แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 778 ผลวินิจฉัยที่พิเศษมาก

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 778 ผลวินิจฉัยที่พิเศษมาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท่าทีซ่งชิงอู๋ที่มีต่อเสี่ยวเชี่ยนคือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งตั้งแต่แรก หมอหญิงคนนี้ตลอดเวลาการรักษาหนึ่งชั่วโมงดูเหมือนจะไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ดูเป็นกิจจะลักษณะ ไม่เหมือนกับจิตแพทย์ที่เขาเคยไปหาก่อนหน้า

 

 

เป็นพวกจิตแพทย์แหวกแนว

 

 

“ราคาของฉันยุติธรรมเสมอ ปกติค่ารักษาฉันเก็บตามสัญชาติ ถ้าเป็นคนชาติเดียวกันก็เงินหยวน ชาวต่างชาติก็ดอลล่าร์ ถึงคุณกับพ่อจะไม่ได้ถือสัญชาติประเทศนี้ แถมยังเกิดและโตในต่างประเทศ แต่ปู่ของคุณเป็นลูกหลานประเทศนี้”

 

 

“คุณต้องการอะไร”

 

 

“ฉันรับรองว่าคุณจะได้เบญจมาศอาเหม็ด คุณก็ต้องรับรองว่าในอนาคตเมื่อคุณกับอาเหม็ดไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรจะไม่ขยายขอบเขตมาที่ประเทศนี้ ฉันให้ราคาเงินหยวนกับคุณ คุณก็ช่วยทำหน้าที่ของลูกหลานแผ่นดินนี้ให้ด้วย เป็นไงคะ”

 

 

“ผมจะให้เป็นดอลล่าร์”

 

 

แน่นอนว่าซ่งชิงอู๋ไม่โง่ ต่อไปเขาต้องช่วยอาเหม็ดให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เค้กก้อนใหญ่ขนาดนี้เขาจะไม่เอาได้ยังไง หมอคนนี้โลภเกินไป

 

 

“ไม่ ฉันไม่รับ ฉันรับแต่เงินหยวน จะเอาอาณาเขตหรือจะเอาสาวงามคุณเลือกเองนะคะ”

 

 

“ผมไปหาจิตแพทย์คนอื่นก็ได้ ไม่เห็นต้องเป็นคุณเลย”

 

 

“ได้ค่ะ แล้วแต่คุณ ถ้าคุณหาจิตแพทย์คนอื่นแล้วได้ผลคงไม่ต้องอดกลั้นขนาดนี้ ตอนนี้อาเหม็ดชอบฉันมาก ถ้าฉันเล่นด้วยนิดหน่อยบางทีเขาอาจไม่หลงเหลือความเป็นไปได้ที่จะชอบผู้ชายแล้ว—ถึงสายตาคุณจะโหดร้าย แต่อย่าทำเป็นแข็งข้อเลยนะคะ ในอาณาเขตที่ผู้ชายของฉันมีอิทธิพล คุณอย่าหวังว่าจะลงมือกับฉันได้”

 

 

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงได้ทำแบบนี้ ต่อให้พวกเราไม่มาคนอื่นก็มาอยู่ดี”

 

 

“โง่จัง ที่ไม่ให้พวกคุณมาก็เพื่อปกป้องคนไข้ของฉัน พวกคุณมาเท่าไรก็มีคนตายมากเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะมีคนอย่างพวกสามีฉันเอาไว้ทำไม”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเงยหน้าก็เห็นอวี๋หมิงหลางยืนถือมีดหั่นผักอยู่ตรงประตูด้วยสภาพมีผ้ากันเปื้อนอยู่บนตัว

 

 

“เนื้อแพะหั่นใหญ่ประมาณนี้หรือเปล่า” อวี๋หมิงหลางเอามีดชี้

 

 

“ใหญ่ไป—ไหนนายแสดงความเห็นหน่อยซิ” เสี่ยวเชี่ยนพูดกับอวี๋หมิงหลาง

 

 

“ผู้รุกล้ำ มันต้องตาย”

 

 

อวี๋หมิงหลางควงมีดหั่นฟึ่บ เนื้อที่อยู่ในมือขาดครึ่ง

 

 

“พอละ กลับไปทำงานต่อไป” เสี่ยวเชี่ยนเห็นสีหน้าซ่งชิงอู๋ก็รู้ได้ว่าสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว

 

 

ใช้เรื่องย่างแพะเสียบไม้มาคุยเรื่องจริงจังแบบนี้ นอกจากเธอกับอวี๋หมิงหลางแล้วก็คงไม่มีใครอื่นอีก

 

 

“คุณยังไม่ต้องรับปากฉันก็ได้ ฉันกล้าพูดได้เลยว่าอีกยี่สิบปีข้างหน้าประเทศของเราจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ผู้ชายของฉันกับพรรคพวกของเขาไม่กลัวพวกคุณมาก่อความวุ่นวายหรอก มาเท่าไรก็ฆ่าเท่านั้น ฉันก็แค่ไม่อยากให้คนไข้ของฉันวันหนึ่งต้องมากลายเป็นวิญญาณอยู่ภายใต้ปากกระบอกปืนของสามีฉัน”

 

 

“อวดดีมาก”

 

 

“ค่ะ ฉันอวดดี เพราะประเทศของฉันลุกขึ้นยืนขึ้นมาได้แล้ว ฉันให้ตัวเลือกคุณไปแล้วนะคะ จะจ่ายเงินเอาแผนไปไหมก็ขึ้นอยู่กับคุณ”

 

 

ช่วงเวลาแบบนี้ทุกวินาทีคือสงครามจิตวิทยา เธอรู้ว่าเธอกำลังเผชิญหน้าอยู่กับใคร

 

 

“ว่ามา คำตอบที่คุณต้องการคืออะไร” ซ่งชิงอู๋ตอบไวกว่าที่เธอคิด

 

 

เขาเป็นคนฉลาด

 

 

“คำตอบก็อยู่ในนี้ คุณยังไม่ต้องจ่ายค่ารักษาให้ฉัน วันหน้าคุณต้องมาขอร้องฉันอีกแน่นอน ถึงตอนนั้นค่อยคิดทีเดียว ช้าสุดห้าปีอย่างไวก็หนึ่งปี ยังไงคุณก็ต้องมาหาฉัน”

 

 

“ผมไม่เคยขอร้องใคร” ซ่งชิงอู๋เปิดกระดาษที่เสี่ยวเชี่ยนยื่นให้ จากนั้นสีหน้าที่นิ่งๆก็แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าประหลาดที่ยากจะบรรยาย เขากระพริบตาถี่ๆเพื่อดูให้แน่ชัดว่าไม่ได้มองผิดไป

 

 

“คุณล้อเล่นเหรอ”

 

 

ข้อความในนั้นถ้าจะบอกว่าเป็นผลการวินิจฉัย ไม่สู้บอกว่า…เป็นชื่อหนังเอวีแนวหนักหน่วง

 

 

จับมัด ใช้เทียน ซ่งชิงอู๋รู้สึกว่าถ้าแยกเป็นคำๆเขารู้จัก แต่พอเอามารวมกันดูเหมือน…ไม่ควรจะมาปรากฏในนี้หรือเปล่า

 

 

“ฉันล้อเล่นหรือเปล่ากลับไปลองดูก็รู้เอง ไม่เกินหนึ่งปีเขาก็จะเป็นของคุณ ทำตามลำดับที่ฉันบอก ไม่ต้องลีลามาก จัดให้หนัก อาจจะเลือกแบบมอมเหล้าก่อนก็ได้ ค่อยเป็นค่อยไป”

 

 

“…” ซ่งชิงอู๋ยังคงจับจ้องผลการวินิจฉัยที่เหลือเชื่อที่สุดในโลกนี้

 

 

เป็นครั้งแรกที่เจอหมอสอนคนไข้ให้ทำเรื่องแบบนี้ อีกอย่างพอได้ยินหมอพูดเรื่องพวกนี้ก็รู้สึกแปลกๆด้วย…

 

 

“ผมไม่เคยเจอจิตแพทย์ที่เป็นแบบคุณมาก่อนเลย คุณสอนคนให้ทำผิดเหรอ”

 

 

“นั่นก็เพราะจิตแพทย์คนอื่นยังไม่เคยเจอคนที่อาจจะกลายเป็นพ่อค้าอาวุธสงครามที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลกในอนาคต เรื่องSMถ้ามันอยู่บนพื้นฐานความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดหรอก แน่นอนว่าเยาวชนและเด็กไม่ควรลอกเลียนแบบ เพราะคุณกับอาเหม็ดเป็นกรณีพิเศษที่ไม่ควรเอาอย่าง ถ้าคนอื่นเลียนแบบพวกคุณได้ตายอย่างเขียดแน่”

 

 

“คุณแน่ใจ…ว่าเขาจะยอม” ซ่งชิงอู๋เกิดความสงสัยใน ‘ผลการวินิจฉัย’ ของเสี่ยวเชี่ยนหมื่นเปอร์เซ็นต์

 

 

อาเหม็ดไม่เคยไว้หน้าเขาสักนิด ถึงขนาดที่ไม่อยากพูดด้วยเลยด้วยซ้ำ ถ้าทำตามคำแนะนำนี้ทั้งจับหมดทั้งบลาๆๆ ถ้าเขาถูกเกลียดหนักกว่าเดิมจะทำไง

 

 

“ตอนแรกคงไม่ยอมหรอก แต่ฉันเคยให้เขาทำแบบทดสอบ เขามีความเข้ากันได้กับคุณสูงอยู่ ถ้าคุณจับคนปกติมัดไม่ได้ผลหรอก ไม่แน่ถ้าอีกฝ่ายนิสัยโหดอาจซ้อมคุณตายคาที่เลยก็ได้—”

 

 

พอรู้สึกได้ว่าสีหน้าของซ่งชิงอู๋บึ้งตึงลงเรื่อยๆเสี่ยวเชี่ยนจึงยิ้มให้ “แต่ยินดีด้วยนะคะที่เบญจมาศอาเหม็ดไม่ใช่คนปกติ”

 

 

“ถ้าคุณบอกพลาดขึ้นมาผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

 

 

“อัตราความเป็นไปได้ที่ฉันจะวินิจฉัยผิดคือศูนย์ ถ้าคุณไม่บรรลุเป้าหมายก็แสดงว่าเป็นเรื่องเทคนิคของคุณ จำไว้นะคะ ห้ามใจอ่อนก่อนที่จะพิชิตใจเขาได้ เพราะอาเหม็ดเป็นM ยิ่งคุณดีกับเขา เขาก็จะยิ่งเกลียดคุณ”

 

 

ด้วยเหตุนี้เมื่อชาติก่อนไม่ว่าซ่งชิงอู๋จะดีกับอาเหม็ดแค่ไหน อาเหม็ดก็ไม่เหลียวแล ก็เพราะอาเหม็ดเป็นMไงล่ะ

 

 

“ทางที่ดีเอาแบบนี้แหละ”

 

 

ซ่งชิงอู๋เก็บ ‘ผลวินิจฉัย’ ใส่กระเป๋า แล้วมองเสี่ยวเชี่ยนพลางครุ่นคิด เสี่ยวเชี่ยนก้มหน้าเก็บชุดน้ำมันหอมระเหย ไม่มองเขา

 

 

“อย่าคิดจะผิดสัญญาเข้ามาก่อกวนในประเทศของเรา ฉันทำให้เขาเป็นของคุณได้ก็ทำให้คุณสูญเสียเขาไปตลอดกาลได้เหมือนกัน ตราบใดที่คุณไม่สร้างความยุ่งยากให้สามีฉันและพรรคพวกของเขา คุณก็จะยังคงมีความสุขต่อไป เมื่อไรที่เกิดความคิดผิดเพี้ยน ฉันก็จะทำให้คุณสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่เบญจมาศอาเหม็ด”

 

 

“คุณก็มั่นใจในตัวเองเกินไป”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยืนขึ้นเอามือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ

 

 

“สิ่งที่ฉันพูดจะถูกหรือไม่ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จำไว้ว่าฉันตั้งเวลาไว้ห้าปี ในห้าปีนี้คุณต้องมาขอร้องฉันแน่”

 

 

ซ่งชิงอู๋หันตัวเดินออก แต่กลับจดจำน้ำเสียงของเสี่ยวเชี่ยนที่มั่นใจเกินเหตุเอาไว้

 

 

คนที่มีความสามารถพิเศษขนาดนี้ทำไมถึงเป็นผู้หญิงนะ น่าเสียดาย…

 

 

อวี๋หมิงหลางยังคงกำลังหั่นเนื้อแพะ เขาเห็นซ่งชิงอู๋กับเสี่ยวเชี่ยนเดินออกมา เขาไม่ได้แสดงอาการผิดปกติอะไร ก็เหมือนกลับคลื่นลมที่สงบจนไม่รู้จะสงบยังไงแล้ว

 

 

“จะไปแล้วเหรอ ไม่อยู่กินด้วยกัน” อวี๋หมิงหลางถามแบบไม่จริงใจ

 

 

“ไม่ล่ะ พวกคุณหน้าเลือดเกินไป—เป็นครั้งแรกที่ผมเจอคนขูดรีดยิ่งกว่าพวกค้าอาวุธ พวกคุณทำให้ผมได้เปิดโลกทัศน์”

 

 

“เขาต่างหาก ผมไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย” อวี๋หมิงหลางผายมือออก

 

 

ซ่งชิงอู๋เบ้ปาก “ถ้าไม่มีคุณหนุนหลังเขาจะกล้าถึงขนาดมาพูดจาแบบนี้กับผมเหรอ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด