เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 224 บุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ป เฉิงหั่วโง่ไปเลย

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 224 บุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ป เฉิงหั่วโง่ไปเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

1321!

 

 

ในสนามฝึกซ้อม คนที่ล้อมอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัดไร้ปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ

 

 

แม้กระทั่งเจอร์รี่ที่กำลังพูดอยู่ก็ถึงกับผงะ คนที่ยืนอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัดต่างก็ตกเข้าสู่ภวังค์ความเงียบอย่างน่าประหลาด

 

 

1321 สูงกว่าสถิติสูงสุดของเฉิงสุ่ยตั้งสี่ร้อยกว่า

 

 

สี่ร้อยแต้มขึ้นไปในอดีตต่างกับ 0 ถึง 400 มันเกินขีดจำกัดไปมากเพราะการที่ห่างกันแค่ 50 แต้มก็ถือว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน

 

 

ปกติพลังหมัดของเฉิงสุ่ยจะอยู่ระหว่าง 880 ถึง 910 พละกำลังของเขาเองก็ค่อนข้างน่ากลัวมากอยู่แล้ว หลายปีมานี้ยังไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้เลย ตอนนี้ไม่เพียงมีคนแซงหน้าเขาเท่านั้นแต่ยังต่อยได้ถึง 1321 แต้ม ? !

 

 

ถังชิงที่เพิ่งต่อยเสร็จได้ 700 กว่าก็ยังไม่ได้สติ

 

 

เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้เธอใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีต่อยออกไปเพื่อสร้างความประทับใจครั้งแรกให้คนในคฤหาสน์ได้เห็น จึงทำให้ข้อมือและแขนชาจนถึงตอนนี้

 

 

นี่คือสุดแรงเกิดของเธอแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ออกตัวต่อยอีกครั้ง

 

 

มีเฉพาะคนที่เคยทดสอบมาแล้วเท่านั้นถึงจะรู้ว่า 1321 เป็นตัวเลขที่น่าสะพรึง

 

 

“เจอร์…เจอร์รี่…” คนที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะดึงแขนของเจอร์รี่ เขากลืนน้ำลาย “นี่…นี่ใครเป็นคนต่อย…”

 

 

เจอร์รี่ถอนหายใจด้วยความอึดอัดโดยที่ยังไม่ละสายตา “สถิติแบบนี้ น่าจะเป็นนายท่านแหละมั้ง…”

 

 

นอกจากเฉิงเจวี้ยน เจอร์รี่ก็นึกไม่ออกว่าใครจะสามารถต่อยออกมาได้คะแนนแบบนี้

 

 

เมื่อได้ยินเจอร์รี่พูดถึงเฉิงเจวี้ยน คนอื่นในสนามฝึกต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย

 

 

ถ้าเฉิงเจวี้ยนเป็นคนต่อยก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่

 

 

อย่างไรก็ตาม คะแนน 1321…ก็ยังทำให้คนอดที่จะชำเลืองมองไม่ได้

 

 

**

 

 

ห้องฝึกซ้อมชั้นหนึ่งของคฤหาสน์

 

 

พอฉินหร่านต่อยเสร็จก็ก้มหน้าเป่าหมัด

 

 

เฉิงเจวี้ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ เอามือสอดกระเป๋ากางเกงเดินเข้ามา เลิกคิ้วเล็กน้อย “1321 ก็พอไหว”

 

 

เฉิงมู่กับซือลี่หมิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเงยหน้าขึ้นทันที “…”

 

 

พอ พอไหวงั้นเหรอ?

 

 

ทั้งสองเคยเห็นความดุดันของฉินหร่านมาก่อนแล้ว ตอนที่สู้กับกลุ่มทหารรับจ้างพวกนั้น เธอก็ไม่ได้ใช้ทักษะอะไรมาก การที่เธอต่อยได้ค่าพลังหมัด 1321  มันก็สมเหตุสมผลแล้ว ถึงแม้จะเกินความคาดหมายไปบ้าง

 

 

“1321 แม้กระทั่งไม้ท่อนก็ ก็ ก็ตบจนกลายเป็นเศษไม้ได้เลย…” ซือลี่หมิงเอ่ยขึ้นมาอย่างเงียบๆ

 

 

เฉิงมู่ก้มหน้ามองสภาพร่างกายของตัวเอง แม้เขาจะโดนฉินหร่านเคี่ยวเข็ญ แต่ฉินหร่านก็เหมือนจะยังไม่ได้โหดร้ายกับเขามากนัก…

 

 

เขาเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “คุณหนูฉิน เอาอีก!”

 

 

ขณะนี้ซือลี่หมิงกำลังถือปากกาและสมุดอยู่ในมือเพื่อทำการจดบันทึกสภาพร่างกายของเฉิงมู่เป็นบรรทัดๆ

 

 

เขาไม่ใช่หมอและไม่เคยเรียนด้านการแพทย์มาก่อน แต่คนที่เรียนศิลปะการต่อสู้หรือการตีรันฟันแทงก็มักจะได้รับบาดเจ็บมากมายจนกลายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จึงได้ความรู้ด้านการแพทย์จากอาการบาดเจ็บของตัวเองมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

เมื่อได้ยินที่เฉิงมู่พูด เขาก็เลิกคิ้ว “เฉิงมู่ มันจะหนักไปไหม? ไม่พักสักหน่อยเหรอ ตอนบ่ายหรือพรุ่งนี้ค่อยซ้อมต่อดีไหม? ตอนนี้นายขยับมือได้หรือยัง?”

 

 

ฉินหร่านเพิ่งจะลงมือกับเขาอย่างรุนแรง ถึงจะไม่ได้รับบาดเจ็บภายในมากนัก แต่เฉิงมู่ก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลภายนอก

 

 

ซือลี่หมิงดูออกถึงอาการบาดเจ็บของเฉิงมู่

 

 

“แน่นอน” เฉิงมู่ยกแขนขึ้น จากนั้นก็เดินเข้าไปสองก้าวพร้อมกับกำหมัด “ฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นอะไร บนตัวก็ไม่ได้เจ็บมากมายขนาดนั้น”

 

 

ขณะที่พูดเขายังสาธิตให้ซือลี่หมิงดู

 

 

เห็นได้ชัดว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เขายังขยับแขนไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับเคลื่อนไหวได้ตามใจชอบ…

 

 

ซือลี่หมิงหันไปมองกองยาบนเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้

 

 

ยาพวกนี้มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดาแน่ๆ…ด้วยยาวิเศษประเภทนี้บวกกับการฝึกฝนอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง และยังมีคนฝีมือดีมาฝึกให้กับมือ ตราบใดที่ไม่ใช่พวกอ่อนหัดก็สามารถกลายเป็นคนมีฝีมือระดับชั้นเซียนได้

 

 

ซือลี่หมิงคิดมาจนถึงจุดนี้ ขณะที่มือยังจดบันทึกก็มองไปทางเฉิงมู่ ตอนนี้เขานึกอิจฉาขึ้นมาจริงๆ แล้ว…

 

 

ฉินหร่านบอกเฉิงมู่ว่า “รอเดี๋ยว” จากนั้นก็ยื่นมือมาหยิบสมุดบันทึกของซือลี่หมิงไปอ่าน

 

 

“จริงสิ กู้ซีฉือให้ฉันมาถามคุณ” พอกวาดตาอ่านจบ ฉินหร่านก็นึกอะไรขึ้นได้พลางมองไปทางเฉิงเจวี้ยน “จะไปองค์กรการแพทย์เมื่อไหร่”

 

 

เฉิงเจวี้ยนก้มหน้าคิดสักพักแล้วมองเธอ “เธอจะเที่ยวเล่นเสร็จเมื่อไหร่ล่ะ?”

 

 

“อย่างน้อยก็เดือนหน้ามั้ง?” ฉินหร่านเหลือบมองเฉิงมู่ เฉิงมู่มีพื้นฐานอยู่แล้ว แต่แค่ศักยภาพของเขาไม่ได้รับการกระตุ้น หากฝึกฝนอย่างหนักหน่วงโดยไม่หยุดเป็นเวลาหนึ่งเดือน ก็น่าจะใช้ได้แล้ว

 

 

“งั้นก็รอไปก่อน ไม่รีบ” เฉิงเจวี้ยนตอบกลับอย่างสบายๆ “เธอไม่ต้องห่วง ฉันคุยกับเขาเอง”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้าและไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอไปสู้กับเฉิงมู่ต่อ

 

 

เฉิงเจวี้ยนยืนดูอยู่ข้างๆ ได้สักพักก็เห็นว่าฉินหร่านสู้กับเฉิงมู่อย่างสบายใจ เขาถึงจะเดินออกไป

 

 

**

 

 

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ถังชิงเป็นที่พูดถึงกันมากในคฤหาสน์

 

 

ถังชิงต่อยออกมาได้ถึง 700 กว่า ซึ่งหาได้ยากมากในหมู่เด็กผู้หญิง

 

 

เดิมทีมันควรจะเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมากที่สุด แต่จู่ๆ ก็มี 1321 แย่งความสนใจไป ทุกคนในคฤหาสน์ที่ทราบข่าวก็มักจะไปที่สนามฝึกที่ใกล้ที่สุดเพื่อดูสถิติ 1321 บนเครื่องมือทดสอบพลังหมัด

 

 

บางคนยังถึงกับถ่ายรูปเก็บไว้แล้วโพสต์

 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

 

 

ในที่สุดหุ่นยนต์รุ่นEA3ที่ซือลี่หมิงประมูลมาจากงานประมูลก็ผ่านการทดสอบ มันถูกส่งไปยังหอประชุมเรียบร้อยแล้ว

 

 

ทันทีที่เฉิงหั่วทราบข่าวก็รีบมาด้วยความรวดเร็ว ในห่อบรรจุหุ่นยนต์รุ่นEA3อยู่หนึ่งตัว เขาพลิกดูข้างในอยู่ตั้งนานก็ยังหาคู่มือหรือของอะไรไม่เจอเลย

 

 

เขาเดินรอบหุ่นยนต์ตัวนั้นโดยไม่กล้าทำอะไรกับมัน

 

 

ถ้ามีใครทำไม่ดีกับของไฮเทคพวกนี้จะต้องโดนปิดตาย เฉิงหั่วเกาศีรษะ จากนั้นก็สั่งคนข้างๆ “ไปเรียกถังชิงมา”

 

 

เจอร์รี่และคนอื่นๆ ต่างก็เคยได้ยินเรื่องหุ่นยนต์มานานแล้ว จึงออกไปตามถังชิงมาดูระบบอัจฉริยะรุ่นแรกในตำนาน

 

 

“นี่คือEA3?” ถังชิงเดินไปข้างๆ เฉิงหั่ว เธอมองสำรวจหุ่นยนต์EA3อย่างระมัดระวัง

 

 

EA3ยังไม่ได้มีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่ทางสมาคมแฮ็กเกอร์มีข่าวว่าหุ่นยนต์รุ่นEAเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์(AI)ทั้งระบบ

 

 

เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้พัฒนาจนถึงขีดสุด ตราบใดที่เป็นนักเล่นคอมพิวเตอร์ ก็ไม่มีใครที่ไม่ต้องการนำหุ่นยนต์รุ่นEAมาศึกษา

 

 

คนจากหน่วยข่าวกรองได้ล้อมหุ่นยนต์EA3ไว้ตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เฉิงหั่วส่งข่าวให้ประธานสมาคมแฮ็กเกอร์แล้ว เขายังพยายามติดต่อบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปอีกด้วย

 

 

เฉิงหั่วต้องการจะถามพวกเขาว่าทำไมหุ่นยนต์อัจฉริยะถึงไม่มีคู่มือมาให้?

 

 

“นายมีช่องทางติดต่อกับบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปไหม?” เฉิงหั่วหันไปถามเฉิงมู่

 

 

ตอนที่พูดประโยคนี้ เฉิงหั่วก็นึกถึงห่อพัสดุที่อวิ๋นกวงกรุ๊ปส่งมาให้ฉินหร่านในตอนเช้า เขายังคิดจะลองถามฉินหร่านตอนทานอาหารเย็น

 

 

เฉิงมู่ครุ่นคิดอยู่สักพักก็ส่ายหน้า “พวกเราไม่ได้ไปหามาสู่กับอวิ๋นกวงอยู่แล้ว”

 

 

ธุรกิจของอวิ๋นกวงกรุ๊ปจะกระจุกตัวอยู่ในเอเชียเป็นส่วนใหญ่ น้อยมากที่พวกเขาจะเข้าถึงที่นี่ ส่วนธุรกิจของพวกเขาส่วนใหญ่จะอยู่ต่างประเทศ

 

 

เมื่อถังชิงที่เอาแต่มองมาที่หุ่นยนต์ได้ยินดังนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย “อันที่จริงฉันรู้จักผู้จัดการของอวิ๋นกวงอยู่คนหนึ่ง เขาก็อยู่ที่รัฐ M เหมือนกัน…”

 

 

“เธอรู้จักบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปด้วยเหรอ?” เฉิงหั่วเงยหน้ามองถังชิงด้วยความประหลาดใจที่ถูกซ่อนไว้ลึกๆ

 

 

แม้กระทั่งเฉิงสุ่ยและคนอื่นๆ ต่างก็มองมาทางถังชิงอย่างพร้อมเพรียง

 

 

“เขาเป็นคุณลุงของฉันเอง แต่เราไม่ค่อยได้เจอกัน เขาไม่เคยคุยกับฉันเกี่ยวกับเรื่องภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปมาก่อนเลย คุณลุงของฉันอยู่ในวงการไอทีด้วยนะคะ ถ้าพวกคุณอยากพบเขา ฉันจะลองเชิญเขามาคฤหาสน์ดูก็ได้ แต่พวกคุณอย่าตั้งความหวังไว้ล่ะ เพราะฉันก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมาได้หรือเปล่า” ถังชิงยิ้ม

 

 

**

 

 

ช่วงทานอาหารค่ำ

 

 

เฉิงมู่หน้าปูดหน้าบวมอยู่โต๊ะอาหาร

 

 

เขากินข้าวเร็วจนแทบจะไม่ได้คุยกับใครเลย

 

 

“วันนี้ถังชิงคนนั้นทดสอบพลังหมัดได้ 700 กว่า พละกำลังไม่เลวเลยทีเดียว” เฉิงสุ่ยรายงานให้เฉิงเจวี้ยนฟังเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปของหน่วยข่าวกรองว่าตราบใดที่ผ่านด่านทักษะทางด้านไอทีและข้อเรียกร้องทางความสามารถไม่ได้สูงมากนัก ก็จะส่งพนักงานของฝ่ายยุติธรรมตามไปดูแล แต่ว่าคนที่มีความสามารถและฝีมืออย่างถังชิงดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คน

 

 

เมื่อเฉิงมู่ได้ยินว่าถังชิงได้ถึง 700 เขาก็ก้มหน้ากินเร็วขึ้น

 

 

เฉิงเจวี้ยนเองก็ก้มหน้ากินอย่างช้าๆ พลางตอบไปว่า “อืม”

 

 

ขณะที่เฉิงหั่วคีบเนื้อขึ้นมา เขาก็นึกอะไรขึ้นได้จึงหันไปถามฉินหร่าน “คุณหนูฉิน คุณรู้จักคนของอวิ๋นกวงไหม?”

 

 

เมื่อฉินหร่านที่กำลังถือตะเกียบอยู่ในมือและกินอย่างช้าๆ ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้น “มีอะไร?”

 

 

“คนของหน่วยจัดซื้อประมูลหุ่นยนต์ที่ลานจอดเครื่องบินครั้งล่าสุดมาได้น่ะ หุ่นยนต์ตัวนี้ไม่มีคู่มือติดมาด้วย ผมอยากจะติดต่อคนของอวิ๋นกวงดูว่าหุ่นยนต์ตัวนี้ใช้การยังไง” เฉิงหั่วอธิบาย

 

 

เนื่องจากหุ่นยนต์ตัวนี้มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านและมีเพียงตัวเดียว เฉิงหั่วจึงไม่กล้ากดสวิตช์อะไรซี้ซั้วและไม่กล้าถอดอะไหล่ไปเรื่อย ดังนั้นเขาจึงประคบประหงมราวกับสมบัติ

 

 

หลังจากที่ฉินหร่านได้ยินก็มองเฉิงหั่วด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

 

 

คิ้วบางไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ แต่เฉิงหั่วกลับรู้สึกได้ถึงความมึนงงของดวงตาคู่นั้น

 

 

เฉิงหั่วนิ่งไปสักพัก กระแอมเสียง ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเกร็งๆ เล็กน้อย “คุณหนูฉิน?”

 

 

“ไม่มีอะไร คุณไปเอาหุ่นยนต์ตัวนั้นมานี่” ฉินหร่านก้มหน้ากินข้าวต่อ

 

 

แม้จะแปลกใจว่าฉินหร่านให้เขาไปเอาหุ่นยนต์มาทำไม แต่เฉิงหั่วก็ไม่ได้เอ่ยถาม เขาวางตะเกียบโดยที่ยังกินข้าวไม่เสร็จและกลับไปที่หน่วยข่าวกรองเพื่อสั่งให้คนยกหุ่นยนต์EA3มาที่นี่อย่างระมัดระวัง

 

 

“คุณหนูฉิน ย้ายมาแล้วครับ คุณจะดูมันไหม?” เฉิงหั่วมองฉินหร่าน

 

 

เขาคิดว่าฉินหร่านอยากจะดูหุ่นยนต์EA3ว่าหน้าตาเป็นแบบไหน

 

 

ฉินหร่านกินข้าวใกล้เสร็จแล้ว เธอยื่นมือหยิบผ้ามาเช็ดมุมปากแล้วเดินไปที่ข้างๆ หุ่นยนต์EA3

 

 

เฉิงสุ่ยที่นั่งอยู่โต๊ะอาหารส่งสายตามองไปทางนั้นโดยไม่รู้ว่าฉินหร่านคิดจะทำอะไรกันแน่

 

 

มีเพียงเฉิงเจวี้ยนเท่านั้นที่ใช้มือเท้าคางและมองอย่างเอื่อยเฉื่อย

 

 

“คุณหนูฉิน คุณดูแบบนี้ไปก่อนนะครับ รอพวกเราหาทางสตาร์ทหุ่นยนต์ได้แล้วค่อยส่งมา…” เฉิงหั่วแนะนำฉินหร่านไปได้สักพัก

 

 

ฉินหร่านเหลือบมองเฉิงหั่วอีกครั้งแล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆ “สตาร์ทระบบอัจฉริยะEA3”

 

 

เฉิงหั่ว “สตาร์ทไม่…”

 

 

เขายังไม่ทันพูดจบ ดวงตาของหุ่นยนต์EA3และส่วนต่างๆ ของร่างกายก็สว่างขึ้นด้วยแสงสีน้ำเงิน ขณะเดียวกันก็มีเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้น “ระบบEA3กำลังโหลด…”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 224 บุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ป เฉิงหั่วโง่ไปเลย

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 224 บุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ป เฉิงหั่วโง่ไปเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

1321!

 

 

ในสนามฝึกซ้อม คนที่ล้อมอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัดไร้ปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ

 

 

แม้กระทั่งเจอร์รี่ที่กำลังพูดอยู่ก็ถึงกับผงะ คนที่ยืนอยู่หน้าเครื่องมือทดสอบพลังหมัดต่างก็ตกเข้าสู่ภวังค์ความเงียบอย่างน่าประหลาด

 

 

1321 สูงกว่าสถิติสูงสุดของเฉิงสุ่ยตั้งสี่ร้อยกว่า

 

 

สี่ร้อยแต้มขึ้นไปในอดีตต่างกับ 0 ถึง 400 มันเกินขีดจำกัดไปมากเพราะการที่ห่างกันแค่ 50 แต้มก็ถือว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน

 

 

ปกติพลังหมัดของเฉิงสุ่ยจะอยู่ระหว่าง 880 ถึง 910 พละกำลังของเขาเองก็ค่อนข้างน่ากลัวมากอยู่แล้ว หลายปีมานี้ยังไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้เลย ตอนนี้ไม่เพียงมีคนแซงหน้าเขาเท่านั้นแต่ยังต่อยได้ถึง 1321 แต้ม ? !

 

 

ถังชิงที่เพิ่งต่อยเสร็จได้ 700 กว่าก็ยังไม่ได้สติ

 

 

เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้เธอใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีต่อยออกไปเพื่อสร้างความประทับใจครั้งแรกให้คนในคฤหาสน์ได้เห็น จึงทำให้ข้อมือและแขนชาจนถึงตอนนี้

 

 

นี่คือสุดแรงเกิดของเธอแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ออกตัวต่อยอีกครั้ง

 

 

มีเฉพาะคนที่เคยทดสอบมาแล้วเท่านั้นถึงจะรู้ว่า 1321 เป็นตัวเลขที่น่าสะพรึง

 

 

“เจอร์…เจอร์รี่…” คนที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะดึงแขนของเจอร์รี่ เขากลืนน้ำลาย “นี่…นี่ใครเป็นคนต่อย…”

 

 

เจอร์รี่ถอนหายใจด้วยความอึดอัดโดยที่ยังไม่ละสายตา “สถิติแบบนี้ น่าจะเป็นนายท่านแหละมั้ง…”

 

 

นอกจากเฉิงเจวี้ยน เจอร์รี่ก็นึกไม่ออกว่าใครจะสามารถต่อยออกมาได้คะแนนแบบนี้

 

 

เมื่อได้ยินเจอร์รี่พูดถึงเฉิงเจวี้ยน คนอื่นในสนามฝึกต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย

 

 

ถ้าเฉิงเจวี้ยนเป็นคนต่อยก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่

 

 

อย่างไรก็ตาม คะแนน 1321…ก็ยังทำให้คนอดที่จะชำเลืองมองไม่ได้

 

 

**

 

 

ห้องฝึกซ้อมชั้นหนึ่งของคฤหาสน์

 

 

พอฉินหร่านต่อยเสร็จก็ก้มหน้าเป่าหมัด

 

 

เฉิงเจวี้ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ เอามือสอดกระเป๋ากางเกงเดินเข้ามา เลิกคิ้วเล็กน้อย “1321 ก็พอไหว”

 

 

เฉิงมู่กับซือลี่หมิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเงยหน้าขึ้นทันที “…”

 

 

พอ พอไหวงั้นเหรอ?

 

 

ทั้งสองเคยเห็นความดุดันของฉินหร่านมาก่อนแล้ว ตอนที่สู้กับกลุ่มทหารรับจ้างพวกนั้น เธอก็ไม่ได้ใช้ทักษะอะไรมาก การที่เธอต่อยได้ค่าพลังหมัด 1321  มันก็สมเหตุสมผลแล้ว ถึงแม้จะเกินความคาดหมายไปบ้าง

 

 

“1321 แม้กระทั่งไม้ท่อนก็ ก็ ก็ตบจนกลายเป็นเศษไม้ได้เลย…” ซือลี่หมิงเอ่ยขึ้นมาอย่างเงียบๆ

 

 

เฉิงมู่ก้มหน้ามองสภาพร่างกายของตัวเอง แม้เขาจะโดนฉินหร่านเคี่ยวเข็ญ แต่ฉินหร่านก็เหมือนจะยังไม่ได้โหดร้ายกับเขามากนัก…

 

 

เขาเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “คุณหนูฉิน เอาอีก!”

 

 

ขณะนี้ซือลี่หมิงกำลังถือปากกาและสมุดอยู่ในมือเพื่อทำการจดบันทึกสภาพร่างกายของเฉิงมู่เป็นบรรทัดๆ

 

 

เขาไม่ใช่หมอและไม่เคยเรียนด้านการแพทย์มาก่อน แต่คนที่เรียนศิลปะการต่อสู้หรือการตีรันฟันแทงก็มักจะได้รับบาดเจ็บมากมายจนกลายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จึงได้ความรู้ด้านการแพทย์จากอาการบาดเจ็บของตัวเองมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

เมื่อได้ยินที่เฉิงมู่พูด เขาก็เลิกคิ้ว “เฉิงมู่ มันจะหนักไปไหม? ไม่พักสักหน่อยเหรอ ตอนบ่ายหรือพรุ่งนี้ค่อยซ้อมต่อดีไหม? ตอนนี้นายขยับมือได้หรือยัง?”

 

 

ฉินหร่านเพิ่งจะลงมือกับเขาอย่างรุนแรง ถึงจะไม่ได้รับบาดเจ็บภายในมากนัก แต่เฉิงมู่ก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลภายนอก

 

 

ซือลี่หมิงดูออกถึงอาการบาดเจ็บของเฉิงมู่

 

 

“แน่นอน” เฉิงมู่ยกแขนขึ้น จากนั้นก็เดินเข้าไปสองก้าวพร้อมกับกำหมัด “ฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นอะไร บนตัวก็ไม่ได้เจ็บมากมายขนาดนั้น”

 

 

ขณะที่พูดเขายังสาธิตให้ซือลี่หมิงดู

 

 

เห็นได้ชัดว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เขายังขยับแขนไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับเคลื่อนไหวได้ตามใจชอบ…

 

 

ซือลี่หมิงหันไปมองกองยาบนเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้

 

 

ยาพวกนี้มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดาแน่ๆ…ด้วยยาวิเศษประเภทนี้บวกกับการฝึกฝนอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง และยังมีคนฝีมือดีมาฝึกให้กับมือ ตราบใดที่ไม่ใช่พวกอ่อนหัดก็สามารถกลายเป็นคนมีฝีมือระดับชั้นเซียนได้

 

 

ซือลี่หมิงคิดมาจนถึงจุดนี้ ขณะที่มือยังจดบันทึกก็มองไปทางเฉิงมู่ ตอนนี้เขานึกอิจฉาขึ้นมาจริงๆ แล้ว…

 

 

ฉินหร่านบอกเฉิงมู่ว่า “รอเดี๋ยว” จากนั้นก็ยื่นมือมาหยิบสมุดบันทึกของซือลี่หมิงไปอ่าน

 

 

“จริงสิ กู้ซีฉือให้ฉันมาถามคุณ” พอกวาดตาอ่านจบ ฉินหร่านก็นึกอะไรขึ้นได้พลางมองไปทางเฉิงเจวี้ยน “จะไปองค์กรการแพทย์เมื่อไหร่”

 

 

เฉิงเจวี้ยนก้มหน้าคิดสักพักแล้วมองเธอ “เธอจะเที่ยวเล่นเสร็จเมื่อไหร่ล่ะ?”

 

 

“อย่างน้อยก็เดือนหน้ามั้ง?” ฉินหร่านเหลือบมองเฉิงมู่ เฉิงมู่มีพื้นฐานอยู่แล้ว แต่แค่ศักยภาพของเขาไม่ได้รับการกระตุ้น หากฝึกฝนอย่างหนักหน่วงโดยไม่หยุดเป็นเวลาหนึ่งเดือน ก็น่าจะใช้ได้แล้ว

 

 

“งั้นก็รอไปก่อน ไม่รีบ” เฉิงเจวี้ยนตอบกลับอย่างสบายๆ “เธอไม่ต้องห่วง ฉันคุยกับเขาเอง”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้าและไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอไปสู้กับเฉิงมู่ต่อ

 

 

เฉิงเจวี้ยนยืนดูอยู่ข้างๆ ได้สักพักก็เห็นว่าฉินหร่านสู้กับเฉิงมู่อย่างสบายใจ เขาถึงจะเดินออกไป

 

 

**

 

 

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ถังชิงเป็นที่พูดถึงกันมากในคฤหาสน์

 

 

ถังชิงต่อยออกมาได้ถึง 700 กว่า ซึ่งหาได้ยากมากในหมู่เด็กผู้หญิง

 

 

เดิมทีมันควรจะเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมากที่สุด แต่จู่ๆ ก็มี 1321 แย่งความสนใจไป ทุกคนในคฤหาสน์ที่ทราบข่าวก็มักจะไปที่สนามฝึกที่ใกล้ที่สุดเพื่อดูสถิติ 1321 บนเครื่องมือทดสอบพลังหมัด

 

 

บางคนยังถึงกับถ่ายรูปเก็บไว้แล้วโพสต์

 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

 

 

ในที่สุดหุ่นยนต์รุ่นEA3ที่ซือลี่หมิงประมูลมาจากงานประมูลก็ผ่านการทดสอบ มันถูกส่งไปยังหอประชุมเรียบร้อยแล้ว

 

 

ทันทีที่เฉิงหั่วทราบข่าวก็รีบมาด้วยความรวดเร็ว ในห่อบรรจุหุ่นยนต์รุ่นEA3อยู่หนึ่งตัว เขาพลิกดูข้างในอยู่ตั้งนานก็ยังหาคู่มือหรือของอะไรไม่เจอเลย

 

 

เขาเดินรอบหุ่นยนต์ตัวนั้นโดยไม่กล้าทำอะไรกับมัน

 

 

ถ้ามีใครทำไม่ดีกับของไฮเทคพวกนี้จะต้องโดนปิดตาย เฉิงหั่วเกาศีรษะ จากนั้นก็สั่งคนข้างๆ “ไปเรียกถังชิงมา”

 

 

เจอร์รี่และคนอื่นๆ ต่างก็เคยได้ยินเรื่องหุ่นยนต์มานานแล้ว จึงออกไปตามถังชิงมาดูระบบอัจฉริยะรุ่นแรกในตำนาน

 

 

“นี่คือEA3?” ถังชิงเดินไปข้างๆ เฉิงหั่ว เธอมองสำรวจหุ่นยนต์EA3อย่างระมัดระวัง

 

 

EA3ยังไม่ได้มีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่ทางสมาคมแฮ็กเกอร์มีข่าวว่าหุ่นยนต์รุ่นEAเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์(AI)ทั้งระบบ

 

 

เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้พัฒนาจนถึงขีดสุด ตราบใดที่เป็นนักเล่นคอมพิวเตอร์ ก็ไม่มีใครที่ไม่ต้องการนำหุ่นยนต์รุ่นEAมาศึกษา

 

 

คนจากหน่วยข่าวกรองได้ล้อมหุ่นยนต์EA3ไว้ตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เฉิงหั่วส่งข่าวให้ประธานสมาคมแฮ็กเกอร์แล้ว เขายังพยายามติดต่อบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปอีกด้วย

 

 

เฉิงหั่วต้องการจะถามพวกเขาว่าทำไมหุ่นยนต์อัจฉริยะถึงไม่มีคู่มือมาให้?

 

 

“นายมีช่องทางติดต่อกับบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปไหม?” เฉิงหั่วหันไปถามเฉิงมู่

 

 

ตอนที่พูดประโยคนี้ เฉิงหั่วก็นึกถึงห่อพัสดุที่อวิ๋นกวงกรุ๊ปส่งมาให้ฉินหร่านในตอนเช้า เขายังคิดจะลองถามฉินหร่านตอนทานอาหารเย็น

 

 

เฉิงมู่ครุ่นคิดอยู่สักพักก็ส่ายหน้า “พวกเราไม่ได้ไปหามาสู่กับอวิ๋นกวงอยู่แล้ว”

 

 

ธุรกิจของอวิ๋นกวงกรุ๊ปจะกระจุกตัวอยู่ในเอเชียเป็นส่วนใหญ่ น้อยมากที่พวกเขาจะเข้าถึงที่นี่ ส่วนธุรกิจของพวกเขาส่วนใหญ่จะอยู่ต่างประเทศ

 

 

เมื่อถังชิงที่เอาแต่มองมาที่หุ่นยนต์ได้ยินดังนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย “อันที่จริงฉันรู้จักผู้จัดการของอวิ๋นกวงอยู่คนหนึ่ง เขาก็อยู่ที่รัฐ M เหมือนกัน…”

 

 

“เธอรู้จักบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปด้วยเหรอ?” เฉิงหั่วเงยหน้ามองถังชิงด้วยความประหลาดใจที่ถูกซ่อนไว้ลึกๆ

 

 

แม้กระทั่งเฉิงสุ่ยและคนอื่นๆ ต่างก็มองมาทางถังชิงอย่างพร้อมเพรียง

 

 

“เขาเป็นคุณลุงของฉันเอง แต่เราไม่ค่อยได้เจอกัน เขาไม่เคยคุยกับฉันเกี่ยวกับเรื่องภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปมาก่อนเลย คุณลุงของฉันอยู่ในวงการไอทีด้วยนะคะ ถ้าพวกคุณอยากพบเขา ฉันจะลองเชิญเขามาคฤหาสน์ดูก็ได้ แต่พวกคุณอย่าตั้งความหวังไว้ล่ะ เพราะฉันก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมาได้หรือเปล่า” ถังชิงยิ้ม

 

 

**

 

 

ช่วงทานอาหารค่ำ

 

 

เฉิงมู่หน้าปูดหน้าบวมอยู่โต๊ะอาหาร

 

 

เขากินข้าวเร็วจนแทบจะไม่ได้คุยกับใครเลย

 

 

“วันนี้ถังชิงคนนั้นทดสอบพลังหมัดได้ 700 กว่า พละกำลังไม่เลวเลยทีเดียว” เฉิงสุ่ยรายงานให้เฉิงเจวี้ยนฟังเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปของหน่วยข่าวกรองว่าตราบใดที่ผ่านด่านทักษะทางด้านไอทีและข้อเรียกร้องทางความสามารถไม่ได้สูงมากนัก ก็จะส่งพนักงานของฝ่ายยุติธรรมตามไปดูแล แต่ว่าคนที่มีความสามารถและฝีมืออย่างถังชิงดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คน

 

 

เมื่อเฉิงมู่ได้ยินว่าถังชิงได้ถึง 700 เขาก็ก้มหน้ากินเร็วขึ้น

 

 

เฉิงเจวี้ยนเองก็ก้มหน้ากินอย่างช้าๆ พลางตอบไปว่า “อืม”

 

 

ขณะที่เฉิงหั่วคีบเนื้อขึ้นมา เขาก็นึกอะไรขึ้นได้จึงหันไปถามฉินหร่าน “คุณหนูฉิน คุณรู้จักคนของอวิ๋นกวงไหม?”

 

 

เมื่อฉินหร่านที่กำลังถือตะเกียบอยู่ในมือและกินอย่างช้าๆ ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้น “มีอะไร?”

 

 

“คนของหน่วยจัดซื้อประมูลหุ่นยนต์ที่ลานจอดเครื่องบินครั้งล่าสุดมาได้น่ะ หุ่นยนต์ตัวนี้ไม่มีคู่มือติดมาด้วย ผมอยากจะติดต่อคนของอวิ๋นกวงดูว่าหุ่นยนต์ตัวนี้ใช้การยังไง” เฉิงหั่วอธิบาย

 

 

เนื่องจากหุ่นยนต์ตัวนี้มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านและมีเพียงตัวเดียว เฉิงหั่วจึงไม่กล้ากดสวิตช์อะไรซี้ซั้วและไม่กล้าถอดอะไหล่ไปเรื่อย ดังนั้นเขาจึงประคบประหงมราวกับสมบัติ

 

 

หลังจากที่ฉินหร่านได้ยินก็มองเฉิงหั่วด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

 

 

คิ้วบางไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ แต่เฉิงหั่วกลับรู้สึกได้ถึงความมึนงงของดวงตาคู่นั้น

 

 

เฉิงหั่วนิ่งไปสักพัก กระแอมเสียง ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเกร็งๆ เล็กน้อย “คุณหนูฉิน?”

 

 

“ไม่มีอะไร คุณไปเอาหุ่นยนต์ตัวนั้นมานี่” ฉินหร่านก้มหน้ากินข้าวต่อ

 

 

แม้จะแปลกใจว่าฉินหร่านให้เขาไปเอาหุ่นยนต์มาทำไม แต่เฉิงหั่วก็ไม่ได้เอ่ยถาม เขาวางตะเกียบโดยที่ยังกินข้าวไม่เสร็จและกลับไปที่หน่วยข่าวกรองเพื่อสั่งให้คนยกหุ่นยนต์EA3มาที่นี่อย่างระมัดระวัง

 

 

“คุณหนูฉิน ย้ายมาแล้วครับ คุณจะดูมันไหม?” เฉิงหั่วมองฉินหร่าน

 

 

เขาคิดว่าฉินหร่านอยากจะดูหุ่นยนต์EA3ว่าหน้าตาเป็นแบบไหน

 

 

ฉินหร่านกินข้าวใกล้เสร็จแล้ว เธอยื่นมือหยิบผ้ามาเช็ดมุมปากแล้วเดินไปที่ข้างๆ หุ่นยนต์EA3

 

 

เฉิงสุ่ยที่นั่งอยู่โต๊ะอาหารส่งสายตามองไปทางนั้นโดยไม่รู้ว่าฉินหร่านคิดจะทำอะไรกันแน่

 

 

มีเพียงเฉิงเจวี้ยนเท่านั้นที่ใช้มือเท้าคางและมองอย่างเอื่อยเฉื่อย

 

 

“คุณหนูฉิน คุณดูแบบนี้ไปก่อนนะครับ รอพวกเราหาทางสตาร์ทหุ่นยนต์ได้แล้วค่อยส่งมา…” เฉิงหั่วแนะนำฉินหร่านไปได้สักพัก

 

 

ฉินหร่านเหลือบมองเฉิงหั่วอีกครั้งแล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆ “สตาร์ทระบบอัจฉริยะEA3”

 

 

เฉิงหั่ว “สตาร์ทไม่…”

 

 

เขายังไม่ทันพูดจบ ดวงตาของหุ่นยนต์EA3และส่วนต่างๆ ของร่างกายก็สว่างขึ้นด้วยแสงสีน้ำเงิน ขณะเดียวกันก็มีเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้น “ระบบEA3กำลังโหลด…”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+