เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 226 พึ่งใบบุญบอสใหญ่เป็นหลัก การแก้แค้นของสุภาพบุรุษ

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 226 พึ่งใบบุญบอสใหญ่เป็นหลัก การแก้แค้นของสุภาพบุรุษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากถังชิงกลับไปก็ติดต่อคุณลุงของเธอทันที

 

 

แต่แค่ว่าคุณลุงของเธอยุ่งอยู่ตลอด ที่ผ่านมาพวกเขาจึงไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ไม่ง่ายเลยที่เขาจะตอบกลับข้อความอย่างเมื่อสักครู่นี้ ถังชิงรีบมาหาเฉิงหั่วที่หน่วยข่าวกรอง

 

 

“คุณลุงบอกว่าอาจจะยุ่งยากสักหน่อย…” ถังชิงวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเฉิงหั่วด้วยสายตาระยิบระยับ 

 

 

เฉิงหั่วคัดลอกโค้ดลงในโปรแกรมจำลองอีกครั้ง ขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังพิมพ์โค้ด เขาก็เงยหน้ายิ้มให้ถังชิงพลางเหยียดมืออีกข้างออกแล้วดีดนิ้ว “เสี่ยวเฮย”

 

 

ถังชิงผงะ เธอยังงงอยู่เลยว่าตอนบ่ายเฉิงหั่วยังดูร้อนใจอยู่แท้ๆ ตอนนี้ทำไมถึงดูสงบเสงี่ยมขึ้นมาได้?

 

 

เธอเพิ่งจะคิดได้ถึงตรงนี้

 

 

หุ่นยนต์ที่อยู่ข้างหลังเฉิงหั่วก็ค่อยๆ เดินออกมา

 

 

เสี่ยวเฮยเหลือบมองเฉิงหั่ว เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเสียงกลไก แต่กลับฟังดูเมินเฉยเล็กน้อย “คุณเฉิงหั่วยังมีอะไรจะสั่งอีกไหม ผมกำลังอยู่ในกระบวนการชาร์จแบตเตอรี่”

 

 

“…ไม่มีอะไร นายกลับไปชาร์จแบตต่อเถอะ” เฉิงหั่วเคาะปุ่ม “enter” แล้วพูดอย่างเรียบๆ

 

 

เสี่ยวเฮยเหลือบมองเฉิงหั่วอีกครั้ง

 

 

ก่อนจะหาที่ชาร์จแบตของตัวเอง

 

 

จนกระทั่งเสี่ยวเฮยไปแล้ว เฉิงหั่วถึงได้แตะหน้าผากเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วมองถังชิง “ฉันสตาร์ทEA3ได้แล้ว มันชื่อเสี่ยวเฮย”

 

 

ในที่สุดถังชิงก็ละสายตา ตอนเธอหันกลับมา ผมบลอนด์ของเธอปลิวเล็กน้อย ใบหน้าบอบบางทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พวกคุณสตาร์ทEA3ได้ยังไง?”

 

 

“ไม่ใช่ฉัน เป็นคุณหนูฉิน” โปรแกรมจำลองบนคอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน เฉิงหั่วนั่งตัวตรงพลางมองไปที่โปรแกรมจำลองบนหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่ละสายตา “เธอรู้วิธีควบคุมEA3”

 

 

สองวันที่ผ่านมาในคฤหาสน์แห่งนี้ นอกจากลูกพี่ของเฉิงหั่วแล้วก็ยังมีคุณหนูฉินท่านนี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสนั่นหู

 

 

เธอยืนอึ้งอยู่กับที่ ขนตาสั่นไหว

 

 

วินาทีต่อจากนั้นกลับตกใจกับระบบจำลองในคอมพิวเตอร์ของเฉิงหั่ว

 

 

เมื่อมองไปที่ระบบการจำลองแบบชุดเดียวทั้งหมด เฉิงหั่วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเอียงศีรษะมองถังชิง “นี่คือโค้ดโปรแกรมที่ฉันได้รับจากการเชื่อมต่อกับเสี่ยวเฮย แต่ยังแกะไม่ได้ทั้งหมด คุณลุงของเธอเดินทางมาคฤหาสน์ได้ไหม?”

 

 

โปรแกรมพิสดารดังกล่าว ไม่ใช่แค่เฉิงหั่วเท่านั้นที่เชื่อว่าแฮ็กเกอร์ทุกคนที่เห็นโปรแกรมนี้ล้วนแล้วแต่หวังว่าตัวเองจะสามารถสื่อสารกับผู้คิดค้นได้

 

 

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นจะลองถามดู” ถังชิงนิ่งไปสักพักแล้วตอบ

 

 

เฉิงหั่วพยักหน้าและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “เธอลองมาดูโค้ดพวกนี้สิ ใช่แล้ว เธอพกคอมพ์มาด้วยไหม…”

 

 

**

 

 

ฉินหร่านฝึกซ้อมเฉิงมู่มาได้หนึ่งสัปดาห์กว่าๆ

 

 

ฉินหร่านทดลองยาชนิดต่างๆ ของกู้ซีฉือไปรอบหนึ่งแล้ว

 

 

วันที่สิบสอง ฉินหร่านให้ซือลี่หมิงสู้กับเฉิงมู่โดยที่เธอไม่ได้คอยดูอยู่ข้างๆ แต่ไปที่ห้องหนังสือ…ฝึกเขียนตัวอักษรแทน

 

 

“คุณหนูฉิน นี่คือพัสดุที่อวิ๋นกวงส่งมา” เฉิงสุ่ยเคาะประตูเข้ามาจากด้านนอก

 

 

เขาเหลือบดูสมุดคัดลายมือของฉินหร่าน แม้เธอจะถนัดมือซ้ายแต่ลายมือก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ลีลาการเขียนและเค้าโครงตัวอักษรเป็นไปอย่างอิสระ

 

 

เธอยังคงฝึกเขียนแบบนี้ทุกวัน เฉิงสุ่ยแอบถอนหายใจ

 

 

แน่นอนว่าถ้าเฉิงมู่อยู่ที่นี่จะต้องบอกเขาว่าไม่กี่เดือนก่อนลายมือฉินหร่านไม่ได้เป็นแบบนี้

 

 

เฉิงสุ่ยยื่นพัสดุให้ฉินหร่าน

 

 

โดยปกติแล้วนักมวยเดนตายจะต่อยเพียงวันละครั้งหรือทุกสองถึงสามวัน

 

 

ส่วนเฉิงมู่ต่อยวันละหลายๆ ครั้งและใช้ยาอย่างหนัก

 

 

ยาส่วนใหญ่ใช้ไปหมดแล้ว

 

 

ฉินหร่านวางปากกาในมือลง เธอวางสมุดคัดลายมือและปากกาไว้ข้างๆ

 

 

เฉิงเจวี้ยนก็กำลังจะไปรินชาให้ตัวเองกับฉินหร่านอยู่พอดี ตอนนี้เฉิงมู่ไม่อยู่ งานจิปาถะเล็กๆ น้อยๆ จึงตกเป็นของเฉิงเจวี้ยน เขาถือโอกาสไปหยิบกรรไกรมาให้เธอ

 

 

ฉินหร่านรับมาแล้วแกะห่อพัสดุอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ทางด้านเฉิงสุ่ยก็ไม่ได้ละสายตา วางตัวสุภาพเรียบร้อยทั้งที่ในใจเหมือนมีคลื่นลมถาโถม

 

 

เป็นห่อยาอีกแล้ว

 

 

ฉินหร่านหยิบขวดยาพวกนั้นออกมา เธอชี้ขวดยาแล้วถามเฉิงเจวี้ยน “นี่น่ะ คราวที่แล้วกู้ซีฉือบอกว่าเขาแย่งยาของอาจารย์มาหมดเกลี้ยงแล้วไม่ใช่เหรอ?”

 

 

มีอีกตั้งเป็นกองได้ยังไง?

 

 

“เป็นของแพทย์ท่านอื่น” เฉิงเจวี้ยนรู้ได้ทันทีว่ายามาจากไหนโดยการสแกนรหัสที่ติดบนฝาขวด เขาเลิกคิ้วขึ้น “เขาน่าจะกวาดมาทั้งองค์กรการแพทย์”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้า นั่นก็เข้าใจได้

 

 

เฉิงเจวี้ยนเหลือบมองเธอแล้วเอนพิงโต๊ะ จากนั้นก้มหน้าควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง เปิดภาพโปรไฟล์กู้ซีฉือพลางหรี่ตา

 

 

ค่อยๆ พิมพ์ไปหนึ่งประโยค——

 

 

(นายทำได้ดีจริงๆ)

 

 

ทางด้านกู้ซีฉือก็กำลังตบมือเจียงตงเยี่ยเพื่อไม่ให้เขาสร้างปัญหา โทรศัพท์ที่วางอยู่อีกด้านสว่างขึ้น หน้าจอเป็นชื่อเฉิงเจวี้ยน

 

 

กู้ซีฉือตกใจเล็กน้อย เขาหยิบมันมา หลังจากหน้าจอโทรศัพท์ปลดล็อกอัตโนมัติ ข้อความเฉิงเจวี้ยนก็เด้งขึ้น

 

 

กู้ซีฉือถึงกับเย็นสันหลังวาบโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

 

เขากดโทรศัพท์ตอบกลับเฉิงเจวี้ยน——

 

 

(เรียนรู้มาจากรุ่นพี่ ยังไม่เก่งเท่าหนึ่งหรือสองในสิบของรุ่นพี่เลย)

 

 

คำพูดนี้กู้ซีฉือไม่ได้โกหก เขานึกถึงตอนนั้น ตอนที่เฉิงเจวี้ยนนำหนังสือทางการแพทย์ไปขวางทุกคนไว้ ซึ่งเป็นคนขององค์กรการแพทย์ทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาวัยรุ่น แพทย์พวกนั้นหรือแม้กระทั่งอาจารย์ต่างก็วุ่นวายเพราะเฉิงเจวี้ยน

 

 

เขาคือมนุษย์กลดีๆ นี่เอง

 

 

ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งหรือสองในสิบ กู้ซีฉือคิดว่าเขาได้เรียนรู้แก่นแท้เพียงสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะถึงอย่างไรโดยหลักแล้วเขาก็พึ่งใบบุญบอสใหญ่ไดม่อนคนนั้นถึงได้ทั้งขู่ทั้งแย่งมันมาได้

 

 

พวกแพทย์ในองค์กรการแพทย์เหล่านั้นต่างก็รู้ดีว่าเงินสนับสนุนส่วนใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เป็นของบอสใหญ่ไดม่อน พวกเขาจึงด่าแค่เพียงฉากหน้าแต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทำการขัดขวางใดๆ

 

 

และกู้ซีฉือเองก็ยังเหลือยาตัวอย่างไว้ให้พวกเขาอย่างละหนึ่งขวด

 

 

**

 

 

ตอนบ่าย

 

 

หลังจากฉินหร่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินไปห้องฝึกซ้อมชั้นหนึ่ง

 

 

ตอนที่เธอไปถึง เฉิงมู่กำลังต่อยเครื่องทดสอบพลังหมัดอยู่

 

 

ส่วนซือลี่หมิงก็กำลังนอนลงไปกับพื้นโดยมีแผลอยู่ตามร่างกาย สภาพดูอเนจอนาถยิ่งกว่าเดิม

 

 

สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

 

เขายังมีวันที่โดนเฉิงมู่ต่อยจนล้ม

 

 

และเป็นเวลาภายในไม่ถึงครึ่งเดือน

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นกับตาตัวเองว่าฉินหร่านซ้อมพิเศษให้เฉิงมู่อย่างไรในระยะเวลาที่ผ่านมา หรือได้เห็นว่าเฉิงมู่ฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงเพียงใด ซือลี่หมิงก็คงจะนึกสงสัยขึ้นมาจริงๆ ว่าเฉิงมู่กลายเป็นคนละคน

 

 

ฉินหร่านยื่นมือแตะริมฝีปากล่าง จากนั้นก็หยิบขวดยาในห่อพัสดุให้ซือลี่หมิงหนึ่งขวด เธอโยนไปที่มือเขาโดยไม่พลาดเป้า “สามเม็ด”

 

 

ซือลี่หมิงลุกขึ้นทันที จากนั้นก็ประคองขวดยาไว้ รู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว

 

 

ที่แท้แล้วเขาก็มีวันนี้

 

 

“คุณหนูฉิน” พอเฉิงมู่ต่อยเสร็จก็เอียงข้างเพื่อให้ฉินหร่านเห็นค่าพลังหมัดข้างหลังเขา

 

 

เขาต่อยไปสามครั้งโดยแบ่งสถิติได้ดังนี้——

 

 

 845

 

 

 859

 

 

 857

 

 

จากหกร้อยกว่าจนมาถึงแปดร้อยกว่า ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพียงแค่ระดับเดียว

 

 

นี่ไม่ได้เป็นผลมาจากการฝึกที่หนักหน่วงทุกวันเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากยาสร้างเนื้อเสริมกระดูกที่กู้ซีฉือส่งมาด้วยเช่นกัน

 

 

ไม่ใช่แค่ค่าพลังหมัดที่พัฒนาขึ้น หลังจากซือลี่หมิงเจอมากับตัวแล้วก็พบว่าทักษะการต่อสู้ของเฉิงมู่เป็นแนวเดียวกับฉินหร่าน ทั้งดุดันและแม่นยำ เป็นวิธีการต่อสู้แบบไม่คิดชีวิต

 

 

หลังจากกินยาเสร็จ ซือลี่หมิงก็รู้สึกว่ายาออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว ไม่ได้รู้สึกเจ็บหน้าอะไรขนาดนั้น แต่เขาก็ยังหน้าตาบิดเบี้ยวอยู่เหมือนเดิม ในใจยังนึกชื่นชมเฉิงมู่ที่โดนต่อยแบบนี้วันละเจ็ดถึงแปดครั้งต่อวัน อดทนเก่งจริงๆ

 

 

เมื่อฉินหร่านเห็นค่าพลังหมัดก็ยังไม่ค่อยพอใจ แต่ก็พยักหน้า “ตามฉันลงไปข้างล่าง”

 

 

เฉิงมู่ยังคิดว่าฉินหร่านจะสู้กับเขา

 

 

เมื่อได้ยินที่เธอพูด เขาก็อึ้งไปสักพัก “วันนี้ไม่ซ้อมพิเศษแล้วเหรอครับ?”

 

 

“อืม พวกเราจะไปหาที่ซ้อมข้างล่างกัน…” ฉินหร่านหรี่ตามองไปทางซือลี่หมิง “เจอร์รี่นั่นใช่ไหม?”

 

 

ซือลี่หมิง “…ครับ”

 

 

ซือลี่หมิงรู้สึกได้ว่าไม่ได้เจ็บปวดตามร่างกายแล้ว เขาสวมผ้าปิดปากและหมวกอย่างเงียบๆ พลางเดินตามฉินหร่านลงไปข้างล่าง

 

 

เขาอยากจะเห็นเจอร์รี่โดนต่อยจนมีสภาพอเนจอนาถถึงจะพอใจ

 

 

**

 

 

สนามฝึกชั้นล่าง

 

 

วันนี้ข้างนอกมีแดดส่อง ไม่มีลมแรง แต่อากาศเย็นอย่างบอกไม่ถูก 

 

 

ช่วงนี้เจอร์รี่ไม่ค่อยมาซ้อมที่สนามฝึกเลย เขายุ่งอยู่กับโค้ดของเสี่ยวเฮยอยู่ที่หน่วยข่าวกรอง เฉิงหั่วเองก็กินข้าวนอนหลับอยู่ที่นั่น

 

 

อย่างไรก็ตามในช่วงสองวันที่ผ่านมาก็ใกล้จะแกะโค้ดสำเร็จแล้ว เจอร์รี่ ถังชิง และคนอื่นๆ ต่างก็พากันมาที่สนามฝึก

 

 

“เจอร์รี่ นั่นเฉิงมู่นี่ เกือบจะครึ่งเดือนแล้วยังไม่มาซ้อมที่สนามฝึกเลย คงกลัวนายต่อยแหงๆ” หลายคนรวมถึงถังชิงต่างก็ส่งเสียงพลางหรี่ตา

 

 

เจอร์รี่หรี่ตามองอย่างดูถูกแล้วพูดไปตรงๆ “ครึ่งเดือนแล้วเหรอ? ซือลี่หมิงก็ไม่มาด้วยหนิ ไอ้ขี้ขลาดนั่นกับซือลี่หมิงก็เหมือนๆ กัน เอาแต่ล้อมหน้าล้อมหลังผู้หญิงทั้งวัน ช้าเร็วก็คงถูกคุณเฉิงสุ่ยจัดการ”

 

 

พอพูดจบก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีถังชิงอยู่ข้างๆ เจอร์รี่จึงรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที “ขอโทษด้วยครับคุณถัง ผมไม่ได้พูดถึงคุณ คุณต่างจากคนอื่นแน่นอน…”

 

 

ในช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมา ถังชิงมีบทบาทโดดเด่นในหน่วยข่าวกรอง ในแง่ของความสามารถเธอเป็นรองแค่เฉิงหั่วเท่านั้นและได้ยินมาว่าเธอยังมีคุณลุงที่มีฝีมือเก่งกาจอยู่อีกด้วย

 

 

คิ้วถังชิงที่ขมวดคลายออก

 

 

เธอยังไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

 

ไม่ไกลมากนัก กลุ่มของเฉิงมู่ค่อยๆ เดินมาทางนี้

 

 

คนในสนามฝึกจำฉินหร่านที่กำลังเดินเอื่อยเฉื่อยตามหลังเฉิงมู่ได้ พวกเขาจึงออกมาทักทายอย่างสุภาพ “คุณหนูฉิน”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 226 พึ่งใบบุญบอสใหญ่เป็นหลัก การแก้แค้นของสุภาพบุรุษ

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 226 พึ่งใบบุญบอสใหญ่เป็นหลัก การแก้แค้นของสุภาพบุรุษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากถังชิงกลับไปก็ติดต่อคุณลุงของเธอทันที

 

 

แต่แค่ว่าคุณลุงของเธอยุ่งอยู่ตลอด ที่ผ่านมาพวกเขาจึงไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ไม่ง่ายเลยที่เขาจะตอบกลับข้อความอย่างเมื่อสักครู่นี้ ถังชิงรีบมาหาเฉิงหั่วที่หน่วยข่าวกรอง

 

 

“คุณลุงบอกว่าอาจจะยุ่งยากสักหน่อย…” ถังชิงวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเฉิงหั่วด้วยสายตาระยิบระยับ 

 

 

เฉิงหั่วคัดลอกโค้ดลงในโปรแกรมจำลองอีกครั้ง ขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังพิมพ์โค้ด เขาก็เงยหน้ายิ้มให้ถังชิงพลางเหยียดมืออีกข้างออกแล้วดีดนิ้ว “เสี่ยวเฮย”

 

 

ถังชิงผงะ เธอยังงงอยู่เลยว่าตอนบ่ายเฉิงหั่วยังดูร้อนใจอยู่แท้ๆ ตอนนี้ทำไมถึงดูสงบเสงี่ยมขึ้นมาได้?

 

 

เธอเพิ่งจะคิดได้ถึงตรงนี้

 

 

หุ่นยนต์ที่อยู่ข้างหลังเฉิงหั่วก็ค่อยๆ เดินออกมา

 

 

เสี่ยวเฮยเหลือบมองเฉิงหั่ว เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเสียงกลไก แต่กลับฟังดูเมินเฉยเล็กน้อย “คุณเฉิงหั่วยังมีอะไรจะสั่งอีกไหม ผมกำลังอยู่ในกระบวนการชาร์จแบตเตอรี่”

 

 

“…ไม่มีอะไร นายกลับไปชาร์จแบตต่อเถอะ” เฉิงหั่วเคาะปุ่ม “enter” แล้วพูดอย่างเรียบๆ

 

 

เสี่ยวเฮยเหลือบมองเฉิงหั่วอีกครั้ง

 

 

ก่อนจะหาที่ชาร์จแบตของตัวเอง

 

 

จนกระทั่งเสี่ยวเฮยไปแล้ว เฉิงหั่วถึงได้แตะหน้าผากเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วมองถังชิง “ฉันสตาร์ทEA3ได้แล้ว มันชื่อเสี่ยวเฮย”

 

 

ในที่สุดถังชิงก็ละสายตา ตอนเธอหันกลับมา ผมบลอนด์ของเธอปลิวเล็กน้อย ใบหน้าบอบบางทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พวกคุณสตาร์ทEA3ได้ยังไง?”

 

 

“ไม่ใช่ฉัน เป็นคุณหนูฉิน” โปรแกรมจำลองบนคอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน เฉิงหั่วนั่งตัวตรงพลางมองไปที่โปรแกรมจำลองบนหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่ละสายตา “เธอรู้วิธีควบคุมEA3”

 

 

สองวันที่ผ่านมาในคฤหาสน์แห่งนี้ นอกจากลูกพี่ของเฉิงหั่วแล้วก็ยังมีคุณหนูฉินท่านนี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสนั่นหู

 

 

เธอยืนอึ้งอยู่กับที่ ขนตาสั่นไหว

 

 

วินาทีต่อจากนั้นกลับตกใจกับระบบจำลองในคอมพิวเตอร์ของเฉิงหั่ว

 

 

เมื่อมองไปที่ระบบการจำลองแบบชุดเดียวทั้งหมด เฉิงหั่วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเอียงศีรษะมองถังชิง “นี่คือโค้ดโปรแกรมที่ฉันได้รับจากการเชื่อมต่อกับเสี่ยวเฮย แต่ยังแกะไม่ได้ทั้งหมด คุณลุงของเธอเดินทางมาคฤหาสน์ได้ไหม?”

 

 

โปรแกรมพิสดารดังกล่าว ไม่ใช่แค่เฉิงหั่วเท่านั้นที่เชื่อว่าแฮ็กเกอร์ทุกคนที่เห็นโปรแกรมนี้ล้วนแล้วแต่หวังว่าตัวเองจะสามารถสื่อสารกับผู้คิดค้นได้

 

 

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นจะลองถามดู” ถังชิงนิ่งไปสักพักแล้วตอบ

 

 

เฉิงหั่วพยักหน้าและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “เธอลองมาดูโค้ดพวกนี้สิ ใช่แล้ว เธอพกคอมพ์มาด้วยไหม…”

 

 

**

 

 

ฉินหร่านฝึกซ้อมเฉิงมู่มาได้หนึ่งสัปดาห์กว่าๆ

 

 

ฉินหร่านทดลองยาชนิดต่างๆ ของกู้ซีฉือไปรอบหนึ่งแล้ว

 

 

วันที่สิบสอง ฉินหร่านให้ซือลี่หมิงสู้กับเฉิงมู่โดยที่เธอไม่ได้คอยดูอยู่ข้างๆ แต่ไปที่ห้องหนังสือ…ฝึกเขียนตัวอักษรแทน

 

 

“คุณหนูฉิน นี่คือพัสดุที่อวิ๋นกวงส่งมา” เฉิงสุ่ยเคาะประตูเข้ามาจากด้านนอก

 

 

เขาเหลือบดูสมุดคัดลายมือของฉินหร่าน แม้เธอจะถนัดมือซ้ายแต่ลายมือก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ลีลาการเขียนและเค้าโครงตัวอักษรเป็นไปอย่างอิสระ

 

 

เธอยังคงฝึกเขียนแบบนี้ทุกวัน เฉิงสุ่ยแอบถอนหายใจ

 

 

แน่นอนว่าถ้าเฉิงมู่อยู่ที่นี่จะต้องบอกเขาว่าไม่กี่เดือนก่อนลายมือฉินหร่านไม่ได้เป็นแบบนี้

 

 

เฉิงสุ่ยยื่นพัสดุให้ฉินหร่าน

 

 

โดยปกติแล้วนักมวยเดนตายจะต่อยเพียงวันละครั้งหรือทุกสองถึงสามวัน

 

 

ส่วนเฉิงมู่ต่อยวันละหลายๆ ครั้งและใช้ยาอย่างหนัก

 

 

ยาส่วนใหญ่ใช้ไปหมดแล้ว

 

 

ฉินหร่านวางปากกาในมือลง เธอวางสมุดคัดลายมือและปากกาไว้ข้างๆ

 

 

เฉิงเจวี้ยนก็กำลังจะไปรินชาให้ตัวเองกับฉินหร่านอยู่พอดี ตอนนี้เฉิงมู่ไม่อยู่ งานจิปาถะเล็กๆ น้อยๆ จึงตกเป็นของเฉิงเจวี้ยน เขาถือโอกาสไปหยิบกรรไกรมาให้เธอ

 

 

ฉินหร่านรับมาแล้วแกะห่อพัสดุอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ทางด้านเฉิงสุ่ยก็ไม่ได้ละสายตา วางตัวสุภาพเรียบร้อยทั้งที่ในใจเหมือนมีคลื่นลมถาโถม

 

 

เป็นห่อยาอีกแล้ว

 

 

ฉินหร่านหยิบขวดยาพวกนั้นออกมา เธอชี้ขวดยาแล้วถามเฉิงเจวี้ยน “นี่น่ะ คราวที่แล้วกู้ซีฉือบอกว่าเขาแย่งยาของอาจารย์มาหมดเกลี้ยงแล้วไม่ใช่เหรอ?”

 

 

มีอีกตั้งเป็นกองได้ยังไง?

 

 

“เป็นของแพทย์ท่านอื่น” เฉิงเจวี้ยนรู้ได้ทันทีว่ายามาจากไหนโดยการสแกนรหัสที่ติดบนฝาขวด เขาเลิกคิ้วขึ้น “เขาน่าจะกวาดมาทั้งองค์กรการแพทย์”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้า นั่นก็เข้าใจได้

 

 

เฉิงเจวี้ยนเหลือบมองเธอแล้วเอนพิงโต๊ะ จากนั้นก้มหน้าควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง เปิดภาพโปรไฟล์กู้ซีฉือพลางหรี่ตา

 

 

ค่อยๆ พิมพ์ไปหนึ่งประโยค——

 

 

(นายทำได้ดีจริงๆ)

 

 

ทางด้านกู้ซีฉือก็กำลังตบมือเจียงตงเยี่ยเพื่อไม่ให้เขาสร้างปัญหา โทรศัพท์ที่วางอยู่อีกด้านสว่างขึ้น หน้าจอเป็นชื่อเฉิงเจวี้ยน

 

 

กู้ซีฉือตกใจเล็กน้อย เขาหยิบมันมา หลังจากหน้าจอโทรศัพท์ปลดล็อกอัตโนมัติ ข้อความเฉิงเจวี้ยนก็เด้งขึ้น

 

 

กู้ซีฉือถึงกับเย็นสันหลังวาบโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

 

เขากดโทรศัพท์ตอบกลับเฉิงเจวี้ยน——

 

 

(เรียนรู้มาจากรุ่นพี่ ยังไม่เก่งเท่าหนึ่งหรือสองในสิบของรุ่นพี่เลย)

 

 

คำพูดนี้กู้ซีฉือไม่ได้โกหก เขานึกถึงตอนนั้น ตอนที่เฉิงเจวี้ยนนำหนังสือทางการแพทย์ไปขวางทุกคนไว้ ซึ่งเป็นคนขององค์กรการแพทย์ทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาวัยรุ่น แพทย์พวกนั้นหรือแม้กระทั่งอาจารย์ต่างก็วุ่นวายเพราะเฉิงเจวี้ยน

 

 

เขาคือมนุษย์กลดีๆ นี่เอง

 

 

ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งหรือสองในสิบ กู้ซีฉือคิดว่าเขาได้เรียนรู้แก่นแท้เพียงสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะถึงอย่างไรโดยหลักแล้วเขาก็พึ่งใบบุญบอสใหญ่ไดม่อนคนนั้นถึงได้ทั้งขู่ทั้งแย่งมันมาได้

 

 

พวกแพทย์ในองค์กรการแพทย์เหล่านั้นต่างก็รู้ดีว่าเงินสนับสนุนส่วนใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เป็นของบอสใหญ่ไดม่อน พวกเขาจึงด่าแค่เพียงฉากหน้าแต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทำการขัดขวางใดๆ

 

 

และกู้ซีฉือเองก็ยังเหลือยาตัวอย่างไว้ให้พวกเขาอย่างละหนึ่งขวด

 

 

**

 

 

ตอนบ่าย

 

 

หลังจากฉินหร่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินไปห้องฝึกซ้อมชั้นหนึ่ง

 

 

ตอนที่เธอไปถึง เฉิงมู่กำลังต่อยเครื่องทดสอบพลังหมัดอยู่

 

 

ส่วนซือลี่หมิงก็กำลังนอนลงไปกับพื้นโดยมีแผลอยู่ตามร่างกาย สภาพดูอเนจอนาถยิ่งกว่าเดิม

 

 

สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

 

เขายังมีวันที่โดนเฉิงมู่ต่อยจนล้ม

 

 

และเป็นเวลาภายในไม่ถึงครึ่งเดือน

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นกับตาตัวเองว่าฉินหร่านซ้อมพิเศษให้เฉิงมู่อย่างไรในระยะเวลาที่ผ่านมา หรือได้เห็นว่าเฉิงมู่ฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงเพียงใด ซือลี่หมิงก็คงจะนึกสงสัยขึ้นมาจริงๆ ว่าเฉิงมู่กลายเป็นคนละคน

 

 

ฉินหร่านยื่นมือแตะริมฝีปากล่าง จากนั้นก็หยิบขวดยาในห่อพัสดุให้ซือลี่หมิงหนึ่งขวด เธอโยนไปที่มือเขาโดยไม่พลาดเป้า “สามเม็ด”

 

 

ซือลี่หมิงลุกขึ้นทันที จากนั้นก็ประคองขวดยาไว้ รู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว

 

 

ที่แท้แล้วเขาก็มีวันนี้

 

 

“คุณหนูฉิน” พอเฉิงมู่ต่อยเสร็จก็เอียงข้างเพื่อให้ฉินหร่านเห็นค่าพลังหมัดข้างหลังเขา

 

 

เขาต่อยไปสามครั้งโดยแบ่งสถิติได้ดังนี้——

 

 

 845

 

 

 859

 

 

 857

 

 

จากหกร้อยกว่าจนมาถึงแปดร้อยกว่า ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพียงแค่ระดับเดียว

 

 

นี่ไม่ได้เป็นผลมาจากการฝึกที่หนักหน่วงทุกวันเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากยาสร้างเนื้อเสริมกระดูกที่กู้ซีฉือส่งมาด้วยเช่นกัน

 

 

ไม่ใช่แค่ค่าพลังหมัดที่พัฒนาขึ้น หลังจากซือลี่หมิงเจอมากับตัวแล้วก็พบว่าทักษะการต่อสู้ของเฉิงมู่เป็นแนวเดียวกับฉินหร่าน ทั้งดุดันและแม่นยำ เป็นวิธีการต่อสู้แบบไม่คิดชีวิต

 

 

หลังจากกินยาเสร็จ ซือลี่หมิงก็รู้สึกว่ายาออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว ไม่ได้รู้สึกเจ็บหน้าอะไรขนาดนั้น แต่เขาก็ยังหน้าตาบิดเบี้ยวอยู่เหมือนเดิม ในใจยังนึกชื่นชมเฉิงมู่ที่โดนต่อยแบบนี้วันละเจ็ดถึงแปดครั้งต่อวัน อดทนเก่งจริงๆ

 

 

เมื่อฉินหร่านเห็นค่าพลังหมัดก็ยังไม่ค่อยพอใจ แต่ก็พยักหน้า “ตามฉันลงไปข้างล่าง”

 

 

เฉิงมู่ยังคิดว่าฉินหร่านจะสู้กับเขา

 

 

เมื่อได้ยินที่เธอพูด เขาก็อึ้งไปสักพัก “วันนี้ไม่ซ้อมพิเศษแล้วเหรอครับ?”

 

 

“อืม พวกเราจะไปหาที่ซ้อมข้างล่างกัน…” ฉินหร่านหรี่ตามองไปทางซือลี่หมิง “เจอร์รี่นั่นใช่ไหม?”

 

 

ซือลี่หมิง “…ครับ”

 

 

ซือลี่หมิงรู้สึกได้ว่าไม่ได้เจ็บปวดตามร่างกายแล้ว เขาสวมผ้าปิดปากและหมวกอย่างเงียบๆ พลางเดินตามฉินหร่านลงไปข้างล่าง

 

 

เขาอยากจะเห็นเจอร์รี่โดนต่อยจนมีสภาพอเนจอนาถถึงจะพอใจ

 

 

**

 

 

สนามฝึกชั้นล่าง

 

 

วันนี้ข้างนอกมีแดดส่อง ไม่มีลมแรง แต่อากาศเย็นอย่างบอกไม่ถูก 

 

 

ช่วงนี้เจอร์รี่ไม่ค่อยมาซ้อมที่สนามฝึกเลย เขายุ่งอยู่กับโค้ดของเสี่ยวเฮยอยู่ที่หน่วยข่าวกรอง เฉิงหั่วเองก็กินข้าวนอนหลับอยู่ที่นั่น

 

 

อย่างไรก็ตามในช่วงสองวันที่ผ่านมาก็ใกล้จะแกะโค้ดสำเร็จแล้ว เจอร์รี่ ถังชิง และคนอื่นๆ ต่างก็พากันมาที่สนามฝึก

 

 

“เจอร์รี่ นั่นเฉิงมู่นี่ เกือบจะครึ่งเดือนแล้วยังไม่มาซ้อมที่สนามฝึกเลย คงกลัวนายต่อยแหงๆ” หลายคนรวมถึงถังชิงต่างก็ส่งเสียงพลางหรี่ตา

 

 

เจอร์รี่หรี่ตามองอย่างดูถูกแล้วพูดไปตรงๆ “ครึ่งเดือนแล้วเหรอ? ซือลี่หมิงก็ไม่มาด้วยหนิ ไอ้ขี้ขลาดนั่นกับซือลี่หมิงก็เหมือนๆ กัน เอาแต่ล้อมหน้าล้อมหลังผู้หญิงทั้งวัน ช้าเร็วก็คงถูกคุณเฉิงสุ่ยจัดการ”

 

 

พอพูดจบก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีถังชิงอยู่ข้างๆ เจอร์รี่จึงรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที “ขอโทษด้วยครับคุณถัง ผมไม่ได้พูดถึงคุณ คุณต่างจากคนอื่นแน่นอน…”

 

 

ในช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมา ถังชิงมีบทบาทโดดเด่นในหน่วยข่าวกรอง ในแง่ของความสามารถเธอเป็นรองแค่เฉิงหั่วเท่านั้นและได้ยินมาว่าเธอยังมีคุณลุงที่มีฝีมือเก่งกาจอยู่อีกด้วย

 

 

คิ้วถังชิงที่ขมวดคลายออก

 

 

เธอยังไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

 

ไม่ไกลมากนัก กลุ่มของเฉิงมู่ค่อยๆ เดินมาทางนี้

 

 

คนในสนามฝึกจำฉินหร่านที่กำลังเดินเอื่อยเฉื่อยตามหลังเฉิงมู่ได้ พวกเขาจึงออกมาทักทายอย่างสุภาพ “คุณหนูฉิน”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+