แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 755 เดี๋ยวลุงขอเชิญไปดื่มชาหน่อยนะ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 755 เดี๋ยวลุงขอเชิญไปดื่มชาหน่อยนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อวี๋หมิงหลางหยุดเปิดคลื่นรบกวนแล้วโทรศัพท์

 

 

“นายเอาอุปกรณ์สะเดาะกลอนมาที่บ้านฉันภายในสิบห้านาที ช้าเพียงหนึ่งวิยาทีฉันจะหักแต้ม หักหมดเมื่อไรก็ไสหัวไปได้เลย”

 

 

“ตอนนี้เป็นช่วงหยุดของผม”

 

 

“บ่นอีกจะหักแต้ม เหตุผลคือกล้าเถียงหัวหน้า”

 

 

“…f…k”

 

 

“หักหนึ่งแต้ม”

 

 

อีกฝ่ายรีบวางสาย แต่เสี่ยวเชี่ยนพอนึกได้ว่าปลายสายโมโหแค่ไหน

 

 

“ใครน่ะ”

 

 

“สมาชิกใหม่ทีมเทคนิคของพวกเราชื่อเหยียนอวี้ เขาจบปริญญาโทด้านออปโตอิเล็กทรอนิกส์”

 

 

สะเดาะกลอนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเหยียนอวี้

 

 

“ตกลงนายจะบอกความลับสุดยอดอะไรกับฉัน”

 

 

“คนผมทองที่อยู่บ้านตรงข้ามดูผิดปกติ ส่วนรายละเอียดรอเหยียนอวี้มาก็รู้เอง”

 

 

“สีหน้าของนายบอกฉันว่า นายชอบเขามาก” เสี่ยวเชี่ยนจับทางอวี๋หมิงหลางได้ ถ้าเขาถูกใจทหารคนไหนก็จะทรมานให้ถึงที่สุด ถ้าคนไหนเขาไม่ชอบก็จะทำตัวเฉยๆ

 

 

พอพูดถึงทหารคนนี้อวี๋หมิงหลางก็เอามือถูกกัน เห็นได้ชัดว่าชอบมาก

 

 

“ไอ้หมอนี่พอจบปริญญาโทจากโรงเรียนทหารก็ได้ยศร้อยเอก อวดเก่งมาก แต่ก็เก่งจริง จัดอยู่ในประเภทอัจฉริยะที่ด้านเทคโนโลยีระดับสูงที่ทหารหน่วยรบพิเศษขาดไม่ได้ ผมเล็งเขาไว้แล้ว”

 

 

“เล็งเขาไว้แต่กลับยั่วโมโหเขาขนาดนี้”

 

 

“อัจฉริยะการศึกษาสูงย่อมมีความอวดดีในตัวเอง ถ้าไม่เล่นของจริงให้ดูเพื่อดึงดูดเขาไว้ ไม่แน่อีกหน่อยเขาอาจไม่อยู่กับผม ความอวดเก่งของเขาเป็นช่องทางให้เขาก้าวหน้าได้แต่ก็เป็นอุปสรรคได้เหมือนกัน ผมต้องลดความอวดเก่งของเขาเหลือไว้แค่ความเก่ง”

 

 

“ทำไมนายเรียนจบได้ยศพันตรี แต่เขาได้ร้อยเอก” เสี่ยวเชี่ยนลงรายละเอียด

 

 

“โรงเรียนทหารจบปริญญาโทได้ยศร้อยเอก ปริญญาเอกได้ยศพันตรี ผมจบปริญญาโทสองใบเลยได้เทียบเท่าคนจบเอก”

 

 

ที่แท้ก็แบบนี้

 

 

อวี๋หมิงหลางจับเวลาจริง เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกสงสารทหารคนที่อวี๋หมิงหลางถูกใจเข้าแล้ว

 

 

“จากค่ายนายขับรถมาที่นี่เร็วสุดก็สิบห้านาทีไหม เขายังต้องออกมาหารถ หาบ้านเรา พอเข้าเขตหมู่บ้านก็ต้องลดความเร็ว จะมาทันเหรอ”

 

 

“ทัน สมองไอ้หมอนี่เหมือนคอมพิวเตอร์ แผนที่เมืองเหมือนถูกสแกนไว้ในสมอง เขาสามารถหลบถนนที่การจราจรแออัดรวมถึงกล้องตรวจจับความเร็วเพื่อมาให้ทันได้ ผมคำนวณจากความเร็วที่เร็วที่สุดของเขา คำนวณระยะห่างจากบ้านเราไปโรงพยาบาล ผู้หญิงผมทองคนนั้นไวสุดก็คงยี่สิบนาทีถึงจะกลับมา เหยียนอวี้มีเวลาห้านาทีในการเปิดประตู ตอนที่ไอ้หมอนี่คุยโม้ผมไปได้ยินพอดี เขาบอกว่าไม่มีกลอนแบบไหนที่เขาเปิดไม่ได้ ถ้าเขาเปิดไม่ได้ผมจะหักแต้ม”

 

 

“…กลอนนั่นคนปกติใช้เวลาเท่าไร”

 

 

“ก็คงหลายชั่วโมงมั้ง แต่เขาไม่ใช่คนปกติ จะเอามาเทียบกันไม่ได้ หน่วยรบพิเศษไม่มีภารกิจที่ทำไม่ได้”

 

 

หลายชั่วโมง…แต่นี่เขาให้ลูกน้องใช้เวลาห้านาที

 

 

เสี่ยวเชี่ยนสงสารทหารจบปริญญาโทคนนี้ที่ถูกอวี๋หมิงหลางจับจ้องจังเลย

 

 

สิบสี่นาทีสิบวินาทีเหยียนอวี้ก็วิ่งหอบมาถึง อวี๋หมิงหลางมองนาฬิกาแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ

 

 

“พอไหว”

 

 

เหยียนอวี้ถลึงตามองอวี๋หมิงหลางประหนึ่งอยากกินหัว ไอ้คนหน้าด้าน เขาเกือบถูกตำรวจเรียก นี่แถบจะบินมาแล้วเนี่ย

 

 

“เรียนรักษาการหัวหน้า เหยียนอวี้หมายเลขหกสิบเก้ารายงานตัวครับผม”

 

 

“ไปสะเดาะกลอนเปิดประตูภายในห้านาที”

 

 

“เรียนรักษาการหัวหน้า ถ้าเปิดไม่ออกจะเป็นไงครับ” เหยียนอวี้ลองเปิดดูแล้วก็พบว่ามันไม่ธรรมดา

 

 

อวี๋หมิงหลางยิ้มหวานออกมา

 

 

“ตำรวจคนนั้นก็จะเชิญนายไปดื่มน้ำชาไง ทหารปริญญาโทโรงเรียนทหารมางัดบ้านคนอื่น ไม่แน่อาจได้ขึ้นศาลทหารด้วย”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยืนอยู่ข้างๆมองคนดวงซวยด้วยความสงสาร ถึงเด็กคนนี้จะไม่พูดอะไร แต่สีหน้าแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าต้องการด่าอวี๋หมิงหลาง ไปตายไป

 

 

“ผมขอถามครับ ทำไมต้องให้ผมมางัดบ้านของชาวบ้านด้วย” เหยียนอวี้ถาม

 

 

“ทำตามคำสั่ง นายเสียเวลาไปหลายนาทีแล้ว”

 

 

“ผมขอปฏิเสธการทำเรื่องแบบนี้ ต่อให้คุณยกเลิกใบอนุญาตของผม ผมก็ไม่มีทางงัดบ้านของชาวบ้าน ผมไม่เข้าหน่วยเสินเจี้ยนก็ได้ แต่หลักการไม่เคยเปลี่ยน”

 

 

“นายไม่งัดบ้านคนทั่วไป แต่ถ้านี่เกี่ยวพันถึงสปายระดับนานาชาตินายจะงัดไหม” เสี่ยวเชี่ยนอธิบาย อวี๋หมิงหลางเหลือบมองเธอ “เมียจ๋า ทำไมพูดมากแบบนั้น”

 

 

“พวกคุณพูดถึง—” เหยียนอวี้อึ้ง

 

 

“นายเสียเวลาไปสามสิบกว่าวินาทีแล้ว เดี๋ยวถ้าเจ้าของบ้านกลับมาจะทำเสียงานใหญ่”

 

 

เหยียนอวี้ไม่พูดอะไรอีก ตั้งหน้าตั้งตาสะเดาะกลอน เขามีกล่องอุปกรณ์ขนาดเล็กแบบพิเศษ ภายในนั้นมีเครื่องมือครบครัน

 

 

“เขาเก่งมากเลยนะ” เสี่ยวเชี่ยนยืนดูเหยียนอวี้สะเดาะกลอนพลางพูดด้วยความนับถือ

 

 

“หน่วยเสินเจี้ยนของเราไม่เลี้ยงคนไม่ได้เรื่อง”

 

 

อวี๋หมิงหลางปากร้าย แต่ภายในใจนั้นยอมรับในความสามารถของเหยียนอวี้ เมื่อเทียบกับทหารหน่วยรบพิเศษที่เลือกมาจากที่อื่นแล้ว ความสามารถทางด้านร่างกายของเหยียนอวี้อาจจะด้อยกว่าบ้าง แต่ในเรื่องสมองกลับโดดเด่น เป็นคนอัจฉริยะมากความสามารถเหมือนกัน แต่เหยียนอวี้มาคนละสายกับอวี๋หมิงหลาง อวี๋หมิงหลางเป็นนักบัญชาการกับมือสไนเปอร์ ส่วนเหยียนอวี้สายเทคนิคอุปกรณ์ครบครัน ด้านร่างกายฝึกกันได้ แต่เรื่องสมองได้มาแต่กำเนิด”

 

 

เวลาค่อยๆผ่านไป เหยียนอวี้ก็ยังเปิดไม่ได้ กลอนแบบนี้ช่างทั่วไปยังใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมง เขาเริ่มเครียด ทำไปถามอวี๋หมิงหลางไป

 

 

“รักษาการหัวหน้าครับ ถ้าผมเปิดไม่ได้จะสร้างความเสียหายอะไรให้กับประเทศครับ”

 

 

“ช้าไปหนึ่งนาทีจะมีคนแจกจ่ายอาวุธให้กับพวกค้ายาชายแดน เพื่อนทหารที่ประจำการอยู่ชายแดนก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น”

 

 

เหยียนอวี้เม้มปากแน่น ตั้งใจทำงานต่อ

 

 

เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างหนักหน่วง

 

 

ใกล้ถึงห้านาทีแล้ว ในที่สุดเหยียนอวี้ก็เปิดประตูได้

 

 

เขาเช็ดเหงื่อที่จมูกแล้วพยักหน้าให้อวี๋หมิงหลาง

 

 

และเวลานี้ตรงหน้าลิฟท์ขึ้นว่าลิฟท์กำลังลง มีคนกำลังจะขึ้นมา ไม่รู้ว่าใช่สาวผมทองหรือเปล่า

 

 

อวี๋หมิงหลางรีบเข้าไปในบ้าน พอเข้าไปก็มุมปากกระตุก

 

 

ในบ้านรกรุงรังมาก…ยากที่จะจินตนาการได้ว่านี่เป็นบ้านของผู้หญิง ทำได้สกปรกขนาดนี้นับว่าเทพมาก

 

 

อวี๋หมิงหลางรีบกวาดตามองห้องที่มีกำแพงติดกับห้องเสี่ยวเชี่ยน แล้วเขาก็พบอุปกรณ์ดักฟังตามคาด

 

 

นอกจากนี้ยังมีหนังสือเล่มหนึ่ง อวี๋หมิงหลางเปิดดู เป็นอัลบั้มรูปของประมูล ในนั้นมีแต่ของโบราณ เขารีบจำข้อมูลพวกนั้นอย่างรวดเร็ว

 

 

มีหน้าหนึ่งที่ถูกพับมุมไว้ เป็นผลงานของเจิ้งป่านเฉียว แถมด้านข้างยังมีข้อความที่ถูกเขียนด้วยดินสอว่า เธอชอบ

 

 

ใครชอบ เสี่ยวเชี่ยนชอบ

 

 

สาวผมทองคนนี้ดักฟังเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนชอบภาพวาดใบนั้นอย่างแน่นอน แต่เธอจดสิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนชอบไว้ทำไมกัน

 

 

อวี๋หมิงหลางเห็นบนโต๊ะมีเครื่องเล่นเสียงแบบพกพาเขาจึงกดเปิด มีเสียงหมาหอนหมาเห่าดังออกมา เสี่ยวเชี่ยนที่ยืนอยู่ตรงประตูพอได้ยินเสียงหมาก็หรี่ตาเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

 

 

“รักษาการหัวหน้าครับ เหมือนจะมีคนขึ้นลิฟท์มาครับ” เหยียนอวี้เตือนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

 

 

อวี๋หมิงหลางไม่ชักช้า รีบเดินออกมากับเหยียนอวี้ ก่อนปิดประตูเหยียนอวี้สังเกตเห็นอวี๋หมิงหลางเก็บเส้นผมขึ้นมาจากพื้น วางไว้ที่ประตู แล้วถึงถอยออกมา

 

 

เหยียนอวี้อดไม่ได้ที่จะชื่นชม รายละเอียดเล็กๆน้อยแบบนี้ขนาดเขายังนึกไม่ถึง ได้ยินว่ารักษาการหัวหน้าเป็นมือสไนเปอร์มาก่อน ความสามารถในการสังเกตเป็นเลิศจริงๆ ถึงภายนอกจะดูนิ่งเฉยมากก็ตาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด