แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 762 พี่จัดการคนชั่วและก็ถือโอกาสทำร้ายคนโสด

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 762 พี่จัดการคนชั่วและก็ถือโอกาสทำร้ายคนโสด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อวี๋หมิงหลางบีบคอหนึ่งในสองผู้ชายชุดดำ คนที่ถูกบีบถึงกับหน้าเขียว  

 

 

กล้าเอาลูกเหล็กเหวี่ยงไปที่เมียเขา เบื่อชีวิตมากแล้วใช่ไหม แค่บีบคอมันยังน้อยไป  

 

 

“คุณจะเอาไง” ผู้ชายที่อยู่ปลายสายถาม  

 

 

“คำพูดนี้ควรจะเป็นผมถามมากกว่ามั้ง คุณให้คนมาเล่นงานเมียผม คิดจะเอาไง”  

 

 

“ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมแค่อยากนัดหมอเฉินให้มารักษาผมแค่นั้นเอง”  

 

 

“หึหึ รักษาเหรอ…” อวี๋หมิงหลางฟังออกว่าอีกฝ่ายแถ ถ้าคิดจะมาขอให้เมียเขารักษาต้องใช้วิธีแบบนี้ด้วยเหรอ  

 

 

“ปล่อยคนของผมแล้วเรามาคุยกันต่อหน้า”  

 

 

“อีกสิบนาทีเจอกันที่ฝั่งตรงข้ามสะพานหลินเหมิน มาช้าวินาทีเดียวผมจะเอาลูกน้องสองคนของคุณส่งตำรวจ คนต่างชาติทำร้ายครอบครัวทหาร ถ้าไม่อยากโดนจับก็รีบมา”  

 

 

อวี๋หมิงหลางปล่อยมือ คนที่ถูกบีบคอไอไม่หยุด อวี๋หมิงหลางใช้มือฟันที่ท้ายทอยอีกฝ่าย แล้วถีบลงจากรถ ผู้ชายคนนั้นกลิ้งลงไปกองรวมกับเพื่อนที่อวี๋หมิงหลางเพิ่งถีบทิ้งไปเมื่อครู่  

 

 

“ถ้าไม่อยากถูกรถทับตายก็ลากเพื่อนเฮงซวยของแกขึ้นรถซะ” อวี๋หมิงหลางกระโดดลงจากรถอย่างคล่องแคล่ว ชายชุดดำที่แบกเพื่อนมองอวี๋หมิงหลางอย่างระแวง  

 

 

ผู้ชายคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันฝีมือถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้  

 

 

“เจ้านายของพวกแกบอกว่าจะมาเจอ ถ้าไม่อยากไปเจอคนให้อาหารในสภาพทุเรศยิ่งกว่านี้ก็ขึ้นรถแล้วทำตัวดีๆ”  

 

 

ชายชุดดำฟังออกว่าอวี๋หมิงหลางหลอกด่าว่าพวกเขาสภาพเหมือนหมา แบบนี้มันยอมไม่ได้ ครั้นแล้วเขาจึงพุ่งเข้าไป  

 

 

อวี๋หมิงหลางหลบการโจมตีได้อย่างว่องไว จากนั้นเขาก็หยิบกระบองที่พกติดเอวออกมาฟาดไปที่มือของผู้ชายคนนั้น เจ็บเสียจนร้องจ๊ากออกมา  

 

 

กระดูกหักไหมวะเนี่ย  

 

 

“แก…ใช้อาวุธ…”  

 

 

นี่มันโกงกันชัดๆ  

 

 

อวี๋หมิงหลางผายมือออก “แล้วตอนที่พวกแกเอาลูกเหล็กเหวี่ยงใส่เมียฉันนั่นมันก็อาวุธเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”  

 

 

“มันทำ ฉันไม่ได้ทำ…” ผู้ชายคนนั้นรู้สึกเจ็บมาก ในใจแอบเซ็งที่ต้องมารับกรรมแทนเพื่อน  

 

 

“อ้อ คนนี้เหรอ” อวี๋หมิงหลางมองคนดวงซวยที่สลบลงไปกองอยู่กับพื้น เขาเดินเข้าไปแล้วเตะเข้าไปที่กล่องดวงใจของอีกฝ่ายด้วยเท้าที่ใส่รองเท้าบู๊ท—ขยี้  

 

 

“โอ๊ย” คนดวงซวยประจำปีฟื้นทันที ส่งเสียงร้องโอดโอย จากนั้นก็สลบไปแบบแน่นิ่งไม่ขยับอีก  

 

 

ชายชุดดำที่สงสัยว่าตัวเองกระดูกหักเห็นอวี๋หมิงหลางเ**้ยมโหดขนาดนี้ก็ถอยหลังโดยอัตโนมัติ เหมือนอยากจะหนี  

 

 

“ถ้าแกหนีกลับไปเจ้านายแกตัดแขนขาที่เหลือทิ้งแน่”  

 

 

ชายชุดดำจึงจำต้องหยุดเดิน มองอวี๋หมิงหลางด้วยความเคียดแค้น อวี๋หมิงหลางเก็บอารมณ์ความสนุก แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าขึงขังของทหาร  

 

 

“ขึ้นรถ”  

 

 

“ลุงทหารเก่งจังเลยฮะ สุดยอดเลย” ภายในรถคันข้างหน้ามีเด็กผู้ชายอายุสิบกว่าขวบนั่งอยู่ เด็กน้อยเห็นตั้งแต่ต้นจนจบว่าลุงทหารจัดการกับคนเลวยังไง พอเห็นอวี๋หมิงหลางจับคนร้ายได้แล้วก็ปรบมือดีใจ  

 

 

“ทำเพื่อประชาชนครับ” อวี๋หมิงหลางยกมือทำท่าแสดงความเคารพแบบทหาร “ทุกท่านวางใจได้ครับ สองคนนี้เป็นคนร้ายที่ผมตามจับ ตอนนี้ภารกิจของผมเสร็จสิ้นแล้ว เมืองของเรากลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง หวังว่าทุกท่านจะไม่นำเรื่องไปเล่าอย่างเกินจริงนะครับ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ”  

 

 

เสียงปรบมือเกรียวกราว  

 

 

คนขับรถที่อยู่รอบๆพากันชะโงกหน้าออกมาดูแล้วปรบมือ ทหารของประเทศเท่ห์มาก  

 

 

“ลุงฮะ ถ้าผมโตขึ้นผมจะเป็นทหารอย่างลุงได้หรือเปล่าฮะ” เด็กน้อยทำหน้าเลื่อมใส  

 

 

อวี๋หมิงหลางยิ้ม “ตั้งใจเรียนแล้วเป็นคนที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือไม่ก็ล้วนตอบแทนประเทศชาติได้เหมือนกัน สู้ๆ”  

 

 

เด็กน้อยรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที ถึงชายชุดดำจะไม่เข้าใจภาษาจีน แต่ก็พอจะเดาสถานการณ์ได้  

 

 

“สถุน…” เห็นๆอยู่ว่ามาแก้แค้นแทนเมียยังแสร้งทำตัวเป็นฮีโร่ ชายชุดดำยังไม่ยอม  

 

 

อวี๋หมิงหลางถีบเขาไปหนึ่งที “สถุนไรของเอ็งไอ้ตะกร้า ผู้ชายที่ปกป้องครอบครัวตัวเองไม่ได้แล้วจะปกป้องประเทศชาติได้ยังไง ขึ้นรถ”  

 

 

ภาษาอังกฤษประโยคนี้เด็กน้อยฟังเข้าใจ พอกลับเข้าไปในรถก็พูดกับพ่อที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับอย่างตื่นเต้น “ พ่อฮะ ผมจะเอาอย่างลุงทหาร ต่อไปผมจะปกป้องพ่อกับแม่เอง”  

 

 

“คนเป็นทหารสมัยนี้เก่งขนาดนี้แล้วเหรอ พูดภาษาอังกฤษคล่องเชียว…ลูกพ่อ เราก็เก่งไม่เบานะ ฟังออกด้วยว่าพวกเขาพูดว่าอะไร ไม่เสียแรงที่ส่งเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ”  

 

 

คนเป็นพ่อพอเห็นรถข้างหน้าขยับแล้วก็รู้ได้ว่าสะพานถูกเอาลงเรียบร้อย จึงหันไปตั้งใจขับรถ  

 

 

เหยียดหยาม นี่มันหยามเกียรติกันชัดๆ  

 

 

ชายชุดดำที่ตอนนี้เหลือมือใช้ได้ข้างเดียวขับรถอย่างยากลำบาก สายตาเหลือบมองอวี๋หมิงหลางที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังอย่างได้ใจ ไหนจะเพื่อนของเขาที่น่าสงสาร สลบไม่รู้เรื่องอยู่บนเบาะ  

 

 

“อย่างแกเรียกว่าลอบทำร้าย เป็นฮีโร่ตรงไหน” ชายชุดดำบ่น  

 

 

“งั้นผู้ชายสองคนอย่างพวกแกทำร้ายผู้หญิงอ่อนแอคนเดียวเรียกว่าฮีโร่งั้นสิ อย่าพูดมาก รีบขับไป” อวี๋หมิงหลางชี้ไปที่กระบองในมือ ไม่อยากโดนฟาดอีกข้างก็หุบปาก  

 

 

แต่ไหนแต่ไรมาความอดทนที่มีต่อคนที่ทำร้ายเมียของเขาคือศูนย์  

 

 

ฮือๆ ตอนที่พี่ใหญ่บอกให้พวกเขามาแค่พูดว่าให้มาสั่งสอนผู้หญิงที่ยั่วยวนคุณชายน้อย ไม่เห็นบอกว่าข้างกายผู้หญิงคนนั้นมีผู้ชายที่ร้ายกาจอยู่ด้วย รู้แบบนี้ไม่มาดีกว่า…  

 

 

ชายชุดดำพยายามอดทนขับรถพลางบ่นในใจ ไม่ใช่แค่มือที่ถูกตีจนกระดูกหัก ยังต้องทนกับเสียงคุยโทรศัพท์ของคนที่นั่งด้านหลัง  

 

 

“เมียจ๋า~ พี่เท่ห์เปล่า เห็นพี่แก้แค้นเจ้าพวกนั้นไหม”  

 

 

โวะ ชายชุดดำแอบยกนิ้วกลางให้ในใจ ลอบทำร้ายคนอื่นยังจะมีหน้ามาพูด  

 

 

“พี่เหรอ พี่ไม่เป็นไร พวกมันน่ะโง่เอง ร่างกายอ่อนแออย่างกับคนพิการ พี่จัดการได้อย่างสบายๆ”  

 

 

โวะ เอ็งสิวะคนพิการ—ชายชุดดำมองแขนที่หักอย่างเซ็งๆ ก็ได้ เขาถูกซ้อมจนใกล้เคียงกับคนพิการแล้ว น่าเวทนามาก  

 

 

“ขับตามรถคันนี้มานะ มีคนอยากเจอคุณ รักนะเมียจ๋า”  

 

 

พี่ใหญ่ พี่อยู่ไหนกันแน่ รีบมา ชายชุดดำตะโกนขอความช่วยเหลือในใจ นี่เขาเจอสัตว์ประหลาดอะไรเข้าวะเนี่ย  

 

 

ถูกซ้อมยังไม่เท่าไร ทำไมต้องมาทนฟังเสียงออดอ้อนด้วย มันช่างทรมาน…  

 

 

สะพานที่เมื่อครู่รถแน่นขนัด เมื่อกลับสู่สภาวะปกติก็ขับคล่องถนน ชายชุดดำที่แขนหักขับลงสะพานตามที่อวี๋หมิงหลางสั่ง จากนั้นก็ไปจอดจุดหนึ่งข้างถนน  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนขับรถอวี๋หมิงหลางตามมาติดๆ  

 

 

“เมียจ๋า~” อวี๋หมิงหลางลงรถไปก็กางสองแขน  

 

 

“ที่รัก~” เสี่ยวเชี่ยนโผเข้าหา สองคนทั้งกอดทั้งจูบ  

 

 

ชายชุดดำรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเหยียดอีกแล้ว ลูกพี่ รีบๆมาเซ่ ผมอยู่คนเดียวรับไม่ไหวหรอกนะ  

 

 

สู้อย่างดุเดือดมาก็ยังไม่ลืมที่จะออดอ้อน สองคนนี้มันจริงจังแค่ไหนวะ—หรือจะพูดได้ว่า ผู้ชายสวมชุดทหารที่ไม่รู้ที่มาที่ไปคนนี้ไม่เห็นพวกเขาในสายตาเลยใช่ไหม  

 

 

การรวมร่างของอวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยนทำร้ายหัวใจคนโสดยืดเยื้ออยู่ได้ไม่กี่นาทีก็มีรถคันหนึ่งเข้ามาจอด มีคนลงจากรถแล้วเดินมาทางพวกเขา  

 

 

ชายชุดดำพอเห็นคนๆนี้ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที พี่ใหญ่ ในที่สุดพี่ก็มา  

 

 

คนๆนี้ค่อนข้างผอม ส่วนสูงพอๆกับอวี๋หมิงหลางน่าจะประมาณ185 แต่ความผอมทำให้ดูไม่สูง ดูเหมือนคนอ่อนแอคนหนึ่ง ใส่แว่นตากรอบทอง  

 

 

สำหรับเสี่ยวเชี่ยนแล้วนี่ก็แค่คนแปลกหน้า แต่อวี๋หมิงหลางกลับรู้สึกคุ้นหน้าคนๆนี้  

 

 

หน้าคุ้นมาก…  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด