แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 804 ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 804 ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวฮวาร้องไห้หนัก เถียงกลับอย่างคนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ “ใช่ ฉันมันไม่ได้เรื่อง ฉันมันไร้ค่า ฉันทำชีวิตตัวเองเละเทะไปหมด ตอนนี้เธอพอใจหรือยังล่ะ เธอจะมายุ่งกับฉันทำไม ฉันต้องการให้เธอมายุ่งเหรอ”  

 

 

พอเห็นเสี่ยวฮวาร้องไห้เหมือนคนสติแตก ประธานเชี่ยนก็แสดงออกตรงๆ  

 

 

เธอลุกขึ้นเดินไปหาเสี่ยวฮวา แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  

 

 

“ไม่เกี่ยวกับฉัน…แต่เธอกล้าพูดไหมว่าไม่เกี่ยวกับอาจารย์?”  

 

 

สิ่งที่ไม่สอดคล้องกับน้ำเสียงนุ่มนวลของประธานเชี่ยนก็คือท่าทางของเธอ เธอง้างมือตบหลิวเสี่ยวฮวา  

 

 

หลิวเสี่ยวฮวาถูกตบหน้าหัน เธอหันกลับไปด้วยความโกรธ  

 

 

“เธอกล้าตบฉัน”  

 

 

“ฉันตบแทนอาจารย์ เธอทำแบบนี้กับอาจารย์ที่ดีกับเธอมาหลายปีเหรอ? ฉันตบเธอ เธอทำอย่างกับหมาโดนเหยียบหาง แล้วทีผู้ชายคนนั้นตบเธอทำอะไรอยู่?”  

 

 

“เขาก็เขา เธอก็เธอ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน มีสิทธิ์อะไร…โอ๊ย”  

 

 

เสี่ยวฮวาเอามือจับหน้า เพราะเสี่ยวเชี่ยนตบเธออีกครั้ง  

 

 

“ฉันตบเธอเพราะสิ่งที่เธอเรียนมาหลายปีนี้มันไม่ได้ช่วยเธอเลย เขาสนิทกับเธอก็เลยตบได้งั้นเหรอ? ความรู้เธอถูกเชื้อโรคกินหมดแล้วหรือไง? บอกฉันมา ถ้าเจอเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงภายในบ้านครั้งแรกเธอควรแนะนำผู้ขอรับคำปรึกษายังไง?”  

 

 

“พยายามสู้กลับสุดชีวิต ให้เขารู้ถึงผลของการกระทำ…แต่มันไม่เหมือนกัน”  

 

 

“ไม่เหมือนกันตรงไหน? อย่ามาพูดเรื่องที่ว่าฉันเป็นคนนอกจะรู้อะไร รอบตัวเธอมีรุ่นพี่รุ่นน้องตั้งมากมาย ไม่มีใครแนะนำเธอสักคนเลยเหรอ? แล้วปกติคบกันทำไม? พูดจาให้ร้ายฉัน บ่นถึงความลำเอียงของเถ้าแก่ใหญ่ แต่พอเกิดเรื่องขึ้น เธอลองแหกตาดูซิว่าใครบ้างที่มาช่วยเธอ? เหมยเจียวเจียวนั่นดีกับเธอเหรอ? ถ้าเขาดีกับเธอจริงๆแล้วจะเรียกฉันมาทำไม?”  

 

 

ในบรรดาพี่น้องที่เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันไม่ได้มีแค่ประธานเชี่ยนที่มีความสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ในเวลาที่เสี่ยวฮวาอ่อนแอเพื่อนที่สนิทกับเสี่ยวฮวาที่สุดกลับนำเรื่องนี้ไปบอกประธานเชี่ยนคนที่เสี่ยวฮวาไม่ชอบ พอมาคิดดูดีๆการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก  

 

 

คนบางคนอยากจัดการคู่ปรับให้ราบคาบจะแย่ ใครกล้าพูดบ้างว่าเหมยเจียวเจียวไม่คิดแบบนั้น อยากให้ประธานเชี่ยนกำจัดเสี่ยวฮวาจนอยู่ไม่ได้อีก? ส่วนตัวเองก็แค่นั่งรอดูผลลัพธ์  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเป็นศิษย์รักของเถ้าแก่ใหญ่เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี เหมยเจียวเจียวคงคิดว่าประธานเชี่ยนจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเถ้าแก่ใหญ่ เสี่ยวฮวาจะได้โดนเล่นงาน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าประธานเชี่ยนจะมาด้วยตัวเอง  

 

 

คำพูดนี้เสียดแทงใจของเสี่ยวฮวามาก สีหน้าเธอหม่นลง แต่ประธานเชี่ยนก็ยังไม่ปล่อยเธอ  

 

 

“ถึงนิสัยเธอจะน่ารังเกียจ การที่เธอโดนตบคาดว่าคงเป็นเพราะคำพูดของเธอไปยั่วโมโหผู้ชายคนนั้นเข้า แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่ทำตัวน่าตบขนาดไหนก็ไม่สมควรให้ผู้ชายตบ เขาตบเธอแต่เธออยู่เฉยๆ ไม่รู้สึกผิดต่อพ่อแม่บ้างเหรอ?”  

 

 

“เกี่ยวอะไรกับพ่อแม่…”  

 

 

“พ่อแม่เลี้ยงเธอให้เรียนมาถึงดอกเตอร์ เพื่อให้เธอมาถูกตบอย่างนั้นเหรอ? ตอนที่เธอยอมถูกผู้ชายคนนั้นข่มเหง เคยนึกถึงความรู้สึกของพ่อแม่บ้างไหม? พวกเขารักเธอมากขนาดไหน ฟูมฟักเธอจากทารกที่ไม่เป็นอะไรเลยมาจนมีวันนี้ ครอบครัวเธออาจฐานะไม่ดี แต่ในใจของพวกเขาเธอเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียว แต่เธอกลับเหยียบย่ำความรักที่พวกเขามีให้ ไปเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่น”  

 

 

แค่คำพูดไม่กี่คำแต่ทำเสี่ยวฮวาร้องไห้จนพูดไม่ออก  

 

 

เธอนึกถึงวัยเด็ก พ่อจับเธอนั่งตรงที่นั่งเสริมด้านหน้าของจักรยานคันเก่า ปั่นฝ่าลมพายุไปส่งเธอที่โรงเรียน นึกถึงแม่ที่คีบไข่ในกับข้าวที่มีอยู่เพียงชิ้นเดียวให้เธอกิน  

 

 

“เธอต่อสู้อยู่ข้างนอกคิดว่าได้เจอครอบครัวของตัวเองแล้ว แล้วเธอเคยกลับไปดูพวกเขาไหม ตอนที่เธอถูกตบ เคยถามความรู้สึกของพ่อแม่ไหม เธอคิดว่าถ้าพ่อแม่รู้ว่าลูกสุดที่รักของพวกเขาถูกทำร้ายเหมือนเป็นกระสอบทรายใบหนึ่งพวกเขาจะรู้สึกยังไง?”  

 

 

“หยุดพูดได้แล้ว หยุด…” เสี่ยวฮวาร้องไห้หมดสภาพ  

 

 

ไม่ว่าเวลาไหนประธานเชี่ยนก็ยังคงเป็นประธานเชี่ยน คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็สามารถแทงถึงจุดอ่อนภายในใจได้  

 

 

เสี่ยวฮวานิสัยไม่ดี ตัวเธอมีนิสัยแย่ๆหลายอย่างมารวมกัน  

 

 

เธอขี้อิจฉา ขี้นินทา ชอบหาพรรคหาพวก เธออิจฉาริษยาเสี่ยวเชี่ยนมาก ขณะเดียวกันก็อยากพยายามแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของตัวเอง  

 

 

อยากยืนหยัดอยู่ให้ได้ในเมืองใหญ่ อยากพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนเก่งมีความสามารถ  

 

 

ก่อนที่เสี่ยวเชี่ยนจะปรากฏตัวเธอเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมเพียงหนึ่งเดียวของเถ้าแก่ใหญ่ การเรียนโดดเด่น พยายามจะดันตัวเองไปให้สูง  

 

 

แต่พอเสี่ยวเชี่ยนปรากฏตัว เธอก็ตกกระป๋อง  

 

 

คนที่ได้นั่งข้างเถ้าแก่ใหญ่คือเสี่ยวเชี่ยนเสมอ เถ้าแก่ใหญ่ชอบหันไปซุบซิบกับเสี่ยวเชี่ยนบ่อยๆ  

 

 

ก่อเกิดเป็นความอิจฉาริษยาขึ้นในจิตใจ เธอจึงเที่ยวพูดจาใส่ร้ายเสี่ยวเชี่ยนไปทั่ว โดยเฉพาะหลังจากที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนเอาคืนด้วยยาหม่องน้ำครั้งนั้น เธอก็ยิ่งเกลียดเสี่ยวเชี่ยนหนักขึ้น  

 

 

แต่ยามที่เธอถึงจุดตกต่ำในชีวิต ไม่มี‘เพื่อนสนิท’ ของเธอออกหน้ามาช่วยเลยสักคน คนที่ตบหน้าเธอสองครั้งทำให้เธอได้สติเรื่องพ่อแม่กลับเป็นเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

“ฉันก็แค่อยากเตือนเธอ แล้วก็เตือนผู้หญิงทุกคนที่ถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวว่า ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา ทุกคนได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ พ่อแม่เลี้ยงมาด้วยความยากลำบากไม่ใช่เพื่อให้โตมากลายเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของใคร ความอดทนไม่ได้แลกมาซึ่งรักแท้ ถ้าเกิดการใช้ความรุนแรงก่อนแต่งงาน วิธีจัดการที่ดีที่สุดก็คือเลิกกัน ไม่มีอะไรให้ต้องคิดอีก”  

 

 

ถ้าก่อนแต่งงานผู้ชายมีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง คนๆนั้นก็ไม่มีค่าให้ทุ่มเทความรู้สึก  

 

 

คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผู้ขอรับคำปรึกษาเรื่องนี้ก็คือ บอกเลิก  

 

 

อย่ามาพูดเรื่องใช้ความรักเพื่อเอาชนะ คนบางคนชอบใช้กำลังกับคนที่อ่อนแอจนติดเป็นสันดาน ความรักทำให้คนเหล่านี้ดีขึ้นมาไม่ได้หรอก ถ้ามีแรงทำแบบนั้นไม่สู้ไปหาผู้ชายใหม่ที่ดีกว่า ทำไมจะต้องลำบากเอาห่วงมาผูกคอตัวเอง  

 

 

ถ้าเป็นการใช้ความรุนแรงหลังแต่งงาน วิธีจัดการจะซับซ้อนขึ้น มีลูกหรือเปล่า แบ่งทรัพย์สินยังไง จะถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายต่อเนื่องหรือไม่ ผู้ให้คำปรึกษาจะแนะนำว่าสมควรหย่าหรือไม่ตามสถานการณ์ โดยยึดหลักการที่ผู้ขอรับคำปรึกษาจะสูญเสียและบาดเจ็บน้อยที่สุด  

 

 

ถ้าเป็นก่อนแต่งงานก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดมาก ทางเดียวเลยคือเลิก  

 

 

“แต่พวกเราจดทะเบียนกันแล้ว…”  

 

 

ถึงจะไม่ได้จัดงานแต่ง แต่เสี่ยวฮวาจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายคนนี้แล้ว นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นทุกข์  

 

 

เพราะช่วงนี้ความสัมพันธ์ไม่ค่อยราบรื่น เสี่ยวฮวาจึงเอาอารมณ์ไปลงกับงาน ก่อให้เกิดเหตุการณ์ผู้ป่วยภาวะบุคลิกผิดปกติชนิดก้ำกึ่งฆ่าตัวตาย เรื่องพวกนี้พอประเดประดังเข้ามาเธอจึงเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ  

 

 

ถ้ามองจากมุมมองของเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวฮวาที่เห็นแก่ตัว จิตใจคับแคบ ขี้อิจฉาริษยา ทำตัวจองหอง ไม่ใช่คนที่น่าคบเลยสักนิด  

 

 

แต่ถ้ามองโดยรวม เสี่ยวฮวาก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลย เธอพยายามพิสูจน์ตัวเอง เธออยากรักษาผู้ป่วยรายนั้นด้วยใจจริง ถึงความสามารถของเธอในตอนนี้จะยังทำให้บรรลุเป้าหมายไม่ได้ก็ตาม การที่ผู้ป่วยคิดฆ่าตัวตายได้ทำให้จิตใจเธอบอบช้ำอย่างหนัก  

 

 

ก่อนเสี่ยวเชี่ยนจะมาถึง เสี่ยวฮวาเสียใจจนอยากออกจากวงการนี้เลยด้วยซ้ำ  

 

 

เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะจะเป็นจิตแพทย์  

 

 

ตบสองทีของเสี่ยวเชี่ยนมาได้จังหวะพอดีมาก  

 

 

“มีการใช้ความรุนแรงหลังจดทะเบียนกันแล้วเธอบอกฉันมาซิว่า ถ้าเธอเป็นผู้ให้คำปรึกษาแล้วมีคนมาขอคำแนะนำเธอจะตอบว่ายังไง?”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 804 ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 804 ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยวฮวาร้องไห้หนัก เถียงกลับอย่างคนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ “ใช่ ฉันมันไม่ได้เรื่อง ฉันมันไร้ค่า ฉันทำชีวิตตัวเองเละเทะไปหมด ตอนนี้เธอพอใจหรือยังล่ะ เธอจะมายุ่งกับฉันทำไม ฉันต้องการให้เธอมายุ่งเหรอ”  

 

 

พอเห็นเสี่ยวฮวาร้องไห้เหมือนคนสติแตก ประธานเชี่ยนก็แสดงออกตรงๆ  

 

 

เธอลุกขึ้นเดินไปหาเสี่ยวฮวา แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  

 

 

“ไม่เกี่ยวกับฉัน…แต่เธอกล้าพูดไหมว่าไม่เกี่ยวกับอาจารย์?”  

 

 

สิ่งที่ไม่สอดคล้องกับน้ำเสียงนุ่มนวลของประธานเชี่ยนก็คือท่าทางของเธอ เธอง้างมือตบหลิวเสี่ยวฮวา  

 

 

หลิวเสี่ยวฮวาถูกตบหน้าหัน เธอหันกลับไปด้วยความโกรธ  

 

 

“เธอกล้าตบฉัน”  

 

 

“ฉันตบแทนอาจารย์ เธอทำแบบนี้กับอาจารย์ที่ดีกับเธอมาหลายปีเหรอ? ฉันตบเธอ เธอทำอย่างกับหมาโดนเหยียบหาง แล้วทีผู้ชายคนนั้นตบเธอทำอะไรอยู่?”  

 

 

“เขาก็เขา เธอก็เธอ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน มีสิทธิ์อะไร…โอ๊ย”  

 

 

เสี่ยวฮวาเอามือจับหน้า เพราะเสี่ยวเชี่ยนตบเธออีกครั้ง  

 

 

“ฉันตบเธอเพราะสิ่งที่เธอเรียนมาหลายปีนี้มันไม่ได้ช่วยเธอเลย เขาสนิทกับเธอก็เลยตบได้งั้นเหรอ? ความรู้เธอถูกเชื้อโรคกินหมดแล้วหรือไง? บอกฉันมา ถ้าเจอเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงภายในบ้านครั้งแรกเธอควรแนะนำผู้ขอรับคำปรึกษายังไง?”  

 

 

“พยายามสู้กลับสุดชีวิต ให้เขารู้ถึงผลของการกระทำ…แต่มันไม่เหมือนกัน”  

 

 

“ไม่เหมือนกันตรงไหน? อย่ามาพูดเรื่องที่ว่าฉันเป็นคนนอกจะรู้อะไร รอบตัวเธอมีรุ่นพี่รุ่นน้องตั้งมากมาย ไม่มีใครแนะนำเธอสักคนเลยเหรอ? แล้วปกติคบกันทำไม? พูดจาให้ร้ายฉัน บ่นถึงความลำเอียงของเถ้าแก่ใหญ่ แต่พอเกิดเรื่องขึ้น เธอลองแหกตาดูซิว่าใครบ้างที่มาช่วยเธอ? เหมยเจียวเจียวนั่นดีกับเธอเหรอ? ถ้าเขาดีกับเธอจริงๆแล้วจะเรียกฉันมาทำไม?”  

 

 

ในบรรดาพี่น้องที่เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันไม่ได้มีแค่ประธานเชี่ยนที่มีความสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ในเวลาที่เสี่ยวฮวาอ่อนแอเพื่อนที่สนิทกับเสี่ยวฮวาที่สุดกลับนำเรื่องนี้ไปบอกประธานเชี่ยนคนที่เสี่ยวฮวาไม่ชอบ พอมาคิดดูดีๆการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก  

 

 

คนบางคนอยากจัดการคู่ปรับให้ราบคาบจะแย่ ใครกล้าพูดบ้างว่าเหมยเจียวเจียวไม่คิดแบบนั้น อยากให้ประธานเชี่ยนกำจัดเสี่ยวฮวาจนอยู่ไม่ได้อีก? ส่วนตัวเองก็แค่นั่งรอดูผลลัพธ์  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเป็นศิษย์รักของเถ้าแก่ใหญ่เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี เหมยเจียวเจียวคงคิดว่าประธานเชี่ยนจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเถ้าแก่ใหญ่ เสี่ยวฮวาจะได้โดนเล่นงาน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าประธานเชี่ยนจะมาด้วยตัวเอง  

 

 

คำพูดนี้เสียดแทงใจของเสี่ยวฮวามาก สีหน้าเธอหม่นลง แต่ประธานเชี่ยนก็ยังไม่ปล่อยเธอ  

 

 

“ถึงนิสัยเธอจะน่ารังเกียจ การที่เธอโดนตบคาดว่าคงเป็นเพราะคำพูดของเธอไปยั่วโมโหผู้ชายคนนั้นเข้า แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่ทำตัวน่าตบขนาดไหนก็ไม่สมควรให้ผู้ชายตบ เขาตบเธอแต่เธออยู่เฉยๆ ไม่รู้สึกผิดต่อพ่อแม่บ้างเหรอ?”  

 

 

“เกี่ยวอะไรกับพ่อแม่…”  

 

 

“พ่อแม่เลี้ยงเธอให้เรียนมาถึงดอกเตอร์ เพื่อให้เธอมาถูกตบอย่างนั้นเหรอ? ตอนที่เธอยอมถูกผู้ชายคนนั้นข่มเหง เคยนึกถึงความรู้สึกของพ่อแม่บ้างไหม? พวกเขารักเธอมากขนาดไหน ฟูมฟักเธอจากทารกที่ไม่เป็นอะไรเลยมาจนมีวันนี้ ครอบครัวเธออาจฐานะไม่ดี แต่ในใจของพวกเขาเธอเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียว แต่เธอกลับเหยียบย่ำความรักที่พวกเขามีให้ ไปเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่น”  

 

 

แค่คำพูดไม่กี่คำแต่ทำเสี่ยวฮวาร้องไห้จนพูดไม่ออก  

 

 

เธอนึกถึงวัยเด็ก พ่อจับเธอนั่งตรงที่นั่งเสริมด้านหน้าของจักรยานคันเก่า ปั่นฝ่าลมพายุไปส่งเธอที่โรงเรียน นึกถึงแม่ที่คีบไข่ในกับข้าวที่มีอยู่เพียงชิ้นเดียวให้เธอกิน  

 

 

“เธอต่อสู้อยู่ข้างนอกคิดว่าได้เจอครอบครัวของตัวเองแล้ว แล้วเธอเคยกลับไปดูพวกเขาไหม ตอนที่เธอถูกตบ เคยถามความรู้สึกของพ่อแม่ไหม เธอคิดว่าถ้าพ่อแม่รู้ว่าลูกสุดที่รักของพวกเขาถูกทำร้ายเหมือนเป็นกระสอบทรายใบหนึ่งพวกเขาจะรู้สึกยังไง?”  

 

 

“หยุดพูดได้แล้ว หยุด…” เสี่ยวฮวาร้องไห้หมดสภาพ  

 

 

ไม่ว่าเวลาไหนประธานเชี่ยนก็ยังคงเป็นประธานเชี่ยน คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็สามารถแทงถึงจุดอ่อนภายในใจได้  

 

 

เสี่ยวฮวานิสัยไม่ดี ตัวเธอมีนิสัยแย่ๆหลายอย่างมารวมกัน  

 

 

เธอขี้อิจฉา ขี้นินทา ชอบหาพรรคหาพวก เธออิจฉาริษยาเสี่ยวเชี่ยนมาก ขณะเดียวกันก็อยากพยายามแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของตัวเอง  

 

 

อยากยืนหยัดอยู่ให้ได้ในเมืองใหญ่ อยากพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนเก่งมีความสามารถ  

 

 

ก่อนที่เสี่ยวเชี่ยนจะปรากฏตัวเธอเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมเพียงหนึ่งเดียวของเถ้าแก่ใหญ่ การเรียนโดดเด่น พยายามจะดันตัวเองไปให้สูง  

 

 

แต่พอเสี่ยวเชี่ยนปรากฏตัว เธอก็ตกกระป๋อง  

 

 

คนที่ได้นั่งข้างเถ้าแก่ใหญ่คือเสี่ยวเชี่ยนเสมอ เถ้าแก่ใหญ่ชอบหันไปซุบซิบกับเสี่ยวเชี่ยนบ่อยๆ  

 

 

ก่อเกิดเป็นความอิจฉาริษยาขึ้นในจิตใจ เธอจึงเที่ยวพูดจาใส่ร้ายเสี่ยวเชี่ยนไปทั่ว โดยเฉพาะหลังจากที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนเอาคืนด้วยยาหม่องน้ำครั้งนั้น เธอก็ยิ่งเกลียดเสี่ยวเชี่ยนหนักขึ้น  

 

 

แต่ยามที่เธอถึงจุดตกต่ำในชีวิต ไม่มี‘เพื่อนสนิท’ ของเธอออกหน้ามาช่วยเลยสักคน คนที่ตบหน้าเธอสองครั้งทำให้เธอได้สติเรื่องพ่อแม่กลับเป็นเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

“ฉันก็แค่อยากเตือนเธอ แล้วก็เตือนผู้หญิงทุกคนที่ถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวว่า ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา ทุกคนได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ พ่อแม่เลี้ยงมาด้วยความยากลำบากไม่ใช่เพื่อให้โตมากลายเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของใคร ความอดทนไม่ได้แลกมาซึ่งรักแท้ ถ้าเกิดการใช้ความรุนแรงก่อนแต่งงาน วิธีจัดการที่ดีที่สุดก็คือเลิกกัน ไม่มีอะไรให้ต้องคิดอีก”  

 

 

ถ้าก่อนแต่งงานผู้ชายมีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง คนๆนั้นก็ไม่มีค่าให้ทุ่มเทความรู้สึก  

 

 

คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผู้ขอรับคำปรึกษาเรื่องนี้ก็คือ บอกเลิก  

 

 

อย่ามาพูดเรื่องใช้ความรักเพื่อเอาชนะ คนบางคนชอบใช้กำลังกับคนที่อ่อนแอจนติดเป็นสันดาน ความรักทำให้คนเหล่านี้ดีขึ้นมาไม่ได้หรอก ถ้ามีแรงทำแบบนั้นไม่สู้ไปหาผู้ชายใหม่ที่ดีกว่า ทำไมจะต้องลำบากเอาห่วงมาผูกคอตัวเอง  

 

 

ถ้าเป็นการใช้ความรุนแรงหลังแต่งงาน วิธีจัดการจะซับซ้อนขึ้น มีลูกหรือเปล่า แบ่งทรัพย์สินยังไง จะถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายต่อเนื่องหรือไม่ ผู้ให้คำปรึกษาจะแนะนำว่าสมควรหย่าหรือไม่ตามสถานการณ์ โดยยึดหลักการที่ผู้ขอรับคำปรึกษาจะสูญเสียและบาดเจ็บน้อยที่สุด  

 

 

ถ้าเป็นก่อนแต่งงานก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดมาก ทางเดียวเลยคือเลิก  

 

 

“แต่พวกเราจดทะเบียนกันแล้ว…”  

 

 

ถึงจะไม่ได้จัดงานแต่ง แต่เสี่ยวฮวาจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายคนนี้แล้ว นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นทุกข์  

 

 

เพราะช่วงนี้ความสัมพันธ์ไม่ค่อยราบรื่น เสี่ยวฮวาจึงเอาอารมณ์ไปลงกับงาน ก่อให้เกิดเหตุการณ์ผู้ป่วยภาวะบุคลิกผิดปกติชนิดก้ำกึ่งฆ่าตัวตาย เรื่องพวกนี้พอประเดประดังเข้ามาเธอจึงเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ  

 

 

ถ้ามองจากมุมมองของเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวฮวาที่เห็นแก่ตัว จิตใจคับแคบ ขี้อิจฉาริษยา ทำตัวจองหอง ไม่ใช่คนที่น่าคบเลยสักนิด  

 

 

แต่ถ้ามองโดยรวม เสี่ยวฮวาก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลย เธอพยายามพิสูจน์ตัวเอง เธออยากรักษาผู้ป่วยรายนั้นด้วยใจจริง ถึงความสามารถของเธอในตอนนี้จะยังทำให้บรรลุเป้าหมายไม่ได้ก็ตาม การที่ผู้ป่วยคิดฆ่าตัวตายได้ทำให้จิตใจเธอบอบช้ำอย่างหนัก  

 

 

ก่อนเสี่ยวเชี่ยนจะมาถึง เสี่ยวฮวาเสียใจจนอยากออกจากวงการนี้เลยด้วยซ้ำ  

 

 

เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะจะเป็นจิตแพทย์  

 

 

ตบสองทีของเสี่ยวเชี่ยนมาได้จังหวะพอดีมาก  

 

 

“มีการใช้ความรุนแรงหลังจดทะเบียนกันแล้วเธอบอกฉันมาซิว่า ถ้าเธอเป็นผู้ให้คำปรึกษาแล้วมีคนมาขอคำแนะนำเธอจะตอบว่ายังไง?”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+