แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 565 เจ้าของบ้านกับภาพลักษณ์

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 565 เจ้าของบ้านกับภาพลักษณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สถานีโทรทัศน์กับสถานีวิทยุทำงานอยู่ตึกเดียวกัน ออกจากตึกไปจะเป็นลานจอดรถ เสี่ยวเชี่ยนเดินไปที่รถสีแดงของตัวเอง อวี๋หมิงหลางอยากขับ แต่เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองเขาจึงเดินไปนั่งข้างคนขับ  

 

 

เธอได้ใบขับขี่มาเมื่อหนึ่งปีครึ่งก่อน อวี๋หมิงหลางไปคุมการสอบด้วยตัวเอง  

 

 

ตอนเธอสอบอวี๋หมิงหลางแลกเวรเพื่อมาคุมโดยเฉพาะ เขายืนอยู่ข้างคนคุมสอบด้วยท่าทางเอามือกอดอก สวมแว่นกันแดด เห็นแล้วน่ากลัวไม่น้อย  

 

 

ท่าทางประมาณว่าใครกล้าให้ผ่านส่งเดชเจอดีแน่ เล่นเอาคนคุมสอบกดดันเป็นอย่างมาก ตกลงนี่ใครเป็นคนประเมินว่าผ่านกันแน่ เป็นครั้งแรกที่เห็นญาติคนสอบไม่ขอให้ปล่อยผ่านง่ายๆ อีกทั้งยังจับตามองคนคุมสอบ  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าเขาไม่อยากให้เธอได้ใบขับขี่ ชอบตั้งข้อสงสัยเรื่องเทคนิคการขับของเธอ  

 

 

อวี๋หมิงหลางคิดในใจว่าถ้าเธอขับไม่ดีกลับไปจะให้ฝึกใหม่ แต่หลังจากเห็นฝีมือในการขับรถของเสี่ยวเชี่ยนแล้วก็ยอม  

 

 

ชาติที่แล้วขับจนชำนาญแล้วฮึ่ย  

 

 

จากนั้นเพื่อเป็นการลงโทษที่เขาทำตัวมากเรื่อง เย็นวันนั้นเสี่ยวเชี่ยนจึงถีบอวี๋หมิงหลางให้ลงไปนอนบนพื้น  

 

 

นอนไปได้สักพักก็ถูกใครบางคนลากไปบนพื้น อีกทั้งยังให้เหตุผลว่า คุณไม่ให้ผมขึ้นไปนอน งั้นก็ลงมานอนกับผมสิ ลูกผู้ชายรักษาสัญญากับเมียเสมอ ไม่ให้ขึ้นไปทำงั้นก็ทำข้างล่าง  

 

 

ครั้นแล้วทั้งพื้นเอย โซฟาเอย ห้องน้ำเอย หรือแม้แต่ดาดฟ้าก็จัดไป  

 

 

สัตว์ป่าตัวนี้แม้แต่ดาดฟ้าก็ไม่เว้น มันโจ่งแจ้งมากเลยนะ ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครเห็น แต่เสี่ยวเชี่ยนก็ใจเต้นแรงอยู่นาน ความรู้สึกหวาดเสียวนั่นก็ดีอยู่นะ—ไม่ถูกสิ เธอควรจะอาย  

 

 

ถึงจะอายแต่ทุกครั้งที่ขับรถเธอมักจะนึกถึงเรื่องคืนนั้น อย่างเช่นตอนนี้ที่ไล่ให้เขาไปนั่งข้างคนขับ  

 

 

รถคันนี้พี่ใหญ่ให้เป็นของขวัญวันหมั้น เหมาะสำหรับผู้หญิงทำงานในเมือง ที่นั่งข้างคนขับมีพื้นที่จำกัดเบาะก็ปรับไม่ได้ เสี่ยวเชี่ยนชอบเห็นเขานั่งคุดคู้อึดอัดแบบนั้น สมน้ำหน้า  

 

 

“นายมาตั้งแต่เมื่อไร กินข้าวหรือยัง เข้าไปได้ยังไง?”  

 

 

“ถามมาซะเยอะคุณจะให้ผมตอบคำถามไหนก่อน หืม?” ผู้ชายที่นั่งข้างคนขับเอามือเท้าคางมองเมียตัวเอง  

 

 

“อย่ามากวนประสาท” เสี่ยวเชี่ยนกลับรถอย่างคล่องแคล่วแล้วขับรถออกไป  

 

 

“พอแข่งเสร็จลงจากเครื่องบินก็มาเลย ยังไม่ได้กินข้าวรอคุณมาป้อน ส่วนผมเข้าไปได้ยังไง…คำถามนี้ดูโง่ไปหน่อย ผมขอปฏิเสธการตอบ”  

 

 

“ทำเป็นเก่ง แข่งชนะหรือเปล่า?”  

 

 

ครั้งนี้อวี๋หมิงหลางพาทีมไปแข่งไม่ใช่เข้าร่วมฝึกซ้อม เป็นการแข่งระหว่างทหารหน่วยรบพิเศษด้วยกัน  

 

 

ช่วงสองปีมานี้หน่วยรบพิเศษพัฒนาไปไวมาก ค่ายทหารแต่ละพื้นที่ต่างมีทีมหัวกะทิเป็นของตัวเอง ตอนนี้อวี๋หมิงหลางเป็นหัวหน้าหน่วยกลางแล้ว การที่เขาเป็นคนพาทีมไปร่วมแข่งด้วยตัวเองถือเป็นเกียรติของทั้งค่าย  

 

 

“แน่นอน ทีมที่ผมพาไปเองจะแพ้ได้ไง? ก็แค่เสียดายที่ตัวเองไม่ได้ลงไปเล่นสักเกมสองเกม คันไม้คันมือเป็นบ้า”  

 

 

ถัดจากอวี๋หมิงหลางลงไปยังมีหัวหน้าทีมย่อยอีกหลายคน ด้วยสถานะของเขาทำได้แค่คอยบัญชาการห้ามลงแข่ง ได้แต่เก็บความอัดอั้นไว้ไม่มีที่ระบาย เขาอยากจะลงแข่งด้วยตัวเองจริงๆ  

 

 

โชคดีที่ทหารของเขาเก่ง ผลงานแต่ละรายการโดดเด่นมาก  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนได้ยินดังนั้นก็ดีใจไปด้วย กำลังจะเอ่ยปากชมก็ได้ยินเขาหัวเราะแบบชั่วร้าย  

 

 

“อยู่ข้างนอกระบายไม่ได้ คุณก็ต้องให้ผมกลับมาระบายที่บ้าน อึดอัดมากเลยลูกเชี่ยน~” อยู่ข้างนอกจับปืนลงสนามไม่ได้ เลยต้องกลับมาใช้ปืนที่บ้าน ไม่น่ามีปัญหานะ  

 

 

อยากฮัมเพลงจัง พ่อแม่ให้ปืนมาหนึ่งกระบอก ยังไม่เคยได้ขัดให้ขึ้นเงาเลยสักครั้ง~  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเหยียบเบรกกะทันหัน อยากจับเขาโยนไปนอกหน้าต่างจริงๆ ไอ้คนหน้าด้าน…  

 

 

บ้านที่เธอซื้ออยู่ไม่ไกลจากสถานีโทรทัศน์ ขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง เธอเพิ่งซื้อเมื่อต้นปี  

 

 

ช่วงสองปีมานี้มีอสังหาริมทรัพย์ชื่อเธอเพิ่มขึ้นมาอีกสองแห่ง ที่หนึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกับแม่เธอ ส่วนอีกที่เป็นบ้านสองห้องนอนอยู่เมืองใกล้ๆ ไม่ไกลจากสถานีโทรทัศน์ ถึงพื้นที่ใช้สอยจริงจะไม่มาก แต่ทำเลดี  

 

 

จนถึงตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนมีบ้านในชื่อของตัวเองสามหลังกับตึกแถวในเมืองอีกหนึ่งแห่ง อวี๋หมิงหลางนอกจากมีบ้านสองชั้นหลังนั้นแล้ว เขายังได้ซื้อห้องเช่าออฟฟิศกับห้องเปิดร้านค้าจากพี่ชาย ตลาดหุ้นซบเซาหนักทำให้หลายคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า เขากับเธอไม่เพียงแต่จะหนีรอด ยังได้พาคนรอบตัวหนีได้ทันด้วย  

 

 

รอดไปได้ก็เอาเงินไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ราคาบ้านยังไม่ทะยานขึ้น เล่นเอาเจี่ยซิ่วฟางบ่นเสี่ยวเชี่ยน ลูกสาวคุมเงินของลูกเขยเข้มซะขนาดนั้น อีกทั้งยังเอาไปซื้อบ้านเยอะแยะ พออยู่ก็พอแล้ว จะซื้อไปเยอะแยะทำไม  

 

 

แต่ปัญหาก็คือลูกเขยไม่ว่าอะไร เสี่ยวเชี่ยนให้ซื้อก็ซื้อ  

 

 

มีช่วงหนึ่งเจี่ยซิ่วฟางคิดจะเรียกลูกสาวมาอบรมว่าให้เลิกซื้อ  

 

 

ปรากฏว่านอกจากจะกล่อมไม่สำเร็จแล้วยังถูกเสี่ยวเชี่ยนกล่อมให้ซื้อตึกแถวในเมืองอีกหนึ่งห้อง กว่าเจี่ยซิ่วฟางจะรู้ตัวก็ประทับรอยนิ้วมือจ่ายเงินไปแล้ว ฝีมือการล้างสมองของเสี่ยวเชี่ยนเหนือชั้นมาก  

 

 

ตึกแถวในชื่อเจี่ยซิ่วฟางปล่อยให้คนเช่าหมด ได้ค่าเช่ามาก็ไม่ขาดทุน เพียงแต่คนที่ฝากเงินมาจนชินถูกเสี่ยวเชี่ยนเอาเงินไปซื้อบ้านแบบนี้ก็ไม่ชินเท่าไร บางครั้งอยากคุยกับเสี่ยวเชี่ยน เตรียมคำพูดเสียดิบดี แต่พอได้คุยจริงกลับถูกเสี่ยวเชี่ยนล้างสมอง  

 

 

สุดท้ายเจี่ยซิ่วฟางก็ยอมแพ้ เธอรู้สึกว่าลูกสาวเหมือนคนขายประกันที่พูดคนตายให้กลายเป็นคนเป็นได้ ชักจูงความคิดเก่ง  

 

 

อยากทำอะไรก็ทำเลย ขี้เกียจยุ่งด้วยแล้ว  

 

 

ขอแค่อวี๋หมิงหลางดีกับเสี่ยวเชี่ยนก็พอแล้ว คนนอกรักษาเด็กคนนี้ไม่ได้หรอก  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าปีหน้าราคาบ้านจะพุ่งสูง ภารกิจของเธอก็คือก่อนที่ราคาบ้านจะขึ้นรีบฆ่าแกะตัวอ้วนเอาเงินมาซื้อบ้าน เดี๋ยวแม่ก็ล้มเลิกความคิดอยากขัดไปเองหลังจากเห็นราคาบ้านพุ่งขึ้น  

 

 

มีบ้านหลายๆหลังอยู่เหนือทุกสิ่ง อีกสิบกว่าปีให้หลังบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์บริษัทหนึ่งจะล้มละลาย ขายบ้านสองหลังก็กำไรแล้ว แม่เธอชอบฝากเงินไว้เพราะอุ่นใจ แต่แล้วมันสามารถทำกำไรเพิ่ม16เท่าในหนึ่งปีไหมล่ะ?  

 

 

บ้าน บ้าน บ้านแล้วก็บ้าน  

 

 

ดังนั้นตอนนี้ต้องซื้อๆๆๆเพื่อทำกำไรในภายภาคหน้า  

 

 

พี่ใหญ่ไปกว้านซื้อที่ในเมืองหลวงตามคำแนะนำของเสี่ยวเชี่ยน ซึ่งถือเป็นเงินก้อนใหญ่ เขาแทบจะทุ่มหมดตัว ช่วงสองปีมานี้พี่ใหญ่ไว้ใจเสี่ยวเชี่ยนมากขึ้นเรื่อยๆ คำพยากรณ์ของประธานเชี่ยนเป็นจริงทุกครั้ง ตอนนี้ถือว่าเป็นกุนซือที่แสนเก่งกาจของพี่ใหญ่ไปแล้ว  

 

 

เป้าหมายต่อไปของเสี่ยวเชี่ยนคือซื้อบ้านในเมืองหลวง ตอนนี้ยังไม่จำกัดการซื้อ ยังซื้อเยอะได้อยู่ อนาคตของการเป็นเถ้าแก่ให้เช่าบ้านค่อยๆเติบโตขึ้นด้วยประการฉะนี้  

 

 

เธอจอดรถที่หน้าร้านปิ้งย่างแถวบ้าน ทั้งสองคนลงไปกินข้าว เวลานี้ไม่ค่อยเหลืออะไรขายแล้วนอกจากร้านปิ้งย่างเสียบไม้ที่ยังเปิดอยู่  

 

 

“ดื่มไหม?” อวี๋หมิงหลางถามเสี่ยวเชี่ยน ฤดูร้อนกินเบียร์กับของย่างเข้ากันที่สุด เขารู้ความสามารถในการดื่มเหล้าของเสี่ยวเชี่ยน บางครั้งทั้งสองคนจึงดื่มด้วยกัน  

 

 

“ได้—ช่างเถอะ” เดิมเสี่ยวเชี่ยนจะตอบตกลง แต่สายตาเหลือบไปเห็นในร้านมีคนนั่งอยู่โต๊ะหนึ่ง หน้าคุ้นๆเหล่านั้นทำให้เธอล้มเลิกความคิดจะดื่ม  

 

 

ขณะที่อวี๋หมิงหลางกำลังสงสัยว่าทำไมอยู่ๆเธอก็เปลี่ยนใจ จึงหันมองตามสายตาเธอแล้วก็ขำ  

 

 

ยัยตัวแสบ อยู่ต่อหน้าคนรู้จักยังหัดระวังเรื่องภาพลักษณ์ของหมอเป็นกับเขาด้วย  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด