แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 708 เปิดเผยแบบไม่แคร์สื่อแล้วเหรอ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 708 เปิดเผยแบบไม่แคร์สื่อแล้วเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

 

อาเหม็ดสีหน้าเปลี่ยนอีกรอบ เขานึกถึงตอนที่ตัวเองลองสืบประวัติเสี่ยวเชี่ยน แต่กลับพบว่าข้อมูลของเธอไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีล้วนถูกปกปิดไว้ พอตามสืบต่อไปก็สืบได้แค่เจิ้งซวี่เจ้าพ่อเมืองQดูเหมือนจะคุ้มครองเธออยู่ ดังนั้นพอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดว่าครอบครัวตัวเองเป็นคนมีสี สีที่อาเหม็ดนึกถึงก่อนเลยก็คือสีดำ แบบนั้นเขาไม่กลัวหรอก  

 

 

แต่พอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดเรื่องข่าว สายตาของอาเหม็ดก็ฉายแววหมดหวัง หรือจอมปีศาจคนนี้ เธอยังมี…ภูมิหลังแบบนั้นด้วย  

 

 

ถ้าอย่างนั้นก็อย่ายุ่งด้วยเลยดีกว่า เลี่ยงได้ก็เลี่ยง หนีให้ไกลเท่าไรได้ยิ่งดี ยุ่งไม่ได้เลยนะ…  

 

 

เห็นเสี่ยวเชี่ยนโอบคอสุ่ยเซียนที่ควรจะเป็น ‘ของเขา’ อย่างได้ใจ ในใจของอาเหม็ดไม่ยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้  

 

 

เขาสู้เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ แต่จะต้องยอมทิ้งแหล่งเงินไปแบบนี้เหรอ แล้วเขาจะหาเงินสนับสนุนที่ไหน จะเอาอะไรไปสู้กับพี่ใหญ่  

 

 

หลักจากที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนปั่นหัวอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้แค่อาเหม็ดเห็นเสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกกลัว เรื่องนี้จัดการยากแล้ว ทำได้แค่ออกไปสูดอากาศข้างนอก สุ่ยเซียนจึงฉวยโอกาสนี้ถามเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ เธอเล่นอะไรน่ะ”  

 

 

“Yes or Noอยากรักก็รักเลย~” เสี่ยวเชี่ยนยังอินไม่เลิก  

 

 

สุ่ยเซียนอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา  

 

 

“เลิกเล่นได้แล้ว ฉันไม่ใช่พี่หลางหนึ่งคืนเจ็ดครั้งของเธอเสียหน่อย ฉันกำลังไม่เยอะแบบเขาหรอกนะ ถ้าต้องอยู่กับเธอทั้งคืนล่ะก็…”  

 

 

“จึ๊ๆ สาวน้อยเริ่มมีความคิดไม่สะอาดแล้ว เมื่อก่อนเธอไม่ใช่แบบนี้”  

 

 

“ใครอยู่กับเธอก็ถูกเธอปั่นหัวหมดนั่นแหละ” แถมวิธีที่เสี่ยวเชี่ยนใช้ปั่นหัวยังไม่เหมือนคนอื่น เวลาเธอล้อเล่นสีหน้าจะนิ่งมาก แถมมีเหตุผลสมจริงสมจัง หลอกคนแบบมีหลักฐานอ้างอิง จากเรื่องที่เห็นอยู่ชัดๆว่าไร้สาระ แต่พอออกจากปากประธานเชี่ยนกลับกลายเป็นเรื่องที่มีหลักการน่าเชื่อถือ  

 

 

ถ้าสุ่ยเซียนไม่สนิทกับเสี่ยวเชี่ยน เธอก็คงถูกเสี่ยวเชี่ยนหลอกไปด้วย อย่างเมื่อกี้ที่อธิบายเรื่องรักร่วมเพศโดยยกเรื่องคัมภีร์ซือจิง เรื่องคำโบราณมาอ้าง สุดยอดการแถแห่งปีเลยนะนั่น  

 

 

“ฉันเป็นจิตแพทย์ที่มีหลักการ” เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้าอย่างจริงจัง แสร้งทำเป็นเต๊ะท่า  

 

 

“พูดภาษาคน”  

 

 

“จิตแพทย์ที่ปั่นหัวคนไม่เป็นยังจะมีหน้าไปรักษาคนไข้อีกเหรอ เธอดูอย่างพวกหมอดูที่มีคนหลงเชื่อเยอะแยะสิ อันที่จริงคนพวกนั้นก็คือจิตแพทย์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณนั่นแหละ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาทางใจโดยเฉพาะ ถึงแม้วิธีของพวกเขาจะไม่มีหลักการที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์หรือบางอย่างถึงขั้นไร้สาระ แต่ก็ทำให้คนเชื่อได้ตั้งเยอะ เป็นตายก็จะเชื่อแต่คำที่หมอดูพูด”  

 

 

หมอดูบอกว่าหลิวเหมยต้องแต่งงานปีนี้ หลิวเหมยก็เชื่อ  

 

 

สุ่ยเซียนฟังแล้วก็งง ทำไมวกเข้าเรื่องหลิวเหมยอีกแล้ว  

 

 

“ฉันหมายความว่า ในใจฉันไม่เคยยอมแพ้ให้พวกหมอดูที่หลอกปั่นหัวคนหรอกนะ คนพวกนั้นใช้วิธีบ้านๆหลอกคนได้ ฉันเรียนด้านจิตวิทยามาตั้งหลายปีไม่เชื่อหรอกว่าโลกนี้จะมีคนที่ฉันมองไม่ออก เดาใจไม่ได้ ช้าเร็วฉันจะหลอกหมอดูกำมะลอพวกนั้นให้หมด”  

 

 

ประธานเชี่ยนใจนักเลงมาก  

 

 

สุ่ยเซียนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ตะลึงกับท่าทางของประธานเชี่ยน  

 

 

“เถ้าแก่หลิวของเธอรู้หรือเปล่าว่าเธอมองหมอดูเป็นศัตรูน่ะ”  

 

 

จิตแพทย์คนนี้อนาคตไกลจริงๆ คิดเล็กคิดน้อยกับหมอดู เป็นครั้งแรกที่เจอจิตแพทย์แบบนี้  

 

 

“ถ้าไปบอกอาจารย์ฉันได้โดนหักคอตายสิ แต่ฉันคิดไว้แบบนั้นจริงนะ ขนาดหมอดูยังต้มคนได้ แล้วฉันจะด้อยกว่าได้ไง”  

 

 

“ก็ได้…เธอชนะ แต่ว่านะเชี่ยนเอ๋อ เธอจะมองคนทั้งโลกออกหมดเลยเหรอ”  

 

 

“เอ่อ ก็มีนะคนที่มองไม่ออก อย่างเช่นอวี๋หมิงหลาง ถ้าเขาไม่รักฉันแล้วฉันก็เอาคนแบบนั้นไม่อยู่หรอก”  

 

 

“ทำไมล่ะ”  

 

 

“ฉันเรียกเขาว่าที่รักเขาก็เชื่อฟังฉันทุกอย่าง เรื่องนี้ฉันก็เคยนั่งวิเคราะห์นะ คนเราเวลาดีใจไอคิวจะลดต่ำลง ฉันถึงได้เอาเขาอยู่ แต่ถ้าไอคิวเขาไม่ลดต่ำลง ไม่รักฉันแล้ว จะเอาชนะเขาก็ลำบาก”  

 

 

นี่คือความจริง ถ้าอวี๋เสี่ยวเฉียงจริงจังขึ้นมา ประธานเชี่ยนก็จับทางไม่ถูก  

 

 

“ดังนั้น…เธอถึงได้เอาจุดอ่อนของเธอมาเป็นเกราะคุ้มกันตัวเอง”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยน อืม ออกมาด้วยท่าทางภูมิใจสุดๆ  

 

 

ใช่ จัดการอวี๋หมิงหลางได้เธอก็ไร้เทียมทานบนโลกนี้แล้ว  

 

 

สองสาวพูดคุยหัวเราะคิกคัก อาเหม็ดออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกหมดมวนแล้วจึงกลับเข้ามา เขาเห็นสุ่ยเซียนจับมือเสี่ยวเชี่ยน ทั้งสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน แล้วสุ่ยเซียนก็พูดขึ้น  

 

 

“มีเธออยู่ข้างๆนี่ดีจัง ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ลงทุนครั้งเดียวได้ผลตอบแทนสองอย่าง”  

 

 

ความหมายของเธอก็คือ เป็นพี่น้องกับเสี่ยวเชี่ยนเหมือนได้โชคสองชั้น ไม่เพียงแต่ประธานเชี่ยนจะปกป้องเธอได้ อวี๋หมิงหลางบอดี้การ์ดส่วนตัวของเสี่ยวเชี่ยนก็ยังช่วยเธอได้ด้วย ความเครียดตอนที่ได้รู้ว่าอาเหม็ดเป็นใครได้หายไปแล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองมีที่พึ่งแข็งแกร่งดั่งภูผา  

 

 

โวะ อาเหม็ดสะเทือนใจอีกรอบ เขาเข้าใจภาพเหตุการณ์ในตอนนี้ผิด หรือผู้หญิงสองคนนี้จะเปิดตัวไม่แคร์สื่อแล้ว  

 

 

คำพูดแบบนี้ใครฟังก็รู้สึกเหมือนเป็นคำสารภาพรัก  

 

 

“มาสิน้องชายแห่งตระกูลคาร์เตอร์ มากินด้วยกันหน่อยไหม” เสี่ยวเชี่ยนเห็นอาเหม็ดจึงกวักมือเรียกอย่างยินดี เรียกน้องชายซะคล่องปาก  

 

 

อาเหม็ดหันไปอย่างเกร็งๆ เขาจะไปหาที่สูบบุหรี่ต่อ ทำใจให้สงบๆ โลกนี้มันบ้าบอเหลือเกิน…  

 

 

นี่เขาตกต่ำถึงขั้นถูกเรียกว่าน้องชายแล้วเหรอ  

 

 

“ทำแบบนี้จะดีเหรอ” สุ่ยเซียนมองด้านหลังที่ดูเหงาๆของอาเหม็ด เธอเลิ่กคิ้วขึ้นพลางถามเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

ประธานเชี่ยนจินตนาการไปอีกอย่างหนึ่ง แผ่นหลังเหงาๆของอาเหม็ดดูตลกขึ้นมาทันที  

 

 

“เธอสงสารเขาเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนแกล้งแซว อาหารรสเลิศ เหล้าชั้นดีแล้วก็สาวงามตรงหน้าล้วนอยู่ในความควบคุมของเธอ รวมถึงหลิวเหมยที่ยังมาไม่ถึง ทั้งหมดนี้ล้วนถูกประธานเชี่ยนลากเข้ามาอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง ใครกล้ามาแตะต้องเป็นได้เห็นดีกัน  

 

 

“หึหึ”  

 

 

คำๆนี้แสดงถึงความรู้สึกของสุ่ยเซียนได้เป็นอย่างดี  

 

 

อาเหม็ดยืนข้างนอกอย่างเหงาๆ ท้องฟ้าสีครามสดใส แต่อารมณ์ของเขากลับมืดมัว  

 

 

ความรู้สึกที่ถูกหลอกปั่นหัวตั้งแต่ต้นจนจบนี้ไม่มีใครชอบ  

 

 

เสียงสนทนาของผู้หญิงสองคนดังลอดมาจากหูฟังขนาดเล็ก สายลมพัดใบไม้ข้างทางให้พลิ้วไหว สายลมที่อยู่ในใจของอาเหม็ดโหมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ  

 

 

ผู้หญิงสองคนนี้พูดจาไม่เกรงใจเขาบ้างเลย รู้ว่าเขาดักฟังยังจะมาหัวเราะคิกคัก นี่เขาโดนดูถูกขนาดนี้ได้ยังไงกัน ไม่ยอมโว้ย  

 

 

ทันใดนั้น บทสนทนาที่ลอดออกมาก็ทำให้อาเหม็ดถึงกับสตั๊น เขาตื่นตัวทันที  

 

 

สุ่ยเซียนถามเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ เอาเบอร์ใหม่ของเสี่ยวเฉียงมาหน่อยสิ ความสัมพันธ์ของพวกเราสามคนดีขนาดนี้ ฉันต้องบันทึกเบอร์เขาใหม่หน่อย”  

 

 

ความสัมพันธ์ดีขนาดนี้…สมองของอาเหม็ดนึกถึงเกมงูที่กินหัวกินหาง เขาสะบัดหน้าเพื่อไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป  

 

 

ยัยปีศาจเฉินเสี่ยวเชี่ยนจอมล้างสมอง เรื่องพวกนี้เธอเป็นคนเอามาใส่สมองของเขา อาเหม็ดได้ค้นพบอย่างเศร้าๆว่า ตัวเองจากที่เป็นคนเลวสุดเท่ห์ได้กลายมาเป็นคนเลวที่ไม่เท่ห์และไม่เป็นมืออาชีพ  

 

 

“135…” เสี่ยวเชี่ยนพูดตัวเลขออกมา  

 

 

“พูดอีกทีซิ”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดอีกรอบ แถมยังพูดเสริมด้วยว่า “เบอร์ของเขาไม่ค่อยได้เปิดเครื่อง พรุ่งนี้พวกเราลองนัดเขาดูก็ได้”  

 

 

นัด สามคน…ในใจของอาเหม็ดมีคำว่า เหอๆ ตัวเบ้อเร่อ  

 

 

ขอบคุณสวรรค์ที่ประธานสมองอันชาญฉลาดให้เขา อะไรที่ผ่านสมองของเขาแล้วก็จะลืมยาก เขาจำเบอร์ไว้แล้ว เขาจะไปโทรหาอวี๋หมิงหลางเดี๋ยวนี้ อยากจะดูซิว่าเรื่องรักร่วมเพศที่ยัยจอมปีศาจพูดถึง อวี๋หมิงหลางรู้เรื่องหรือเปล่า  

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด