แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 526 เจ็บปวดสุดใจ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 526 เจ็บปวดสุดใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หัวหน้าโลนวูล์ฟได้ทำการตัดสินใจอย่างถูกต้องหลังจากที่ได้วิเคราะห์แล้ว วันนั้นสถานีสื่อสารเกิดขัดข้องเนื่องมาจากฝนตกฟ้าผ่าทำให้ไม่สามารถติดต่อกับหน่วยกลางได้ อีกทั้งโอกาสในการไล่ล่าคนร้ายกำลังจะหายไปต่อหน้า หัวหน้าโลนวูล์ฟจึงอาศัยประสบการณ์ที่มีอยู่มากตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง อันตรายที่เกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนแผนนั้นเขารู้ดีกว่าใคร ดังนั้นเดิมจากที่ควรต้องให้กลุ่มสายสืบเข้าก่อน เขากลับเลือกที่จะเข้าไปเอง ไม่ใช่เพราะเขาเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงาน แต่เป็นเพราะเขาระลึกเสมอว่าตัวเองเป็นหัวหน้า” 

 

 

นี่คือหน้าที่ของหัวหน้า นี่คือภารกิจ นี่คือหน่วยทหาร 

 

 

ไม่ว่าตอนฝึกจะเข้มงวดเพียงใด พออยู่ในสนามรบทุกคนเป็นเหมือนพี่น้องกัน อุปสรรคขวากหนามที่มีร่วมกันฝ่าฟัน ช่วงเวลาที่มีร่วมกันคนนอกยากที่จะเข้าใจถึงเกียรตินี้ 

 

 

นี่คือความศรัทธา และเป็นจิตวิญญาณของนักรบ 

 

 

โลนวูล์ฟได้ทำเรื่องที่ควรทำในฐานะที่เป็นนักรบ ยอมพลีชีพเพื่อให้เพื่อนทหารได้มีโอกาสได้รับชัยชนะ จากสงครามในครั้งนั้นฝ่ายเราสูญเสียทหารไปหนึ่งนาย ฆ่าศัตรูไปนับสิบคน ช่วยชาวบ้านบริสุทธิ์ได้เป็นจำนวนมาก 

 

 

เส้นทางเดิมที่เข้าไปแล้วอาจพากันไปตาย พอเปลี่ยนเส้นทางก็อาจต้องเข้าสู่พื้นที่กับดักระเบิดของศัตรู ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนมีอันตราย นอกจากสองเส้นทางนี้แล้วก็คือการยอมแพ้ต่อภารกิจ ในสถานการณ์ที่ศัตรูคิดว่าทหารต้องล่าถอยอย่างแน่นอน แต่กลับคาดไม่ถึงว่าตัวเองเจอกับของแข็งเข้าแล้ว นักรบที่กล้าหาญรู้ว่ามีอันตรายแต่ก็ยังฝ่าเข้าไป 

 

 

ก่อนหน้านี้ได้มีสายสืบต้องพลีชีพไปเพื่อนำข่าวนี้มารายงาน หากพลาดโอกาสนี้ปล่อยให้คนพวกนั้นหนีไปได้ก็จะมีผู้คนนับพันนับหมื่นต้องเคราะห์ร้าย โลนวูล์ฟใช้สัญชาตญาณของการเป็นนักรบยอมพลีชีพเพื่อแลกกับชัยชนะที่มีค่านี้ 

 

 

ศาสตราจารย์หลิวกับหัวหน้าใหญ่ต่างจับมือกันร้องไห้ พูดไม่ออก 

 

 

ลูกชายเป็นวีรบุรุษที่มีเกียรติ ใช้ชีวิตที่น่าเศร้าแลกสันติสุข การที่ได้เลี้ยงวีรบุรุษแบบนี้มาทำให้พวกเขาทั้งเศร้าทั้งภูมิใจ 

 

 

แม้แต่เสี่ยวเชี่ยนที่เป็นคนไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้คนภายนอกได้เห็นยังต้องหยิบกระดาษมาเช็ดน้ำตา 

 

 

ส่วนหูเหม่ยจิ้งฟุบลงกับโต๊ะร้องไห้เสียงดัง เสียงร้องไห้ของเธอนั้นเหมือนฉีกหัวใจของทุกคน 

 

 

“ผมเชื่อว่าตอนที่หัวหน้าโลนวูล์ฟตัดสินใจเขาไม่ได้เอาอารมณ์ส่วนตัวในแง่ลบมาเกี่ยวข้องครับ ถ้าตอนนั้นสภาพอารมณ์เขาไม่นิ่งคงไม่เลือกเปลี่ยนเส้นทางแต่จะไปทางเดิมต่อ ถ้าเขาไม่มีสติอยู่ตลอดเวลาไม่มีทางคาดการณ์ถึงอันตรายได้จากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆหรอกครับ อันที่จริงพวกเราตกหลุมพรางของศัตรูกันตั้งแต่แรกแล้วครับ” 

 

 

คำพูดของอวี๋หมิงหลางทำให้ทุกคนเงียบ ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ 

 

 

นี่คือแผนที่ศัตรูวางไว้เป็นอย่างดี จุดประสงค์ที่เลือกฤดูฝนก็เพราะต้องการให้เหล่าทหารเลือกทางตายหนึ่งในสองทาง ต้องการให้ฝ่ายเรารู้ถึงอันตรายแล้วถอยไป แต่ทหารนักรบที่กล้าหาญไม่กลัวตาย เพื่อความสงบสุขของประชาชน วินาทีที่ติดอาวุธถือปืน สิ่งที่อยู่ในใจนั้นมีแค่คำว่าเดินหน้าห้ามถอยสี่คำนี้ ประชาชนอยู่เบื้องหลัง ถอยไม่ได้แม้แต่ครึ่งก้าว 

 

 

“การที่เพื่อนทหารต้องมาพลีชีพเป็นเรื่องที่พวกเราเจ็บปวดที่สุด พวกเราต้องนำพลังแห่งความโกรธนี้แปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันปกป้องสันติสุขที่วีรบุรุษของพวกเราใช้เลือดเนื้อแลกมา ไม่ใช่โจมตีครอบครัวของวีรบุรุษ คู่หมั้นของหัวหน้าโลนวูล์ฟเคยเป็นโรคจิตเวชอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากรับไม่ได้กับการจากไปของเขา แม่ของเขาและคู่หมั้นของผมกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยรักษาเธอ วันนี้การที่ทุกคนมาอยู่รวมกันก็เพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่างครับ” 

 

 

อวี๋หมิงหลางพูดจบได้เดินไปที่หูเหม่ยจิ้ง ศาสตราจารย์หลิวและหัวหน้าใหญ่แล้วพูดอย่างหนักแน่น 

 

 

“พวกเราสัญญาว่าจะรักษาสันติสุขอันมีค่านี้ด้วยความพยายามทั้งหมดที่มี เพื่อให้ดวงวิญญาณของวีรบุรุษไปสู่สุขคติ รักษาสันติสุขให้คงอยู่ตลอดไปครับ” 

 

 

ทุกคนยืนขึ้น แล้วทำความเคารพให้กับครอบครัวของวีรบุรุษภายใต้การนำของอวี๋หมิงหลาง เสี่ยวเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาแห่งความประทับใจ เธอเองก็ยืนขึ้นมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า 

 

 

หนามที่ทิ่มแทงใจทุกคนถูกดึงออกมาแล้ว ปริศนาที่คลี่คลายทำให้ทุกคนเสียใจอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง 

 

 

โลนวูล์ฟไม่ได้บุ่มบ่ามอันเนื่องมาจากอารมณ์ส่วนตัว เธอเองก็ไม่ได้ใจดำตัดสายสัมพันธ์ในตอนนั้น แต่โชคชะตาอันโหดร้ายกลับทำให้คู่รักที่เดิมควรได้อยู่ด้วยกันต้องอยู่กันคนละโลก 

 

 

ถึงเวลานี้จะอยู่ในช่วงโศกเศร้า แต่เรื่องราวกลับได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้ว 

 

 

ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตเขาได้จากไปอย่างมีเกียรติ ส่วนเธอกลับสูญเสียตัวตนเพราะรักเขามากเกินไป ทำให้เป็นโรคจิตเวช 

 

 

เขาซื่อสัตย์ต่อภารกิจ ส่วนเธอปกป้องความรักของตัวเอง 

 

 

ฝนในฤดูใบไม้ผลิมีค่าดุจน้ำมัน ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า หยาดฝนโปรยปรายอยู่นอกหน้าต่างกระทบกับกระจกเบาๆ ทำให้เกิดรอยหยดน้ำเล็กๆ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนมองสายฝนด้านนอก ขั้นที่สองของการรักษาให้หูเหม่ยจิ้งได้สิ้นสุดแล้วตรงนี้ 

 

 

ถ้าโชคชะตาไม่พาคนไข้ของเธอมาอยู่ตรงทางแยกที่ต้องเลือก เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะไขปริศนานี้หรือเปล่า แต่พอเห็นเหล่าผู้ชายอกสามศอกในที่นี้พากันร้องไห้ ในที่สุดเสี่ยวเชี่ยนก็เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอนเธอ 

 

 

ในฐานะที่เป็นหมอ ความรู้สึกบางอย่างสำคัญยิ่งกว่าเงินทอง เสี่ยวเชี่ยนเชื่อว่าครั้งนี้เธอตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว 

 

 

ป้ายหินของหลิวส่วงตั้งตระหง่านท่ามกลางสายฝน เบื้องหน้ามีหูเหม่ยจิ้งและพ่อแม่ของหลิวส่วงทำพิธีเซ่นไหว้ที่ล่าช้าไปหลายปี 

 

 

สายฝนและน้ำตาหลอมรวมกัน ที่ควรมาสุดท้ายก็ต้องมา 

 

 

เวลาและความทรงจำเป็นสิ่งที่โหดร้ายและไร้ความเมตตา ในความทรงจำที่มีอยู่อย่างจำกัด ยังคงเป็นภาพที่เขาทะเลาะกับเธอแล้วจากไป ส่วนเธอยังคงรอให้เขากลับมาเพื่อบอกขอโทษ แต่เวลาได้ขโมยความทรงจำของเธอไปหลายปี พอเธอหวนกลับมานึกได้เบื้องหน้าก็เหลือเพียงป้ายวิญญาณของเขาแล้ว 

 

 

หลังจากที่หูเหม่ยจิ้งได้รับการรักษาจากเสี่ยวเชี่ยน เธอก็สามารถเผชิญกับความจริงที่ว่าเขาไม่มีวันกลับมาแล้ว การรักษาในขั้นที่สองทำให้เธอได้ปลดปล่อยความรู้สึกผิดในใจ ถึงแม้ความทุกข์จากการสูญเสียเขายังคงอยู่ แต่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ความรู้สึกผิดยังคงค้างคาอยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอ 

 

 

การเซ่นไหว้นี้ควรทำตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เพราะขาดสิ่งนี้ไปทำให้หูเหม่ยจิ้งรู้สึกยังติดค้างบางอย่าง สมาชิกคนอื่นๆของหน่วยย่อยโลนวูล์ฟต่างก็ไม่สบายใจในเรื่องนี้ ตอนที่ผู้หญิงอ่อนแอคนนี้ลูบป้ายหินอันเย็นยะเยือกด้วยหัวใจที่ปวดร้าว อวี๋หมิงหลางและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ไม่ไกลต่างอยู่ในความรู้สึกที่สับสน 

 

 

หลิวส่วงนอนหลับตลอดกาลอยู่ใต้ผืนดิน แต่ทุกคนที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้ หลังจากวันนี้เป็นต้นไปยังคงต้องใช้ชีวิตต่อ 

 

 

หูเหม่ยจิ้งลูบรูปของหลิวส่วง ในสมองคล้ายกับมีภาพต่างๆปรากฏมากมาย เป็นช่วงเวลาดีๆของทั้งสองคนตอนอยู่ด้วยกัน เธอไม่กล้าถามว่าในช่วงหลายปีที่เธอสูญเสียความทรงจำนี้เธอทำอะไรไปบ้าง รักกับใครคนไหน แต่หลังจากที่เธอร้องไห้จนพอใจแล้ว ในใจกลับว่างเปล่า ในอนาคตเธอควรเดินไปทางไหน 

 

 

เธอเป็นใครกันแน่ ตกลงเธอรักใคร ตกลงเธอเป็นของใคร… 

 

 

ทันใดนั้นเบื้องหลังเธอก็มีเสียงเพลงที่คุ้นเคย 

 

 

“คุณเคยพูดว่าจะรักผมตลอดไป 

 

 

ผมเข้าใจคำว่าความรัก แต่ตลอดไปคืออะไร 

 

 

สาวน้อยโปรดอย่าร้องไห้ เรายังอยู่ด้วยกัน 

 

 

ความสุขในวันนี้กำลังจะเป็นความทรงจำอันเจ็บปวดในวันพรุ่งนี้ 

 

 

ลาๆๆ ลาๆๆ ลาๆๆ 

 

 

ละทิ้งได้ทุกอย่าง แต่ลืมไม่ได้สักอย่าง 

 

 

ตอนนี้สิ่งที่คุณพูดเป็นเพียงความกล้าหาญของคุณ 

 

 

สายลมพัดผ่านในฤดูใบไม้ผลิ สายฝนในฤดูใบไม้ร่วง 

 

 

ความปรารถนาต่างๆล้วนถูกพัดไปตามสายลม 

 

 

ที่รัก เราสองคนจะไม่แยกจากกันตลอดกาล” 

 

 

นี่คือเพลง เพลงรัก1980 ที่โลนวูล์ฟชอบมากตอนมีชีวิตอยู่ หูเหม่ยจิ้งหันไปด้วยความตกใจ พอเห็นภาพตรงหน้าน้ำตากลับไหลออกมาดั่งหยาดฝน 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด