แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 670 ได้เป็นใหญ่ในบ้านไม่ถึงสามวันหรอก

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 670 ได้เป็นใหญ่ในบ้านไม่ถึงสามวันหรอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

วันนี้เป็นวันมงคลจริงๆ มีคนมาจดทะเบียนสมรสจำนวนไม่น้อย ทำแต่ละขั้นตอนอย่างครบถ้วน ต้าหลงมาต่อคิวไว้ให้ก่อนแล้ว เสี่ยวเชี่ยนกับเสี่ยวเฉียงเข้าไปจดทะเบียนสมรส ประทับตรา จากนั้นทะเบียนสมรสที่มีชื่อของทั้งสองคนก็เสร็จสมบูรณ์แบบออกมาอย่างสดๆร้อนๆ

 

 

อวี๋หมิงหลางเอาทะเบียนสมรสมาดูแล้วดูอีก เขาภูมิใจเป็นอย่างมาก

 

 

“เมียจ๋า กินข้าวเย็นด้วยกันไหม?”

 

 

“ได้”

 

 

“เมียจ๋า เดี๋ยวผมพาคุณไปดูบ้านใหม่นะ?”

 

 

“ได้”

 

 

“เมียจ๋า สบายใจได้ ยังไล่กลิ่นในบ้านไปไม่หมด คุณยังมีเวลารักษาคนไข้อยู่ ไว้อีกสักพักค่อยย้ายบ้านกันเนอะ”

 

 

“อืม”

 

 

“เมียจ๋า เมียจ๋า เมียจ๋า~”

 

 

เรียกเท่าไรก็ไม่พอ ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ตามกฎหมายแล้วจริงๆ

 

 

เจี่ยซิ่วฟางเหล่มองลูกเขยเต็มตัวสดๆร้อนๆ เด็กคนนี้ปัญญาอ่อนหรือเปล่า แค่ทะเบียนสมรสยิ้มอย่างกับคนบ้า

 

 

“แฮ่มๆ!” เจี่ยซิ่วฟางแกล้งไอ “จดทะเบียนกันรีบร้อนไปหน่อย เดิมบ้านเราไม่ได้อยากรีบให้ลูกสาวแต่งออกหรอกนะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนมองบน คำพูดนี้ดูปลอมมากแม่ ลืมแล้วเหรอว่าก่อนหน้านี้ตัวเองโทรมาเร่งเรื่องแต่งงาน กลัวอวี๋หมิงหลางจะฟันแล้วทิ้ง ตอนนี้จดทะเบียนสมรสแล้วยังจะมาทำเป็นพูดดี

 

 

อวี๋หมิงหลางเป็นคนฉลาด พอได้ยินแม่ยายพูดแบบนี้ก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร

 

 

“คือแบบนี้นะครับแม่ เสี่ยวเชี่ยนยังไม่มีวันหยุดยาว ส่วนทางผมก็เพิ่งจะทำเรื่องย้ายที่ทำงานใหม่ เรื่องเลยค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวถ้าเราสองคนได้หยุดยาวเมื่อไรพวกเราจะกลับบ้านไปจัดงานแต่งนะครับ

 

 

“แล้วทางบ้านนั้น—”

 

 

“เนื่องจากเป็นการมาจดทะเบียนสมรสอย่างกะทันหัน เจ้าเล็กเป็นคนกำหนดวัน คุณพ่อผมไปประชุมที่อื่นกลับมาไม่ทัน คุณแม่ต้องดูแลคนแก่ที่ป่วยอยู่เลยมาไม่ได้ เลยส่งผมกับน้องชายมาเป็นตัวแทน ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณน้า ไว้รอเจ้าเล็กกับเสี่ยวเชี่ยนว่างจัดงานเมื่อไร พ่อกับแม่ผมมาแน่นอนครับ”

 

 

พี่ใหญ่ตอบพร้อมรอยยิ้ม วันนี้ตระกูลอวี๋มีสมาชิกเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน “น้องคนๆนี้อยู่ๆก็มาบอกแต่งงานเล่นเอาพวกเราตกใจกันใหญ่ ผมกำลังคุยธุรกิจอยู่ก็ต้องรีบมา นายจะทำให้มันดีๆหน่อยไม่ได้เหรอไง? ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้?”

 

 

พี่ใหญ่ตบบ่าอวี๋หมิงหลางไปหนึ่งที อวี๋หมิงหลางยิ้มเหมือนคนบ้า ไม่พูดอะไร มีเมียอย่างเป็นทางการแล้วเขามีความสุข~

 

 

ตอนหลุ่ยจือมาหาเรื่องเสี่ยวเชี่ยนที่บ้านเธอถึงได้รู้ว่าเย่ต้าเชียนถูกสุนัขกัดตรงน้องชายจนขาด แต่อวี๋หมิงหลางรู้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว เขาจึงรีบโทรบอกทุกคนให้มาจากเมืองQ

 

 

พอได้ฟังว่าคนในครอบครัวอวี๋ก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ ไม่ได้คิดจะยืดเยื้อ เจี่ยซิ่วฟางก็พอใจ

 

 

ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงอยู่ๆอวี๋หมิงหลางก็โทรมาบอกว่าจะแต่งงาน ให้พวกเธอมา เจี่ยซิ่วฟางถึงกับงงไปชั่วขณะ

 

 

ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

ถึงลูกสาวเธอจะเป็นของคนอื่นไปนานแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้ครอบครัวนั้นมองข้ามความสำคัญ พอได้ยินว่าคนในครอบครัวอวี๋ก็งงด้วยเหมือนกัน เจี่ยซิ่วฟางก็ไม่รู้สึกติดค้างในใจแล้ว

 

 

“หมิงหลาง ทำไมแกถึงได้รีบร้อนจดทะเบียนแบบนี้?”

 

 

“ก็เมียผมช่างดีเหลือเกิน กลัวจะถูกคนอื่นมาคาบไป เลยรีบจดก่อน เมียจ๋า~”

 

 

อวี๋หมิงลี่กับอวี๋หมิงอี้ทำสีหน้าระอาออกมาพร้อมกัน อยากจะทำเป็นไม่รู้จักไอ้น้องบ้านี่จริงๆ ดีใจที่มีเมียจนเป็นบ้าไปแล้ว

 

 

เสี่ยวเชี่ยนที่ปกติทำตัวหยิ่งๆ ดูเป็นคนเย็นชา วันนี้ก็ไม่รู้เป็นอะไร ปกติถ้าอวี๋หมิงหลางทำตัวซื่อบื้อแบบนี้เธอได้ทั้งต่อยทั้งถีบไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับยิ้มแย้ม ดูอ่อนโยนกับทุกสิ่ง พี่ใหญ่กับพี่รองต่างคิดในใจว่า วันนี้ช่างเป็นวันที่พิเศษจริงๆน้องชายทำตัวติงต๊อง น้องสะใภ้ก็ติงต๊องตามด้วย

 

 

อวี๋หมิงหลางเงยหน้ามองฟ้า วันนี้อากาศสดใสดีจริงๆ เป็นวันมงคล

 

 

“ก่อนหน้านี้ผมยังคิดว่าวันนี้ฝนจะตกอยู่เลย” เสี่ยวเฉียงยังแอบเสียดาย

 

 

“ทำไมฝนถึงจะตก?” เสี่ยวเชี่ยนถามด้วยความอยากรู้

 

 

“เพราะผู้ชายอย่างผมได้ตกเป็นของคุณคนเดียวแล้ว มีสาวๆตั้งเท่าไรที่แอบไปร้องไห้ โลกนี้ขาดผู้ชายดีๆไปอีกหนึ่งคนแล้ว”

 

 

“ยางอายล่ะ?”

 

 

“หมากินไปแล้ว…”

 

 

ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วก็ต่างหัวเราะ

 

 

“แย่ละ สองคนนี้เพี้ยนไปแล้ว ทำไมยิ้มติงต๊องแบบนั้นออกมากันล่ะ?” เจี่ยซิ่วฟางไม่เข้าใจ หมากินไปแล้ว นับจากนี้ไปคำว่าหมากินไปแล้วจะมีความหมายเป็นอย่างอื่น

 

 

สำหรับเย่ต้าเชียนที่นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง วันนี้เป็นวันที่น่าสยดสยอง

 

 

อวัยวะสำคัญของเขาถูกหมากัดขาด…

 

 

ถึงจะไม่ได้ถูกหมากินไปทั้งหมด แต่หมอก็บอกอ้อมๆว่า ต่อไปอาจใช้งานไม่ได้แล้ว

 

 

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมอยู่ๆหมาพวกนั้นก็พุ่งเข้ามาหาเขา?

 

 

ถึงเขากับหลุ่ยจือจะคิดว่าเป็นฝีมือของเสี่ยวเชี่ยน แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลยสักนิดเดียว

 

 

โลกนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาที่ก่อเรื่องโดยไม่เหลือหลักฐานได้ คนฉลาดๆทำได้ยิ่งกว่า เพียงแต่ปกติขี้เกียจจะทำก็เท่านั้น

 

 

ในที่สุดสองคนนี้ก็รับรู้ได้ว่าอะไรคือการรับผลกรรม แต่ก็สายไปเสียแล้ว

 

 

เด็กน้อยที่ถูกทำร้ายจนทิ้งรอยแผลเป็นไว้ในใจ และจะคงอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต ผู้ชายที่ก่อเหตุถูกหมากัดอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุไปแล้ว ชาตินี้คงกลับมาแข็งไม่ได้อีก

 

 

เด็กน้อยถือว่ายังโชคดีที่ได้เจอจิตแพทย์ที่เก่งที่สุด บาดแผลที่อยู่ในใจนั้นได้รับการรักษาจนหายดี ถึงรอยแผลเป็นจะไม่มีวันจางหาย แต่กลับกลายเป็นเครื่องเตือนใจในช่วงการเติบโตของชีวิต ทำให้เวยเวยยิ่งเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ต่อ

 

 

แต่เย่ต้าเชียนที่เคยทำร้ายเธอคงไม่อาจตามหาอีกครึ่งหนึ่งที่หายไปนำมาต่อได้อีก นอกจากฟังก์ชั่นขับถ่ายที่ยังใช้งานได้อยู่ เรื่องสืบพันธุ์คงหมดหนทางแล้วจริงๆ ชาตินี้ก็คงต้องอยู่ไปแบบนี้

 

 

ไม่มีใครที่ไม่ต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ สวรรค์มีตาเสมอ ต่อให้หนีรอดกฎหมายได้ก็ไม่มีทางหนีพ้นผู้หญิงที่ชื่อเฉินเสี่ยวเชี่ยน นี่คือชะตากรรม

 

 

อวี๋เสี่ยวเฉียงที่ได้ทะเบียนสมรสมานอนกอดแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองได้ปลดแอกจากความโสด เขาพาสองครอบครัวไปกินข้าว ระหว่างกินทำตัวเหมือนเป็นป๋า ใช้ให้เสี่ยวเชี่ยนคีบกับข้าวให้บ้าง รินเหล้าให้บ้าง เสี่ยวเชี่ยนเองก็ยิ้มแย้มทำตามที่เขาขอ

 

 

เอาแค่วันที่เขาเลือกจดทะเบียนสมรสเสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกว่าเธอไม่ควรจะอารมณ์เสียกับเรื่องไหนๆทั้งนั้น

 

 

เธอเป็นผู้หญิงแบบนี้ ใครดีมาเธอก็ตอบแทน ครั้งนี้อวี๋หมิงหลางจัดการทุกอย่างได้ดี เอาใจเธอได้ถูกทาง เธอจึงอ่อนโยนกับเขามากหน่อย

 

 

คู่นี้ที่ปกติเสี่ยวเชี่ยนก้มหน้ากิน อวี๋หมิงหลางมีหน้าที่ปรนนิบัติ พอวันนี้บทบาทสลับกันทุกคนจึงไม่ชิน

 

 

เจี่ยซิ่วฟางไม่ได้ว่าอะไร บางครั้งเธอยังรู้สึกว่าลูกสาวตัวเองทำตัวเอาแต่ใจมากเกินไป ชอบรังแกลูกเขย พอแต่งงานแล้วทำตัวเป็นผู้หญิงบ้างก็ดีเหมือนกัน

 

 

คนที่ไม่ชินก็คือตัวแทนครอบครัวอวี๋ทั้งสองท่าน

 

 

“เมียจ๋าเอากุ้ง”

 

 

“ได้เลย”

 

 

พี่ใหญ่สะกิดพี่รอง ดูสิ!พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกเปล่าเนี่ย! เจ้าเล็กพอจดทะเบียนเสร็จบทบาทก็สลับขึ้นทันตา?

 

 

อวี๋หมิงอี้ไม่เงยหน้ามอง พูดออกมาอย่างใจเย็น “สามวัน”

 

 

เป็นพี่น้องที่รู้ใจกันดี พี่ใหญ่เข้าใจทันที ความหมายของน้องรองคือ บทบาทของเจ้าเล็กในบ้านจะเป็นแบบนี้ได้แค่สามวัน?

 

 

“ฉันว่าอย่างน้อยๆน่าจะหนึ่งอาทิตย์นะ”

 

 

สองคนนี้ประเมินน้องชายตัวเองสูงเกินไป เพราะบทบาทของอวี๋หมิงหลางในตอนนี้อย่าว่าแต่สามวันเลย ไม่ถึงสามชั่วโมงหรอก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด