เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา 37 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (1) / 38 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (2)

Now you are reading เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา Chapter 37 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (1) / 38 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 37 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (1)  

 

 

นัยน์ตาของหลิวลี่บ่งบอกถึงความตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เฟิงหรูชิงถึงพูดถึงพรรคเภสัชเทพ  

 

 

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ทูลองค์หญิง พรรคเภสัชเทพเป็นพรรคอันดับหนึ่งของทวีปชางเยว่ ได้ยินว่าในพรรคเภสัชเทพมียาวิเศษมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้น ผู้มีความสามารถมากมายจึงแย่งกันเข้าพรรคเภสัชเทพเพคะ”  

 

 

เฟิงหรูชิงขมวดคิ้วเบาๆ ฝูเฉินบอกว่าพรรคเภสัชเทพถูกทำลายพินาศไปนานแล้วมิใช่หรือ ดูท่าข้อมูลที่ฝูเฉินให้คงเชื่อไม่ได้ แถมนางยังใช้สูตรยาวิเศษของพรรคเภสัชเทพไปแล้ว พวกพรรคเภสัชเทพ…คงไม่ตามมาคิดบัญชีนางใช่หรือไม่  

 

 

ดูท่านางต้องไปคุยกับฝูเฉินให้รู้เรื่องแล้ว การเป็นพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูช่างอันตรายเหลือเกิน  

 

 

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฟิงหรูชิง หลิวลี่รู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว นางรู้สึกว่าองค์หญิงคงมีความคิดประหลาดๆ อะไรอีกแล้ว  

 

 

“หลิวลี่ ช่วงนี้จวนแม่ทัพ…เป็นอย่างไรบ้าง”  

 

 

องค์หญิงคนเดิมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องของจวนแม่ทัพ ดังนั้น อาศัยความทรงจำขององค์หญิงองค์ก่อน เฟิงหรูชิงไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับจวนแม่ทัพเลย”  

 

 

หลิวลี่อึ้งไป นางก้มหน้าก้มตา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเปิดปากพูดว่า “แต่ก่อนองค์หญิงสนใจแต่เรื่องคุณชายหลิ่ว ต่อมาก็บาดเจ็บล้มหมอนนอนเสื่อ อีกทั้งฝ่าบาทเกรงว่าองค์หญิง…จะไปหัวเราะเยาะจวนแม่ทัพ จึงไม่ได้บอกเรื่องหนึ่งให้องค์หญิงทราบเพคะ”  

 

 

แต่ตอนนี้องค์หญิงเปลี่ยนไปแล้ว ไม่เย็นชาไร้เยื่อใยเหมือนแต่ก่อน ดังนั้น แม้นางจะบอกเรื่องนี้กับองค์หญิง องค์หญิงคงไม่ไปรังแกคนที่จวนแม่ทัพเหมือนแต่ก่อน  

 

 

“คุณชายแห่งจวนแม่ทัพ….ญาติผู้พี่ขององค์หญิง น่าหลานจิ้งได้หมั่นหมายกับองค์หญิงจื่อเยียนแห่งแคว้นหลงอ้าวไว้ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาโดนฝ่ายหญิงถอนหมั่นเพคะ”  

 

 

เฟิงหรูชิงใจสั่น นางกำมือแน่น  

 

 

สมัยนั้น เมื่อครั้งเสด็จแม่ยังทรงพระชนม์ชีพ แคว้นหลงอ้าวซึ่งแพ้สงครามหวังผูกมิตรกับแคว้นหลิวอวิ๋นจึงส่งองค์หญิงมาเพื่อแต่งงานผูกสัมพันธ์สองแคว้น แต่เสด็จพ่อไม่มีโอรสที่พร้อมแต่งงาน ดังนั้นแคว้นหลงอ้าวเลยเลือกหลานชายของเสด็จแม่เป็นคู่หมั้นกับองค์หญิงจื่อเยียนที่เพิ่งประสูติ  

 

 

เดิมตั้งใจว่าเมื่อทั้งสองคนอายุครบสิบแปดจะให้แต่งงาน ตอนนี้เหลืออีกแค่หนึ่งปี ญาติผู้พี่กลับถูกถอนหมั้น  

 

 

“องค์หญิง แคว้นหลิวอวิ๋นไม่มีฮองเฮา สุขภาพของท่านแม่ทัพเฒ่าแย่ลงทุกวัน ถ้าไม่เป็นเพราะคนพวกนั้นเกรงกลัวความสามารถของฝ่าบาท เกรงว่า…คงยกทัพมาประชิดประตูเมืองแล้วเพคะ”  

 

 

แววตาของนางเป็นประกาย พูดด้วยท่าทีจริงจัง  

 

 

“หลิวลี่ ข้าจะไปดูจวนแม่ทัพสักหน่อย แต่เรื่องที่ข้าออกไปข้างนอก อย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด” จู่ๆ แววตาของเฟิงหรูชิงก็ดูแน่วแน่กว่าปกติ  

 

 

นางรู้สึกเป็นห่วงจวนแม่ทัพมาก  

 

 

ต่อให้ไม่ได้เข้าไปในจวน นางได้เห็นจากด้านนอกก็พอใจแล้ว  

 

 

…  

 

 

ถนนทิศใต้เจริญและคึกคักด้วยผู้คนมาแต่ไหนแต่ไร ที่ไกลออกไป เฟิงหรูชิงมองเห็นกลุ่มเด็กอายุหกเจ็ดขวบยืนอยู่กลางถนน ขวางสายตาของนางอยู่  

 

 

เดิมนางไม่คิดสนใจ เดินเลี่ยงออกด้านข้างไป แต่สายตาดันมองเข้าไปเห็น จึงต้องหยุดแล้วจ้องดู  

 

 

ในวงล้อมของเด็กพวกนั้นคือเด็กหญิงอายุประมาณห้าขวบ ผมของเด็กหญิงปิดใบหน้าอยู่ ผมเปียก ดวงตาอันกลมโตใสมองดูผู้คนที่ยืนมุงอยู่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว  

 

 

เด็กหญิงผิวขาว เป็นความขาวแบบซีดๆ ใบหน้าครึ่งหนึ่งของนางมีรอยแผลเป็นพาดขวาง ทำให้ผิวพรรณอันเนียนนุ่มหมดความงามไป  

 

 

สภาพของนางเหมือนถูกโลกนี้ทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว นางกอดเข่าแน่น กายเล็กๆ สั่นเทา ดูน่าสงสารและอับจนหนทาง  

 

 

“น่าหลานไต้เอ๋อร์ พ่อแม่เจ้ารู้ว่าเจ้าหน้าตาอัปลักษณ์ เลยไม่กล้าให้เจ้าออกมาข้างนอก กลัวเจ้าจะทำให้คนตกใจกลัว คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังกล้าแอบหนีออกมา เจ้าทำพวกเราตกใจหมด เจ้าจะชดใช้อย่างไร”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 38 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (2)  

 

 

เมื่อเห็นคนพวกนั้นก้าวเข้ามาหา น่าหลานไต้เอ๋อร์ผวาจนต้องถอยไปข้างหลัง นางกัดริมฝีปากแน่น นัยน์ตายิ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  

 

 

“ข้าลืมไป เจ้าไม่ใช่แค่พวกขี้โรค แถมยังปัญญาอ่อน พูดก็พูดไม่คล่อง ข้าไม่หวังให้เจ้าตอบคำถามข้าหรอกนะ”  

 

 

เด็กชายแต่งกายชุดประณีต ผิวขาวผุดผ่อง ดูก็รู้ว่าเป็นคุณชายของตระกูลใหญ่ที่ถูกเลี้ยงแบบเอาอกเอาใจ สีหน้าของเขาดูจองหอง มองดูเด็กหญิงที่นั่งกองอยู่บนพื้นจากหัวจรดเท้าด้วยท่าทีเหยียดหยาม  

 

 

คนที่อยู่ข้างๆ ดึงแขนเสื้อของเด็กชายและพูดเบาๆ ว่า “พวกเราอย่าทำเกินไปกับนางเลย? ถึงอย่างไรนางก็เป็นคุณหนูของจวนแม่ทัพ เดี๋ยวท่านแม่ทัพจะมาเอาเรื่องพวกเรา”  

 

 

“จะกลัวทำไม คุณหนูของจวนแม่ทัพแล้วอย่างไร ป้าของนางตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนป้าของข้าคือหรงกุ้ยเฟย! คือฮองเฮาในอนาคต! ใครจะกล้าสู้กับตระกูลหลิวของข้า”  

 

 

หลิวอวี่ท่าทางโอหัง อย่าว่าแต่จวนแม่ทัพกระจอกๆ เลย ต่อไปใต้หล้านี้เป็นของตระกูลหลิวของเขาทั้งหมด!  

 

 

“อีกอย่าง ปัญญาอ่อนจนฟ้องยังฟ้องไม่เป็น พวกเจ้าจะกลัวไปทำไม ลองอัดนางดูสักทียังไม่เห็นจะเป็นไรเลย? แม่ทัพจะมาเอาเรื่องพวกเราได้หรือ”  

 

 

หลิวอวี่ยกขาขึ้นแล้วถีบน่าหลานไต้เอ๋อร์ไปเต็มแรง  

 

 

น่าหลานไต้เอ๋อร์ตกใจทำอะไรไม่ถูกมาตั้งนานแล้ว แม้แต่หลบนางก็ทำไม่ได้ ได้แต่มองเท้าที่หลิวอวี่ถีบเข้ามาใส่  

 

 

จู่ๆ ขาที่ใหญ่ดุจเขาไท่ซานก็ยืนมาจากด้านข้าง ถีบเข้าบนยอดอกของหลิวอวี่จังๆ  

 

 

หลิวอวี่ยังไม่ทันถีบโดนน่าหลานไต้เอ๋อร์ ก็กลับถูกถีบกระเด็นไปเสียแล้ว  

 

 

เขาตกไปกองที่พื้นอย่างสะบักสะบอม หัวกระแทกพื้น เจ็บเสียจนน้ำตาไหลเป็นสาย เขายกมือขึ้นปาดน้ำตา ยืนขึ้นด้วยความโมโห “ใครถีบข้า! ข้าจะให้ท่านป้าข้าประหารเจ้าซะ”  

 

 

สีหน้าอันโกรธแค้นแต่เดิม เมื่อมองไปเห็นกายอันอวบอ้วนที่ยืนกลางสายลม ความโกรธทั้งหลายจึงชะงักงันอยู่บนหน้า  

 

 

“เฟิงหรูชิง เป็นท่านเองหรือ”  

 

 

เพี้ยะ!  

 

 

เฟิงหรูชิงเดินเข้าไปตบลงบนหน้าของหลิวอวี่เต็มแรง  

 

 

“ผู้ใหญ่ที่บ้านไม่สั่งสอนเจ้าให้รู้จักที่ต่ำที่สูงหรืออย่างไร ข้าเป็นถึงองค์หญิงของแคว้นหลิวอวิ๋น ใครอนุญาตให้เจ้าเรียกชื่อข้าตรงๆ”  

 

 

หลิวอวี่อึ้ง ราวกับเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก จ้องดูเฟิงหรูชิงทำอะไรไม่ถูก  

 

 

สมัยก่อนตอนที่เขาพบเฟิงหรูชิง ไม่เคยลืมฐานะของนาง รู้จักมีสัมมาคารวะมาตลอด แต่ครั้งนี้เขาตกใจเกินไป จึงเรียกชื่อของนางไปตรงๆ  

 

 

แต่ว่า…ต่อให้เป็นแบบนี้ นางก็ไม่ควรตบตีเขา เพราะเขาเป็นถึงหลานชายของหรงกุ้ยเฟย!  

 

 

“ท่านพี่ทำร้ายข้า ข้าจะไปบอกท่านป้า ฮือๆ…” หลิวอวี่ร้องไห้โฮ “ข้าจะให้ท่านป้าสั่งสอนท่านพี่”  

 

 

แต่ไรมาเฟิงหรูชิงเชื่อฟังป้าของเขา ป้ารักหลานชายคนนี้ที่สุด ถึงตอนนั้น เขาจะให้ป้าสั่งสอนหญิงอ้วนคนนี้ให้หนักๆ ให้ได้  

 

 

“ยังจะร้องอีกหรือ!” เฟิงหรูชิงยิ้มแสยะ แล้วดึงเสื้อของหลิวอวี่ขึ้น ใช้มือตีไปที่ก้นของเขา  

 

 

สำหรับหลิวอวี่แล้ว นางไม่ออมมือเหมือนอย่างที่ทำกับฝูเฉิน นางฟาดไปสุดแรงเกิด หลิวอวี่เจ็บจนร้องไห้เสียงดัง  

 

 

พวกเพื่อนๆ ของเขากล้ารังแกน่าหลานไต้เอ๋อร์ แต่ไม่มีใครกล้าแตะต้องอันธพาลชื่อเฟิงหรูชิงคนนี้ ต่างถอยไปด้านหลัง สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  

 

 

“เจ้าเก่งนักก็ให้หรงกุ้ยเฟยมาสั่งสอนข้า ข้ากำลังอยากคุยกับนางเรื่องป้ายเลือดเหล็กอยู่พอดี”  

 

 

เพี้ยะ!  

 

 

เจอฝ่ามือหวดเข้าไปอีกที  

 

 

หลิวอวี่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ก้น จนรู้สึกเหมือนก้นจะแตก เขาดิ้นเต็มแรง ร้องไห้โฮเสียงดัง “ข้าจะฟ้องท่านป้า ให้นางโบยท่าน ฮือๆ เจ้ากล้าตีข้า ท่านตายแน่!”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา 37 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (1) / 38 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (2)

Now you are reading เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา Chapter 37 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (1) / 38 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 37 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (1)  

 

 

นัยน์ตาของหลิวลี่บ่งบอกถึงความตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เฟิงหรูชิงถึงพูดถึงพรรคเภสัชเทพ  

 

 

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ทูลองค์หญิง พรรคเภสัชเทพเป็นพรรคอันดับหนึ่งของทวีปชางเยว่ ได้ยินว่าในพรรคเภสัชเทพมียาวิเศษมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้น ผู้มีความสามารถมากมายจึงแย่งกันเข้าพรรคเภสัชเทพเพคะ”  

 

 

เฟิงหรูชิงขมวดคิ้วเบาๆ ฝูเฉินบอกว่าพรรคเภสัชเทพถูกทำลายพินาศไปนานแล้วมิใช่หรือ ดูท่าข้อมูลที่ฝูเฉินให้คงเชื่อไม่ได้ แถมนางยังใช้สูตรยาวิเศษของพรรคเภสัชเทพไปแล้ว พวกพรรคเภสัชเทพ…คงไม่ตามมาคิดบัญชีนางใช่หรือไม่  

 

 

ดูท่านางต้องไปคุยกับฝูเฉินให้รู้เรื่องแล้ว การเป็นพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูช่างอันตรายเหลือเกิน  

 

 

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฟิงหรูชิง หลิวลี่รู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว นางรู้สึกว่าองค์หญิงคงมีความคิดประหลาดๆ อะไรอีกแล้ว  

 

 

“หลิวลี่ ช่วงนี้จวนแม่ทัพ…เป็นอย่างไรบ้าง”  

 

 

องค์หญิงคนเดิมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องของจวนแม่ทัพ ดังนั้น อาศัยความทรงจำขององค์หญิงองค์ก่อน เฟิงหรูชิงไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับจวนแม่ทัพเลย”  

 

 

หลิวลี่อึ้งไป นางก้มหน้าก้มตา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเปิดปากพูดว่า “แต่ก่อนองค์หญิงสนใจแต่เรื่องคุณชายหลิ่ว ต่อมาก็บาดเจ็บล้มหมอนนอนเสื่อ อีกทั้งฝ่าบาทเกรงว่าองค์หญิง…จะไปหัวเราะเยาะจวนแม่ทัพ จึงไม่ได้บอกเรื่องหนึ่งให้องค์หญิงทราบเพคะ”  

 

 

แต่ตอนนี้องค์หญิงเปลี่ยนไปแล้ว ไม่เย็นชาไร้เยื่อใยเหมือนแต่ก่อน ดังนั้น แม้นางจะบอกเรื่องนี้กับองค์หญิง องค์หญิงคงไม่ไปรังแกคนที่จวนแม่ทัพเหมือนแต่ก่อน  

 

 

“คุณชายแห่งจวนแม่ทัพ….ญาติผู้พี่ขององค์หญิง น่าหลานจิ้งได้หมั่นหมายกับองค์หญิงจื่อเยียนแห่งแคว้นหลงอ้าวไว้ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาโดนฝ่ายหญิงถอนหมั่นเพคะ”  

 

 

เฟิงหรูชิงใจสั่น นางกำมือแน่น  

 

 

สมัยนั้น เมื่อครั้งเสด็จแม่ยังทรงพระชนม์ชีพ แคว้นหลงอ้าวซึ่งแพ้สงครามหวังผูกมิตรกับแคว้นหลิวอวิ๋นจึงส่งองค์หญิงมาเพื่อแต่งงานผูกสัมพันธ์สองแคว้น แต่เสด็จพ่อไม่มีโอรสที่พร้อมแต่งงาน ดังนั้นแคว้นหลงอ้าวเลยเลือกหลานชายของเสด็จแม่เป็นคู่หมั้นกับองค์หญิงจื่อเยียนที่เพิ่งประสูติ  

 

 

เดิมตั้งใจว่าเมื่อทั้งสองคนอายุครบสิบแปดจะให้แต่งงาน ตอนนี้เหลืออีกแค่หนึ่งปี ญาติผู้พี่กลับถูกถอนหมั้น  

 

 

“องค์หญิง แคว้นหลิวอวิ๋นไม่มีฮองเฮา สุขภาพของท่านแม่ทัพเฒ่าแย่ลงทุกวัน ถ้าไม่เป็นเพราะคนพวกนั้นเกรงกลัวความสามารถของฝ่าบาท เกรงว่า…คงยกทัพมาประชิดประตูเมืองแล้วเพคะ”  

 

 

แววตาของนางเป็นประกาย พูดด้วยท่าทีจริงจัง  

 

 

“หลิวลี่ ข้าจะไปดูจวนแม่ทัพสักหน่อย แต่เรื่องที่ข้าออกไปข้างนอก อย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด” จู่ๆ แววตาของเฟิงหรูชิงก็ดูแน่วแน่กว่าปกติ  

 

 

นางรู้สึกเป็นห่วงจวนแม่ทัพมาก  

 

 

ต่อให้ไม่ได้เข้าไปในจวน นางได้เห็นจากด้านนอกก็พอใจแล้ว  

 

 

…  

 

 

ถนนทิศใต้เจริญและคึกคักด้วยผู้คนมาแต่ไหนแต่ไร ที่ไกลออกไป เฟิงหรูชิงมองเห็นกลุ่มเด็กอายุหกเจ็ดขวบยืนอยู่กลางถนน ขวางสายตาของนางอยู่  

 

 

เดิมนางไม่คิดสนใจ เดินเลี่ยงออกด้านข้างไป แต่สายตาดันมองเข้าไปเห็น จึงต้องหยุดแล้วจ้องดู  

 

 

ในวงล้อมของเด็กพวกนั้นคือเด็กหญิงอายุประมาณห้าขวบ ผมของเด็กหญิงปิดใบหน้าอยู่ ผมเปียก ดวงตาอันกลมโตใสมองดูผู้คนที่ยืนมุงอยู่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว  

 

 

เด็กหญิงผิวขาว เป็นความขาวแบบซีดๆ ใบหน้าครึ่งหนึ่งของนางมีรอยแผลเป็นพาดขวาง ทำให้ผิวพรรณอันเนียนนุ่มหมดความงามไป  

 

 

สภาพของนางเหมือนถูกโลกนี้ทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว นางกอดเข่าแน่น กายเล็กๆ สั่นเทา ดูน่าสงสารและอับจนหนทาง  

 

 

“น่าหลานไต้เอ๋อร์ พ่อแม่เจ้ารู้ว่าเจ้าหน้าตาอัปลักษณ์ เลยไม่กล้าให้เจ้าออกมาข้างนอก กลัวเจ้าจะทำให้คนตกใจกลัว คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังกล้าแอบหนีออกมา เจ้าทำพวกเราตกใจหมด เจ้าจะชดใช้อย่างไร”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 38 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (2)  

 

 

เมื่อเห็นคนพวกนั้นก้าวเข้ามาหา น่าหลานไต้เอ๋อร์ผวาจนต้องถอยไปข้างหลัง นางกัดริมฝีปากแน่น นัยน์ตายิ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  

 

 

“ข้าลืมไป เจ้าไม่ใช่แค่พวกขี้โรค แถมยังปัญญาอ่อน พูดก็พูดไม่คล่อง ข้าไม่หวังให้เจ้าตอบคำถามข้าหรอกนะ”  

 

 

เด็กชายแต่งกายชุดประณีต ผิวขาวผุดผ่อง ดูก็รู้ว่าเป็นคุณชายของตระกูลใหญ่ที่ถูกเลี้ยงแบบเอาอกเอาใจ สีหน้าของเขาดูจองหอง มองดูเด็กหญิงที่นั่งกองอยู่บนพื้นจากหัวจรดเท้าด้วยท่าทีเหยียดหยาม  

 

 

คนที่อยู่ข้างๆ ดึงแขนเสื้อของเด็กชายและพูดเบาๆ ว่า “พวกเราอย่าทำเกินไปกับนางเลย? ถึงอย่างไรนางก็เป็นคุณหนูของจวนแม่ทัพ เดี๋ยวท่านแม่ทัพจะมาเอาเรื่องพวกเรา”  

 

 

“จะกลัวทำไม คุณหนูของจวนแม่ทัพแล้วอย่างไร ป้าของนางตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนป้าของข้าคือหรงกุ้ยเฟย! คือฮองเฮาในอนาคต! ใครจะกล้าสู้กับตระกูลหลิวของข้า”  

 

 

หลิวอวี่ท่าทางโอหัง อย่าว่าแต่จวนแม่ทัพกระจอกๆ เลย ต่อไปใต้หล้านี้เป็นของตระกูลหลิวของเขาทั้งหมด!  

 

 

“อีกอย่าง ปัญญาอ่อนจนฟ้องยังฟ้องไม่เป็น พวกเจ้าจะกลัวไปทำไม ลองอัดนางดูสักทียังไม่เห็นจะเป็นไรเลย? แม่ทัพจะมาเอาเรื่องพวกเราได้หรือ”  

 

 

หลิวอวี่ยกขาขึ้นแล้วถีบน่าหลานไต้เอ๋อร์ไปเต็มแรง  

 

 

น่าหลานไต้เอ๋อร์ตกใจทำอะไรไม่ถูกมาตั้งนานแล้ว แม้แต่หลบนางก็ทำไม่ได้ ได้แต่มองเท้าที่หลิวอวี่ถีบเข้ามาใส่  

 

 

จู่ๆ ขาที่ใหญ่ดุจเขาไท่ซานก็ยืนมาจากด้านข้าง ถีบเข้าบนยอดอกของหลิวอวี่จังๆ  

 

 

หลิวอวี่ยังไม่ทันถีบโดนน่าหลานไต้เอ๋อร์ ก็กลับถูกถีบกระเด็นไปเสียแล้ว  

 

 

เขาตกไปกองที่พื้นอย่างสะบักสะบอม หัวกระแทกพื้น เจ็บเสียจนน้ำตาไหลเป็นสาย เขายกมือขึ้นปาดน้ำตา ยืนขึ้นด้วยความโมโห “ใครถีบข้า! ข้าจะให้ท่านป้าข้าประหารเจ้าซะ”  

 

 

สีหน้าอันโกรธแค้นแต่เดิม เมื่อมองไปเห็นกายอันอวบอ้วนที่ยืนกลางสายลม ความโกรธทั้งหลายจึงชะงักงันอยู่บนหน้า  

 

 

“เฟิงหรูชิง เป็นท่านเองหรือ”  

 

 

เพี้ยะ!  

 

 

เฟิงหรูชิงเดินเข้าไปตบลงบนหน้าของหลิวอวี่เต็มแรง  

 

 

“ผู้ใหญ่ที่บ้านไม่สั่งสอนเจ้าให้รู้จักที่ต่ำที่สูงหรืออย่างไร ข้าเป็นถึงองค์หญิงของแคว้นหลิวอวิ๋น ใครอนุญาตให้เจ้าเรียกชื่อข้าตรงๆ”  

 

 

หลิวอวี่อึ้ง ราวกับเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก จ้องดูเฟิงหรูชิงทำอะไรไม่ถูก  

 

 

สมัยก่อนตอนที่เขาพบเฟิงหรูชิง ไม่เคยลืมฐานะของนาง รู้จักมีสัมมาคารวะมาตลอด แต่ครั้งนี้เขาตกใจเกินไป จึงเรียกชื่อของนางไปตรงๆ  

 

 

แต่ว่า…ต่อให้เป็นแบบนี้ นางก็ไม่ควรตบตีเขา เพราะเขาเป็นถึงหลานชายของหรงกุ้ยเฟย!  

 

 

“ท่านพี่ทำร้ายข้า ข้าจะไปบอกท่านป้า ฮือๆ…” หลิวอวี่ร้องไห้โฮ “ข้าจะให้ท่านป้าสั่งสอนท่านพี่”  

 

 

แต่ไรมาเฟิงหรูชิงเชื่อฟังป้าของเขา ป้ารักหลานชายคนนี้ที่สุด ถึงตอนนั้น เขาจะให้ป้าสั่งสอนหญิงอ้วนคนนี้ให้หนักๆ ให้ได้  

 

 

“ยังจะร้องอีกหรือ!” เฟิงหรูชิงยิ้มแสยะ แล้วดึงเสื้อของหลิวอวี่ขึ้น ใช้มือตีไปที่ก้นของเขา  

 

 

สำหรับหลิวอวี่แล้ว นางไม่ออมมือเหมือนอย่างที่ทำกับฝูเฉิน นางฟาดไปสุดแรงเกิด หลิวอวี่เจ็บจนร้องไห้เสียงดัง  

 

 

พวกเพื่อนๆ ของเขากล้ารังแกน่าหลานไต้เอ๋อร์ แต่ไม่มีใครกล้าแตะต้องอันธพาลชื่อเฟิงหรูชิงคนนี้ ต่างถอยไปด้านหลัง สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  

 

 

“เจ้าเก่งนักก็ให้หรงกุ้ยเฟยมาสั่งสอนข้า ข้ากำลังอยากคุยกับนางเรื่องป้ายเลือดเหล็กอยู่พอดี”  

 

 

เพี้ยะ!  

 

 

เจอฝ่ามือหวดเข้าไปอีกที  

 

 

หลิวอวี่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ก้น จนรู้สึกเหมือนก้นจะแตก เขาดิ้นเต็มแรง ร้องไห้โฮเสียงดัง “ข้าจะฟ้องท่านป้า ให้นางโบยท่าน ฮือๆ เจ้ากล้าตีข้า ท่านตายแน่!”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+