แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 808 เขาต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่เชื่อฉันสิ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 808 เขาต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่เชื่อฉันสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถ้าไม่มีสามีหน้าบวมคนนี้อยู่ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจพูดขอบคุณก็ได้ แต่เนื่องจากสามีอยู่ด้วยเธอจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่รู้จัก เธอไม่อยากให้สามีรู้ว่าตัวเองเคยถูกผู้ชายทำร้ายมาก่อน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอ่านใจคนออกมานานแล้ว เธอไม่แปลกใจที่เจอสถานการณ์แบบนี้

 

 

“เรื่องเป็นมายังไงฉันรู้แล้วระหว่างทางที่มา พูดมาสิคะว่าคุณจะเอาไงถึงจะยอมความ?” เสี่ยวเชี่ยนถามอีกฝ่าย

 

 

“ให้มันติดคุก ไม่มีอะไรต้องต่อรองอีก” ผู้ชายหน้าบวมเอาใหญ่

 

 

“ฉันขอให้ความรู้เรื่องกฎหมายคุณหน่อยนะคะ พวกคุณสองคนบาดเจ็บเล็กน้อยด้วยกันทั้งคู่ ถ้าไม่ประนีประนอม ตามกฎหมายก็ต้องแบ่งรับโทษกันไป ไม่ใช่แค่เขาจะถูกขังคุกห้าถึงสิบวัน คุณเองก็เหมือนกัน แถมทั้งสองฝ่ายยังต้องเสียค่าปรับ ถ้าคุณอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดพวกเราก็จะเล่นเป็นเพื่อนคุณค่ะ”

 

 

ขนาดอวี๋หมิงหลางที่มีความรู้เรื่องกฎหมายไม่อยู่ตรงนี้ ประธานเชี่ยนก็ยังเอาอยู่

 

 

พอฟังเสี่ยวเชี่ยนพูดจบผู้ชายคนนั้นก็ลังเล ส่วนผู้หญิงข้างกายเขาที่ไม่กล้าสบตาเสี่ยวเชี่ยนกับฉิวฉิวก็ดึงแขนเขา

 

 

“ช่างเถอะค่ะคุณ…”

 

 

“ช่างเหรอ?” ผู้ชายคนนั้นหันไปหลังมือใส่ “นี่แกเป็นพวกเดียวกันมันเหรอ?”

 

 

ฉิวฉิวเห็นอีกฝ่ายลงไม้ลงมืออีกแล้วก็ลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ดูท่าทางเขาจะอัดมันเบาไป

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยกมือห้ามฉิวฉิว “อยู่ข้างนอกชกกันไม่พอยังจะมามีเรื่องในโรงพักอีกเหรอ?”

 

 

ถ้ามีเรื่องในสถานีตำรวจแบบนั้นจะยิ่งเลวร้าย คงไม่ใช่แค่เรื่องยอมความแล้ว โดนจับขังทั้งคู่แน่นอน

 

 

“ทำไม ฉันตบเมียฉันแกเกี่ยวอะไรด้วย ฉันเหม็นขี้หน้าแกนานแล้ว พูดมาแกเป็นอะไรกับเมียฉัน? ฉันสั่งสอนเมียฉันอยู่ดีๆแกมีสิทธิ์อะไรมายุ่งด้วย?”

 

 

“ทำร้ายผู้หญิงคือพวกสารเลว แกมันไม่สมควรเกิดเป็นผู้ชาย” ฉิวฉิวอยากเข้าไปอัดอีกรอบ เอาให้ตายก็ยังไม่สาสม

 

 

“นี่มันเมียฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”

 

 

“ถ้ายังไม่เลิกทำแบบนี้ฉันจะเรียกตำรวจเข้ามา คุณกล้าตบเมียต่อหน้าตำรวจไหมล่ะ?” เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา อีกฝ่ายจึงหยุด

 

 

อันที่จริงฉิวฉิวอยากจะอัดผู้ชายคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขารู้ว่าถ้าเขายุ่งไปมากกว่านี้ ผู้หญิงคนนั้นกลับไปคงถูกทำร้ายแน่

 

 

ครั้นแล้วฉิวฉิวจึงเอาบัตรประชาชนของตัวเองวางลงบนโต๊ะ “แกดูแล้วค่อยพูด ฉันไม่มีทางเป็นอะไรกับเมียแก ฉันแค่เห็นแกทำผู้หญิงเลยโมโหก็แค่นั้น”

 

 

ผู้ชายคนนั้นหยิบบัตรประชาชนฉิวฉิวขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อ พอเห็นว่าเป็นเพศหญิงเขาก็ตกใจมาก

 

 

“ที่แท้แกก็เป็นเก้าอี้รอง”

 

 

เก้าอี้รองเป็นคำแสลงหมายถึงคนที่ผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิง

 

 

ฉิวฉิวฟังแล้วก็โมโหเส้นเลือดปูด “ฉันจะเป็นอะไรก็ไม่เกี่ยวกับแก ยังไงก็ดีกว่าไอ้หน้าตัวเมียที่ทำร้ายผู้หญิงแบบแกแหละโว้ย”

 

 

“ในเมื่อเรื่องก็ชัดเจนแล้ว คุณก็เลิกงี่เง่าไร้เหตุผลเสียที” เสี่ยวเชี่ยนพูด

 

 

“ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เป็นผู้หญิงหรอกนะ งั้นยอมความก็ได้” ผู้ชายคนนั้นพอแน่ใจว่าฉิวฉิวเป็นผู้หญิงก็รู้สึกหมดอารมณ์ การข่มขู่ของเสี่ยวเชี่ยนก่อนหน้านี้ก็มีผล เขาไม่อยากถูกจับขัง ในเมื่อเสนอทางออกให้แล้วเขาจึงยอมความ

 

 

ฉิวฉิวกำหมัดแน่นสองมือ เวลานี้เขารู้สึกโกรธมาก สายตาดูถูกของผู้ชายคนนั้นหลังดูบัตรประชาชนของเขามันทำร้ายจิตใจของเขามาก

 

 

“ไม่ว่าตอนนี้นายจะคิดอะไรอยู่อดทนอดกลั้นเอาไว้ ไม่อย่างนั้นนายจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เข้าใจ?”

 

 

คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนช่วยระงับความโมโหของฉิวฉิวลงได้

 

 

หลังจากที่ยอมความกันได้ก็ไปถูกตำรวจอบรม จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายได้ ฉิวฉิวยืนอยู่ตรงบันไดทางเข้าโรงพัก เห็นผู้หญิงคนนั้นกับสามีเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง สายตาของฉิวฉิวทั้งโกรธทั้งเศร้า

 

 

นี่คือผู้หญิงที่เขาเคยทุ่มเทช่วยด้วยใจ

 

 

เขาช่วยให้เธอกลับเข้ามาอยู่ในสังคมได้ หลังจากไม่ได้เจอกันหลายปี พอเจอกันครั้งนี้เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขากับประธานเชี่ยน

 

 

“ความเห็นแก่ตัวเป็นนิสัยคนอย่างหนึ่ง โมโหด้วยเรื่องแบบนี้ไม่คุ้มหรอกนะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยืนข้างฉิวฉิวพลางพูด

 

 

“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเอาผู้ชายเลวๆแบบนี้เป็นสามี”

 

 

ยอมทำตัวว่านอนสอนง่ายให้ผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรงคนนั้นตบ แต่ไม่ยอมพูดขอบคุณเสี่ยวเชี่ยนกับฉิวฉิวที่เคยช่วยเหลือไว้

 

 

“คนเรามีชะตากรรมเป็นของตัวเอง เขาจะเลือกแบบไหนก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา นายทำสิ่งที่นายทำได้แล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงเขาอีก”

 

 

แต่ไหนแต่ไรเสี่ยวเชี่ยนไม่เคยให้ค่าผู้หญิงที่รนหาความรุนแรงเองอยู่แล้ว เธอกับผู้หญิงคนนั้นจบสิ้นความสัมพันธ์กันตั้งแต่รักษาเสร็จ เจอหน้ากันอีกครั้งก็เป็นแค่คนแปลกหน้า

 

 

เพียงแต่ประธานเชี่ยนปวดใจแทนฉิวฉิวตอนที่เขาหยิบบัตรประชาชนออกมาให้อีกฝ่ายดู เพื่อนของเธอโดนดูถูกแบบนี้เธอไม่มีทางปล่อยคนๆนั้นแน่ ต่อให้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ฉิวฉิวก็ยังเป็นห่วงว่าผู้หญิงคนนั้นจะถูกทำร้ายอีก นี่แหละนะคนจิตใจดี

 

 

ฉิวฉิวไม่ใช่คนปล่อยวางได้ง่ายๆแบบประธานเชี่ยน เขารับไม่ได้ที่ผู้หญิงที่ตัวเองเคยช่วยกลายเป็นแบบนี้

 

 

“ยอมปล่อยผู้ชายแบบนั้นไปไม่ได้จริงๆ”

 

 

“เขาต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่เชื่อฉันสิ”

 

 

ฉิวฉิวพอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดแบบนั้นก็พอเดาได้ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะลงมือ ถ้าประธานเชี่ยนอยากเล่นงานใครมักจะชอบพูดว่าคนๆนั้นต้องถูกลงโทษ จากนั้นไม่กี่วันคนที่ล่วงเกินประธานเชี่ยนก็จะซวย แต่ก็ไม่มีใครตามสืบมาจนถึงตัวประธานเชี่ยนได้

 

 

“ประธานเชี่ยน เธอ…”

 

 

“ชู่ววว” เสี่ยวเชี่ยนทำปากชู่ว ประเด็นนี้จึงจบลง

 

 

แต่ฉิวฉิวก็ถูกทำร้ายจิตใจไปแล้ว คำว่า‘เก้าอี้รอง’ ที่ผู้ชายคนนั้นพูดได้ดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเขา เขาจึงยิ่งมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินไปศัลยกรรมเพื่อกลายเป็นผู้ชายที่แท้จริงให้ได้

 

 

ผ่านไปไม่ถึงสองวันรถของผู้ชายคนนั้นก็ถูกคนทุบ แถมยังเลือกทุบตรงจุดที่กล้องวงจรปิดถ่ายไม่เห็น ทำให้เป็นคดีที่เอาผิดใครไม่ได้ และที่ซวยยิ่งกว่าก็คือต่อมาอยู่ๆเขาก็ถูกไล่ออกจากงาน

 

 

ผู้หญิงคนนั้นยอมอยู่ให้ตัวเองถูกทำร้ายต่อ เรื่องนี้ประธานเชี่ยนทำอะไรไม่ได้ แต่ใครก็ห้ามมาแตะต้องเพื่อนประธานเชี่ยน

 

 

“พี่สะใภ้” หลิวเหมยที่รอทั้งสองคนอยู่ด้านนอกพอเห็นออกมากันแล้วจึงรีบเข้าไปหา คนที่อยู่ข้างๆหลิวเหมยคือไป๋จิ่นที่เอากล้องถ่ายรูปมาด้วย

 

 

“ประธานเชี่ยนทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ” ไป๋จิ่นพอเห็นเสี่ยวเชี่ยนก็มีสีหน้าตกใจ

 

 

“มาช่วยเพื่อนนิดหน่อย เธอมาทำอะไรเหรอ?”

 

 

“มีคนร้องเรียนว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทฉันเลยมาสัม…นี่ อย่าบอกนะว่าคนที่มีเรื่องคือนาย?” ไป๋จิ่นเห็นหน้าฉิวฉิวมีแผลก็ตกใจ

 

 

“ไม่ต้องสัมภาษณ์หรอก ไม่มีอะไรน่าเขียนหรอก”

 

 

“ฉิวฉิวเป็นฮีโร่นะ ทำไมจะไม่ให้ไม่เขียนล่ะ” หลิวเหมยยังโมโหไม่หาย “โลกนี้มันอะไรกัน ผู้ชายคนนั้นใช้กำลังกับผู้หญิงในที่สาธารณะ ฉิวฉิวเข้าไปช่วยแต่กลับถูกจับ ไม่ยุติธรรมเลย แบบนี้ไม่เรียกฮีโร่เหรอ?”

 

 

“การใช้ความรุนแรงในครอบครัวอย่าว่าแต่ข้างนอกเลย ต่อให้เกิดในบ้าน แจ้งความไปตำรวจก็ขอให้ยอมความอยู่ดี เรื่องนี้มันต้องได้รับความร่วมมือจากผู้หญิงด้วย ถ้าผู้หญิงไม่ให้ความร่วมมือก็ทำอะไรยาก ฉิวฉิวเป็นฮีโร่แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมรับก็เท่านั้นแหละ”

 

 

“ผู้หญิงแบบนี้สมองมีแต่น้ำหรือไง? ใครดีใครร้ายไม่รู้เลยเหรอ?” หลิวเหมยฟังแล้วก็ยิ่งโมโห

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยักไหล่ เรื่องในครอบครัวคนข้างนอกคงตัดสินไม่ได้ ถ้าผู้หญิงที่ถูกใช้ความรุนแรงในบ้านไม่มาขอความช่วยเหลือเธอก่อน ต่อให้เธอเห็นแล้วก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งอยู่ดี สถานการณ์ของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน คนที่ถูกทำร้ายยินยอมที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ ตัวเองคิดไม่ได้ คนอื่นช่วยยังไงก็ไร้ประโยชน์

 

 

ไป๋จิ่นพอได้ยินว่าฉิวฉิวเป็นฝ่ายไปช่วยก็ตกใจ เอาแต่มองฉิวฉิว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 808 เขาต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่เชื่อฉันสิ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 808 เขาต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่เชื่อฉันสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถ้าไม่มีสามีหน้าบวมคนนี้อยู่ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจพูดขอบคุณก็ได้ แต่เนื่องจากสามีอยู่ด้วยเธอจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่รู้จัก เธอไม่อยากให้สามีรู้ว่าตัวเองเคยถูกผู้ชายทำร้ายมาก่อน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอ่านใจคนออกมานานแล้ว เธอไม่แปลกใจที่เจอสถานการณ์แบบนี้

 

 

“เรื่องเป็นมายังไงฉันรู้แล้วระหว่างทางที่มา พูดมาสิคะว่าคุณจะเอาไงถึงจะยอมความ?” เสี่ยวเชี่ยนถามอีกฝ่าย

 

 

“ให้มันติดคุก ไม่มีอะไรต้องต่อรองอีก” ผู้ชายหน้าบวมเอาใหญ่

 

 

“ฉันขอให้ความรู้เรื่องกฎหมายคุณหน่อยนะคะ พวกคุณสองคนบาดเจ็บเล็กน้อยด้วยกันทั้งคู่ ถ้าไม่ประนีประนอม ตามกฎหมายก็ต้องแบ่งรับโทษกันไป ไม่ใช่แค่เขาจะถูกขังคุกห้าถึงสิบวัน คุณเองก็เหมือนกัน แถมทั้งสองฝ่ายยังต้องเสียค่าปรับ ถ้าคุณอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดพวกเราก็จะเล่นเป็นเพื่อนคุณค่ะ”

 

 

ขนาดอวี๋หมิงหลางที่มีความรู้เรื่องกฎหมายไม่อยู่ตรงนี้ ประธานเชี่ยนก็ยังเอาอยู่

 

 

พอฟังเสี่ยวเชี่ยนพูดจบผู้ชายคนนั้นก็ลังเล ส่วนผู้หญิงข้างกายเขาที่ไม่กล้าสบตาเสี่ยวเชี่ยนกับฉิวฉิวก็ดึงแขนเขา

 

 

“ช่างเถอะค่ะคุณ…”

 

 

“ช่างเหรอ?” ผู้ชายคนนั้นหันไปหลังมือใส่ “นี่แกเป็นพวกเดียวกันมันเหรอ?”

 

 

ฉิวฉิวเห็นอีกฝ่ายลงไม้ลงมืออีกแล้วก็ลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ดูท่าทางเขาจะอัดมันเบาไป

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยกมือห้ามฉิวฉิว “อยู่ข้างนอกชกกันไม่พอยังจะมามีเรื่องในโรงพักอีกเหรอ?”

 

 

ถ้ามีเรื่องในสถานีตำรวจแบบนั้นจะยิ่งเลวร้าย คงไม่ใช่แค่เรื่องยอมความแล้ว โดนจับขังทั้งคู่แน่นอน

 

 

“ทำไม ฉันตบเมียฉันแกเกี่ยวอะไรด้วย ฉันเหม็นขี้หน้าแกนานแล้ว พูดมาแกเป็นอะไรกับเมียฉัน? ฉันสั่งสอนเมียฉันอยู่ดีๆแกมีสิทธิ์อะไรมายุ่งด้วย?”

 

 

“ทำร้ายผู้หญิงคือพวกสารเลว แกมันไม่สมควรเกิดเป็นผู้ชาย” ฉิวฉิวอยากเข้าไปอัดอีกรอบ เอาให้ตายก็ยังไม่สาสม

 

 

“นี่มันเมียฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”

 

 

“ถ้ายังไม่เลิกทำแบบนี้ฉันจะเรียกตำรวจเข้ามา คุณกล้าตบเมียต่อหน้าตำรวจไหมล่ะ?” เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา อีกฝ่ายจึงหยุด

 

 

อันที่จริงฉิวฉิวอยากจะอัดผู้ชายคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขารู้ว่าถ้าเขายุ่งไปมากกว่านี้ ผู้หญิงคนนั้นกลับไปคงถูกทำร้ายแน่

 

 

ครั้นแล้วฉิวฉิวจึงเอาบัตรประชาชนของตัวเองวางลงบนโต๊ะ “แกดูแล้วค่อยพูด ฉันไม่มีทางเป็นอะไรกับเมียแก ฉันแค่เห็นแกทำผู้หญิงเลยโมโหก็แค่นั้น”

 

 

ผู้ชายคนนั้นหยิบบัตรประชาชนฉิวฉิวขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อ พอเห็นว่าเป็นเพศหญิงเขาก็ตกใจมาก

 

 

“ที่แท้แกก็เป็นเก้าอี้รอง”

 

 

เก้าอี้รองเป็นคำแสลงหมายถึงคนที่ผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิง

 

 

ฉิวฉิวฟังแล้วก็โมโหเส้นเลือดปูด “ฉันจะเป็นอะไรก็ไม่เกี่ยวกับแก ยังไงก็ดีกว่าไอ้หน้าตัวเมียที่ทำร้ายผู้หญิงแบบแกแหละโว้ย”

 

 

“ในเมื่อเรื่องก็ชัดเจนแล้ว คุณก็เลิกงี่เง่าไร้เหตุผลเสียที” เสี่ยวเชี่ยนพูด

 

 

“ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เป็นผู้หญิงหรอกนะ งั้นยอมความก็ได้” ผู้ชายคนนั้นพอแน่ใจว่าฉิวฉิวเป็นผู้หญิงก็รู้สึกหมดอารมณ์ การข่มขู่ของเสี่ยวเชี่ยนก่อนหน้านี้ก็มีผล เขาไม่อยากถูกจับขัง ในเมื่อเสนอทางออกให้แล้วเขาจึงยอมความ

 

 

ฉิวฉิวกำหมัดแน่นสองมือ เวลานี้เขารู้สึกโกรธมาก สายตาดูถูกของผู้ชายคนนั้นหลังดูบัตรประชาชนของเขามันทำร้ายจิตใจของเขามาก

 

 

“ไม่ว่าตอนนี้นายจะคิดอะไรอยู่อดทนอดกลั้นเอาไว้ ไม่อย่างนั้นนายจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เข้าใจ?”

 

 

คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนช่วยระงับความโมโหของฉิวฉิวลงได้

 

 

หลังจากที่ยอมความกันได้ก็ไปถูกตำรวจอบรม จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายได้ ฉิวฉิวยืนอยู่ตรงบันไดทางเข้าโรงพัก เห็นผู้หญิงคนนั้นกับสามีเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง สายตาของฉิวฉิวทั้งโกรธทั้งเศร้า

 

 

นี่คือผู้หญิงที่เขาเคยทุ่มเทช่วยด้วยใจ

 

 

เขาช่วยให้เธอกลับเข้ามาอยู่ในสังคมได้ หลังจากไม่ได้เจอกันหลายปี พอเจอกันครั้งนี้เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขากับประธานเชี่ยน

 

 

“ความเห็นแก่ตัวเป็นนิสัยคนอย่างหนึ่ง โมโหด้วยเรื่องแบบนี้ไม่คุ้มหรอกนะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยืนข้างฉิวฉิวพลางพูด

 

 

“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเอาผู้ชายเลวๆแบบนี้เป็นสามี”

 

 

ยอมทำตัวว่านอนสอนง่ายให้ผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรงคนนั้นตบ แต่ไม่ยอมพูดขอบคุณเสี่ยวเชี่ยนกับฉิวฉิวที่เคยช่วยเหลือไว้

 

 

“คนเรามีชะตากรรมเป็นของตัวเอง เขาจะเลือกแบบไหนก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา นายทำสิ่งที่นายทำได้แล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงเขาอีก”

 

 

แต่ไหนแต่ไรเสี่ยวเชี่ยนไม่เคยให้ค่าผู้หญิงที่รนหาความรุนแรงเองอยู่แล้ว เธอกับผู้หญิงคนนั้นจบสิ้นความสัมพันธ์กันตั้งแต่รักษาเสร็จ เจอหน้ากันอีกครั้งก็เป็นแค่คนแปลกหน้า

 

 

เพียงแต่ประธานเชี่ยนปวดใจแทนฉิวฉิวตอนที่เขาหยิบบัตรประชาชนออกมาให้อีกฝ่ายดู เพื่อนของเธอโดนดูถูกแบบนี้เธอไม่มีทางปล่อยคนๆนั้นแน่ ต่อให้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ฉิวฉิวก็ยังเป็นห่วงว่าผู้หญิงคนนั้นจะถูกทำร้ายอีก นี่แหละนะคนจิตใจดี

 

 

ฉิวฉิวไม่ใช่คนปล่อยวางได้ง่ายๆแบบประธานเชี่ยน เขารับไม่ได้ที่ผู้หญิงที่ตัวเองเคยช่วยกลายเป็นแบบนี้

 

 

“ยอมปล่อยผู้ชายแบบนั้นไปไม่ได้จริงๆ”

 

 

“เขาต้องถูกสวรรค์ลงโทษแน่เชื่อฉันสิ”

 

 

ฉิวฉิวพอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดแบบนั้นก็พอเดาได้ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะลงมือ ถ้าประธานเชี่ยนอยากเล่นงานใครมักจะชอบพูดว่าคนๆนั้นต้องถูกลงโทษ จากนั้นไม่กี่วันคนที่ล่วงเกินประธานเชี่ยนก็จะซวย แต่ก็ไม่มีใครตามสืบมาจนถึงตัวประธานเชี่ยนได้

 

 

“ประธานเชี่ยน เธอ…”

 

 

“ชู่ววว” เสี่ยวเชี่ยนทำปากชู่ว ประเด็นนี้จึงจบลง

 

 

แต่ฉิวฉิวก็ถูกทำร้ายจิตใจไปแล้ว คำว่า‘เก้าอี้รอง’ ที่ผู้ชายคนนั้นพูดได้ดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเขา เขาจึงยิ่งมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินไปศัลยกรรมเพื่อกลายเป็นผู้ชายที่แท้จริงให้ได้

 

 

ผ่านไปไม่ถึงสองวันรถของผู้ชายคนนั้นก็ถูกคนทุบ แถมยังเลือกทุบตรงจุดที่กล้องวงจรปิดถ่ายไม่เห็น ทำให้เป็นคดีที่เอาผิดใครไม่ได้ และที่ซวยยิ่งกว่าก็คือต่อมาอยู่ๆเขาก็ถูกไล่ออกจากงาน

 

 

ผู้หญิงคนนั้นยอมอยู่ให้ตัวเองถูกทำร้ายต่อ เรื่องนี้ประธานเชี่ยนทำอะไรไม่ได้ แต่ใครก็ห้ามมาแตะต้องเพื่อนประธานเชี่ยน

 

 

“พี่สะใภ้” หลิวเหมยที่รอทั้งสองคนอยู่ด้านนอกพอเห็นออกมากันแล้วจึงรีบเข้าไปหา คนที่อยู่ข้างๆหลิวเหมยคือไป๋จิ่นที่เอากล้องถ่ายรูปมาด้วย

 

 

“ประธานเชี่ยนทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ” ไป๋จิ่นพอเห็นเสี่ยวเชี่ยนก็มีสีหน้าตกใจ

 

 

“มาช่วยเพื่อนนิดหน่อย เธอมาทำอะไรเหรอ?”

 

 

“มีคนร้องเรียนว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทฉันเลยมาสัม…นี่ อย่าบอกนะว่าคนที่มีเรื่องคือนาย?” ไป๋จิ่นเห็นหน้าฉิวฉิวมีแผลก็ตกใจ

 

 

“ไม่ต้องสัมภาษณ์หรอก ไม่มีอะไรน่าเขียนหรอก”

 

 

“ฉิวฉิวเป็นฮีโร่นะ ทำไมจะไม่ให้ไม่เขียนล่ะ” หลิวเหมยยังโมโหไม่หาย “โลกนี้มันอะไรกัน ผู้ชายคนนั้นใช้กำลังกับผู้หญิงในที่สาธารณะ ฉิวฉิวเข้าไปช่วยแต่กลับถูกจับ ไม่ยุติธรรมเลย แบบนี้ไม่เรียกฮีโร่เหรอ?”

 

 

“การใช้ความรุนแรงในครอบครัวอย่าว่าแต่ข้างนอกเลย ต่อให้เกิดในบ้าน แจ้งความไปตำรวจก็ขอให้ยอมความอยู่ดี เรื่องนี้มันต้องได้รับความร่วมมือจากผู้หญิงด้วย ถ้าผู้หญิงไม่ให้ความร่วมมือก็ทำอะไรยาก ฉิวฉิวเป็นฮีโร่แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมรับก็เท่านั้นแหละ”

 

 

“ผู้หญิงแบบนี้สมองมีแต่น้ำหรือไง? ใครดีใครร้ายไม่รู้เลยเหรอ?” หลิวเหมยฟังแล้วก็ยิ่งโมโห

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยักไหล่ เรื่องในครอบครัวคนข้างนอกคงตัดสินไม่ได้ ถ้าผู้หญิงที่ถูกใช้ความรุนแรงในบ้านไม่มาขอความช่วยเหลือเธอก่อน ต่อให้เธอเห็นแล้วก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งอยู่ดี สถานการณ์ของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน คนที่ถูกทำร้ายยินยอมที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ ตัวเองคิดไม่ได้ คนอื่นช่วยยังไงก็ไร้ประโยชน์

 

 

ไป๋จิ่นพอได้ยินว่าฉิวฉิวเป็นฝ่ายไปช่วยก็ตกใจ เอาแต่มองฉิวฉิว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+