แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 704 ขำหนักมาก

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 704 ขำหนักมาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

อาเหม็ดยอมแพ้เรื่องโต้เถียง เขาเข้าใจแล้วว่าตัวเองเอาชนะเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ เธอจงใจทุกอย่าง เขาจะทน

 

 

บทสนทนาของโต๊ะข้างๆยังคงดำเนินต่อ

 

 

“นี่ตั้งกี่โมงแล้วทำไมเขายังไม่มาอีก” สาวตาโปนมองนาฬิกาพลางบ่น

 

 

“ไร้มารยาท ผู้หญิงที่มาจากเมืองเล็กๆบ้านนอกๆไม่ไหวเลยจริงๆ” หญิงสูงวัยพูดจาเหมือนตัวเองมาจากเมืองใหญ่

 

 

“ได้ยินว่าเขาไปฝึกวิชาบนภูเขาตั้งแต่ยังเด็ก เด็กผู้หญิงคนเดียวไปอยู่รวมกับผู้ชายเป็นฝูง คนแบบนี้ไม่ควรเอาเข้าบ้าน นี่พี่ชอบเขาตรงไหนกัน…”

 

 

บนภูเขา…ฝึกวิชา

 

 

สุ่ยเซียนมองเสี่ยวเชี่ยนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย เชี่ยนเอ๋อ คงไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเบ้ปาก มันบังเอิญขนาดนั้นนั่นแหละ

 

 

ในที่สุดปสุ่ยเซียนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมประธานเชี่ยนถึงดูสนใจเรื่องของคนแปลกหน้า ที่แท้โต๊ะข้างๆก็เป็นครอบครัวของแฟนหลิวเหมย

 

 

ประธานเชี่ยนไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ต่อให้เป็นเรื่องของเธอประธานเชี่ยนก็ขี้เกียจยุ่ง แต่ถ้าใครกล้ามาหาเรื่องประธานเชี่ยนถึงที่ กล้ารังแกคนของประธานเชี่ยน ประธานเชี่ยนก็กล้าเล่นงานถึงขั้นต้องปลุกบรรพบุรุษขึ้นมาถาม—เอ๊ะ คำพูดนี้ไม่เลว สุ่ยเซียนแอบกดไลค์ให้ตัวเอง

 

 

“เป็นผู้หญิงแต่ทำตัวไม่เหมือนผู้หญิง วันๆเอาแต่ใช้กำลัง ผู้หญิงแบบนี้ฉันไม่ชอบเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าครอบครัวแบบไหนกันที่เลี้ยงลูกออกมาเป็นแบบนี้ ฉันล่ะไม่กล้าไปบอกญาติๆเลยว่าลูกชายได้ผู้หญิงแบบนี้มาเป็นเมีย” ภายในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่นาที หญิงสูงวัยโต๊ะข้างๆเน้นย้ำเหลือเกินถึงความไม่ชอบว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้

 

 

อายที่จะบอกว่าเขาเป็นลูกสะใภ้ แต่กลับไม่อายที่จ้องจะยึดบ้านเขา

 

 

“คนแบบนี้จิตใจมีปัญหาหรือเปล่า” สุ่ยเซียนถามเสี่ยวเชี่ยน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนส่ายหน้า “คนนิสัยแย่ไม่เท่ากับเป็นโรคจิตเวชหรอก พวกเขาไม่ได้ป่วย แต่ผู้ป่วยจิตเวชหลายคนถูกคนประเภทนี้นี่แหละทำให้ป่วย”

 

 

สุ่ยเซียนอยากให้บอดี้การ์ดตัวเองไปถีบคนพวกนั้นจริงๆ แต่คิดได้ว่าอาเหม็ดเป็นของเก๊ จึงทำได้แค่ระงับความโกรธแล้วนั่งฟังต่อ

 

 

ยิ่งฟังยิ่งโมโห หลิวเหมยเป็นเพื่อนที่ดีของพวกเธอ แต่ทำไมพอตกเป็นขี้ปากของคนพวกนี้ถึงได้กลายเป็นคนต่ำต้อย

 

 

นั่งกินข้าวกับคนแบบนี้ทำให้หมดอารมณ์ สุ่ยเซียนลุกขึ้นไปเติมหน้า เสี่ยวเชี่ยนเดินตามไปด้วย อาเหม็ดเองก็ไป เสี่ยวเชี่ยนมองเขาเป็นอากาศ แสร้งทำเป็นไม่เห็น

 

 

ภายในห้องน้ำ สุ่ยเซียนยืนล้างมือข้างๆเสี่ยวเชี่ยน

 

 

“ฉันกินไม่ลงแล้ว น่าขยะแขยงมาก พวกเขาคงไม่ใช่ครอบครัวว่าที่สามีของหลิวเหมยจริงๆหรอกใช่ไหม” สุ่ยเซียนถามเสี่ยวเชี่ยน

 

 

“เป็นครอบครัวแฟนหลิวเหมยจริงแท้แน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าที่สามี” ประธานเชี่ยนไม่พยักหน้า งานแต่งนี้ไม่สำเร็จหรอก

 

 

“มาอาศัยบ้านของผู้หญิงแล้วยังจะวิจารณ์เขาแบบนี้อีก ไม่รู้สึกละอายบ้างเลยหรือไง”

 

 

“ในสายตาของคนพวกนี้ ลูกชายของพวกเขาเก่งเลิศเลอเพอร์เฟค เสน่ห์แรงดึงดูดผู้หญิงได้ การได้อยู่บ้านใหญ่ๆไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้หญิงออกเงินเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะเสน่ห์อันล้นเหลือของลูกชายพวกเขาเอง สุ่ยเซียน ตอนนี้เรื่องที่เธอควรใส่ใจไม่ใช่เรื่องหลิวเหมย แต่เป็นเรื่องอะไรเธอรู้ดี”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดแบบนี้สุ่ยเซียนถึงได้นึกออก ยังมีอาเหม็ดจากตระกูลใหญ่อยู่ข้างกายเธอ มัวแต่สนใจเรื่องครอบครัวที่น่าอัศจรรย์ของแฟนหลิวเหมยจนลืมเรื่องใหญ่ไปเลย

 

 

“ตอนนี้เรื่องกวนใจเธอน่ารำคาญพอๆกับครอบครัวที่อยู่ข้างนอกนั่น”

 

 

สุ่ยเซียนเดาได้ว่าอาเหม็ดต้องติดเครื่องดักฟังที่ตัวเธอ ต่อให้เวลานี้อยู่ในห้องน้ำหญิงก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เธอไม่รู้ว่าจะตอบเสี่ยวเชี่ยนอย่างไรดีจึงมองหน้าเสี่ยวเชี่ยนเงียบๆ

 

 

“สุ่ยเซียน เธอโกรธพฤติกรรมของครอบครัวแฟนหลิวเหมยใช่ไหม”

 

 

“ใช่ ฉันอยากจะเข้าไปตบพวกเขาให้หน้าหันเลย”

 

 

“งั้นเดี๋ยวเธอจำเรื่องที่ฉันจะทำต่อไปให้ขึ้นใจนะ พอเธอเข้าใจจุดประสงค์ของฉันแล้วเธอก็จะรู้ว่าควรทำยังไงกับเรื่องชเรอดิงเงอร์”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดจาสองความหมาย คำพูดของเธอแฝงความหมาย แต่เธอเชื่อว่าคนฉลาดอย่างสุ่ยเซียนเข้าใจ

 

 

ถึงตอนนี้จะไม่เข้าใจว่าเสี่ยวเชี่ยนหมายถึงอะไร แต่สุ่ยเซียนรู้ว่าแค่ทำตามที่เสี่ยวเชี่ยนบอก เธอจะต้องรู้ได้แน่ว่าอาเหม็ดมาเป็นบอดี้การ์ดเธอทำไม

 

 

ระยะห่างที่ไกลที่สุดบนโลกนี้ไม่ใช่ความเป็นกับความตาย แต่เป็นการที่อาเหม็ดได้ยินชัดๆว่าเสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียนคุยอะไรกัน แต่กลับไม่เข้าใจถึงความหมาย อาเหม็ดได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองคน แต่กลับตีความไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขาจึงไม่เก็บเอามาใส่ใจ

 

 

ซึ่งนี่ก็ได้เป็นตัวกำหนดแล้วว่าหลังจากนี้เขาจะกลายเป็นของเล่นของเสี่ยวเชี่ยนและมีจุดจบที่น่าเศร้า แต่นี่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง

 

 

สุ่ยเซียนกับเสี่ยวเชี่ยนเตรียมจะเดินกลับไปที่โต๊ะ แต่ทันใดนั้นแม่กับน้องสาวตาโปนของแฟนหลิวเหมยกำลังเดินมาทางนี้ พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียนควงแขนกัน แต่งตัวดูดี แม่ของสาวตาโปนก็จ้องอยู่สักพักแล้วหันไปกระซิบกับลูกสาวด้วยภาษาถิ่น ตีความได้ประมาณว่า นี่เมียน้อยของเสี่ยใหญ่ที่ไหนเนี่ย

 

 

สาวตาโปนหันไปมองเสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียน สายตาแบบนั้นสร้างความอึดใจให้กับอีกฝ่ายมาก จากนั้นก็พูดอะไรสักอย่างออกมา

 

 

สาวตาโปนแน่ใจแล้วว่าพวกเสี่ยวเชี่ยนฟังภาษาถิ่นไม่ออก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดกระซิบ ใช้น้ำเสียงธรรมดาพูด

 

 

หึหึ คิดจะรังแกกันด้วยภาษาถิ่นที่ฟังไม่เข้าใจ เสี่ยวเชี่ยนเลิ่กคิ้วแล้วพูดภาษาอังกฤษกับสุ่ยเซียนอย่างคล่องแคล่ว”เธอฟังสองคนนั้นเข้าใจไหม”

 

 

“ดูท่ากำลังนินทาพวกเราอยู่ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่” สุ่ยเซียนเองก็ใช้ภาษาอังกฤษตอบกลับเสี่ยวเชี่ยน

 

 

พวกเธอพูดพลางมองสาวตาโปน ทำให้สาวตาโปนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกนินทาอยู่

 

 

สาวตาโปนไม่ยอม วิจารณ์เสี่ยวเชี่ยนกับสุ่ยเซียนด้วยภาษาถิ่นต่อ

 

 

“อาเหม็ด นายมาจากตระกูลคาร์เตอร์อันสูงศักดิ์ไม่ใช่เหรอ ฟังเข้าใจไหม” เสี่ยวเชี่ยนถามอาเหม็ด

 

 

อาเหม็ดส่ายหน้าแบบเคืองๆ บ้านเขาค้าอาวุธไม่ใช่เครื่องแปลภาษาเสียหน่อย ฟังภาษาจีนออกก็เก่งแล้วใครจะไปเข้าใจภาษาถิ่น

 

 

“แล้วชอบทำเท่ห์เหมือนมีลูกbasketball งอกออกมาด้วย แม้แต่คำง่ายๆแบบนี้ก็ไม่รู้ นายไม่รู้สึกผิดต่อตระกูลอันสูงศักดิ์บ้างเหรอ” ครั้งนี้เสี่ยวเชี่ยนพูดภาษาจีนปนภาษาอังกฤษ คำพูดพวกนี้เธอพูดกับอาเหม็ด

 

 

“คนบางคนชอบทำเป็นอวดดี ทำเหมือนคนอื่นไม่รู้ภาษาอังกฤษ คำว่า basketballเรียนมาตั้งแต่มอต้นแล้ว พูดจีนคำอังกฤษคำเก่งตายแหละ” สาวตาโปนคิดว่าที่เสี่ยวเชี่ยนพูดภาษาอังกฤษออกมายืดยาวเพราะตั้งใจจะประชดเธอ จึงพูดด้วยน้ำเสียงไม่เกรงใจ จงใจพูดเสียงดังโต้กลับ

 

 

ระดับภาษาอังกฤษของสาวตาโปนก็ฟังออกแค่บาสเก็ตบอลแค่นั้น ส่วนประโยคยาวๆฟังไม่ออก แต่เสี่ยวเชี่ยนก็ประสบความสำเร็จในการใช้สายตาเหยียดหยามมองสาวตาโปนแล้ว ทำให้สาวตาโปนคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนใช้ภาษาอังกฤษนินทาเธออยู่ ดังนั้นถึงได้พูดจาประชดกลับอยากจะแสดงให้เห็นว่าตัวเองก็มีความรู้ภาษาอังกฤษ

 

 

“พูดจาแทรกบทสนทนาของคนอื่นไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะแม้แต่คำพูดของฉันก็ไม่เข้าใจ basketballตัดคำว่าballทิ้งแปลว่าอะไร” เสี่ยวเชี่ยนถามสาวตาโปน

 

 

“ตะกร้า”

 

 

“งั้นbasketเติม ballเข้าไปแปลว่าอะไร”

 

 

“บอลตะกร้า” สาวตาโปนพูดออกไปด้วยความมาดมั่น

 

 

“อุ๊บ” สุ่ยเซียนเก็ทมุกแล้ว ฮ่าๆๆ ขำจนปวดท้อง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด