แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 742 ประธานเชี่ยนใหญ่กว่ากฎ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 742 ประธานเชี่ยนใหญ่กว่ากฎ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวกคุณมีจรรยาบรรณแพทย์ไม่ใช่เหรอ ห้ามเปิดเผยข้อมูลคนไข้” อวี๋หมิงหลางรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนมีกฎในด้านการงาน ดังนั้นเขาไม่เคยแตะต้องเอกสารของเธอ  

 

 

“เรื่องครั้งนี้เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของครอบครัวเรา ดังนั้นให้นายดูได้เป็นกรณียกเว้น ถ้านายอ่านจบแล้วเดาได้ว่าฉันคิดจะทำอะไร ฉันจะให้นาย…แบบนี้”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเลิ่กเสื้อขึ้นเผยให้เห็นท้องขาวๆเล็กน้อย ถึงจะไม่ได้เห็นเนินภูเขาที่อยู่เหนือขึ้นไป แต่อวี๋หมิงหลางก็ยังคงจ้องตาเป็นมัน  

 

 

นี่เมียจะให้รางวัลใหญ่เลยเหรอ  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนดึงเสื้อลง ของดีห้ามดูนาน  

 

 

“นายเดาดูก่อน เดาถูกฉันจะให้รางวัล ถ้าเดาไม่ถูก—” เธอเอามือจิ้มหน้าอกเขา “นายนอนพื้น”  

 

 

“เจ้าเล่ห์” อวี๋หมิงหลางรู้สึกว่าเธอเป็นปีศาจสาว แต่เขาชอบความเจ้าเล่ห์ของปีศาจตัวนี้ยิ่งนัก  

 

 

เขาตั้งใจอ่านเอกสารที่เสี่ยวเชี่ยนให้มา แค่อ่านดูก็รู้ว่าเหมือนที่เสี่ยวเชี่ยนพูดมา จิตแพทย์คนอื่นต่างดูออกว่าผู้ชายคนนี้ต้องการหลอกผู้หญิงแต่งงาน  

 

 

“ครอบครัวผู้หญิงที่กำลังจะถูกผู้ชายเลวคนนั้นหลอกแต่งงานเกี่ยวข้องกับครอบครัวเราเหรอ” เสี่ยวเฉียงนึกถึงที่เสี่ยวเชี่ยนบอกว่าให้ดูประวัติครอบครัว ของฝ่ายชายไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ที่ฝ่ายหญิง  

 

 

นี่คือความแตกต่างระหว่างคนโง่กับคนฉลาด คนโง่มักดูแค่เพียงผิวเผิน ในเอกสารนี้ไม่ได้ระบุว่าผู้ชายคนนี้กำลังจะแต่งงานกับใคร แต่หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนอ่านแล้วเธอไปสืบดูเอง ทั้งสองครอบครัวต่างเป็นคนที่มีหน้ามีตา ดังนั้นหาข้อมูลของผู้หญิงไม่ใช่เรื่องยาก  

 

 

“ถูกต้อง ฉันสืบได้ว่าปู่ของผู้หญิงคนนี้เคยมีความขัดแย้งกับพ่อของพวกเราเรื่องการเมืองเมื่อนานมาแล้ว ต่อมาปู่เขาก็ถอยออก พี่ชายคนโตของเขาทำธุรกิจเป็นศัตรูคู่แข่งของพี่ใหญ่มาตลอด ครอบครัวเรากับเขาเดิมมีเรื่องบาดหมางกันอยู่แล้ว ถ้าฉันยังช่วยผู้ชายคนนี้หลอกแต่งงานอีก ปัญหาใหญ่กว่าเดิมแน่”  

 

 

อวี๋หมิงหลางหน้านิ่วคิ้วขมวด พวกรักร่วมเพศที่ชอบหลอกผู้หญิงแต่งงานพวกนี้ควรเอาหัวไปโขกกำแพงตายซะ น่าเรียงเกียจจริงๆ  

 

 

“ตอนนี้พี่ใหญ่ค่อนข้างสนิทกับครอบครัวของฝ่ายชาย ดังนั้นเขาอาจไม่ได้ดูเอกสารพวกนี้ หรืออาจจะอ่านแล้วแต่ไม่ได้ใส่ใจแล้วก็โยนมาให้ฉัน”  

 

 

“ตอนนี้คุณจะบอกปัดก็ไม่ได้ รับไว้ก็ไม่ดี ถ้าคุณรับ ความแค้นของครอบครัวเรากับครอบครัวผู้หญิงจะยิ่งมากขึ้น แต่ถ้าคุณบอกปัด พี่ใหญ่ก็จะมองหน้าครอบครัวผู้ชายไม่ติด แล้วต่อไปถ้าสองครอบครัวนี้เกิดดองกันขึ้นมาจริงๆ พี่ใหญ่คงยิ่งโดนโจมตีจากทั้งสองฝ่าย”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า นี่แหละจุดที่ลำบากใจ  

 

 

นี่เป็นการเลือกที่ลำบากทั้งสองทาง แต่ประธานเชี่ยนกลับมีไม้เด็ดเตรียมเอาไว้ แต่ก็ต้องปรึกษาเสี่ยวเฉียงก่อน  

 

 

“ไม่ต้องรับหรอก พี่ใหญ่หาเรื่องใส่ตัวเองก็ให้เขารับผิดชอบไป สถานการณ์ของคุณไม่เหมาะจะรับเคสรักษาคนไข้แบบนี้อยู่แล้ว” อวี๋หมิงหลางเลิกสนเรื่องข้อดีข้อเสีย ถ้าเลือกทางไหนก็ผิด งั้นเขาขอเลือกทางที่เมียของเขาปลอดภัยก่อน อย่างไรเสียเรือของพี่ใหญ่ก็ลำใหญ่ ไม่ล่มง่ายๆหรอก  

 

 

“เรื่องที่นายกังวลจะไม่มีทางเกิดขึ้น ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ถ้าแม้แต่ตัวเองยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ต่อไปฉันจะไปให้คำปรึกษาคนอื่นได้ยังไง จริงสิ ได้ยินว่าหนีเจี้ยนเหรินเข้าซังเตอีกรอบแล้วเหรอ”  

 

 

“ใครบอก”  

 

 

“เจิ้งซวี่โทรมาบอกว่าหนีเจี้ยนเหรินกลับเข้าไปอีกรอบแล้ว”  

 

 

ตอนที่เพิ่งกลับชาติมาเกิด เสี่ยวเชี่ยนเกลียดผู้ชายเลวคนนั้นเข้ากระดูกดำ แทบอยากไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษของไอ้เลวนั่นขึ้นมา ตอนนี้พอได้ยินชื่อของคนๆนี้อีกครั้ง เหมือนกับกลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว  

 

 

“เข้ารอบสองแล้ว ก่อนหน้านี้เข้าไปเรื่องลอบวางเพลิง พอออกมาไม่มีงานทำใช้ชีวิตเตร็ดเตร่ไปวันๆ ถูกคนหลอกไปเล่นพนันจนติด พอไม่มีเงินก็ไปหลอกต้มตุ๋นคนอื่น สุดท้ายถูกจับ ครั้งนี้อาจโดนขังนานกว่าเดิม”  

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่คุยกันโยงมาเข้าเรื่องนี้ได้ อวี๋หมิงหลางอาจไม่พูดถึงเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต แต่เสี่ยวเชี่ยนไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมเขาถึงรู้เรื่องของหนีเจี้ยนเหริน อวี๋หมิงหลางเป็นผู้ชายที่ไม่ชอบดีแต่พูดว่าเป็นห่วง เขาเป็นผู้ชายที่ชอบแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า  

 

 

“คนที่คิดแต่จะทำร้ายคนอื่นเพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเองแบบนี้กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับฉันไปแล้ว นายไม่ต้องกลัวว่าฉันจะสะเทือนใจ ฉันคิดหาวิธีดีๆให้เรื่องนี้ได้แล้วนะ พวกเราลองมองมุมกลับสิ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร”  

 

 

ทันใดนั้นอวี๋หมิงหลางก็เข้าใจว่าเสี่ยวเชี่ยนคิดจะทำอะไรแล้ว เขาหัวเราะออกมา  

 

 

ใช่ นี่สิถึงจะเป็นสไตล์โหดๆแบบเมียเขา  

 

 

“มาให้พี่นวดหน่อยมา ดูซิว่าหัวใจดวงน้อยๆของลูกเชี่ยนพูดอะไรอยู่” มือของเขาอยู่ไม่สุขแล้ว  

 

 

“นายพูดมาก่อนฉันถึงจะให้ล่าเนื้อ”  

 

 

“ขอกินก่อนค่อยพูด…มา ปากก่อนนะ”  

 

 

พอเห็นเขาหน้าด้านแบบนี้เธอก็วางใจแล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าเธอคิดจะทำอะไร แบบนั้นก็ง่ายแล้ว  

 

 

“เดี๋ยวฉันออกใบรับรองแพทย์ก่อน แต่ไม่ได้ออกให้ทางฝ่ายชายนะ ออกให้ฝ่ายหญิง ฉันต้องการให้พวกเขารู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีทางหายจากอาการรักร่วมเพศ จากนั้นก็ให้ทั้งสองฝ่ายไปสู้กันเอง กวนน้ำให้ขุ่น แล้วพี่ใหญ่ก็จะจับปลาได้ประโยชน์…”  

 

 

“งานของคุณห้ามเปิดเผยความลับคนไข้ไม่ใช่เหรอ ไม่กลัวพวกเขาออกมาแฉทำลายชื่อเสียงคุณหรือไง”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์ “นายนี่เข้าใจแค่ครึ่งเดียวสินะ ฉันออกใบรับรองแพทย์แล้วส่งไปรษณีย์ไปที่บ้านเขา แต่ว่าไม่ทันระวังดันส่งไปที่เรือนหอที่กำลังตกแต่งของพวกเขา ส่วนเรื่องที่คู่หมั้นของเขาจะเปิดดูหรือเปล่ามันความผิดของฉันไหม”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหยิบกระดาษกับปากกา เขียนฉับๆไม่นานก็เสร็จ จากนั้นก็ประทับตราของเธอ สอดใบรับรองเข้าไปในซองจดหมายสีชมพู จ่าหน้าซองถึงฝ่ายชาย เขียนว่าเอกสารสำคัญ แถมลงท้ายชื่อว่าที่รัก  

 

 

อวี๋หมิงหลางส่ายหน้า เมียเขาแสบจริงๆ  

 

 

แบบนี้ดูแล้วเหมือนจดหมายรักมากกว่า แล้วยิ่งจ่าหน้าซองว่าเอกสารสำคัญ แถมเขียนที่รักต่อท้ายชื่อ ถ้าคู่หมั้นผู้ชายเห็นแล้วไม่เปิดอ่านสิแปลก  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์ เรื่องที่ยากๆไว้ใจสองสามีภรรยาคู่นี้ได้เลย  

 

 

“หน่วยผมมีคนจะไปรับสมัครทหารพอดี เดี๋ยวผมให้เขามาเอาไป พวกเราไม่ต้องส่งไปรษณีย์หรอก ให้คนเอาไปส่งเลย เลือกเวลาที่ผู้หญิงคนนั้นไปดูบ้านที่ตกแต่งพอดี ต่อให้เขาไม่อยากเปิดอ่านก็ต้องเปิดอยู่ดี” อวี๋หมิงหลางเข้าขากันได้ดีกับเสี่ยวเชี่ยน แค่เธอเปิด เขาก็รู้แล้วว่าต้องชงยังไง  

 

 

คนที่จะไปรับสมัครทหารพรุ่งนี้จะนั่งเครื่องบินทหารไปแต่เช้าตรู่ จากเดิมจดหมายต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะถึงก็กลายเป็นถึงภายในวันพรุ่งนี้ อำนวยความสะดวกให้เสี่ยวเชี่ยนเป็นอย่างมาก  

 

 

“ฉลาดมาก จุ๊บ” เสี่ยวเชี่ยนให้รางวัลเขา ถือเป็นการจุดไฟให้เสี่ยวเฉียง  

 

 

“เรื่องไร้สาระจัดการเสร็จแล้ว ตอนนี้น้องควรจะมาทำงานใหญ่ให้พี่ได้แล้วนะจ๊ะ น้องเสี่ยวเฉียงบอกคิดถึงจังเลย…”  

 

 

ทั้งสองคนหันไปวุ่นอยู่กับเรื่องบนเตียง ซองจดหมายสีชมพูปลิวตกไปด้านข้าง เรื่องที่ดูเหมือนเรื่องเล็กๆแบบนี้ ใครจะไปคิดว่าจะนำมาซึ่งเรื่องคอขาดบาดตายในภายหลัง  

 

 

ฟ้าสว่างแล้วหลิวเหมยลุกขึ้นมาเตรียมทำอาหารเช้า พอเปิดประตูก็เห็นอวี๋หมิงหลางหิ้วซาลาเปาน้ำกลับมาหลังจากออกไปวิ่งตอนเช้า  

 

 

“อยู่กับพี่สบายสุดๆแล้วเนี่ย ต่อไปพี่สะใภ้ย้ายไปอยู่กับพี่แถมฉันไปด้วยคนได้มะ”  

 

 

“ใครเขาจะอยากได้ยัยสวาปามอย่างเธอไปด้วย ไปอ้อนฟู่กุ้ยนู่นไป จริงสิหลิวเหมย ห้องตรงข้ามมีคนย้ายมาอยู่ใหม่เหรอ” เมื่อเช้าตอนอวี๋หมิงหลางออกไปวิ่งเห็นคนผมทองอยู่ในห้องตรงข้าม  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด