แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 723 ดูเหมือนจะห่างกันเยอะเลยนะ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 723 ดูเหมือนจะห่างกันเยอะเลยนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวเชี่ยนครุ่นคิด จากนั้นก็มองอวี๋หมิงหลางด้วยสีหน้าแบบรู้ทัน “ภารกิจของเขาน่าจะเป็นการขับไล่ ไม่ใช่ทำลายล้าง ชื่อภารกิจนี้ไม่ได้เป็นการยกยอคู่ต่อสู้หรอก”

 

 

“ฉลาดมาก” อวี๋หมิงหลางไม่ได้ตกใจเท่าไร ผู้หญิงของเขาฉลาดอยู่แล้ว

 

 

“ทำไมเป็นการขับไล่ล่ะ” สุ่ยเซียนไม่ค่อยเข้าใจ

 

 

“นี่เป็นภูมิปัญญาที่มาจากชาวบ้านที่เลี้ยงสัตว์ เวลาที่พวกเขาจะแต่งงานสร้างครอบครัว ผู้อาวุโสในบ้านก็จะถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สำคัญๆให้ บ้านกระโจมต้องสร้างในจุดที่มีเนินหิน ปล่อยแกะให้เดินในบริเวณที่มีหมาป่า สองเรื่องที่ชาวบ้านตามที่ราบเขากลัวที่สุดก็คือ น้ำท่วมกับหมาป่าหิวโหย”

 

 

“บ้านกระโจมสร้างบนเนินหินเพื่อป้องกันน้ำท่วมอันนี้ฉันเข้าใจ แต่ทำไมต้องปล่อยแกะให้เดินในบริเวณที่มีหมาป่าด้วย มันไม่ควรจะฆ่าหมาป่าให้ตายมากกว่าเหรอ” สุ่ยเซียนไม่เข้าใจสิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนพูด

 

 

“น้ำท่วมเป็นเรื่องน่ากลัวก็จริง แต่กลับเป็นการช่วยเติมความชุ่มฉ่ำให้กับผืนหญ้า ทำให้หญ้าเจริญเติบโตได้ดี ถึงหมาป่าจะน่ากลัว แต่ชาวบ้านกลับคิดว่าการมีหมาป่ามาป้วนเปี้ยนจะทำให้แกะตื่นตัวตลอดเวลา หมาป่าก็เหมือนกับน้ำท่วม ล้วนเป็นพลังที่มาจากธรรมชาติ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับปีศาจอุทกภัย ไม่ใช่เอาชนะ ซึ่งก็สอดคล้องกับวัฏจักรธรรมชาติ ดังนั้นหัวใจหลักของภารกิจในครั้งนี้คือการขับไล่อาเหม็ด ไม่ใช่ฆ่าเขา”

 

 

อวี๋หมิงหลางพยักหน้า เสี่ยวเชี่ยนเข้าใจถูกต้อง

 

 

ไม่ว่าตระกูลคาร์เตอร์จะทำความผิดอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้อิทธิพลของพวกเขายังไม่ลามมาถึงประเทศนี้ ถึงอาเหม็ดจะเป็นคนของตระกูลนั้น แต่เขาไม่ได้เข้าร่วมกิจการของครอบครัว แต่เขาอาจเป็นตัวก่อให้เกิดเรื่องอื่นตามมาได้ ภารกิจของเสี่ยวเฉียงก็คือการไล่คนๆนี้ออกไปอย่างลับๆ พยายามทำให้เกิดความขัดแย้งกับตระกูลคาร์เตอร์น้อยที่สุด และเก็บเป็นความลับไม่ให้ผู้ทรงอิทธิพลคนอื่นรู้ว่าคนๆนี้เข้ามาก่อเรื่องที่นี่

 

 

“นี่แค่เหตุผลแรกที่นายมา แล้วอีกเหตุผลนึงล่ะ” สุ่ยเซียนถาม

 

 

“มีคนวานให้มา”

 

 

สุ่ยเซียนตกใจ

 

 

“ใคร…วานให้มา”

 

 

“เดาดูสิ” อวี๋หมิงหลางทิ้งไว้ให้คิด เล่นเอาสุ่ยเซียนใจเต้นแรง

 

 

หรือจะเป็น…เขา

 

 

แต่จูเต๋อซีไม่ได้ติดต่อกับเธอนานแล้ว เดือนกว่าได้แล้วมั้ง ถ้าเขามีใจให้เธอจริงๆจะทำแบบนี้เหรอ

 

 

สุ่ยเซียนเผลอนึกถึงจูขี้บ่นโดยอัตโนมัติ เธอเฝ้ารอแต่ก็ไม่กล้าถาม ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองอึดอัดทุกทาง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขามันคลุมเครือบอกไม่ถูก

 

 

เธอบอกเลิกจูเต๋อซีไม่ได้คัดค้าน แต่ก็ไม่ติดต่อเธอมาอีก ต่อให้เธอจะพบว่าตัวเองยังมีใจให้เขาหลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนเตือนสติ แต่กลับไม่กล้าก้าวขาออกไปเผชิญ ยิ่งไปกว่านั้นข้างตัวเธอยังมีอาเหม็ดที่จับจ้องเธอทุกฝีก้าว…

 

 

สุ่ยเซียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามเก็บอาการ

 

 

“บอกฉันมาว่าฉันต้องให้ความร่วมมือยังไง”

 

 

“สิ่งที่ต้องทำมีนิดเดียว ไม่ว่าหลังจากนี้อาเหม็ดจะมาสารภาพรักอะไรกับคุณ คุณแค่ทำตัวเหมือนเดิมเป็นพอ อย่างอื่นไม่ต้องทำทั้งนั้น เขามากสุดอีกไม่กี่วันก็คงไปจากประเทศนี้แล้ว”

 

 

“เขาใช้พาสปอร์ตปลอมเข้ามา ให้เบื้องบนไล่เขากลับไปก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ” สุ่ยเซียนนึกถึงคำพูดของเสี่ยวเชี่ยนที่ล้อเล่นก่อนหน้านี้ จับอาเหม็ดส่งให้ทางการ

 

 

อวี๋หมิงหลางส่ายหน้า

 

 

“ไล่เขาออกไปเขาก็ยังสามารถเปลี่ยนไปใช้สถานะที่แท้จริงของตัวเองกลับมาที่นี่ได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่พวกเราต้องการ ถ้าให้ผู้มีอิทธิพลคนอื่นรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่อาจเกิดเรื่องขึ้นได้ง่ายๆ”

 

 

“ดังนั้น…ภารกิจที่เบื้องบนมอบหมายนายมา คือให้นายหาวิธีทำให้เขาออกไปจากประเทศนี้อย่างเต็มใจโดยที่ไม่กลับมาอีกงั้นเหรอ” สุ่ยเซียนเข้าใจแล้ว รู้สึกว่ามันยากมากทีเดียว

 

 

“ใช่ คุณต้องให้ความร่วมมือกับผม วันนี้หลังจากกลับไปเขาต้องไปคิดทบทวนแน่ เสียวเหม่ยยั่วโมโหเขาจนเขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ผมเดาว่าขั้นต่อไปเขาต้องเล่นเรื่องความรู้สึกกับคุณ ถ้าคุณปฏิเสธ เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อ” คำนวณดู ถึงตอนนั้นจูขี้บ่นก็น่าจะกลับมาแล้ว สุ่ยเซียนกับจูขี้บ่นก็จะคืนดีกัน อาเหม็ดผิดหวังก็คงได้เวลากลับ ช่วงนี้มีเขาคอยดูอยู่ไม่มีทางเกิดเรื่อง

 

 

“เข้าใจแล้ว”

 

 

หลิวเหมยออกไปเฝ้าข้างนอกตามคำสั่งของอวี๋หมิงหลาง หม่าลุ่ยโทรมาหาเธอ

 

 

“หลิวเหมย ผมเสียใจเรื่องย่าคุณด้วย คุณอย่าโกรธผมนะ”

 

 

“หืม”

 

 

ย่าเธอตายไปครึ่งปีแล้ว ช่วงแรกๆเธอเสียใจอยู่หลายเดือน แต่สองเดือนมานี้ดีขึ้นมากแล้ว—ทำไมอยู่ๆหม่าลุ่ยก็พูดเรื่องย่าเธอขึ้นมา

 

 

“บ้านคุณอยู่กันหลายคนใช่ไหม” หม่าลุ่ยถาม

 

 

“ใช่ ฉันมีอาหลายคน ลูกพี่ลูกน้องก็เยอะ”

 

 

ญาติพี่น้องทางสายหลิวเหมยเยอะพอๆกับสายอวี๋หมิงหลาง ถือเป็นครอบครัวใหญ่

 

 

“ผมกับพ่อแม่คิดว่าการมีลูกเยอะก็มีข้อดี เวลามีปัญหาทุกคนจะได้ช่วยกันแก้ไข บ้านไหนฐานะดีหน่อยก็ออกเยอะหน่อย ส่วนบ้านที่ฐานะไม่ดีก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของตัวเองก่อน อย่างเช่นจะให้เรื่องคนแก่มาเป็นตัวถ่วงเรื่องการซื้อบ้านไม่ได้ คุณว่าจริงไหม”

 

 

นี่ก็คือบทสรุปหลังจากที่ครอบครัวหม่าลุ่ยได้หารือกัน

 

 

พ่อแม่ของหม่าลุ่ยคิดว่าหลิวเหมยเป็นผู้หญิง ย่าของเธอป่วยนอนอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องที่หลิวเหมยต้องช่วยออกเงิน ต้องยื้อเงินของหลิวเหมยไว้ให้ได้ แต่หม่าลุ่ยไม่มีทางรู้เลยว่าความคิดของหลิวเหมยแตกต่างจากความคิดของเขามาก

 

 

“คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ”

 

 

“พรุ่งนี้ไปดูบ้านคุณออกมาเร็วหน่อยนะ พ่อแม่ผมไม่ชอบผู้หญิงที่ไม่รักษาเวลา”

 

 

พ่อแม่เขาอย่างนั้นอย่างนี้อีกแล้ว…หลังจากที่หลิวเหมยถูกเสี่ยวเชี่ยนล้างสมอง ตอนนี้เธอได้ยินหม่าลุ่ยพูดอะไรก็จะรู้สึกต่อต้านหมด นี่เธอจะแต่งงานดีไหม

 

 

เธอวางสาย ในใจคิดหนัก เธอไม่ชอบผู้ชายที่พูดจาเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่อย่างหม่าลุ่ย มันบีบบังคับกันเกินไป

 

 

ไม่งั้น…

 

 

ขณะที่หลิวเหมยกำลังลังเลอยู่นั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

 

 

“สวัสดีค่ะอาจารย์ ทำไมโทรหาหนูได้คะ” อาจารย์เธอไปตั้งรกรากอยู่บนเขา ไม่ค่อยได้ใช้เครื่องมือสื่อสารอย่างโทรศัพท์ หลิวเหมยดูจากเบอร์แล้วอาจารย์น่าจะลงเขามาไกลกว่าจะหาโทรศัพท์สาธารณะเจอ จึงอดไม่ได้ที่จะจริงจังขึ้นมาทันที

 

 

“อาจารย์ดูดวงให้เธอ ช่วงนี้มีผู้ชายที่เหมาะกับเธอมากๆปรากฏตัว เธอรีบคว้าโอกาสนี้แต่งงานให้ได้นะ ดูจากดวงชะตาแล้ว ผู้ชายคนนี้ดวงสมพงศ์กับเธอ ถ้าได้อยู่ด้วยกันจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดีต่อพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายด้วย”

 

 

หลิวเหมยเงียบไปสักพัก “อาจารย์ หนูว่าไม่ค่อยเหมาะ ไม่แต่งไม่ได้เหรอคะ”

 

 

ผู้ชายที่อยู่รอบตัวเธอตอนนี้ก็มีแค่หม่าลุ่ย เมื่อก่อนยังคิดว่าพอแก้ขัดได้ แต่หลังจากที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนล้างสมองแล้ว อยู่ๆหลิวเหมยก็รู้สึกว่าไม่อยากทำให้ตัวเองลำบาก

 

 

“ไม่ได้ ปีนี้เธอต้องแต่งงาน ไม่อย่างนั้นดวงเธอจะไม่เจอคู่ที่เหมาะสมกันอีกแล้ว พ่อแม่เธอก็จะซวยไปด้วย ผู้ชายคนนี้ดีมากๆ จากดวงชะตาไม่เพียงแต่จะรักลูกรักเมีย ยังมีความกตัญญู แถมยังมีดาวเมเกรสคุ้มครอง ถ้าพลาดคนนี้เธอก็ไม่เจอเนื้อคู่แล้ว”

 

 

หลิวเหมยสงสัย “ดาวเมเกรสคืออะไรคะ”

 

 

“ดาวเมเกรสเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวจระเข้ที่บ่งบอกถึงเรื่องเพศ ซึ่งก็หมายถึงดวงชะตาเนื้อคู่ มีความรู้ความสามารถ ต้องเป็นผู้ชายที่ดีแน่นอน” ดังนั้นพอทำนายดวงออกมาได้อาจารย์จึงรีบลงจากเขาเพื่อมาใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาหลิวเหมย

 

 

หลิวเหมยฟังเข้าใจแค่ประโยคสุดท้าย ผู้ชายที่ดีงั้นเหรอ…ดูเหมือนหม่าลุ่ยจะจบมอปลายแล้วก็เข้าเรียนสายอาชีพในโรงเรียนทหาร นี่มันห่างจากคนมีความรู้ความสามารถเยอะเลยนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด