แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 478 ได้ปลดปล่อยเสียที

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 478 ได้ปลดปล่อยเสียที at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ร้อยคนก็ร้อยแบบ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเธอถึงได้เหนื่อยเหมือนร่างจะแยกออกเป็นเสี่ยงๆ จุดซ่อนเร้นนั่นก็เจ็บจนเหมือนจะฉีกออก ส่วนอวี๋หมิงหลางน่ะเหรอ สีหน้าบ่งบอกว่ามีความสุขอย่างล้นเหลือ 

 

 

เขาเอากล่องกระดาษทิชชู่มาทำเป็นโทรโข่ง แล้วพูดจาโม้ใส่เสี่ยวเชี่ยนอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้ครอบครองเสี่ยวเชี่ยนแล้วเอวก็ไม่ปวด เลือดกำเดาก็ไม่ไหล ชั่วเวลาไม่นานทำไปตั้งหลายรอบโดยไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย ฮี่ๆ ไม่รู้สึกผิดต่อเสี่ยวเฉียงน้อยแล้ว กลิ่นวะนิลาไม่เลวเลย ครั้งเดียวเจ๋งยิ่งกว่าสามครั้ง…ยังไม่ทันจะได้บรรยายจนจบก็ถูกเสี่ยวเชี่ยนหยิกหู ถ้ายังกล้าเพ้อเจ้ออีก จะปล่อยให้หิวไปทั้งปีเลย 

 

 

แบบนั้นไม่ได้ ถ้ายังไม่เคยกินยังไม่เท่าไร แต่นี่ได้สัมผัสกับวิวที่สวยงามที่สุดบนโลกไปแล้ว จะให้กลับไปถือศีลกินเจเหมือนเมื่อก่อนได้ยังไง? 

 

 

ไม่ได้เด็ดขาด 

 

 

ในที่สุดชายหนุ่มเจ้าคารมก็เลิกแต่งกาพย์กลอนเพี้ยนๆ หันมาทำตัวว่าง่ายกับเธอ เอาเทพวีนัสสิบองค์มาแลกกับเฉินเสี่ยวเชี่ยนคนเดียวเขาก็ไม่ยอม เทพแขนขาดแบบนั้นมีหรือจะสู้สุดที่รักของเขาที่สวยงามเบ่งบานเหมือนดอกไม้แรกแย้มแบบนี้ได้? 

 

 

แต่น่าเสียดายที่ความสุขอันสวยงามแบบนี้เขาแบ่งปันให้คนนอกรู้ไม่ได้ คำพูดชื่นชมเธออย่างจริงใจก็ถูกเสี่ยวเชี่ยนห้ามเอาไว้ อวี๋หมิงหลางทำได้แค่ข่มเก็บมันไว้ในใจอย่างเสียดาย ช่วยเธอแต่งตัวจนเสร็จแล้วพาเธอออกไปกินข้าว 

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนไม่อยากขยับตัวเลยแม้แต่น้อย เธอรู้สึกเหมือนตอนนี้ตัวเองกลายเป็นคนพิการ แค่เดินยังเจ็บ อยากจะนอนอยู่เฉยๆบนเตียงจนเช้า แต่ตอนนี้อวี๋หมิงหลางไม่อยากให้เธออยู่ห่างจากสายตาแม้แต่วินาทีเดียว จะให้เธอออกไปด้วยให้ได้ ถึงขนาดบอกว่าถ้าเธอไม่อยากเดินเดี๋ยวเขาแบกได้ 

 

 

ตือโป๊ยก่ายแบกเมีย… 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้จะพูดยังไงกับผู้ชายที่ไม่มีประสบการณ์คนนี้ว่าเธอปวดมาก คาดว่าเขาเองก็คงไม่รู้ ผู้ชายที่เอะอะก็สืบค้นข้อมูลอีกทั้งยังเป็นพวกถือเรื่องความสะอาดทางด้านความรู้สึก คงคิดว่าจะเจ็บแค่ตอนที่เยื่อพรหมจรรย์ขาดเท่านั้น แต่กลับไม่รู้เลยว่าอาการปวดจะมีต่อเนื่องไปอีกหลายวัน 

 

 

ประธานเชี่ยนยังคงวางมาด อายที่จะพูดออกไป และก็แอบกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วตานี่จะรู้สึกผิด เห็นเขามีความสุขขนาดนี้ก็แอบหมั่นไส้เบาๆ รู้สึกว่าตอนนี้อวี๋หมิงหลางจิตใจสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างมาก เอาไม้เขี่ยขี้แหย่ก็คงยังอารมณ์ดีได้ สุขใจอะไรเบอร์นั้น 

 

 

ครั้นแล้วจึงได้แต่แสร้งทำเป็นว่าไม่เจ็บไม่ปวด ก้าวเดินอย่างลำบาก เดินตามเขาออกไป 

 

 

ออกไปเจอป้าทำความสะอาดคราวก่อนพอดี อวี๋หมิงหลางรีบโอบเสี่ยวเชี่ยนเข้ามา แล้วถลึงตามองป้าอย่างภูมิใจ 

 

 

อีกทั้งยังพูดเสียงเข้มกับป้า “ไปเก็บห้อง1314ด้วยครับ พวกเราขอซื้อผ้าปูที่นอน เอาถังขยะไปเททิ้งด้วยนะครับ” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนโมโหกับความหน้าด้านของเขาเลยหยิกเอวลงไปแรงๆ อวี๋หมิงหลางรู้สึกเหมือนตัวเองได้ลบล้างความอับอายไปจนหมดสิ้นแล้ว เขาแทบอยากจะเอาเสี่ยวเชี่ยนแห่ไปให้ทั่วเมือง 

 

 

ป้าแม่บ้านที่ลืมเขาไปนานแล้วมองตามหลังอวี๋หมิงหลางด้วยความงุนงงพลางพึมพำ “บ้าเปล่าเนี่ย…” 

 

 

อวี๋หมิงหลางเป็นผู้ชายที่อยู่ด้วยง่าย ขอแค่เสี่ยวเฉียงน้อยอิ่มจะใช้เขารังแกเขายังไงก็ได้ เขาบริการเสี่ยวเชี่ยนอย่างยิ้มแย้ม มื้อนี้เสี่ยวเชี่ยนกินด้วยความเรื่องมาก เดี๋ยวก็ว่าซุปร้อนไป เดี๋ยวก็ว่าแกะปูช้า แต่อวี๋หมิงหลางก็ไม่โกรธ จะดุจะว่ายังไงก็ได้  

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนอยากจะเอาคืนเขาที่ทำเป็นได้ใจใหญ่ แต่พอเห็นเขาอารมณ์ดียิ้มตาหยีขนาดนี้ความโกรธก็หายหมด ดูแล้วรื่นตา คล้ายกับว่าไม่ปวดแล้ว 

 

 

นึกถึงชาติที่แล้วที่แค่ครั้งเดียวทำเสร็จก็เล่นเอาเธอโกรธไปหลายวัน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตอนนี้ก็มีความสุขดี แม้แต่อวี๋เสี่ยวเฉียงที่ทำตัวหน้าด้านแต่งกลอนเพี้ยนๆเธอก็ยังไม่หงุดหงิดเท่าไร 

 

 

“น้องคะ” เสี่ยวเชี่ยนเรียกพนักงานมาขอเมนู กวาดตามองจนทั่วแล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ตรงจุดหนึ่ง 

 

 

“เพิ่มซุปซานเย่าเก๋ากี้หนึ่งที่ค่ะ” 

 

 

“ลูกเชี่ยน ซุปยังมีอยู่เลยนะ?” อวี๋หมิงหลางมองซุปที่ยังเหลืออยู่เกินครึ่งหม้อแล้วถามด้วยความสงสัย 

 

 

“สั่งให้นาย” 

 

 

พอพนักงานเดินไปแล้วเสี่ยวเชี่ยนก็ลูบหน้าเขา จากนั้นก็พูดกึ่งล้อเล่นกึ่งจริง “สามีภรรยาทำเรื่องอย่างว่าบ่อยๆธาตุภายในจะอ่อนแรงลง แพทย์แผนจีนเรียกว่า ‘หมดกำลัง’ แล้วยิ่งคู่ข้าวใหม่ปลามันแล้วด้วย การดื่มซุปบำรุงจะช่วยปรับสภาพภายในได้ พรุ่งนี้นายจะไปฝึกแล้ว คงไม่อยากไปเข่าทรุดต่อหน้าลูกน้องหรอกใช่ไหม?” 

 

 

ตานี่ต้องเป็นคนจากดาวดวงอื่นแน่ๆ พลังถึงได้มีมากมายจนล้นขนาดนี้ 

 

 

อันที่จริงเสี่ยวเชี่ยนอยากจะสื่อว่าเดี๋ยวกลับไปใครบางคนแถวนี้ควรจะเพลาๆลงบ้าง เลิกทำอย่างบ้าคลั่งแล้วรีบนอนพักผ่อนซะ 

 

 

แต่อวี๋หมิงหลางกลับเข้าใจเป็นว่า ลูกเชี่ยนนี่ช่างเอาใจใส่เขากลัวเขาเหนื่อยเลยอยากบำรุงให้ก่อน 

 

 

ครั้นแล้วจึงพูดด้วยความซึ้งใจ “วางใจได้ ผมเป็นสามีจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แรงดีไม่มีตก…” 

 

 

ทำไมเสี่ยวเชี่ยนฟังดูรู้สึกแปลกๆ? 

 

 

อวี๋หมิงหลางถือคติที่ว่า กินภาษีประชาชนก็ต้องรับใช้ประชาชน ต้องทำสงครามยันเช้า~ 

 

 

แต่พอซุปที่สั่งมาถึง เสี่ยวเชี่ยนป้อนเขาไปได้หนึ่งคำอวี๋หมิงหลางก็หน้านิ่ว 

 

 

“ผมเคยกินมันมาก่อน” 

 

 

แถมยังกินบ่อยด้วย 

 

 

“หืม? กินที่ไหน?” เสี่ยวเชี่ยนหรี่ตามอง 

 

 

นี่มีคนจ้องจะอยากได้ซุปเปอร์เสี่ยวเฉียงของเธออย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เด็ดขาด นับตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ไม่นาน ผู้ชายคนนี้ทั้งบนและล่าง แม้แต่จุดที่ไม่อาจบรรยายมีร่องรอยของเธอสลักไว้ทั้งหมด ใครกล้ามาแย่งเขาไปมันต้องตายกันไปข้าง 

 

 

“แผนกครัวทำให้กินไง พวกเขาทำไอ้นี่ให้ผมกินบ่อยๆ บอกว่าเป็นซุปบำรุงจากที่บาดเจ็บครั้งก่อน แต่บ่าผมหายตั้งนานแล้วนะ บอกพวกเขาแล้วว่าไม่ต้องทำแล้ว แต่ก็ไม่ฟัง ผมเองก็ไม่อยากทิ้ง เสียดายของ ก็เลยทนกินๆไป…” 

 

 

เขาบ่นออกมายืดยาว พอเห็นเธอทำหน้าคิดหนักจึงรีบยิ้มเอาใจ “แต่ซุปที่ลูกเชี่ยนป้อนอร่อยกว่าเยอะเลย เอาอีกๆ~” 

 

 

“……” เสี่ยวเชี่ยนพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมเสี่ยวเฉียงที่น่าสงสารของเธอถึงได้เลือดกำเดาไหลบ่อยๆ 

 

 

พอจะเดาได้ว่ามีคนจัดแจงอยู่เบื้องหลัง มีว่าที่แม่สามีที่ดีเกินไปก็ปวดหัวเหมือนกันนะ… 

 

 

ก่อนกลับเสี่ยวเชี่ยนอยากซื้อยาทาแก้ปวด แค่คิดดูก็รู้ว่าต้องบวมแน่ แต่ก็อายที่จะพูดออกไปตรงๆ ทำได้แค่บอกว่าตัวเองอยากไปร้านขายยา โชคดีที่ออกจากร้านอาหารไปไม่ไกลก็เจอ เพียงแต่จะเดินไปร้านยาต้องผ่านตลาดกลางคืนก่อน 

 

 

ทั้งสองคนเดินไป เสี่ยวเชี่ยนให้อวี๋หมิงหลางรออยู่ด้านนอก แต่เขาก็เดินตามเข้าไป อีกทั้งยังทำหน้าเหมือนหมาหวงเจ้าของ กลัวเจ้านายหาย เสี่ยวเชี่ยนจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย 

 

 

“ขอยาทาแก้ปวดบวมค่ะ …ฉันปวดมือ” ประโยคสุดท้ายคือข้ออ้าง 

 

 

อวี๋หมิงหลางฉวยโอกาสตอนที่พนักงานไปหยิบยาพูดด้วยความไม่อาย 

 

 

“ขอดูเร็กซ์กลิ่นผลไม้ เอาแบบบางสุดๆนะครับ” 

 

 

“ได้ครับ รอสักครู่” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนตัวแข็ง หน้าแดงกล่ำขึ้นทันตา พนักงานที่แสนจะ ‘ใส่ใจ’ ตอนที่ไปหยิบถุงยางกลิ่นผลไม้ ก็ได้หยิบยาอีกหลอดยื่นให้เสี่ยวเชี่ยน แล้วพูดด้วยความหวังดี 

 

 

“พี่ครับ ถ้าพี่จะทาตรงนั้นล่ะก็ ผมแนะนำใช้แบบสมุนไพรร้อยเปอร์เซ็นต์ดีกว่า แต่ถ้าพี่จะทามือที่เจ็บก็เอาหลอดที่พี่ถืออยู่ เอาอันไหนดีครับ?” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหน้าแดงจนแทบระเบิด อายจะตายอยู่แล้ว เมื่อกี้เธอจะหาข้ออ้างไปทำไมกัน น่าอายจริงๆ ทำได้แค่รีบชี้ไปยังยาทาสมุนไพรร้อยเปอร์เซ็นต์หลอดนั้นอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองสีหน้าของพนักงาน แล้วรีบเดินออกจากร้านทันที ทิ้งเสี่ยวเฉียงที่ซื้อถุงยางอย่างใจเย็นไว้ในนั้น 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด