เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 225 เสี่ยวเฮยสตาร์ทเครื่อง เดาตัวตนฉินหร่าน

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 225 เสี่ยวเฮยสตาร์ทเครื่อง เดาตัวตนฉินหร่าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เครื่องส่งเสียงอีกครั้ง “ระบบโหลดเสร็จเรียบร้อย เริ่มโหมดฉายภาพหน้าจอ”

 

 

เมื่อเสียงของหุ่นยนต์สิ้นสุดลง หน้าจอสามมิติสีน้ำเงินเสมือนจริงก็ถูกฉายภาพกลางอากาศ

 

 

ตามลำดับจากซ้ายไปขวา——

 

 

(ผูกโปรแกรมกับรูม่านตา) —— (โหมดแม่บ้าน) (โหมดวิจัยทางวิทยาศาสตร์) (โหมดความสามารถรอบด้าน)

 

 

เฉิงเจวี้ยนยังคงเท้าคางมองอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่บนโต๊ะ

 

 

ฉินหร่านเหลือบมองเฉิงหั่ว เอามือล้วงกระเป๋า เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดอย่างเป็นกันเอง “ปัญ-ญา-ประ-ดิษฐ์ เคยได้ยินคำนี้ไหม?”

 

 

เฉิงหั่ว “….”

 

 

เฉิงหั่วพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

 

 

เฉิงหั่วก้มหน้าลงพลางรู้สึกว่าตัวเองเดินวนรอบEA3ตลอดทั้งบ่ายราวกับคนโง่

 

 

เฉิงสุ่ยเองก็วางตะเกียบลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

 

ปัจจุบันนี้บริษัทไอทีหลายแห่งกำลังพัฒนาระบบอัจฉริยะ ทว่าของพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นระบบอัจฉริยะปลอมๆ แม้ว่าจะมีระบบสั่งงานด้วยเสียง แต่ก็มีสวิตช์หลักเพื่อเปิดใช้งาน

 

 

พวกเขาพยายามศึกษามาตลอดช่วงบ่ายและยังคิดจะไปสถานประมูลเพื่อต้องการจะไปขอคู่มือจากอวิ๋นกวงกรุ๊ป ศึกษาอยู่ตั้งนานก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

มีเพียงเฉิงมู่ที่ดูสงบและกินข้าวคำสุดท้ายจนเสร็จ

 

 

“คุณหนูฉิน ผมไปรอที่ห้องฝึกซ้อมนะครับ” เฉิงมู่วางตะเกียบลง ใบหน้ายังคงปูดบวม หลังจากทักฉินหร่านและเฉิงเจวี้ยนเสร็จด้วยท่าทีเฉยเมยก็ไปที่ห้องฝึกซ้อม

 

 

ฉินหร่านพยักหน้า “นายไปก่อนเลย”

 

 

เมื่อผ่านเฉิงหั่วที่กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง เฉิงมู่ก็ชะงัก

 

 

เขาเหลือบมองเฉิงหั่วแล้วพูดกับEA3ว่า “EA3 นายมีชื่อไหม?”

 

 

(เสี่ยวเฮย)

 

 

เฉิงมู่ตอบ “อ๋อ” มันเป็นชื่อรุ่นเดียวกับเสี่ยวเอ้อร์ จากนั้นเขาก็เดินไปห้องฝึกซ้อมต่อ

 

 

นอกจากหน้าจะบวมไปหน่อย สีหน้าของเขาก็ยังคงดูทึมทื่อเหมือนเมื่อก่อน

 

 

เฉิงหั่วรู้สึกจริงๆ ว่าเป็นความตั้งใจของเจ้างั่งเฉิงมู่

 

 

เฉิงหั่วมองตามแผ่นหลังเขา จากนั้นก็เอื้อมมือลูบหน้าตัวเอง เขาหันไปมองฉินหร่าน “คุณหนูฉิน คุณ…สุดยอดจริงๆ”

 

 

หลังจากเริ่มระบบแล้ว เฉิงหั่วก็เข้าใจวิธีจัดการEA3แล้ว

 

 

ฉินหร่านไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เธอขึ้นไปเปลี่ยนชุดแล้วตามไปที่ห้องฝึกซ้อม

 

 

“ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่…” เฉิงหั่วพึมพำพลางมองไปทางเฉิงสุ่ยแล้วมองมาที่เฉิงเจวี้ยน

 

 

เฉิงเจวี้ยนยกมือขึ้น พูดอย่างเฉื่อยชา “อืม” และไม่ได้พูดอะไรอีก 

 

 

EA3สตาร์ทเครื่องแล้ว เฉิงหั่วไม่คิดจะกินข้าวต่อ ดังนั้นเขาจึงขอให้เสี่ยวเฮยแนะนำฟังก์ชันของมัน เมื่อผูกกับระบบ มันก็จะผูกกับรูม่านตาของเฉิงเจวี้ยนโดยตรง

 

 

“เรียบร้อยแล้ว เปิดโหมดความสามารถรอบด้าน”

 

 

เฉิงหั่วเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ “นายท่าน เอาหุ่นยนต์ตัวนี้ให้พวกเราหน่วยข่าวกรองศึกษาก่อนดีกว่า?”

 

 

เฉิงเจวี้ยนพยักหน้าและให้สิทธิ์เฉิงหั่วใช้มันก่อน

 

 

เฉิงหั่วกำลังจะกลับไปยังหน่วยข่าวกรองด้วยความกระตือรือร้น ขณะกำลังจะเดินไปก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาชะงักเท้าทันทีและหันไปมองเฉิงเจวี้ยนที่เดินไปถึงบันไดแล้ว “นายท่าน เมื่อเช้าลูกพี่เป็นคนใช้เครื่องมือทดสอบพลังหมัดเหรอ?”

 

 

พอพูดถึงตรงนี้ เฉิงสุ่ยก็มองไปทางเฉิงเจวี้ยน

 

 

เฉิงเจวี้ยนได้ยินเสร็จก็เลิกคิ้ว พูดด้วยความสุขุม “เปล่า ไม่ใช่ฉัน”

 

 

พอพูดจบก็เดินขึ้นบันไดไป

 

 

เมื่อเฉิงหั่วที่ยืนกับเสี่ยวเฮยอยู่ตรงหน้าประตูได้ยินดังนั้นก็หยุดเท้า จากนั้นมองไปที่เฉิงสุ่ยที่เดินออกมาพร้อมกัน “เมื่อกี้ฉันฟังผิดไปใช่ไหม?”

 

 

ถ้าไม่ใช่เฉิงเจวี้ยน งั้นยังมีใครต่อยได้ถึง 1321?

 

 

เฉิงสุ่ยเงียบไปสักพัก เฉิงสุ่ยยังไม่รู้เรื่องทหารรับจ้างพวกนั้น แต่เขารู้ว่า…

 

 

“น่าจะเป็น…คุณหนูฉินมั้ง” เฉิงสุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

 

เฉิงหั่วเดินซวนเซและค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “เพื่อน นายพูดจริงดิ?”

 

 

เฉิงสุ่ยมองตาเขาอย่างเงียบๆ

 

 

เฉิงหั่ว “….”

 

 

เขาเหมือนกำลังจะตาย

 

 

**

 

 

อีกด้านหนึ่ง ฉินหร่านกำลังซ้อมให้เฉิงมู่

 

 

สำหรับยาห่อใหญ่ที่กู้ซีฉือส่งมานั้น ซือลี่หมิงคิดว่าชาตินี้เขาคงไม่สามารถทานยาได้เยอะขนาดนี้ได้

 

 

แต่เฉิงมู่กลับกินยาแต่ละชนิดไปหลายเม็ดต่อวัน รวมๆ กันก็เกือบสี่สิบถึงห้าสิบเม็ด ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะเกินไปสำหรับคนทั่วไปในหนึ่งสัปดาห์

 

 

หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ซือลี่หมิงยังเห็นอยู่เลยว่าเฉิงมู่ยังลุกไม่ขึ้น แต่ตอนนี้กลับมายืนได้และฮึกเหิมอยากจะซ้อมกับฉินหร่านอีกครั้ง เขาก้มหน้าลงจดบันทึกสภาพร่างกายปัจจุบันของเฉิงมู่ลงไปโดยไม่แสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้า

 

 

คราวนี้ฉินหร่านไม่สู้กับเฉิงมู่ เธอแตะคางแล้วมองซือลี่หมิง “นายไปสู้กับเฉิงมู่”

 

 

ซือลี่หมิงชี้มาที่ตัวเอง “ผม?”

 

 

เฉิงมู่เพิ่งจะซ้อมได้แค่วันเดียวเอง

 

 

“อือ ใช้กำลังให้เต็มที่” ฉินหร่านกอดอกแล้วถอยไปด้านข้างเพื่อให้ซือลี่หมิงไปสู้กับเฉิงมู่

 

 

ซือลี่หมิงวางสมุดกับปากกาลง

 

 

ตอนที่สู้กับเฉิงมู่ก่อนหน้านี้เขาจงใจออมมือให้ ตอนนี้ฉินหร่านสั่งให้เขาใช้กำลังให้เต็มที่ เขาจึงกำหมัดและเตรียมจะใช้กำลังเต็มที่

 

 

“เพื่อน ระวังตัวด้วย!” เขาออกหมัดอย่างรวดเร็ว 

 

 

ตอนนี้เฉิงมู่ยังซ้อมได้แค่วันเดียว แน่นอนว่ายังเอาชนะซือลี่หมิงไม่ได้ แต่ระหว่างที่สู้กับเฉิงมู่นั้น ซือลี่หมิงก็แอบตกใจอยู่ลึกๆ เฉิงมู่พัฒนาขึ้นมามากเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว นี่เป็นวิธีการสู้แบบไม่คิดชีวิต! และยิ่งไปกว่านั้นเฉิงมู่ยังกินยาวิเศษที่ฉินหร่านให้ไปเป็นกอง!

 

 

การฝึกพิเศษของฉินหร่านได้แสดงประสิทธิภาพเบื้องต้นแล้ว

 

 

ซือลี่หมิงยิ่งอิจฉาเขาไปกันใหญ่ ชกไปที่หน้าเขาโดยเฉพาะ

 

 

**

 

 

เฉิงหั่วพาเสี่ยวเฮยกลับไปยังหน่วยข่าวกรอง

 

 

เริ่มทำการเชื่อมต่อเสี่ยวเฮยเข้ากับพอร์ตคอมพิวเตอร์

 

 

เสี่ยวเฮยยืนอยู่ข้างๆ เขาแทบจะไม่ต่างอะไรกับตอนบ่าย

 

 

เฉิงสุ่ยเหลือบมองเฉิงหั่ว เนื่องจากเขาไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับโค้ดต่างๆ พอเล่นกับความแปลกใหม่ของเสี่ยวเฮยได้สักพักก็กลับไปจัดการงานที่เหลือของวันนี้

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน เจอร์รี่ก็เข้ามาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ “คุณเฉิงหั่ว ทางสถานประมูลได้ตอบกลับมาแล้วครับ!”

 

 

พวกเขาต่างก็ไม่กล้าแตะต้องเสี่ยวเฮยตลอดทั้งบ่าย นอกจากคุณลุงคนนั้นที่ถังชิงพูดถึง เฉิงหั่วก็ให้เจอร์รี่ติดต่อกับสถานประมูลของลานจอดเครื่องบินเพื่อสอบถามคู่มือจากเจ้าของหุ่นยนต์ที่นำมาประมูล

 

 

เจอร์รี่เพิ่งได้รับข้อความตอบกลับเมื่อครู่นี้

 

 

เฉิงหั่วบันทึกโค้ดท่อนหนึ่งลงไป ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดและจมภวังค์อยู่กับโค้ดหน้าตาประหลาดๆ เมื่อได้ยินเสียงเจอร์รี่ เขาก็เงยหน้าขึ้น

 

 

“ทางนั้นว่ายังไงบ้าง?” เขายื่นมือนวดขมับแล้วส่งสัญญาณให้เจอร์รี่เอาคอมพ์มาวางบนโต๊ะ

 

 

บนหน้าจอเป็นข้อความตอบกลับจากสถานประมูล

 

 

เนื่องจากเฉิงเจวี้ยนเป็นผู้ซื้อ ทางสถานประมูลย่อมรู้ดีว่าเป็นเรื่องซีเรียส พวกเขาจึงตั้งใจหาผู้ประมูลและแคปภาพข้อความตอบกลับของผู้ประมูลส่งมาให้——

 

 

(ขออภัย ทางเราก็ไม่รู้วิธีการใช้หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ มันน่าจะเป็นสินค้าตัวอย่าง เพราะไม่อย่างงั้นทำไมถึงมีแค่สามตัวมาจนถึงตอนนี้ล่ะ? ต้องขอบพระคุณผู้ซื้อที่ใช้เงินกว่าสิบล้านในการประมูลEA3)

 

 

ต่อไปเป็นข้อความตอบกลับอย่างเป็นทางการจากสถานประมูล (ขออภัยอย่างสูง ด้วยความเคารพ คุณเจอร์รี่…)

 

 

เจอร์รี่ทุบโต๊ะด้วยความโมโห ดวงตาแดงก่ำ “คุณเฉิงหั่ว คนที่เอามาประมูลโกงเราชัดๆ! ผมจะสืบมาให้ได้ว่าเป็นใคร!”

 

 

ถึงขนาดกล้าโกงพวกเขา

 

 

เฉิงหั่วเองก็เป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนเขา ทุกคนทั้งหน่วยข่าวกรองต่างก็อารมณ์เสียและโกรธแค้น

 

 

เดิมทีเจอร์รี่คิดว่าเฉิงหั่วจะโมโหสุดขีดเมื่อได้ยินประโยคนี้ แต่กลับไม่คิดว่าเขาจะแค่เอนหลังพิงเก้าอี้และยังยิ้มได้

 

 

“คุณเฉิงหั่ว?” เจอร์รี่พูดเบาๆ และสงสัยหน่อยๆ ว่าเฉิงหั่วโมโหจนเพี้ยนไปแล้วหรือไม่

 

 

เฉิงหั่วไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดกล้องเพื่อเตรียมอัดวิดีโอ

 

 

“เสี่ยวเฮย ไปรินน้ำมาสองแก้ว”

 

 

เสี่ยวเฮยที่ไม่ขยับมาแต่ไหนแต่ไร ตอนนี้ดวงตากลับค่อยๆ สว่างขึ้น “ครับ คุณเฉิงหั่ว”

 

 

เนื่องจากต้นแบบของมันถูกออกแบบมาให้เหมือนมนุษย์ พฤติกรรมและการเคลื่อนไหวจึงให้ความรู้สึกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไปตามท้องตลาด

 

 

มันรินน้ำมาสองแก้วด้วยความรวดเร็ว เฉิงหั่วหยิบไปหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้เจอร์รี่หยิบไปอีกหนึ่งแก้ว

 

 

เจอร์รี่…ตัวแข็งทื่อไปหมด

 

 

“เสี่ยวเฮย นับจำนวนประชากรทั้งหมดในรัฐ M ซิ” เขาสั่งต่ออย่างสบายอกสบายใจ

 

 

ยี่สิบวินาทีต่อมา เสี่ยวเฮยก็ฉายภาพสามมิติสีน้ำเงินออกมาตรงหน้า

 

 

แถวบนสุดคือจำนวนประชากรทั้งหมด ส่วนด้านล่างคืออัตราส่วนชายหญิง

 

 

นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์

 

 

เจอร์รี่ “…” นี่คือหุ่นยนต์จริงๆ เหรอเนี่ย? เกรงว่าจะไม่ใช่แค่เสี่ยวเฮยตัวเดียว? อวิ๋นกวงเป็นพ่อมดหรือไงถึงได้เอาของแบบนี้ออกมาขาย?

 

 

แม้จะเป็นการคำนวณข้อมูลจำนวนประชากรรัฐ M ก็ตาม แต่ก็ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้…

 

 

“เอาล่ะ ไปชาร์จแบตตัวเองเถอะ” เฉิงหั่วหยุดอัดวิดีโอ จากนั้นก็ส่งวิดีโอให้เจอร์รี่แล้วเงยหน้าขึ้น “นายบอกให้สถานประมูลส่งวิดีโอนี้ให้คนที่เอามาประมูลด้วย”

 

 

เฉิงหั่ววางโทรศัพท์ลงแล้วทำการค้นคว้าโค้ดต่อ ทันทีที่แตะแป้นพิมพ์ก็เงยหน้าพูดมาอีกประโยค “อ้อ จริงด้วย ถือโอกาสขอบคุณทางนั้นด้วยนะที่อุตส่าห์ขายหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์อันล้ำค่านี้ให้เราด้วยเงินเพียงสิบล้านเท่านั้น จริงๆ เลย”

 

 

ขณะที่รอโค้ดรันไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ…ฉินหร่านกับเฉิงมู่ดูคุ้นเคยกับเสี่ยวเฮยมากไปหรือเปล่า?

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์พิมพ์ถามเฉิงมู่ (คุณหนูฉินเป็นบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปใช่ไหม?)

 

 

คืนนี้ทั้งคืนมีคนอดไม่ได้ที่อยากจะใช้ค้อนทุบหัวตัวเองเพิ่มมาอีกหนึ่งราย

 

 

เจอร์รี่ส่งวิดีโอไปแล้ว สายตายังคงมองไปทางเสี่ยวเฮยโดยที่ยังไม่ยอมไปไหน

 

 

เวลานี้ถังชิงก็ถือโทรศัพท์เดินมาหาเฉิงหั่ว คนที่เจอเธอระหว่างทางต่างก็ทักทายเธออย่างสุภาพ “คุณถัง”

 

 

ถังชิงพยักหน้าและเดินตรงไปหาเฉิงหั่ว น้ำเสียงคมชัดกำลังระงับความตื่นเต้น “รุ่นพี่เฉิงหั่ว คุณลุงฉันตอบกลับมาแล้วค่ะ เขารู้เกี่ยวกับEA3ด้วย!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 225 เสี่ยวเฮยสตาร์ทเครื่อง เดาตัวตนฉินหร่าน

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 225 เสี่ยวเฮยสตาร์ทเครื่อง เดาตัวตนฉินหร่าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เครื่องส่งเสียงอีกครั้ง “ระบบโหลดเสร็จเรียบร้อย เริ่มโหมดฉายภาพหน้าจอ”

 

 

เมื่อเสียงของหุ่นยนต์สิ้นสุดลง หน้าจอสามมิติสีน้ำเงินเสมือนจริงก็ถูกฉายภาพกลางอากาศ

 

 

ตามลำดับจากซ้ายไปขวา——

 

 

(ผูกโปรแกรมกับรูม่านตา) —— (โหมดแม่บ้าน) (โหมดวิจัยทางวิทยาศาสตร์) (โหมดความสามารถรอบด้าน)

 

 

เฉิงเจวี้ยนยังคงเท้าคางมองอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่บนโต๊ะ

 

 

ฉินหร่านเหลือบมองเฉิงหั่ว เอามือล้วงกระเป๋า เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดอย่างเป็นกันเอง “ปัญ-ญา-ประ-ดิษฐ์ เคยได้ยินคำนี้ไหม?”

 

 

เฉิงหั่ว “….”

 

 

เฉิงหั่วพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

 

 

เฉิงหั่วก้มหน้าลงพลางรู้สึกว่าตัวเองเดินวนรอบEA3ตลอดทั้งบ่ายราวกับคนโง่

 

 

เฉิงสุ่ยเองก็วางตะเกียบลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

 

ปัจจุบันนี้บริษัทไอทีหลายแห่งกำลังพัฒนาระบบอัจฉริยะ ทว่าของพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นระบบอัจฉริยะปลอมๆ แม้ว่าจะมีระบบสั่งงานด้วยเสียง แต่ก็มีสวิตช์หลักเพื่อเปิดใช้งาน

 

 

พวกเขาพยายามศึกษามาตลอดช่วงบ่ายและยังคิดจะไปสถานประมูลเพื่อต้องการจะไปขอคู่มือจากอวิ๋นกวงกรุ๊ป ศึกษาอยู่ตั้งนานก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

มีเพียงเฉิงมู่ที่ดูสงบและกินข้าวคำสุดท้ายจนเสร็จ

 

 

“คุณหนูฉิน ผมไปรอที่ห้องฝึกซ้อมนะครับ” เฉิงมู่วางตะเกียบลง ใบหน้ายังคงปูดบวม หลังจากทักฉินหร่านและเฉิงเจวี้ยนเสร็จด้วยท่าทีเฉยเมยก็ไปที่ห้องฝึกซ้อม

 

 

ฉินหร่านพยักหน้า “นายไปก่อนเลย”

 

 

เมื่อผ่านเฉิงหั่วที่กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง เฉิงมู่ก็ชะงัก

 

 

เขาเหลือบมองเฉิงหั่วแล้วพูดกับEA3ว่า “EA3 นายมีชื่อไหม?”

 

 

(เสี่ยวเฮย)

 

 

เฉิงมู่ตอบ “อ๋อ” มันเป็นชื่อรุ่นเดียวกับเสี่ยวเอ้อร์ จากนั้นเขาก็เดินไปห้องฝึกซ้อมต่อ

 

 

นอกจากหน้าจะบวมไปหน่อย สีหน้าของเขาก็ยังคงดูทึมทื่อเหมือนเมื่อก่อน

 

 

เฉิงหั่วรู้สึกจริงๆ ว่าเป็นความตั้งใจของเจ้างั่งเฉิงมู่

 

 

เฉิงหั่วมองตามแผ่นหลังเขา จากนั้นก็เอื้อมมือลูบหน้าตัวเอง เขาหันไปมองฉินหร่าน “คุณหนูฉิน คุณ…สุดยอดจริงๆ”

 

 

หลังจากเริ่มระบบแล้ว เฉิงหั่วก็เข้าใจวิธีจัดการEA3แล้ว

 

 

ฉินหร่านไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เธอขึ้นไปเปลี่ยนชุดแล้วตามไปที่ห้องฝึกซ้อม

 

 

“ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่…” เฉิงหั่วพึมพำพลางมองไปทางเฉิงสุ่ยแล้วมองมาที่เฉิงเจวี้ยน

 

 

เฉิงเจวี้ยนยกมือขึ้น พูดอย่างเฉื่อยชา “อืม” และไม่ได้พูดอะไรอีก 

 

 

EA3สตาร์ทเครื่องแล้ว เฉิงหั่วไม่คิดจะกินข้าวต่อ ดังนั้นเขาจึงขอให้เสี่ยวเฮยแนะนำฟังก์ชันของมัน เมื่อผูกกับระบบ มันก็จะผูกกับรูม่านตาของเฉิงเจวี้ยนโดยตรง

 

 

“เรียบร้อยแล้ว เปิดโหมดความสามารถรอบด้าน”

 

 

เฉิงหั่วเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ “นายท่าน เอาหุ่นยนต์ตัวนี้ให้พวกเราหน่วยข่าวกรองศึกษาก่อนดีกว่า?”

 

 

เฉิงเจวี้ยนพยักหน้าและให้สิทธิ์เฉิงหั่วใช้มันก่อน

 

 

เฉิงหั่วกำลังจะกลับไปยังหน่วยข่าวกรองด้วยความกระตือรือร้น ขณะกำลังจะเดินไปก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาชะงักเท้าทันทีและหันไปมองเฉิงเจวี้ยนที่เดินไปถึงบันไดแล้ว “นายท่าน เมื่อเช้าลูกพี่เป็นคนใช้เครื่องมือทดสอบพลังหมัดเหรอ?”

 

 

พอพูดถึงตรงนี้ เฉิงสุ่ยก็มองไปทางเฉิงเจวี้ยน

 

 

เฉิงเจวี้ยนได้ยินเสร็จก็เลิกคิ้ว พูดด้วยความสุขุม “เปล่า ไม่ใช่ฉัน”

 

 

พอพูดจบก็เดินขึ้นบันไดไป

 

 

เมื่อเฉิงหั่วที่ยืนกับเสี่ยวเฮยอยู่ตรงหน้าประตูได้ยินดังนั้นก็หยุดเท้า จากนั้นมองไปที่เฉิงสุ่ยที่เดินออกมาพร้อมกัน “เมื่อกี้ฉันฟังผิดไปใช่ไหม?”

 

 

ถ้าไม่ใช่เฉิงเจวี้ยน งั้นยังมีใครต่อยได้ถึง 1321?

 

 

เฉิงสุ่ยเงียบไปสักพัก เฉิงสุ่ยยังไม่รู้เรื่องทหารรับจ้างพวกนั้น แต่เขารู้ว่า…

 

 

“น่าจะเป็น…คุณหนูฉินมั้ง” เฉิงสุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

 

เฉิงหั่วเดินซวนเซและค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “เพื่อน นายพูดจริงดิ?”

 

 

เฉิงสุ่ยมองตาเขาอย่างเงียบๆ

 

 

เฉิงหั่ว “….”

 

 

เขาเหมือนกำลังจะตาย

 

 

**

 

 

อีกด้านหนึ่ง ฉินหร่านกำลังซ้อมให้เฉิงมู่

 

 

สำหรับยาห่อใหญ่ที่กู้ซีฉือส่งมานั้น ซือลี่หมิงคิดว่าชาตินี้เขาคงไม่สามารถทานยาได้เยอะขนาดนี้ได้

 

 

แต่เฉิงมู่กลับกินยาแต่ละชนิดไปหลายเม็ดต่อวัน รวมๆ กันก็เกือบสี่สิบถึงห้าสิบเม็ด ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะเกินไปสำหรับคนทั่วไปในหนึ่งสัปดาห์

 

 

หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ซือลี่หมิงยังเห็นอยู่เลยว่าเฉิงมู่ยังลุกไม่ขึ้น แต่ตอนนี้กลับมายืนได้และฮึกเหิมอยากจะซ้อมกับฉินหร่านอีกครั้ง เขาก้มหน้าลงจดบันทึกสภาพร่างกายปัจจุบันของเฉิงมู่ลงไปโดยไม่แสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้า

 

 

คราวนี้ฉินหร่านไม่สู้กับเฉิงมู่ เธอแตะคางแล้วมองซือลี่หมิง “นายไปสู้กับเฉิงมู่”

 

 

ซือลี่หมิงชี้มาที่ตัวเอง “ผม?”

 

 

เฉิงมู่เพิ่งจะซ้อมได้แค่วันเดียวเอง

 

 

“อือ ใช้กำลังให้เต็มที่” ฉินหร่านกอดอกแล้วถอยไปด้านข้างเพื่อให้ซือลี่หมิงไปสู้กับเฉิงมู่

 

 

ซือลี่หมิงวางสมุดกับปากกาลง

 

 

ตอนที่สู้กับเฉิงมู่ก่อนหน้านี้เขาจงใจออมมือให้ ตอนนี้ฉินหร่านสั่งให้เขาใช้กำลังให้เต็มที่ เขาจึงกำหมัดและเตรียมจะใช้กำลังเต็มที่

 

 

“เพื่อน ระวังตัวด้วย!” เขาออกหมัดอย่างรวดเร็ว 

 

 

ตอนนี้เฉิงมู่ยังซ้อมได้แค่วันเดียว แน่นอนว่ายังเอาชนะซือลี่หมิงไม่ได้ แต่ระหว่างที่สู้กับเฉิงมู่นั้น ซือลี่หมิงก็แอบตกใจอยู่ลึกๆ เฉิงมู่พัฒนาขึ้นมามากเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว นี่เป็นวิธีการสู้แบบไม่คิดชีวิต! และยิ่งไปกว่านั้นเฉิงมู่ยังกินยาวิเศษที่ฉินหร่านให้ไปเป็นกอง!

 

 

การฝึกพิเศษของฉินหร่านได้แสดงประสิทธิภาพเบื้องต้นแล้ว

 

 

ซือลี่หมิงยิ่งอิจฉาเขาไปกันใหญ่ ชกไปที่หน้าเขาโดยเฉพาะ

 

 

**

 

 

เฉิงหั่วพาเสี่ยวเฮยกลับไปยังหน่วยข่าวกรอง

 

 

เริ่มทำการเชื่อมต่อเสี่ยวเฮยเข้ากับพอร์ตคอมพิวเตอร์

 

 

เสี่ยวเฮยยืนอยู่ข้างๆ เขาแทบจะไม่ต่างอะไรกับตอนบ่าย

 

 

เฉิงสุ่ยเหลือบมองเฉิงหั่ว เนื่องจากเขาไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับโค้ดต่างๆ พอเล่นกับความแปลกใหม่ของเสี่ยวเฮยได้สักพักก็กลับไปจัดการงานที่เหลือของวันนี้

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน เจอร์รี่ก็เข้ามาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ “คุณเฉิงหั่ว ทางสถานประมูลได้ตอบกลับมาแล้วครับ!”

 

 

พวกเขาต่างก็ไม่กล้าแตะต้องเสี่ยวเฮยตลอดทั้งบ่าย นอกจากคุณลุงคนนั้นที่ถังชิงพูดถึง เฉิงหั่วก็ให้เจอร์รี่ติดต่อกับสถานประมูลของลานจอดเครื่องบินเพื่อสอบถามคู่มือจากเจ้าของหุ่นยนต์ที่นำมาประมูล

 

 

เจอร์รี่เพิ่งได้รับข้อความตอบกลับเมื่อครู่นี้

 

 

เฉิงหั่วบันทึกโค้ดท่อนหนึ่งลงไป ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดและจมภวังค์อยู่กับโค้ดหน้าตาประหลาดๆ เมื่อได้ยินเสียงเจอร์รี่ เขาก็เงยหน้าขึ้น

 

 

“ทางนั้นว่ายังไงบ้าง?” เขายื่นมือนวดขมับแล้วส่งสัญญาณให้เจอร์รี่เอาคอมพ์มาวางบนโต๊ะ

 

 

บนหน้าจอเป็นข้อความตอบกลับจากสถานประมูล

 

 

เนื่องจากเฉิงเจวี้ยนเป็นผู้ซื้อ ทางสถานประมูลย่อมรู้ดีว่าเป็นเรื่องซีเรียส พวกเขาจึงตั้งใจหาผู้ประมูลและแคปภาพข้อความตอบกลับของผู้ประมูลส่งมาให้——

 

 

(ขออภัย ทางเราก็ไม่รู้วิธีการใช้หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ มันน่าจะเป็นสินค้าตัวอย่าง เพราะไม่อย่างงั้นทำไมถึงมีแค่สามตัวมาจนถึงตอนนี้ล่ะ? ต้องขอบพระคุณผู้ซื้อที่ใช้เงินกว่าสิบล้านในการประมูลEA3)

 

 

ต่อไปเป็นข้อความตอบกลับอย่างเป็นทางการจากสถานประมูล (ขออภัยอย่างสูง ด้วยความเคารพ คุณเจอร์รี่…)

 

 

เจอร์รี่ทุบโต๊ะด้วยความโมโห ดวงตาแดงก่ำ “คุณเฉิงหั่ว คนที่เอามาประมูลโกงเราชัดๆ! ผมจะสืบมาให้ได้ว่าเป็นใคร!”

 

 

ถึงขนาดกล้าโกงพวกเขา

 

 

เฉิงหั่วเองก็เป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนเขา ทุกคนทั้งหน่วยข่าวกรองต่างก็อารมณ์เสียและโกรธแค้น

 

 

เดิมทีเจอร์รี่คิดว่าเฉิงหั่วจะโมโหสุดขีดเมื่อได้ยินประโยคนี้ แต่กลับไม่คิดว่าเขาจะแค่เอนหลังพิงเก้าอี้และยังยิ้มได้

 

 

“คุณเฉิงหั่ว?” เจอร์รี่พูดเบาๆ และสงสัยหน่อยๆ ว่าเฉิงหั่วโมโหจนเพี้ยนไปแล้วหรือไม่

 

 

เฉิงหั่วไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดกล้องเพื่อเตรียมอัดวิดีโอ

 

 

“เสี่ยวเฮย ไปรินน้ำมาสองแก้ว”

 

 

เสี่ยวเฮยที่ไม่ขยับมาแต่ไหนแต่ไร ตอนนี้ดวงตากลับค่อยๆ สว่างขึ้น “ครับ คุณเฉิงหั่ว”

 

 

เนื่องจากต้นแบบของมันถูกออกแบบมาให้เหมือนมนุษย์ พฤติกรรมและการเคลื่อนไหวจึงให้ความรู้สึกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไปตามท้องตลาด

 

 

มันรินน้ำมาสองแก้วด้วยความรวดเร็ว เฉิงหั่วหยิบไปหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้เจอร์รี่หยิบไปอีกหนึ่งแก้ว

 

 

เจอร์รี่…ตัวแข็งทื่อไปหมด

 

 

“เสี่ยวเฮย นับจำนวนประชากรทั้งหมดในรัฐ M ซิ” เขาสั่งต่ออย่างสบายอกสบายใจ

 

 

ยี่สิบวินาทีต่อมา เสี่ยวเฮยก็ฉายภาพสามมิติสีน้ำเงินออกมาตรงหน้า

 

 

แถวบนสุดคือจำนวนประชากรทั้งหมด ส่วนด้านล่างคืออัตราส่วนชายหญิง

 

 

นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์

 

 

เจอร์รี่ “…” นี่คือหุ่นยนต์จริงๆ เหรอเนี่ย? เกรงว่าจะไม่ใช่แค่เสี่ยวเฮยตัวเดียว? อวิ๋นกวงเป็นพ่อมดหรือไงถึงได้เอาของแบบนี้ออกมาขาย?

 

 

แม้จะเป็นการคำนวณข้อมูลจำนวนประชากรรัฐ M ก็ตาม แต่ก็ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้…

 

 

“เอาล่ะ ไปชาร์จแบตตัวเองเถอะ” เฉิงหั่วหยุดอัดวิดีโอ จากนั้นก็ส่งวิดีโอให้เจอร์รี่แล้วเงยหน้าขึ้น “นายบอกให้สถานประมูลส่งวิดีโอนี้ให้คนที่เอามาประมูลด้วย”

 

 

เฉิงหั่ววางโทรศัพท์ลงแล้วทำการค้นคว้าโค้ดต่อ ทันทีที่แตะแป้นพิมพ์ก็เงยหน้าพูดมาอีกประโยค “อ้อ จริงด้วย ถือโอกาสขอบคุณทางนั้นด้วยนะที่อุตส่าห์ขายหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์อันล้ำค่านี้ให้เราด้วยเงินเพียงสิบล้านเท่านั้น จริงๆ เลย”

 

 

ขณะที่รอโค้ดรันไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ…ฉินหร่านกับเฉิงมู่ดูคุ้นเคยกับเสี่ยวเฮยมากไปหรือเปล่า?

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์พิมพ์ถามเฉิงมู่ (คุณหนูฉินเป็นบุคคลภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปใช่ไหม?)

 

 

คืนนี้ทั้งคืนมีคนอดไม่ได้ที่อยากจะใช้ค้อนทุบหัวตัวเองเพิ่มมาอีกหนึ่งราย

 

 

เจอร์รี่ส่งวิดีโอไปแล้ว สายตายังคงมองไปทางเสี่ยวเฮยโดยที่ยังไม่ยอมไปไหน

 

 

เวลานี้ถังชิงก็ถือโทรศัพท์เดินมาหาเฉิงหั่ว คนที่เจอเธอระหว่างทางต่างก็ทักทายเธออย่างสุภาพ “คุณถัง”

 

 

ถังชิงพยักหน้าและเดินตรงไปหาเฉิงหั่ว น้ำเสียงคมชัดกำลังระงับความตื่นเต้น “รุ่นพี่เฉิงหั่ว คุณลุงฉันตอบกลับมาแล้วค่ะ เขารู้เกี่ยวกับEA3ด้วย!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+