แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 466

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 466 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
เข้าใจผิดกันไปใหญ่

 

 

 

อวี๋หมิงหลางมองเฉียวเจิ้นด้วยสายตาดูถูก “วัยรุ่น ชีวิตอย่าเอาแต่สนใจเรื่องใต้สะดือ คนเรารักกันไม่ใช่แค่การเอาเนื้อถูไถ ต้องใช้หัวใจแลกเปลี่ยน ใช้จิตวิญญาณสัมผัส แค่มองตาก็เข้าใจโดยไม่ต้องพูด เข้าใจ๊”

 

 

“ก็ยังไม่เข้าใจ…”

 

 

เฉียวเจิ้นงง ถึงจะฟังไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าที่หัวหน้าพูดมีเหตุผล ไร้ข้อโต้แย้ง

 

 

อันที่จริงในใจของอวี๋หมิงหลางคิดแบบนี้ ‘ข้าแค่อยากจะกินเนื้อทำไมมันยากแบบนี้โว้ย’

 

 

สุดท้ายสรุปง่ายๆก็คือ อิจฉาริษยานั่นเอง

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพอกลับไปก็ปรึกษากับศาสตราจารย์หลิวเรื่องการทดสอบจิตใจในอีกสามวันหลังเสร็จสิ้นการทดสอบ ศาสตราจารย์หลิวก็ได้ใช้โอกาสในสามวันนี้นอนพักรักษาตัวพอดี

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำเรื่องที่ควรทำไปแล้ว พอจะเดาได้ว่าอีกสามวันอาจารย์ต้องไปหาหวางย่าเฟยด้วยตัวเองแน่ ส่วนตัวเธอ ตอนนั้นก็คงจะกลายเป็นคนที่หวางย่าเฟยเกลียดเข้าไส้สุดๆ เธอจะไปทำสรุปผลเรื่องหัวหน้าใหญ่กับหลิวลี่แล้วถือโอกาส…

 

 

แอบดูเสี่ยวเฉียงมาดเท่ห์เวลาอยู่ในค่ายอีกครั้ง

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหอบเอาความคิดนี้กลับหอพัก พอเปิดประตูเข้าไปกลิ่นสีก็โชยมา เธอนึกออกแล้ว ที่นี่อยู่ไม่ได้ชั่วคราวนี่นา

 

 

เสี่ยวเฉียงมีเรื่องเข้ามากะทันหันทำให้ลืมเรื่องต้องหาที่อยู่ให้เธอ เสี่ยวเชี่ยนอยากรู้ว่ารูมเมทเธออยู่ที่ไหนกัน จึงโทรหาต้าอีเป็นคนแรก

 

 

โทรติดเร็วมาก แต่ไม่ใช่ตาอีเป็นคนรับ

 

 

“อ๊า~~”

 

 

เสียงเด็กลอยมาจากในโทรศัพท์

 

 

“พ่านพ่าน? พ่านพ่านเด็กดี เอาโทรศัพท์ให้อีอีนะ”

 

 

เด็กฉลาดอย่างพ่านพ่านรู้จักรับโทรศัพท์เป็นแล้ว พอได้ยินเสียงเสี่ยวเชี่ยนเด็กน้อยก็สงสัย

 

 

“ปีศาจเชี่ยนเชี่ยน?”

 

 

“ฉันคือน้าเชี่ยนเชี่ยนของนาย” เสี่ยวเชี่ยนแก้คำพูดให้ถูกอย่างอดทน เด็กแสบที่สุดจะไม่น่ารักคนนี้นี่ ชอบเรียกผิดๆ

 

 

“ปีศาจเชี่ยนเชี่ยน” ชื่อนี้ไม่รู้เริ่มเรียกตั้งแต่เมื่อไร เสี่ยวเชี่ยนได้ยินแล้วก็อยากลากเด็กคนนี้เข้าห้องมืด จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนต้าอีไม่อยู่ฟาดก้นเสียให้เข็ด

 

 

“ก็ได้…ปีศาจเชี่ยนเชี่ยนก็ได้ เอาโทรศัพท์ให้อีอีหน่อยนะ อีอีอยู่ไหน?”

 

 

“อีอีกับปะป๊า…ออกกำลังกาย?”

 

 

พ่านพ่านพยายามนึกคลังศัพท์ที่มีอยู่ในสมอง เด็กคนนี้ระบบภาษาพัฒนาช้าไปหน่อย สามารถพูดได้ขนาดนี้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว

 

 

เสี่ยวเชี่ยนแทบหยุดหายใจ ออกกำลังกายด้วยกัน?

 

 

มิน่าโทรศัพท์ถึงอยู่กับเด็ก

 

 

เดิมควรจะวางสาย แต่เสี่ยวเชี่ยนนึกสนุก อยากลองหลอกถามเด็กดูเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรดีๆ

 

 

“พ่านพ่านจ๊ะ อีอีกับป่ะป๊าออกกำลังกายอยู่ในผ้าห่มหรือเปล่า?”

 

 

ฮี่ๆ ใครใช้ให้ไม่ปิดประตู

 

 

ใครใช้ให้พวกอวี๋หมิงอี้กินตับกันก่อนเธอกับอวี๋หมิงหลาง

 

 

นี่มาจากความอิจฉาล้วนๆ

 

 

“ผ้าห่ม…ไม่ บนพื้น”

 

 

ดูไม่ออกเลยนะว่าอวี๋หมิงอี้จะเป็นคนดุเดือด เสี่ยวเชี่ยนวิจารณ์ พี่น้องตระกูลอวี๋ไม่ชอบเตียงกันหมดเลยเหรอ?

 

 

อวี๋เสี่ยวเฉียงก็ชอบกระจกเหลือเกิน พี่รองก็รักการทำที่พื้น รสนิยมไม่เบาเลยนะ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยังอยากหลอกถามเรื่องลามกจากปากเด็กต่อ แต่เสียงเข้มๆของอวี๋หมิงอี้ก็ดังลอดออกมา

 

 

“ผมอวี๋หมิงอี้ครับ”

 

 

“พี่รอง ต้าอีล่ะคะ?”

 

 

“นอนพักอยู่”

 

 

“อ่อ…” ดูท่าเมื่อคืนสงครามจะหนักหน่วง นี่บ่ายแล้วยังไม่ตื่นอีก

 

 

เสี่ยวเชี่ยนจินตนาการไปไกล

 

 

“มีธุระเหรอ?” นิสัยของอวี๋หมิงอี้แต่ไหนแต่ไรมาพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม

 

 

“หนูอยากถามว่าบ้านพี่ยังพอมีที่ไหมหนูอยาก…”

 

 

“ไม่มี” อวี๋หมิงอี้ไม่ใช่คนที่พูดจาวกไปวนมา ปฏิเสธห้วนๆแบบนี้ไม่ได้กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิด

 

 

“ก็ได้” เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าตานี่ความฉลาดทางอารมณ์มีแค่นี้ เลยไม่อยากคิดเล็กคิดน้อย

 

 

“ถ้าเธอต้องการเดี๋ยวพี่จัดหาที่พักในเรือนรับรองให้” อวี๋หมิงอี้เองก็รู้เรื่องเสี่ยวเชี่ยนทาสีหอพัก ไม่มีที่ไป

 

 

“ไม่ต้องค่ะ พี่ทำงานไปเถอะ…จริงสิพี่รอง ต้าอีไม่มีประสบการณ์พี่จึ๊กเบาๆหน่อยนะ”

 

 

หลังจากที่ล้างแค้นอวี๋หมิงอี้คนอีคิวต่ำแล้วเสี่ยวเชี่ยนก็หัวเราะเงียบๆ แล้วรีบกดวางสาย

 

 

ใครใช้ให้กินตับก่อนเสี่ยวเฉียงล่ะ สมน้ำหน้า~

 

 

อวี๋หมิงอี้มองโทรศัพท์ด้วยความสงสัย เสี่ยวเชี่ยนพูดอะไรน่ะ จึ๊กเบาๆเหรอ?

 

 

หมายความว่าไง นี่เขาอายุเยอะจนไม่เข้าใจความคิดวัยรุ่นแล้วเหรอ?

 

 

เขาถือยาเข้าไปในห้องนอน ต้าอีนอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพสีหน้าซีดเซียว

 

 

“แปะนี่สิ แม่ผมบอกน่าจะช่วยได้”

 

 

“เพราะคุณนั่นแหละ…ฉันบอกแล้วว่าร่างกายฉันไม่ไหว คุณก็ยังจะให้ฉันทำ เป็นไงล่ะ…” เล่นเอาเธอเอวเคล็ด เจ็บมาก

 

 

“คุณขาดการออกกำลังกาย ต้องฝึกบ้างนะ ผมถามแม่แล้ว การฝึกออกกำลังตรงช่วงท้องมีประโยชน์กับคุณ ช่วงนี้ก็หยุดไปก่อนอีกไม่กี่วันกลับหอก็เอาไปด้วย ไปฝึกต่อ”

 

 

“ฉันไม่อยากทำ”

 

 

ต้าอีแค่บ่นๆกับเขาว่าดูเหมือนเธอจะอ้วนขึ้น อวี๋หมิงอี้คนจริงก็ไปจัดแจงหาซื้ออุปกรณ์ฝึกหน้าท้องมาให้ ซึ่งก็คือลูกกลิ้งฝึกกล้ามท้อง รับรองว่าได้ผลดี

 

 

ให้ของสิ่งนี้กับแฟน นอกจากอวี๋หมิงอี้แล้วคงไม่มีใครอีก ตอนแรกต้าอีเห็นเขาหอบของชิ้นเบ้อเร่อมาให้ก็คิดว่าเป็นตุ๊กตา พอเปิดออกดู ล้อใหญ่ๆ…

 

 

ในใจนั้นต่อต้าน เธอพูดไม่เก่ง แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ ผู้หญิงบ้านไหนกันที่จะก้มลงออกกำลังกายด้วยท่าน่าอายแบบนั้น กระดกก้นขึ้นๆลงๆ?

 

 

แต่เธอก็เอาชนะอวี๋หมิงอี้จอมรั้นไม่ได้ เขายังเปิดคอร์สสอนต้าอีเรื่องความสำคัญของการออกกำลังกาย รวมถึงการมีไขมันสะสมอยู่ที่พุงจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย

 

 

อย่าเห็นอวี๋หมิงอี้เป็นคนเงียบๆ เรื่องแบบนี้เขาดื้อดึงมาก

 

 

ตอนแรกที่ต้าอีได้ยินเขาพูดเรื่องไขมันสะสมที่พุงเธอเกือบน้ำตาตก

 

 

เธอก็แค่ช่วงนี้กินมื้อดึกมากไปหน่อย เอวจาก21 เพิ่มมาเป็น24 แต่เธอไม่มีพุงนะ จะมาใช้คำว่าไขมันสะสมที่พุงกับเธอไม่ได้

 

 

ยังดีที่ต้าอีทำการวิเคราะห์คนอย่างอวี๋หมิงอี้ไว้แล้ว การกระทำแบบนี้ของเขาเป็นการแสดงออกด้วยความเป็นห่วง อาจเพราะอาการป่วยของอดีตภรรยาที่เป็นหนักขึ้นจนทำให้ต้องหย่ากัน เขาเลยมีเงามืดในจิตใจ ดังนั้นจึงระมัดระวังกับต้าอีเป็นพิเศษ

 

 

ต้าอีก้มหมอบออกกำลังกายที่พื้น พ่านพ่านเห็นแล้ว แต่เด็กน้อยแสดงออกทางคำพูดไม่เก่ง เสี่ยวเชี่ยนเลยเข้าใจผิดว่าอวี๋หมิงอี้กับต้าอีมีอะไรกัน

 

 

 บอกได้แค่ว่า นี่คือการเข้าใจผิดที่สวยงาม

 

 

“จริงสิ เมื่อกี้เสี่ยวเชี่ยนพูดจาแปลกๆด้วย”

 

 

“เธอว่าอะไรเหรอคะ?”

 

 

“เขาให้ผมจึ๊กเบาๆกับคุณ? จึ๊กหมายถึงอะไรเหรอ?”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนที่กลับชาติมาเกิดรู้จักเลือกใช้คำ อวี๋หมิงอี้คนเชยกลับไม่เข้าใจ ต้าอีนึกถึงเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนกับสืออวี้คุยกันตอนอยู่หอ แล้วใบหน้าเธอก็แดง

 

 

คุณพระช่วย เสี่ยวเชี่ยนยังจะคิดแบบนั้น

 

 

อวี๋หมิงอี้ไม่รู้ความคิดที่กำลังพรั่งพรูอยู่ในสมองของต้งอีในเวลานี้ และก็คงไม่รู้ด้วยว่าต้าอีนึกไปถึงบทสนทนาที่ไม่เหมาะมากขนาดไหน

 

 

เขาพูดอย่างจริงจัง “ถอดเสื้อสิ”

 

 

“ถอด…?”

 

 

ต้าอีหน้าแดงกล่ำ หรือว่า หรือว่า พี่รองอยากจะ…จึ๊ก?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด