”

 

 

อวิ๋นกวงกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้ายักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย

 

 

ไม่ว่าบุคคลเบื้องหลังหรือพนักงานล้วนแล้วแต่ทำตัวลึกลับ และไม่มีการติดต่อทางธุรกิจใดๆ กับคฤหาสน์ของพวกเขาเลย

 

 

ตอนแรกเฉิงหั่วยังคิดหลายวิธีที่จะเข้าร่วมอวิ๋นกวงกรุ๊ปแต่ก็ไม่สำเร็จ แล้วทำไมถึงส่งของมาที่นี่ได้ล่ะ?

 

 

“อวิ๋นกวง? บริษัทที่สร้างหุ่นยนต์EAน่ะเหรอ? ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าคนที่เขียนโปรแกรมหุ่นยนต์EAจะต้องเป็นบอสใหญ่ที่ฉันรู้จักแน่ๆ” เฉิงหั่วมีความสนใจเกี่ยวกับบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายใต้การบริหารของอวิ๋นกวงกรุ๊ปเป็นพิเศษ เมื่อได้ยินเฉิงสุ่ยพูดถึงอวิ๋นกวง เขาที่ยังสะลึมสะลือก็สมองตื่นขึ้นมาทันที รับห่อของมาจากเฉิงสุ่ยแล้วพลิกดู “ทำไมพวกเขาส่งมาให้พวกเรา…”

 

 

ขณะที่กำลังจะดูด้านหน้าก็พบว่าเป็นชื่อฉินหร่าน

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+