แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี 567 ให้นายลงมือก่อน / บทที่ 568 เศษสวะ

Now you are reading แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี Chapter 567 ให้นายลงมือก่อน / บทที่ 568 เศษสวะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 567 ให้นายลงมือก่อน

ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน เขาที่ประกาศว่าจะเอาตำแหน่งหัวหน้าทีมใหญ่คืนมากลับพ่ายแพ้ให้กับลูกน้องตัวเอง

หลิวอิ่งรู้สึกแค่ว่าที่หน้าอกราวกับมีสัตว์ร้ายกำลังคำรามพุ่งชนอยู่ รู้สึกละอาย อัปยศอดสู สารพัดความรู้สึกแทบจะฉีกทึ้งเขา…

ห่างไปไม่ไกล สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นก็เต็มไปด้วยความตะลึง

หลิวอิ่งแพ้หรือแล้วนี่

ชาติที่แล้วเธอจำหยวนเซิงคนนี้ไม่ได้เลย น่าจะไม่เคยโผล่มาให้เห็น แต่ชาตินี้เขากลับเอาชนะหลิวอิ่งได้…

“ฉันจะท้าประลองสืออี!”

ในขณะเดียวกัน เสียงหยวนเซิงก็ดังก้องไปทั่วสนาม

“ได้!” สืออีรับคำท้า ลุกจากที่นั่งหัวหน้าใหญ่บอดี้การ์ดลับ เดินขึ้นไปบนสังเวียน

“สู้ๆๆ…สู้ๆ…เอา…เอา…เอาให้เขา…เอาให้เขาตายไปเลย!” เจ้าติดอ่างซึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งหัวหน้าทีมย่อยให้กำลังใจสืออี

“หัวหน้าสู้ๆ!”

“ให้เด็กนั่นรู้ถึงความเก่งกาจของนายซะ!”

“ถุย คนแบบนี้มีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าที่ไหน อกตัญญู เดิมทีเป็นแค่สุนัขข้างหลิวอิ่ง…กลับแว้งกัดหลิวอิ่งคนที่เลี้ยงดูตัวเองมา”

“ถูกต้อง ถ้าให้เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ อีกหน่อยถ้ามีภารกิจจะขายพวกเราหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”

เวลานี้ คนในทีมบอร์ดี้การ์ด 1 ต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน

นอกจากบอดี้การ์ดทีมย่อย 1 แล้ว ทั้งสนามต่างให้กำลังใจหยวนเซิงกันหมด พูดสรรเสริญเยินยอ ในสายตาคนอื่น แม้แต่หลิวอิ่งยังแพ้ให้กับหยวนเซิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสืออีเลย

คิดไม่ถึงจริงๆ การแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าทีมใหญ่ครั้งนี้จะมีม้ามืดชนะการประลอง…

“มาเลย แสดงความเก่งกาจของหัวหน้าทีมใหญ่ให้ฉันเห็นหน่อย” ใบหน้าหยวนเซิงประดับยิ้มเย็นชา กระดิกนิ้วชี้เรียกสืออีให้เข้ามาหา

“ฉันเป็นหัวหน้าทีมใหญ่ ให้นายลงมือก่อน” สืออีพูด

“หา? ให้ฉันลงมือก่อน?” หยวนเซิงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ในสายตาเขา สืออีไม่ควรค่าให้กล่าวถึงด้วยซ้ำ

“มีปัญหาก็เข้ามาหาพ่อมา!” สืออีพูดเลียนแบบเจ้าติดอ่างบ้าง

“หึ…อาศัยนายเนี่ยนะ?” หยวนเซิงหัวเราะดูถูก ก้าวเท้าออกไปก้าวเดียวก็ไปไกลหลายเมตร เพียงพริบตาก็มาถึงข้างตัวสืออีแล้ว

“ผลัวะ!”

หยวนเซิงออกหมัดรัวๆ ชุดหนึ่ง

ทว่าสืออียืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนเลย ใช้ฝ่ามือกำบัง โบกไปกลางอากาศ

ทั้งสองคนแลกหมัดต่อสู้ หลายกระบวนท่าติดต่อกัน หยวนเซิงกลับยังหาจังหวะใดๆ ไม่ได้

“อะไรกัน…”

ตอนนี้หยวนเซิงถอยหลังไปหลายก้าว ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปทางสืออีด้วยสีหน้าค่อนข้างประหลาด

ใจเขารู้กำลังของสืออีดี ยากที่จะต้านรับเขาได้สามท่า แต่เมื่อกี้สืออีขยับเพียงเล็กน้อยก็ป้องกันการโจมตีเขาได้หมด

สืออีบนสังเวียนเหมือนกับป้อมปราการป้องกันที่ไร้ตำหนิ ทั้งตัวไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด และยิ่งเหมือนกับเม่นที่มีหนามแหลมทั้งตัว เขาไม่สามารถลงมือได้เลย

“เป็นอะไร เข้ามาสิ!” สืออีตะโกน

เพียงแต่หยวนเซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกับพบอะไรบางอย่างเข้า ครั้งนี้เขาไม่ลงมือ แต่กลับพูด “นายเข้ามาสิ”

“มีปัญญานายก็เข้ามา” สืออีกระดิกนิ้วชี้

“ให้หัวหน้าทีมใหญ่เริ่มก่อนดีกว่า!”

ทั้งสองคนเป็นแบบนี้ ผ่านไปหลายนาทีก็ไม่มีใครขยับ

“สู้กันสิ…”

“เฮ้ย! พวกนายสู้กันสิ! นี่ทำอะไรกัน ดูตัวหรือไง?”

“บ้าเอ๊ย…ฉันจะหลับแล้ว ขอร้องพวกนายรีบสู้กันหน่อย…”

บอดี้การ์ดลับด้านล่างพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าสืออีและหยวนเซิงกำลังเล่นอะไรกันแน่

ห่างไปไม่ไกล เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเบาๆ พลางกุมหน้าตัวเอง ใครใช้ให้เธอเริ่มลงมือก่อนไม่เป็นล่ะ ปรากฏว่าที่สอนไปสืออีเลยทำได้แค่เป็นฝ่ายรับ แต่นายหยวนเซิงนั่นเห็นได้ชัดว่ามองจุดนี้ออกแล้ว

หลังจากผ่านไปนาน สวี่อี้ก็เปิดปาก “หยวนเซิง นายเป็นผู้ท้าชิง อีกห้านาทีก็จะครึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่มีผลแพ้ชนะก็ถือว่านายแพ้”

………………………………………………………………

บทที่ 568 เศษสวะ

กฎแบบนี้หยวนเชิงย่อมรู้ดี ไม่ต้องให้สวี่อี้มาเตือน

“หึ…” จู่ๆ หยวนเซิงก็ยืนตัวตรง พูดเบาๆ ว่า “สืออี ฉันรู้เรื่องอดีตของนายทั้งหหมด…อาศัยแค่นายที่เป็นเศษสวะอย่างนี้ จะมีปัญญาแย่งตำแหน่งหัวหน้าทีมใหญ่มาได้เหรอ?”

“นายพูดอะไร…” สืออีขมวดคิ้ว

“จิ๊ๆๆ…” หยวนเซิงส่ายหน้าแล้วยิ้มเอ่ย “สี่ปีก่อนนายยังไม่ได้ฝึกการต่อสู้ และยิ่งไม่ได้เป็นบอดี้การ์ดตระกูลซือด้วยซ้ำ…นายมีแฟนสาวที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก รักกันดี…”

“นาย!” โดนหยวนเซิงพูดถึงเรื่องอดีต สืออีตัวสั่นเบาๆ

“น่าเสียดายนะ…มีอยู่คืนหนึ่งนายกับแฟนนายเดินเล่นอยู่ในสาธารณะ ดันมาเจอพวกคนเมาพกมีดเข้า…” รอยยิ้มบนใบหน้าหยวนเซิงยิ่งกดลึกเข้าไปใหญ่

“หยุดพูดได้แล้ว!” สืออีกำสองหมัดแน่น เริ่มหายใจถี่หอบ

“ทำไม ไม่กล้าเผชิญหน้าเหรอ?” หยวนเซิงยิ้มเยาะหยัน “น่าสงสารจริงๆ พวกชั่วหลายคนนั้นย่ำยีแฟนนายต่อหน้า… ส่วนนายกลับหนีไป ฮ่าๆๆ…ทิ้งแฟนตัวเองไว้แล้ววิ่งหนีไป นายนี่มันแมนจริงๆ”

“หยุดพูด…หยุดพูดได้แล้ว!” เล็บสืออีจิกอย่างแรงเข้าไปในฝ่ามือ เลือดสดไหลลงมาตามปลายนิ้ว

“คืนวันนั้น แฟนนายกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย… เฮ้อ ในตอนที่เธอไม่มีที่พึ่งพิง ตอนที่หวาดกลัวที่สุด กลับโดนแฟนหนุ่มที่รักทอดทิ้ง…น่าเวทนา น่าสงสารจริงๆ!” หยวนเซิงส่ายหน้า

“ฉันเปล่า…นายหุบปาก!” น้ำตารื้นขึ้นมาในดวงตาสองข้างของสืออี เรื่องสี่ปีที่แล้วยังค้างอยู่ในใจ

เขาในตอนนั้นยังถือว่าอายุน้อย ฝ่ายตรงข้ามมีคนเยอะ แล้วยังมีอาวุธในมืออีก เขาวิ่งออกไปจริง…แต่วิ่งไปหาคนมาช่วย!

เพียงแต่สุดท้ายก็สายไปแล้ว หลังจากแฟนสาวโดนหลายคนนั้นล่วงละเมิดก็โดดน้ำฆ่าตัวตาย…

หลายปีมานี้เขาไม่เคยให้อภัยตัวเองเลย และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขามาเรียนการต่อสู้ทีหลัง

หลังจากเขาเรียนศาสตร์การต่อสู้สำเร็จ ตามหาพวกขี้เมานั่นจนเจอ ก็ลงมือตัดหัวพวกนั้นด้วยตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นพวกเดนตาย…ถูกตระกูลซือรับมาทำงาน และกลายเป็นบอดี้การ์ดมือหนึ่งของตระกูลซือ…

เขาไม่ได้หนี และไม่เคยคิดจะทอดทิ้งเธอเลย!

เพียงแต่สถานการณ์บีบบังคับ เขาต้องไปขอความช่วยเหลือ…

ใบหน้ายิ้มของหญิงสาวลอยขึ้นมาในหัว สืออีตะโกนลั่นเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกคุมขัง “หุบปาก! หุบปาก! ฉันไม่ได้หนี! ฉันเปล่า…”

“นายมันขี้ขลาด ไร้ประโยชน์ ควรจะตายไปพร้อมแฟนนายตั้งแต่ตอนนั้นซะ ตอนนี้ยังมีหน้ามีแย่งตำแหน่งหัวหน้าใหญ่อีก? นายมีสิทธิ์อะไร” หยวนเซิงพูดเร็วขึ้น

“แม่งหุบปากเดี๋ยวนี้! หุบปาก!” สืออีเวลานี้สูญสิ้นสติไปหมดแล้ว เป็นเหมือนสัตว์ป่าตัวหนึ่ง ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พุ่งตรงไปหาหยวนเซิงด้วยความโกรธแค้น

“หึ…” เห็นว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว ใบหน้าหยวนเซิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ผัวะ!”

หยวนเซิงออกหมัดต่อยเข้าไปที่หน้าท้องสืออี ทำเอาสืออีล้มลงไปกองที่พื้น

“แกตายซะ!” สืออีคำรามโกรธเกรี้ยว คิดจะลุกขึ้นยืนอีก

แต่ทว่า หยวนเซิงกลับเหยียบไปที่หน้าอกสืออี ก้มลงมองเขาจากเบื้องบน “นายมันเศษสวะ เศษสวะที่แม้แต่แฟนตัวเองยังปกป้องไม่ได้! คนแบบนายทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่อีก สู้ตายไปซะดีกว่า ถือว่าไถ่โทษให้แฟนสาว”

“พูดจาเหลวไหล!” นัยน์ตาสืออีเต็มไปด้วยเส้นเลือด เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมา

“นายมันก็แค่คนขี้ขลาดที่ทิ้งแฟนเพื่อเอาตัวรอด ยอมรับความจริงเถอะ” หยวนเซิงยกมุมปากขึ้นมา

เวลานี้ด้านล่างสังเวียนเกิดความโกลาหล ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าสืออีที่ไม่มีที่ไปที่มาเป็นหลักแหล่งจะมีอดีตแบบนี้

“ฉันไม่ใช่ ฉันเปล่า…!” ได้ยินคำพูดแต่ละคำของหยวนเซิงและเสียงวิจารณ์ด้านล่าง ความคิดสืออีวุ่นวายไปหมด เผยจุดอ่อนออกมาจนสิ้น

……………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด