แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน / บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ

Now you are reading แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี Chapter 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน / บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน พอได้ยินคำพูดของเด็กน้อย เยี่ยหวันหวั่นซาบซึ้งใจ แต่อีกใจหนึ่งก็ซับซ้อนจริงๆ ยังไงเสีย เธอก็ไม่ใช่แม่ของเด็กคนนี้ เยี่ยหวันหวั่นกดความผิดหวังในหัวใจ รีบกลับมามีชีวิตชีวา สวมชุดตุ๊กตามาสคอตใหม่อีกครั้ง แล้วจูงมือเด็กน้อย “ถังถัง ไป! พวกเราไปหาคุณพ่อกัน ให้เขาถ่ายรูปให้พวกเรา!” “ครับ!” เด็กน้อยจูงอุ้งมือหมีของเยี่ยหวันหวั่นอย่างดีใจ มาสคอตหมีกับมาสคอตนมน้อยวิ่งตึกๆ ถึงตรงหน้าซือเยี่ยหานอย่างรวดเร็ว เยี่ยหวันหวั่นล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อชุดหมี “คุณเก้าๆ! ถ่ายรูปฉันกับถังถังเร็ว!” เธอชอบถ่ายรูปด้วยกันกับถังถังมาก ด้านหนึ่งคือต้องส่งให้เนี่ยอู๋หมิง แต่ที่มากกว่านั้นคือตัวเธออยากเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้มากๆ … ซือเยี่ยหานมีสีหน้าอ่อนโยน รีบมือถือของเยี่ยหวันหวั่นมา “ได้” ตอนนี้ทักษะถ่ายรูปของซือเยี่ยหานดีขึ้นมาก เขาถ่ายภาพหลายใบอย่างว่องไว ทุกใบสวยงามราวกับนิตยสารดังไม่ปาน อีกทั้งการจัดวางภาพยังเป็นแบบสัดส่วนทองคำ หลังถ่ายเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็รับมือถือมา มองภาพถ่ายอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็เดินไปตรงหน้าหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจืออีก แล้วก็เลือกเซี่ยเจ๋อจือ “ราชาจอเงิน รบกวนคุณถ่ายภาพรวมให้พวกเราได้ไหม” เซี่ยเจ๋อจือรับมือถือมาตอบรับอย่างยินดี “แน่นอน เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” หลินเชวียที่อยู่ด้านข้างมีเมฆเห็ดเหนือหัว ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายโศกเศร้า… นี่เขามาพักผ่อนวันหยุด หรือมาโดนทรมานกันแน่ วันนี้เยี่ยหวันหวั่นครอบครัวสามคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจือทั้งสองจมอยู่ในกองภาพถ่ายกับกินอาหารหมาโสด สุดท้ายแม้แต่เซี่ยเจ๋อจือก็รับมือไม่ไหวบ้างแล้ว สองคนแสดงท่าทีจากนี้ไปจะไม่สงสัยใคร่รู้อีกแล้ว อ้อมหนีพวกเขาไปดีกว่า… ตอนเย็นหลังกลับถึงบ้าน เยี่ยหวันหวั่นจัดการภาคหนึ่งรอบ จากนั้นก็ส่งไปให้เนี่ยอู๋หมิง [เนี่ยจอมกาก: แง น่ารัก! ราชินีบ้านฉันต้องชอบแน่!] แถมจอมมารน้อยยังสนุกจนลืมบ้านขนาดนี้! ดีมากจริงๆ! เยี่ยหวันหวั่นลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ส่งข้อความประโยคหนึ่งไปหาเนี่ยอู๋หมิง [มีข่าวคราวของพ่อแม่ถังถังไหม] เยี่ยหวันหวั่นถามหยั่งเชิง เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับทันที [น้องเยี่ยโหย่วหมิง ไม่ต้องห่วงวางใจได้เต็มที่ จะไม่รบกวนน้องเยี่ยนานเกินไปแน่นอน ทางฉันเริ่มมีเค้าโครงแล้ว เชื่อว่าไม่นานเดี๋ยวก็ได้ข่าวคราว!] เยี่ยหวันหวั่นมองข้อความที่เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับมา รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขอยู่บ้าง เธอไม่วางใจเลยสักนิดเดียวตกลงไหม! หาเจอเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ [เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ช่วงนี้ต้องขอบคุณน้องเยี่ยมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเยี่ยช่วยดูแลจอมมารน้อย เกรงว่าตอนนี้เขาก็คงวิ่งมั่วเองไปทั่วโลกแล้ว ถ้าจอมมารน้อยเป็นอะไรไป ถึงตอนนั้นพ่อแม่ฉันได้เชือดฉันจริงๆ แน่!] เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่มีกะจิตกะใจ [ไม่ต้องขอบคุณ ฉันชอบถังถังมาก] [เนี่ยจอมกาก: ไม่เข้าใจน้องเยี่ยโหย่วหมิงจริงๆ ทำไมถึงชอบจอมมารน้อยตัวนั้นได้] เห็นเนี่ยอู๋หมิงเอาแต่เรียกถังถังว่าจอมมารน้อย เยี่ยหวันหวั่นก็โกรธจนกัดฟันกรอด [คุณเรียกลูกชายฉันว่าจอมมารน้อยอีก เชื่อไหมว่าฉันจะพาเขาไปตัดผมตอนเดือนแรกของปี] เนี่ยอู๋หมิงตอบอย่างงุนงง [หา ทำไมต้องไปตัดผมเดือนแรกของปีล่ะ] เยี่ยหวันหวั่นพิมพ์อย่างดุเดือด [ตัดผมเดือนแรกของเดือนลุงตาย!] [เนี่ยจอมกาก: …] นี่ก็แรงไปแล้ว… ………………………………   บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ [เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ฉันผิดไปแล้วๆ โอเคไหม! เอาเป็นว่าไม่ต้องห่วง ฉันจะหาพ่อแม่ถังถังเจอให้เร็วที่สุด!] [เยี่ยหวันหวั่น: ไม่ต้องรีบขนาดนั้นจริงๆ นะ!] [เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิงไม่เชื่อฉันเหรอ สามเดือน ไม่สิ สองเดือน ไม่ๆๆ …ฉันจะหาคนให้เจอในเดือนเดียว!] เธอพูดตรงขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก! เยี่ยหวันหวั่นกอดหมอน พิงหัวเตียงอย่างโมโห ช่างมัน…ต่อให้เจอพ่อแม่แท้ๆ ของถังถังแล้ว ก็ใช่ว่าจากนี้จะไม่ได้เห็นถังถังอีก เธอยังเป็นแม่บุญธรรมได้นี่นา! ถึงจะปลอบตัวเองแบบนี้ แต่ พอนึกว่าถังถังจะเปลี่ยนไปเป็นลูกของคนอื่น เยี่ยหวันหวั่นก็ยังเจ็บปวดใจต่างๆ นานา เยี่ยหวันหวั่นกลิ้งบนเตียงหลายรอบจึงใจเย็นลงเล็กน้อย เธอหยิบมือถือขึ้นมาไถดูข่าวบันเทิงเพื่อเบี่ยงความสนใจของตัวเอง ตอนแรกก็แต่ดูเรื่อยเปื่อย แต่ มีข่าวหนึ่งที่กลับดึงดูดความสนใจเธอ การคัดเลือกนักแสดงเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับเผิงหย่วนหูผ่านมาครึ่งปี จนตอนนี้ก็ยังหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมไม่เจอ ผู้กำกับเผิงกล่าวว่า จะหาคนหน้าใหม่ที่มีศักยภาพจากมหาวิทยาลัยการละครต่างๆ … “เอ…เผิงหย่วนหู…มะลิ…” เยี่ยหวันหวั่นนึกย้อนชั่วครู่ เธอค่อนข้างประทับใจละครเรื่องนี้ เผิงหย่วนหูไม่ต้องพูดมากมายแล้ว วงการบันเทิงไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผู้อาวุโสเผิงเป็นดาวเด่นของวงการหนัง หนังของเขาดีทุกเรื่อง รับรางวัลจากทั้งในและนอกประเทศจนมือเปลี้ย เป็นประจักษ์พยานทุกช่วงประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศจีน เพียงแต่ว่า…หนังเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ของเผิงหย่วนหูนี้กลับเต็มไปด้วยโชคร้าย เผิงหย่วนหูเป็นเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบจริงจัง ข้อเรียกร้องในคุณภาพผลงานสูงเสียดฟ้า จึงไม่ยอมผ่อนปรนใดๆ ชาติก่อน เผิงหย่วนหูหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมสองปีเต็มก็ยังหาไม่เจอ ละครเรื่องนี้จึงถูกวางทิ้งไว้ตลอด จนกระทั่งเผิงหย่วนหูถึงวาระสุดท้าย ชาติก่อนเยี่ยหวันหวั่นในหน้าข่าวบันเทิงหนึ่ง ตอนที่เผิงหย่วนหูป่วยนอนป่วยติดเตียง เขาเคยพูดว่าไม่อาจถ่ายทำเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ได้ เป็นความเสียใจใหญ่หลวงที่สุดของเขา ถ้าตอนนั้นดอกมะลิถ่ายทำได้สำเร็จละก็ รับรองว่าต้องเป็นผลงานคลาสสิกในตำนานอีกเรื่องหนึ่ง แต่น่าเสียดาย ไม่มีคำว่าถ้า… เยี่ยหวันหวั่นคิดถึงตรงนี้ ก็กำลังเตรียมจะปิดหน้าเพจ แต่นิ้วมือกลับพลันหยุดชะงัก ไม่ถูกสิ! ใครบอกว่าไม่มีคำว่าถ้ากัน! เยี่ยหวันหวั่นรีบอ่านเนื้อหาคร่าวๆ ที่เกี่ยวกับเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ในหน้าข่าวหนึ่งรอบ หนังเรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุค นางเอกเป็นนักเต้น หนังเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ยุคสมัยจีนผ่านการเล่าเรื่องของนางเอก ตั้งแต่วัยเยาว์ก้าวล่วงถึงสงครามนองเลือดแล้วมาถึงยุคแห่งความสงบ เยี่ยหวันหวั่นคาดคะเนเล็กน้อย ก็รู้ว่าผู้กำกับเผิงต้องการนางเอกแบบไหน อันดับแรกหน้าตาของนางเอกต้องใสซื่อบริสุทธิ์แน่นอน ดีที่สุดคือมีกลิ่นอายโบราณ ห้ามเป็นใบหน้าศัลยกรรมที่เกลื่อนตามท้องถนน แต่ก็ห้ามสวยจนเกินไปนัก อย่างเยี่ยหวันหวั่นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะกับบท อีกอย่าง นางเอกต้องมีพื้นฐานการเต้นที่แข็งแรง สุดท้ายย่อมต้องเป็นทักษะการแสดง ยังไงเสียละครเรื่องนี้ก็มีช่วงตั้งแต่ต้นจนจบกว้างมาก นางเอกจากวัยเยาว์พัฒนาสู่วัยชรา เชื่อมผ่านยุคสมัยหนึ่ง ทักษะการแสดงไม่ถึงขั้นไม่มีทางแสดงออกมาได้ หลังเยี่ยหวันหวั่นจัดแจงเงื่อนไขพวกนี้เสร็จ ในหัวก็พลันผุดตัวเลือกหนึ่ง… เจียงเยียนหราน… นึกถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ม้วนกลิ้งยันตัวขึ้นมา ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเยียนหรานเหมาะสมมาก เมื่อก่อนเธอไม่ได้เซ็นสัญญากับเจียงเยียนหราน ด้านหนึ่งก็เพราะอยากให้เธอเรียนพื้นฐานเสร็จก่อน อีกด้านหนึ่งคือทรัพยากรและความสามารถของบริษัทพวกเธอตอนนี้ ก็ยังมีความสามารถไม่พอจะรับตัวเธอชั่วคราว อย่างเช่น ‘เป็นหรือตาย’ หนังเรื่องนี้เน้นตัวเอกชาย บทของตัวเอกหญิงน้อยมาก ไม่เหมาะสมกับเธอ แต่ตอนนี้ ‘ดอกมะลิ’ ทำมาเพื่อเจียงเยียนหรานชัดๆ … …………………….

บทที่ 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน

พอได้ยินคำพูดของเด็กน้อย เยี่ยหวันหวั่นซาบซึ้งใจ แต่อีกใจหนึ่งก็ซับซ้อนจริงๆ

ยังไงเสีย เธอก็ไม่ใช่แม่ของเด็กคนนี้

เยี่ยหวันหวั่นกดความผิดหวังในหัวใจ รีบกลับมามีชีวิตชีวา สวมชุดตุ๊กตามาสคอตใหม่อีกครั้ง แล้วจูงมือเด็กน้อย “ถังถัง ไป! พวกเราไปหาคุณพ่อกัน ให้เขาถ่ายรูปให้พวกเรา!”

“ครับ!” เด็กน้อยจูงอุ้งมือหมีของเยี่ยหวันหวั่นอย่างดีใจ

มาสคอตหมีกับมาสคอตนมน้อยวิ่งตึกๆ ถึงตรงหน้าซือเยี่ยหานอย่างรวดเร็ว

เยี่ยหวันหวั่นล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อชุดหมี “คุณเก้าๆ! ถ่ายรูปฉันกับถังถังเร็ว!”

เธอชอบถ่ายรูปด้วยกันกับถังถังมาก ด้านหนึ่งคือต้องส่งให้เนี่ยอู๋หมิง แต่ที่มากกว่านั้นคือตัวเธออยากเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้มากๆ …

ซือเยี่ยหานมีสีหน้าอ่อนโยน รีบมือถือของเยี่ยหวันหวั่นมา “ได้”

ตอนนี้ทักษะถ่ายรูปของซือเยี่ยหานดีขึ้นมาก เขาถ่ายภาพหลายใบอย่างว่องไว ทุกใบสวยงามราวกับนิตยสารดังไม่ปาน อีกทั้งการจัดวางภาพยังเป็นแบบสัดส่วนทองคำ

หลังถ่ายเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็รับมือถือมา มองภาพถ่ายอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็เดินไปตรงหน้าหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจืออีก แล้วก็เลือกเซี่ยเจ๋อจือ “ราชาจอเงิน รบกวนคุณถ่ายภาพรวมให้พวกเราได้ไหม”

เซี่ยเจ๋อจือรับมือถือมาตอบรับอย่างยินดี “แน่นอน เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

หลินเชวียที่อยู่ด้านข้างมีเมฆเห็ดเหนือหัว ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายโศกเศร้า…

นี่เขามาพักผ่อนวันหยุด หรือมาโดนทรมานกันแน่

วันนี้เยี่ยหวันหวั่นครอบครัวสามคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจือทั้งสองจมอยู่ในกองภาพถ่ายกับกินอาหารหมาโสด

สุดท้ายแม้แต่เซี่ยเจ๋อจือก็รับมือไม่ไหวบ้างแล้ว สองคนแสดงท่าทีจากนี้ไปจะไม่สงสัยใคร่รู้อีกแล้ว อ้อมหนีพวกเขาไปดีกว่า…

ตอนเย็นหลังกลับถึงบ้าน

เยี่ยหวันหวั่นจัดการภาคหนึ่งรอบ จากนั้นก็ส่งไปให้เนี่ยอู๋หมิง

[เนี่ยจอมกาก: แง น่ารัก! ราชินีบ้านฉันต้องชอบแน่!]

แถมจอมมารน้อยยังสนุกจนลืมบ้านขนาดนี้! ดีมากจริงๆ!

เยี่ยหวันหวั่นลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ส่งข้อความประโยคหนึ่งไปหาเนี่ยอู๋หมิง

[มีข่าวคราวของพ่อแม่ถังถังไหม] เยี่ยหวันหวั่นถามหยั่งเชิง

เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับทันที [น้องเยี่ยโหย่วหมิง ไม่ต้องห่วงวางใจได้เต็มที่ จะไม่รบกวนน้องเยี่ยนานเกินไปแน่นอน ทางฉันเริ่มมีเค้าโครงแล้ว เชื่อว่าไม่นานเดี๋ยวก็ได้ข่าวคราว!]

เยี่ยหวันหวั่นมองข้อความที่เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับมา รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขอยู่บ้าง เธอไม่วางใจเลยสักนิดเดียวตกลงไหม! หาเจอเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ

[เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ช่วงนี้ต้องขอบคุณน้องเยี่ยมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเยี่ยช่วยดูแลจอมมารน้อย เกรงว่าตอนนี้เขาก็คงวิ่งมั่วเองไปทั่วโลกแล้ว ถ้าจอมมารน้อยเป็นอะไรไป ถึงตอนนั้นพ่อแม่ฉันได้เชือดฉันจริงๆ แน่!]

เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่มีกะจิตกะใจ [ไม่ต้องขอบคุณ ฉันชอบถังถังมาก]

[เนี่ยจอมกาก: ไม่เข้าใจน้องเยี่ยโหย่วหมิงจริงๆ ทำไมถึงชอบจอมมารน้อยตัวนั้นได้]

เห็นเนี่ยอู๋หมิงเอาแต่เรียกถังถังว่าจอมมารน้อย เยี่ยหวันหวั่นก็โกรธจนกัดฟันกรอด [คุณเรียกลูกชายฉันว่าจอมมารน้อยอีก เชื่อไหมว่าฉันจะพาเขาไปตัดผมตอนเดือนแรกของปี]

เนี่ยอู๋หมิงตอบอย่างงุนงง [หา ทำไมต้องไปตัดผมเดือนแรกของปีล่ะ]

เยี่ยหวันหวั่นพิมพ์อย่างดุเดือด [ตัดผมเดือนแรกของเดือนลุงตาย!]

[เนี่ยจอมกาก: …]

นี่ก็แรงไปแล้ว…

………………………………

 

บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ

[เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ฉันผิดไปแล้วๆ โอเคไหม! เอาเป็นว่าไม่ต้องห่วง ฉันจะหาพ่อแม่ถังถังเจอให้เร็วที่สุด!]

[เยี่ยหวันหวั่น: ไม่ต้องรีบขนาดนั้นจริงๆ นะ!]

[เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิงไม่เชื่อฉันเหรอ สามเดือน ไม่สิ สองเดือน ไม่ๆๆ …ฉันจะหาคนให้เจอในเดือนเดียว!]

เธอพูดตรงขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก!

เยี่ยหวันหวั่นกอดหมอน พิงหัวเตียงอย่างโมโห

ช่างมัน…ต่อให้เจอพ่อแม่แท้ๆ ของถังถังแล้ว ก็ใช่ว่าจากนี้จะไม่ได้เห็นถังถังอีก เธอยังเป็นแม่บุญธรรมได้นี่นา!

ถึงจะปลอบตัวเองแบบนี้ แต่ พอนึกว่าถังถังจะเปลี่ยนไปเป็นลูกของคนอื่น เยี่ยหวันหวั่นก็ยังเจ็บปวดใจต่างๆ นานา

เยี่ยหวันหวั่นกลิ้งบนเตียงหลายรอบจึงใจเย็นลงเล็กน้อย เธอหยิบมือถือขึ้นมาไถดูข่าวบันเทิงเพื่อเบี่ยงความสนใจของตัวเอง

ตอนแรกก็แต่ดูเรื่อยเปื่อย แต่ มีข่าวหนึ่งที่กลับดึงดูดความสนใจเธอ

การคัดเลือกนักแสดงเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับเผิงหย่วนหูผ่านมาครึ่งปี จนตอนนี้ก็ยังหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมไม่เจอ ผู้กำกับเผิงกล่าวว่า จะหาคนหน้าใหม่ที่มีศักยภาพจากมหาวิทยาลัยการละครต่างๆ …

“เอ…เผิงหย่วนหู…มะลิ…”

เยี่ยหวันหวั่นนึกย้อนชั่วครู่ เธอค่อนข้างประทับใจละครเรื่องนี้

เผิงหย่วนหูไม่ต้องพูดมากมายแล้ว วงการบันเทิงไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผู้อาวุโสเผิงเป็นดาวเด่นของวงการหนัง หนังของเขาดีทุกเรื่อง รับรางวัลจากทั้งในและนอกประเทศจนมือเปลี้ย เป็นประจักษ์พยานทุกช่วงประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศจีน

เพียงแต่ว่า…หนังเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ของเผิงหย่วนหูนี้กลับเต็มไปด้วยโชคร้าย

เผิงหย่วนหูเป็นเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบจริงจัง ข้อเรียกร้องในคุณภาพผลงานสูงเสียดฟ้า จึงไม่ยอมผ่อนปรนใดๆ

ชาติก่อน เผิงหย่วนหูหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมสองปีเต็มก็ยังหาไม่เจอ ละครเรื่องนี้จึงถูกวางทิ้งไว้ตลอด จนกระทั่งเผิงหย่วนหูถึงวาระสุดท้าย

ชาติก่อนเยี่ยหวันหวั่นในหน้าข่าวบันเทิงหนึ่ง ตอนที่เผิงหย่วนหูป่วยนอนป่วยติดเตียง เขาเคยพูดว่าไม่อาจถ่ายทำเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ได้ เป็นความเสียใจใหญ่หลวงที่สุดของเขา

ถ้าตอนนั้นดอกมะลิถ่ายทำได้สำเร็จละก็ รับรองว่าต้องเป็นผลงานคลาสสิกในตำนานอีกเรื่องหนึ่ง

แต่น่าเสียดาย ไม่มีคำว่าถ้า…

เยี่ยหวันหวั่นคิดถึงตรงนี้ ก็กำลังเตรียมจะปิดหน้าเพจ แต่นิ้วมือกลับพลันหยุดชะงัก

ไม่ถูกสิ!

ใครบอกว่าไม่มีคำว่าถ้ากัน!

เยี่ยหวันหวั่นรีบอ่านเนื้อหาคร่าวๆ ที่เกี่ยวกับเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ในหน้าข่าวหนึ่งรอบ

หนังเรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุค นางเอกเป็นนักเต้น หนังเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ยุคสมัยจีนผ่านการเล่าเรื่องของนางเอก ตั้งแต่วัยเยาว์ก้าวล่วงถึงสงครามนองเลือดแล้วมาถึงยุคแห่งความสงบ

เยี่ยหวันหวั่นคาดคะเนเล็กน้อย ก็รู้ว่าผู้กำกับเผิงต้องการนางเอกแบบไหน

อันดับแรกหน้าตาของนางเอกต้องใสซื่อบริสุทธิ์แน่นอน ดีที่สุดคือมีกลิ่นอายโบราณ ห้ามเป็นใบหน้าศัลยกรรมที่เกลื่อนตามท้องถนน

แต่ก็ห้ามสวยจนเกินไปนัก อย่างเยี่ยหวันหวั่นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะกับบท

อีกอย่าง นางเอกต้องมีพื้นฐานการเต้นที่แข็งแรง สุดท้ายย่อมต้องเป็นทักษะการแสดง ยังไงเสียละครเรื่องนี้ก็มีช่วงตั้งแต่ต้นจนจบกว้างมาก นางเอกจากวัยเยาว์พัฒนาสู่วัยชรา เชื่อมผ่านยุคสมัยหนึ่ง

ทักษะการแสดงไม่ถึงขั้นไม่มีทางแสดงออกมาได้

หลังเยี่ยหวันหวั่นจัดแจงเงื่อนไขพวกนี้เสร็จ ในหัวก็พลันผุดตัวเลือกหนึ่ง…

เจียงเยียนหราน…

นึกถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ม้วนกลิ้งยันตัวขึ้นมา ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเยียนหรานเหมาะสมมาก

เมื่อก่อนเธอไม่ได้เซ็นสัญญากับเจียงเยียนหราน ด้านหนึ่งก็เพราะอยากให้เธอเรียนพื้นฐานเสร็จก่อน อีกด้านหนึ่งคือทรัพยากรและความสามารถของบริษัทพวกเธอตอนนี้ ก็ยังมีความสามารถไม่พอจะรับตัวเธอชั่วคราว

อย่างเช่น ‘เป็นหรือตาย’ หนังเรื่องนี้เน้นตัวเอกชาย บทของตัวเอกหญิงน้อยมาก ไม่เหมาะสมกับเธอ

แต่ตอนนี้ ‘ดอกมะลิ’ ทำมาเพื่อเจียงเยียนหรานชัดๆ …

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน / บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ

Now you are reading แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี Chapter 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน / บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน พอได้ยินคำพูดของเด็กน้อย เยี่ยหวันหวั่นซาบซึ้งใจ แต่อีกใจหนึ่งก็ซับซ้อนจริงๆ ยังไงเสีย เธอก็ไม่ใช่แม่ของเด็กคนนี้ เยี่ยหวันหวั่นกดความผิดหวังในหัวใจ รีบกลับมามีชีวิตชีวา สวมชุดตุ๊กตามาสคอตใหม่อีกครั้ง แล้วจูงมือเด็กน้อย “ถังถัง ไป! พวกเราไปหาคุณพ่อกัน ให้เขาถ่ายรูปให้พวกเรา!” “ครับ!” เด็กน้อยจูงอุ้งมือหมีของเยี่ยหวันหวั่นอย่างดีใจ มาสคอตหมีกับมาสคอตนมน้อยวิ่งตึกๆ ถึงตรงหน้าซือเยี่ยหานอย่างรวดเร็ว เยี่ยหวันหวั่นล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อชุดหมี “คุณเก้าๆ! ถ่ายรูปฉันกับถังถังเร็ว!” เธอชอบถ่ายรูปด้วยกันกับถังถังมาก ด้านหนึ่งคือต้องส่งให้เนี่ยอู๋หมิง แต่ที่มากกว่านั้นคือตัวเธออยากเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้มากๆ … ซือเยี่ยหานมีสีหน้าอ่อนโยน รีบมือถือของเยี่ยหวันหวั่นมา “ได้” ตอนนี้ทักษะถ่ายรูปของซือเยี่ยหานดีขึ้นมาก เขาถ่ายภาพหลายใบอย่างว่องไว ทุกใบสวยงามราวกับนิตยสารดังไม่ปาน อีกทั้งการจัดวางภาพยังเป็นแบบสัดส่วนทองคำ หลังถ่ายเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็รับมือถือมา มองภาพถ่ายอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็เดินไปตรงหน้าหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจืออีก แล้วก็เลือกเซี่ยเจ๋อจือ “ราชาจอเงิน รบกวนคุณถ่ายภาพรวมให้พวกเราได้ไหม” เซี่ยเจ๋อจือรับมือถือมาตอบรับอย่างยินดี “แน่นอน เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” หลินเชวียที่อยู่ด้านข้างมีเมฆเห็ดเหนือหัว ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายโศกเศร้า… นี่เขามาพักผ่อนวันหยุด หรือมาโดนทรมานกันแน่ วันนี้เยี่ยหวันหวั่นครอบครัวสามคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจือทั้งสองจมอยู่ในกองภาพถ่ายกับกินอาหารหมาโสด สุดท้ายแม้แต่เซี่ยเจ๋อจือก็รับมือไม่ไหวบ้างแล้ว สองคนแสดงท่าทีจากนี้ไปจะไม่สงสัยใคร่รู้อีกแล้ว อ้อมหนีพวกเขาไปดีกว่า… ตอนเย็นหลังกลับถึงบ้าน เยี่ยหวันหวั่นจัดการภาคหนึ่งรอบ จากนั้นก็ส่งไปให้เนี่ยอู๋หมิง [เนี่ยจอมกาก: แง น่ารัก! ราชินีบ้านฉันต้องชอบแน่!] แถมจอมมารน้อยยังสนุกจนลืมบ้านขนาดนี้! ดีมากจริงๆ! เยี่ยหวันหวั่นลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ส่งข้อความประโยคหนึ่งไปหาเนี่ยอู๋หมิง [มีข่าวคราวของพ่อแม่ถังถังไหม] เยี่ยหวันหวั่นถามหยั่งเชิง เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับทันที [น้องเยี่ยโหย่วหมิง ไม่ต้องห่วงวางใจได้เต็มที่ จะไม่รบกวนน้องเยี่ยนานเกินไปแน่นอน ทางฉันเริ่มมีเค้าโครงแล้ว เชื่อว่าไม่นานเดี๋ยวก็ได้ข่าวคราว!] เยี่ยหวันหวั่นมองข้อความที่เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับมา รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขอยู่บ้าง เธอไม่วางใจเลยสักนิดเดียวตกลงไหม! หาเจอเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ [เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ช่วงนี้ต้องขอบคุณน้องเยี่ยมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเยี่ยช่วยดูแลจอมมารน้อย เกรงว่าตอนนี้เขาก็คงวิ่งมั่วเองไปทั่วโลกแล้ว ถ้าจอมมารน้อยเป็นอะไรไป ถึงตอนนั้นพ่อแม่ฉันได้เชือดฉันจริงๆ แน่!] เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่มีกะจิตกะใจ [ไม่ต้องขอบคุณ ฉันชอบถังถังมาก] [เนี่ยจอมกาก: ไม่เข้าใจน้องเยี่ยโหย่วหมิงจริงๆ ทำไมถึงชอบจอมมารน้อยตัวนั้นได้] เห็นเนี่ยอู๋หมิงเอาแต่เรียกถังถังว่าจอมมารน้อย เยี่ยหวันหวั่นก็โกรธจนกัดฟันกรอด [คุณเรียกลูกชายฉันว่าจอมมารน้อยอีก เชื่อไหมว่าฉันจะพาเขาไปตัดผมตอนเดือนแรกของปี] เนี่ยอู๋หมิงตอบอย่างงุนงง [หา ทำไมต้องไปตัดผมเดือนแรกของปีล่ะ] เยี่ยหวันหวั่นพิมพ์อย่างดุเดือด [ตัดผมเดือนแรกของเดือนลุงตาย!] [เนี่ยจอมกาก: …] นี่ก็แรงไปแล้ว… ………………………………   บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ [เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ฉันผิดไปแล้วๆ โอเคไหม! เอาเป็นว่าไม่ต้องห่วง ฉันจะหาพ่อแม่ถังถังเจอให้เร็วที่สุด!] [เยี่ยหวันหวั่น: ไม่ต้องรีบขนาดนั้นจริงๆ นะ!] [เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิงไม่เชื่อฉันเหรอ สามเดือน ไม่สิ สองเดือน ไม่ๆๆ …ฉันจะหาคนให้เจอในเดือนเดียว!] เธอพูดตรงขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก! เยี่ยหวันหวั่นกอดหมอน พิงหัวเตียงอย่างโมโห ช่างมัน…ต่อให้เจอพ่อแม่แท้ๆ ของถังถังแล้ว ก็ใช่ว่าจากนี้จะไม่ได้เห็นถังถังอีก เธอยังเป็นแม่บุญธรรมได้นี่นา! ถึงจะปลอบตัวเองแบบนี้ แต่ พอนึกว่าถังถังจะเปลี่ยนไปเป็นลูกของคนอื่น เยี่ยหวันหวั่นก็ยังเจ็บปวดใจต่างๆ นานา เยี่ยหวันหวั่นกลิ้งบนเตียงหลายรอบจึงใจเย็นลงเล็กน้อย เธอหยิบมือถือขึ้นมาไถดูข่าวบันเทิงเพื่อเบี่ยงความสนใจของตัวเอง ตอนแรกก็แต่ดูเรื่อยเปื่อย แต่ มีข่าวหนึ่งที่กลับดึงดูดความสนใจเธอ การคัดเลือกนักแสดงเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับเผิงหย่วนหูผ่านมาครึ่งปี จนตอนนี้ก็ยังหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมไม่เจอ ผู้กำกับเผิงกล่าวว่า จะหาคนหน้าใหม่ที่มีศักยภาพจากมหาวิทยาลัยการละครต่างๆ … “เอ…เผิงหย่วนหู…มะลิ…” เยี่ยหวันหวั่นนึกย้อนชั่วครู่ เธอค่อนข้างประทับใจละครเรื่องนี้ เผิงหย่วนหูไม่ต้องพูดมากมายแล้ว วงการบันเทิงไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผู้อาวุโสเผิงเป็นดาวเด่นของวงการหนัง หนังของเขาดีทุกเรื่อง รับรางวัลจากทั้งในและนอกประเทศจนมือเปลี้ย เป็นประจักษ์พยานทุกช่วงประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศจีน เพียงแต่ว่า…หนังเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ของเผิงหย่วนหูนี้กลับเต็มไปด้วยโชคร้าย เผิงหย่วนหูเป็นเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบจริงจัง ข้อเรียกร้องในคุณภาพผลงานสูงเสียดฟ้า จึงไม่ยอมผ่อนปรนใดๆ ชาติก่อน เผิงหย่วนหูหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมสองปีเต็มก็ยังหาไม่เจอ ละครเรื่องนี้จึงถูกวางทิ้งไว้ตลอด จนกระทั่งเผิงหย่วนหูถึงวาระสุดท้าย ชาติก่อนเยี่ยหวันหวั่นในหน้าข่าวบันเทิงหนึ่ง ตอนที่เผิงหย่วนหูป่วยนอนป่วยติดเตียง เขาเคยพูดว่าไม่อาจถ่ายทำเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ได้ เป็นความเสียใจใหญ่หลวงที่สุดของเขา ถ้าตอนนั้นดอกมะลิถ่ายทำได้สำเร็จละก็ รับรองว่าต้องเป็นผลงานคลาสสิกในตำนานอีกเรื่องหนึ่ง แต่น่าเสียดาย ไม่มีคำว่าถ้า… เยี่ยหวันหวั่นคิดถึงตรงนี้ ก็กำลังเตรียมจะปิดหน้าเพจ แต่นิ้วมือกลับพลันหยุดชะงัก ไม่ถูกสิ! ใครบอกว่าไม่มีคำว่าถ้ากัน! เยี่ยหวันหวั่นรีบอ่านเนื้อหาคร่าวๆ ที่เกี่ยวกับเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ในหน้าข่าวหนึ่งรอบ หนังเรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุค นางเอกเป็นนักเต้น หนังเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ยุคสมัยจีนผ่านการเล่าเรื่องของนางเอก ตั้งแต่วัยเยาว์ก้าวล่วงถึงสงครามนองเลือดแล้วมาถึงยุคแห่งความสงบ เยี่ยหวันหวั่นคาดคะเนเล็กน้อย ก็รู้ว่าผู้กำกับเผิงต้องการนางเอกแบบไหน อันดับแรกหน้าตาของนางเอกต้องใสซื่อบริสุทธิ์แน่นอน ดีที่สุดคือมีกลิ่นอายโบราณ ห้ามเป็นใบหน้าศัลยกรรมที่เกลื่อนตามท้องถนน แต่ก็ห้ามสวยจนเกินไปนัก อย่างเยี่ยหวันหวั่นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะกับบท อีกอย่าง นางเอกต้องมีพื้นฐานการเต้นที่แข็งแรง สุดท้ายย่อมต้องเป็นทักษะการแสดง ยังไงเสียละครเรื่องนี้ก็มีช่วงตั้งแต่ต้นจนจบกว้างมาก นางเอกจากวัยเยาว์พัฒนาสู่วัยชรา เชื่อมผ่านยุคสมัยหนึ่ง ทักษะการแสดงไม่ถึงขั้นไม่มีทางแสดงออกมาได้ หลังเยี่ยหวันหวั่นจัดแจงเงื่อนไขพวกนี้เสร็จ ในหัวก็พลันผุดตัวเลือกหนึ่ง… เจียงเยียนหราน… นึกถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ม้วนกลิ้งยันตัวขึ้นมา ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเยียนหรานเหมาะสมมาก เมื่อก่อนเธอไม่ได้เซ็นสัญญากับเจียงเยียนหราน ด้านหนึ่งก็เพราะอยากให้เธอเรียนพื้นฐานเสร็จก่อน อีกด้านหนึ่งคือทรัพยากรและความสามารถของบริษัทพวกเธอตอนนี้ ก็ยังมีความสามารถไม่พอจะรับตัวเธอชั่วคราว อย่างเช่น ‘เป็นหรือตาย’ หนังเรื่องนี้เน้นตัวเอกชาย บทของตัวเอกหญิงน้อยมาก ไม่เหมาะสมกับเธอ แต่ตอนนี้ ‘ดอกมะลิ’ ทำมาเพื่อเจียงเยียนหรานชัดๆ … …………………….

บทที่ 1091 จอมมารน้อยสนุกจนลืมบ้าน

พอได้ยินคำพูดของเด็กน้อย เยี่ยหวันหวั่นซาบซึ้งใจ แต่อีกใจหนึ่งก็ซับซ้อนจริงๆ

ยังไงเสีย เธอก็ไม่ใช่แม่ของเด็กคนนี้

เยี่ยหวันหวั่นกดความผิดหวังในหัวใจ รีบกลับมามีชีวิตชีวา สวมชุดตุ๊กตามาสคอตใหม่อีกครั้ง แล้วจูงมือเด็กน้อย “ถังถัง ไป! พวกเราไปหาคุณพ่อกัน ให้เขาถ่ายรูปให้พวกเรา!”

“ครับ!” เด็กน้อยจูงอุ้งมือหมีของเยี่ยหวันหวั่นอย่างดีใจ

มาสคอตหมีกับมาสคอตนมน้อยวิ่งตึกๆ ถึงตรงหน้าซือเยี่ยหานอย่างรวดเร็ว

เยี่ยหวันหวั่นล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อชุดหมี “คุณเก้าๆ! ถ่ายรูปฉันกับถังถังเร็ว!”

เธอชอบถ่ายรูปด้วยกันกับถังถังมาก ด้านหนึ่งคือต้องส่งให้เนี่ยอู๋หมิง แต่ที่มากกว่านั้นคือตัวเธออยากเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้มากๆ …

ซือเยี่ยหานมีสีหน้าอ่อนโยน รีบมือถือของเยี่ยหวันหวั่นมา “ได้”

ตอนนี้ทักษะถ่ายรูปของซือเยี่ยหานดีขึ้นมาก เขาถ่ายภาพหลายใบอย่างว่องไว ทุกใบสวยงามราวกับนิตยสารดังไม่ปาน อีกทั้งการจัดวางภาพยังเป็นแบบสัดส่วนทองคำ

หลังถ่ายเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็รับมือถือมา มองภาพถ่ายอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็เดินไปตรงหน้าหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจืออีก แล้วก็เลือกเซี่ยเจ๋อจือ “ราชาจอเงิน รบกวนคุณถ่ายภาพรวมให้พวกเราได้ไหม”

เซี่ยเจ๋อจือรับมือถือมาตอบรับอย่างยินดี “แน่นอน เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

หลินเชวียที่อยู่ด้านข้างมีเมฆเห็ดเหนือหัว ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายโศกเศร้า…

นี่เขามาพักผ่อนวันหยุด หรือมาโดนทรมานกันแน่

วันนี้เยี่ยหวันหวั่นครอบครัวสามคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนหลินเชวียกับเซี่ยเจ๋อจือทั้งสองจมอยู่ในกองภาพถ่ายกับกินอาหารหมาโสด

สุดท้ายแม้แต่เซี่ยเจ๋อจือก็รับมือไม่ไหวบ้างแล้ว สองคนแสดงท่าทีจากนี้ไปจะไม่สงสัยใคร่รู้อีกแล้ว อ้อมหนีพวกเขาไปดีกว่า…

ตอนเย็นหลังกลับถึงบ้าน

เยี่ยหวันหวั่นจัดการภาคหนึ่งรอบ จากนั้นก็ส่งไปให้เนี่ยอู๋หมิง

[เนี่ยจอมกาก: แง น่ารัก! ราชินีบ้านฉันต้องชอบแน่!]

แถมจอมมารน้อยยังสนุกจนลืมบ้านขนาดนี้! ดีมากจริงๆ!

เยี่ยหวันหวั่นลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ส่งข้อความประโยคหนึ่งไปหาเนี่ยอู๋หมิง

[มีข่าวคราวของพ่อแม่ถังถังไหม] เยี่ยหวันหวั่นถามหยั่งเชิง

เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับทันที [น้องเยี่ยโหย่วหมิง ไม่ต้องห่วงวางใจได้เต็มที่ จะไม่รบกวนน้องเยี่ยนานเกินไปแน่นอน ทางฉันเริ่มมีเค้าโครงแล้ว เชื่อว่าไม่นานเดี๋ยวก็ได้ข่าวคราว!]

เยี่ยหวันหวั่นมองข้อความที่เนี่ยอู๋หมิงตอบกลับมา รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขอยู่บ้าง เธอไม่วางใจเลยสักนิดเดียวตกลงไหม! หาเจอเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ

[เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ช่วงนี้ต้องขอบคุณน้องเยี่ยมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเยี่ยช่วยดูแลจอมมารน้อย เกรงว่าตอนนี้เขาก็คงวิ่งมั่วเองไปทั่วโลกแล้ว ถ้าจอมมารน้อยเป็นอะไรไป ถึงตอนนั้นพ่อแม่ฉันได้เชือดฉันจริงๆ แน่!]

เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่มีกะจิตกะใจ [ไม่ต้องขอบคุณ ฉันชอบถังถังมาก]

[เนี่ยจอมกาก: ไม่เข้าใจน้องเยี่ยโหย่วหมิงจริงๆ ทำไมถึงชอบจอมมารน้อยตัวนั้นได้]

เห็นเนี่ยอู๋หมิงเอาแต่เรียกถังถังว่าจอมมารน้อย เยี่ยหวันหวั่นก็โกรธจนกัดฟันกรอด [คุณเรียกลูกชายฉันว่าจอมมารน้อยอีก เชื่อไหมว่าฉันจะพาเขาไปตัดผมตอนเดือนแรกของปี]

เนี่ยอู๋หมิงตอบอย่างงุนงง [หา ทำไมต้องไปตัดผมเดือนแรกของปีล่ะ]

เยี่ยหวันหวั่นพิมพ์อย่างดุเดือด [ตัดผมเดือนแรกของเดือนลุงตาย!]

[เนี่ยจอมกาก: …]

นี่ก็แรงไปแล้ว…

………………………………

 

บทที่ 1092 ทำมาเพื่อเธอ

[เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิง ฉันผิดไปแล้วๆ โอเคไหม! เอาเป็นว่าไม่ต้องห่วง ฉันจะหาพ่อแม่ถังถังเจอให้เร็วที่สุด!]

[เยี่ยหวันหวั่น: ไม่ต้องรีบขนาดนั้นจริงๆ นะ!]

[เนี่ยจอมกาก: น้องเยี่ยโหย่วหมิงไม่เชื่อฉันเหรอ สามเดือน ไม่สิ สองเดือน ไม่ๆๆ …ฉันจะหาคนให้เจอในเดือนเดียว!]

เธอพูดตรงขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก!

เยี่ยหวันหวั่นกอดหมอน พิงหัวเตียงอย่างโมโห

ช่างมัน…ต่อให้เจอพ่อแม่แท้ๆ ของถังถังแล้ว ก็ใช่ว่าจากนี้จะไม่ได้เห็นถังถังอีก เธอยังเป็นแม่บุญธรรมได้นี่นา!

ถึงจะปลอบตัวเองแบบนี้ แต่ พอนึกว่าถังถังจะเปลี่ยนไปเป็นลูกของคนอื่น เยี่ยหวันหวั่นก็ยังเจ็บปวดใจต่างๆ นานา

เยี่ยหวันหวั่นกลิ้งบนเตียงหลายรอบจึงใจเย็นลงเล็กน้อย เธอหยิบมือถือขึ้นมาไถดูข่าวบันเทิงเพื่อเบี่ยงความสนใจของตัวเอง

ตอนแรกก็แต่ดูเรื่อยเปื่อย แต่ มีข่าวหนึ่งที่กลับดึงดูดความสนใจเธอ

การคัดเลือกนักแสดงเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับเผิงหย่วนหูผ่านมาครึ่งปี จนตอนนี้ก็ยังหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมไม่เจอ ผู้กำกับเผิงกล่าวว่า จะหาคนหน้าใหม่ที่มีศักยภาพจากมหาวิทยาลัยการละครต่างๆ …

“เอ…เผิงหย่วนหู…มะลิ…”

เยี่ยหวันหวั่นนึกย้อนชั่วครู่ เธอค่อนข้างประทับใจละครเรื่องนี้

เผิงหย่วนหูไม่ต้องพูดมากมายแล้ว วงการบันเทิงไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผู้อาวุโสเผิงเป็นดาวเด่นของวงการหนัง หนังของเขาดีทุกเรื่อง รับรางวัลจากทั้งในและนอกประเทศจนมือเปลี้ย เป็นประจักษ์พยานทุกช่วงประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศจีน

เพียงแต่ว่า…หนังเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ของเผิงหย่วนหูนี้กลับเต็มไปด้วยโชคร้าย

เผิงหย่วนหูเป็นเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบจริงจัง ข้อเรียกร้องในคุณภาพผลงานสูงเสียดฟ้า จึงไม่ยอมผ่อนปรนใดๆ

ชาติก่อน เผิงหย่วนหูหาตัวเลือกรับบทนางเอกที่เหมาะสมสองปีเต็มก็ยังหาไม่เจอ ละครเรื่องนี้จึงถูกวางทิ้งไว้ตลอด จนกระทั่งเผิงหย่วนหูถึงวาระสุดท้าย

ชาติก่อนเยี่ยหวันหวั่นในหน้าข่าวบันเทิงหนึ่ง ตอนที่เผิงหย่วนหูป่วยนอนป่วยติดเตียง เขาเคยพูดว่าไม่อาจถ่ายทำเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ได้ เป็นความเสียใจใหญ่หลวงที่สุดของเขา

ถ้าตอนนั้นดอกมะลิถ่ายทำได้สำเร็จละก็ รับรองว่าต้องเป็นผลงานคลาสสิกในตำนานอีกเรื่องหนึ่ง

แต่น่าเสียดาย ไม่มีคำว่าถ้า…

เยี่ยหวันหวั่นคิดถึงตรงนี้ ก็กำลังเตรียมจะปิดหน้าเพจ แต่นิ้วมือกลับพลันหยุดชะงัก

ไม่ถูกสิ!

ใครบอกว่าไม่มีคำว่าถ้ากัน!

เยี่ยหวันหวั่นรีบอ่านเนื้อหาคร่าวๆ ที่เกี่ยวกับเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ในหน้าข่าวหนึ่งรอบ

หนังเรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุค นางเอกเป็นนักเต้น หนังเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ยุคสมัยจีนผ่านการเล่าเรื่องของนางเอก ตั้งแต่วัยเยาว์ก้าวล่วงถึงสงครามนองเลือดแล้วมาถึงยุคแห่งความสงบ

เยี่ยหวันหวั่นคาดคะเนเล็กน้อย ก็รู้ว่าผู้กำกับเผิงต้องการนางเอกแบบไหน

อันดับแรกหน้าตาของนางเอกต้องใสซื่อบริสุทธิ์แน่นอน ดีที่สุดคือมีกลิ่นอายโบราณ ห้ามเป็นใบหน้าศัลยกรรมที่เกลื่อนตามท้องถนน

แต่ก็ห้ามสวยจนเกินไปนัก อย่างเยี่ยหวันหวั่นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะกับบท

อีกอย่าง นางเอกต้องมีพื้นฐานการเต้นที่แข็งแรง สุดท้ายย่อมต้องเป็นทักษะการแสดง ยังไงเสียละครเรื่องนี้ก็มีช่วงตั้งแต่ต้นจนจบกว้างมาก นางเอกจากวัยเยาว์พัฒนาสู่วัยชรา เชื่อมผ่านยุคสมัยหนึ่ง

ทักษะการแสดงไม่ถึงขั้นไม่มีทางแสดงออกมาได้

หลังเยี่ยหวันหวั่นจัดแจงเงื่อนไขพวกนี้เสร็จ ในหัวก็พลันผุดตัวเลือกหนึ่ง…

เจียงเยียนหราน…

นึกถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ม้วนกลิ้งยันตัวขึ้นมา ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเยียนหรานเหมาะสมมาก

เมื่อก่อนเธอไม่ได้เซ็นสัญญากับเจียงเยียนหราน ด้านหนึ่งก็เพราะอยากให้เธอเรียนพื้นฐานเสร็จก่อน อีกด้านหนึ่งคือทรัพยากรและความสามารถของบริษัทพวกเธอตอนนี้ ก็ยังมีความสามารถไม่พอจะรับตัวเธอชั่วคราว

อย่างเช่น ‘เป็นหรือตาย’ หนังเรื่องนี้เน้นตัวเอกชาย บทของตัวเอกหญิงน้อยมาก ไม่เหมาะสมกับเธอ

แต่ตอนนี้ ‘ดอกมะลิ’ ทำมาเพื่อเจียงเยียนหรานชัดๆ …

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+