แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 828 ประคบประหงม เคียงบ่าเคียงไหล่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 828 ประคบประหงม เคียงบ่าเคียงไหล่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เห็นเสี่ยวเชี่ยนถูกจับเป็นตัวประกัน สำหรับอวี๋หมิงหลางแล้วเป็นเรื่องสะเทือนใจอย่างมาก ตอนนี้เขาไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเธอรอดตายมาได้แล้ว เธอยังมีชีวิตอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทำไมตัวเธอถึงได้เล็กขนาดนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ครอบครองหัวใจของเขาทั้งดวง เขาเกือบสูญเสียเธอไปแล้ว  

 

 

ความหวาดกลัวแบบนี้ทำให้อวี๋หมิงหลางรู้สึกแย่มาก เขาไม่อยากให้เธอเห็นว่าเขาอ่อนแอ ถ้าเขาสังเกตเห็นก่อนที่คนบ้าจะเข้ามาใกล้เธอแล้วรีบยิง เสี่ยวเชี่ยนคงไม่ต้องรับเคราะห์แบบนี้หรือเปล่า?  

 

 

ตอนแรกเสี่ยวเชี่ยนอยากดันเขาออกแล้วปลอบเขา บอกเขาว่าเธอไม่เป็นไร แต่รู้สึกเหมือนเขากำลังตัวสั่นเล็กน้อย เสี่ยวเชี่ยนถึงกับหัวใจอ่อนยวบ เธอกอดเขาคล้ายกับกำลังปลอบเด็กน้อย ตบหลังเขาเบาๆ  

 

 

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดอวี๋หมิงหลางก็ปล่อยเธอ แล้วพูดด้วยเสียงขึ้นจมูก  

 

 

“ขอโทษนะเสียวเหม่ย ทำให้คุณต้องลำบาก ผมมันไม่ได้เรื่อง ถ้าผมยิงเขาได้ก่อนที่เขาจะโผเข้าหาคุณ คุณก็ไม่ต้องบาดเจ็บ”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนได้ยินแล้วก็ปวดใจปนด้วยความรู้สึกโกรธ  

 

 

ครั้นแล้วเธอจึงขยับปากพูด โง่หรือไง ถ้าเขายังไม่ได้ทำอะไรแล้วนายยิง แบบนั้นก็ผิดกฎสิ มันเหมือนกันเหรอ?  

 

 

ลงมือแล้วถึงยิง แบบนั้นเรียกช่วยตัวประกัน แต่ถ้าคนบ้ายังไม่ได้ทำอะไรแล้วยิง ความผิดเต็มๆต้องติดคุก ทหารทำผิดโดนโทษเพิ่มขึ้นอีกระดับ  

 

 

อวี๋หมิงหลางไม่ได้ล้อเล่น ถ้ามีวิธีที่ทำให้เสียวเหม่ยของเขาไม่ต้องรับเคราะห์ หลีกเลี่ยงอันตรายได้ เขาก็พร้อมจะทำ  

 

 

ตอนที่หมอบอกว่า ถ้าช่วยไม่ทันเวลาและถูกต้อง สมองของเสี่ยวเชี่ยนคงเสียหายหนัก ตอนนั้นอวี๋หมิงหลางแทบอยากหักคอตัวเองให้ตาย  

 

 

เห็นอวี๋หมิงหลางเม้มปากไม่พูดอะไรเสี่ยวเชี่ยนก็เป็นห่วงอย่างสุดใจ เธอเอามือลูบหน้าเขา ดูซิเสี่ยวเฉียงของเธอขวัญหายหมด  

 

 

ฉันภูมิใจในตัวตาย สามีช่วยฉันไว้ ถ้าไม่ได้นายฉันคงตกอยู่ในอันตรายจริงๆแน่ อย่าพูดว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง นายเป็นผู้ชายที่เก่งที่สุดในโลก  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนขยับปากพูดกับเขา อวี๋หมิงหลางอ่านปากแล้วก็รู้สึกแย่ เขารู้สึกผิดต่อคำพูดของเสี่ยวเชี่ยนที่ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เก่งที่สุดในโลก  

 

 

เพราะอวี๋หมิงหลางรู้สึกผิดต่อเสี่ยวเชี่ยน ทั้งวันเขาจึงเอาแต่นั่งคอตก เขาดูแลเสี่ยวเชี่ยนไม่ดี ไม่กล้ามองหน้าเธอ หันหลังให้เธอตลอด มีแค่ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนต้องการอะไรเท่านั้นเขาถึงจะหันไป แน่นอนเสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเขาไม่ได้รังเกียจที่เธอมีรอยที่น่าเกลียดแบบนี้ แต่เป็นเพราะเขาไม่กล้ามองรอยที่คอเธอ เห็นแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิด  

 

 

เห้อ แบบนี้เรียกอะไร โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง? ทิ้งเงามืดในจิตใจเสียแล้ว  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนปวดใจที่เห็นอวี๋หมิงหลางตำหนิตัวเองแบบนี้เธอจึงดึงตัวเขาเข้ามาแล้วบังคับให้เขาโอบเธอ สองคนนั่งเคียงข้างกัน เขาจะลุกไปแต่เธอเอามือโอบเอวเขาไว้  

 

 

ทำได้แค่ใช้ความอบอุ่นบอกเขาว่าเธอยังอยู่ อีกไม่นานเธอก็หายดี อวี๋หมิงหลางถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย  

 

 

อันที่จริงเสี่ยวเชี่ยนคิดว่าตัวเองออกจากโรงพยาบาลเลยก็ได้ เรื่องคออักเสบค่อยกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ทำไมต้องอยู่โรงพยาบาลด้วย แต่อวี๋หมิงหลางไม่วางใจ จะให้เธออยู่ดูอาการให้ได้ กลัวว่าสมองของเธอจะเสียหาย  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอยากถามมากว่าแล้วจัดการเรื่องคนบ้ายังไง แต่เห็นเขาเศร้าสร้อยนั่งคอตกแบบนี้ก็เกรงใจไม่กล้าถาม คิดไว้เดี๋ยวออกจากโรงพยาบาลค่อยถาม  

 

 

หลังจากรอดูอาการหนึ่งคืน หมอแน่ใจแล้วว่าเสี่ยวเชี่ยนไม่เป็นอะไรให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ตื่น ถ้าตื่นแล้วก็กลับบ้านได้  

 

 

อวี๋หมิงหลางออกไปจัดหาอาหารเช้า พอกลับมาก็เห็นพ่อแม่ พี่ใหญ่พี่สะใภ้ และก็ต้าอี  

 

 

ถ้าอวี๋หมิงซีไม่ติดว่าอยู่เมืองอื่น อวี๋หมิงอี้ได้รับคำสั่งด่วนให้ไปบิน ไม่อย่างนั้นสองคนนั้นก็มาด้วยแล้ว เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัว  

 

 

“ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนเป็นไงบ้าง?” พ่ออวี๋ที่งานยุ่งมากยังรีบมา  

 

 

“ไม่เป็นไรแล้วครับ แต่คอยังเจ็บอยู่ หมอบอกว่าออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”  

 

 

“ไอ้ลูกคนนี้นี่” พ่ออวี๋ยกมือขึ้นจะตบอวี๋หมิงหลาง แต่แม่อวี๋รีบห้ามไว้  

 

 

“ลูกทำดีที่สุดแล้ว เขาถูกลดตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลาง แต่นั่นก็แค่ชั่วคราวไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ห้ามกลับมารับตำแหน่งอีกซะหน่อย”  

 

 

ผลตัดสินสุดท้ายของเรื่องนี้คืออวี๋หมิงหลางถูกลดขั้นมาเป็นหัวหน้ากลาง รอดูผลงานค่อยปรับเลื่อนขึ้นไปตำแหน่งเดิม และที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ได้ถูกบันทึกเป็นคดี นี่นับว่าเป็นเรื่องดีสุดๆ สำหรับทหารที่อนาคตสดใสอย่างอวี๋หมิงหลางแล้ว นับเป็นการลงโทษที่เมตตามาก แค่ลดตำแหน่งแค่นี้ไม่เท่าไร  

 

 

พ่ออวี๋ถลึงตาใส่ “ผมไม่ได้จะตีมันเพราะเรื่องนี้ เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมไม่โทรไปบอกที่บ้าน? ในสายตาแกยังมีครอบครัวนี้อยู่หรือเปล่า?”  

 

 

“ถึงผมไม่บอกพวกพ่อก็รู้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?” ตอนนี้อวี๋หมิงหลางรู้สึกหมดแรงกับทุกสิ่ง ใจของเขาไปอยู่กับผู้หญิงที่นอนอยู่ในห้องผู้ป่วยหมดแล้ว  

 

 

พ่ออวี๋พอได้ยินคำพูดที่ไม่สำนึกแบบนี้ก็เกิดความรู้สึกอยากตบขึ้นมาอีก “ไอ้ลูกคนนี้ เสี่ยวเชี่ยนเกิดเรื่องฉันยังต้องรู้จากปากเพื่อนทหารอีกที”  

 

 

พอได้ยินข่าวนี้ทั้งครอบครัวก็ตกใจใหญ่ ถึงได้รีบยกขบวนพากันมาเยี่ยมเสี่ยวเชี่ยน   

 

 

เวลานี้เสี่ยวเชี่ยนตื่นแล้ว พอได้ยินว่าอวี๋หมิงหลางถูกลดตำแหน่งก็ตกใจ ตกลงเขาทำเรื่องอะไรไป?  

 

 

เธอรีบเปิดประตูออกไป เห็นพ่ออวี๋กำลังทำท่าเหมือนจะตบอวี๋หมิงหลางเสี่ยวเชี่ยนจึงรีบเข้าไปขวาง  

 

 

เธอพูดไม่ได้ แต่สายตาเธอร้อนใจ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พ่ออวี๋ตีอวี๋หมิงหลางอีก  

 

 

เสี่ยวเฉียงโทษตัวเองอยู่นานเรื่องที่เธอบาดเจ็บ เธอจึงไม่อยากเห็นเขาบาดเจ็บอีก  

 

 

แม่อวี๋เห็นรอยที่คอเสี่ยวเชี่ยนน้ำตาก็ไหลออกมา รีบเข้าไปจับเสี่ยวเชี่ยนพลางร้องไห้ยกใหญ่  

 

 

“เสี่ยวเชี่ยนที่น่าสงสาร ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้”  

 

 

พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่ใหญ่เห็นแล้วก็ตกใจ ทำไมรอยมันถึงได้น่ากลัวแบบนี้  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรีบหันไปขยับปากพูดกับอวี๋หมิงหลาง ความหมายคือ ช่วยบอกทุกคนให้หน่อยว่าเธอไม่เป็นไร แต่อวี๋หมิงหลางกลับก้มหน้า “ความผิดผมเองที่ไม่ดูแลเธอให้ดี”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอยากจะบ้า โว้ยยยยยย ทำไมเอาอีกแล้ว?  

 

 

แค่เสี่ยวเฉียงผู้อ่อนไหวง่ายคนเดียวประธานเชี่ยนก็ปวดหัวพอแล้ว นี่มากันทั้งแก๊งค์ ตายแน่ฉัน  

 

 

“พูดไม่ได้เหรอ? งั้นพาไปรักษาในเมืองหลวงเถอะ โอ๊ยไม่ได้ละตาอวี๋ ต้องรีบหาหมอเก่งๆมารักษา” แม่อวี๋ร้อนใจหนัก ลูกสะใภ้ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานทำไมมาบาดเจ็บแบบนี้ล่ะ?  

 

 

“ครับ พาเธอไปรักษาผมก็จะได้วางใจด้วย” อวี๋หมิงหลางเห็นด้วย เสี่ยวเชี่ยนทนไม่ไหวเริ่มคุ้ยกระเป๋าต้าอี เธอรู้ว่าต้าอีมีนิสัยชอบพกสมุด ซึ่งก็ติดมาจากเธอ เสี่ยวเชี่ยนรีบเขียนข้อความลงบนกระดาษ หนูไม่เป็นไร หมอบอกว่าคอไม่ได้เป็นอะไรมาก พักสองวันก็พูดได้ค่ะ แค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว  

 

 

“ไม่ได้ ไปตรวจดูให้ครบทุกด้านเลยผมจะได้วางใจด้วย” อวี๋หมิงหลางรู้สึกไม่วางใจเลย  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำได้แค่ขอร้องแม่สามีกับพี่สะใภ้ใหญ่ เธอเขียนข้อความลงบนกระดาษ  

 

 

สองคนนี้เป็นหมอเหมือนกัน น่าจะรู้เรื่องความรู้ทางการแพทย์ดีไม่บ้าตามอวี๋หมิงหลาง คนที่ขาดอากศหายใจถ้าไม่ฟื้นสิน่ากลัว แต่ตอนนี้เธอฟื้นมาแล้วพ้นขีดอันตรายแล้ว ไม่ต้องหลับหูหลับตาเครียดกัน  

 

 

พูดกันอยู่ตั้งนานกว่าจะทำให้ทุกคนเข้าใจได้ เสี่ยวเชี่ยนจึงไม่ต้องถูกส่งตัวไปตรวจในเมืองหลวง จะตรวจอะไรล่ะ รักษาตัวสองวันก็ไม่เป็นไรแล้ว ไปที่ที่คนเยอะแบบนั้นเสียเวลาจะตาย  

 

 

หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทั้งหมดก็ยกขบวนกันไปที่บ้านใหม่ของเสี่ยวเชี่ยน ตอนนี้อวี๋หมิงหลางไม่วางใจให้เสี่ยวเชี่ยนไปอยู่ข้างนอก กลัวเธอไม่ปลอดภัย ปรากฏว่าพอเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นสภาพบ้านที่ตกแต่งใหม่หมด อวี๋หมิงหลางก็ปวดใจขึ้นมาอีกรอบ  

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 828 ประคบประหงม เคียงบ่าเคียงไหล่

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 828 ประคบประหงม เคียงบ่าเคียงไหล่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เห็นเสี่ยวเชี่ยนถูกจับเป็นตัวประกัน สำหรับอวี๋หมิงหลางแล้วเป็นเรื่องสะเทือนใจอย่างมาก ตอนนี้เขาไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเธอรอดตายมาได้แล้ว เธอยังมีชีวิตอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทำไมตัวเธอถึงได้เล็กขนาดนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ครอบครองหัวใจของเขาทั้งดวง เขาเกือบสูญเสียเธอไปแล้ว  

 

 

ความหวาดกลัวแบบนี้ทำให้อวี๋หมิงหลางรู้สึกแย่มาก เขาไม่อยากให้เธอเห็นว่าเขาอ่อนแอ ถ้าเขาสังเกตเห็นก่อนที่คนบ้าจะเข้ามาใกล้เธอแล้วรีบยิง เสี่ยวเชี่ยนคงไม่ต้องรับเคราะห์แบบนี้หรือเปล่า?  

 

 

ตอนแรกเสี่ยวเชี่ยนอยากดันเขาออกแล้วปลอบเขา บอกเขาว่าเธอไม่เป็นไร แต่รู้สึกเหมือนเขากำลังตัวสั่นเล็กน้อย เสี่ยวเชี่ยนถึงกับหัวใจอ่อนยวบ เธอกอดเขาคล้ายกับกำลังปลอบเด็กน้อย ตบหลังเขาเบาๆ  

 

 

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดอวี๋หมิงหลางก็ปล่อยเธอ แล้วพูดด้วยเสียงขึ้นจมูก  

 

 

“ขอโทษนะเสียวเหม่ย ทำให้คุณต้องลำบาก ผมมันไม่ได้เรื่อง ถ้าผมยิงเขาได้ก่อนที่เขาจะโผเข้าหาคุณ คุณก็ไม่ต้องบาดเจ็บ”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนได้ยินแล้วก็ปวดใจปนด้วยความรู้สึกโกรธ  

 

 

ครั้นแล้วเธอจึงขยับปากพูด โง่หรือไง ถ้าเขายังไม่ได้ทำอะไรแล้วนายยิง แบบนั้นก็ผิดกฎสิ มันเหมือนกันเหรอ?  

 

 

ลงมือแล้วถึงยิง แบบนั้นเรียกช่วยตัวประกัน แต่ถ้าคนบ้ายังไม่ได้ทำอะไรแล้วยิง ความผิดเต็มๆต้องติดคุก ทหารทำผิดโดนโทษเพิ่มขึ้นอีกระดับ  

 

 

อวี๋หมิงหลางไม่ได้ล้อเล่น ถ้ามีวิธีที่ทำให้เสียวเหม่ยของเขาไม่ต้องรับเคราะห์ หลีกเลี่ยงอันตรายได้ เขาก็พร้อมจะทำ  

 

 

ตอนที่หมอบอกว่า ถ้าช่วยไม่ทันเวลาและถูกต้อง สมองของเสี่ยวเชี่ยนคงเสียหายหนัก ตอนนั้นอวี๋หมิงหลางแทบอยากหักคอตัวเองให้ตาย  

 

 

เห็นอวี๋หมิงหลางเม้มปากไม่พูดอะไรเสี่ยวเชี่ยนก็เป็นห่วงอย่างสุดใจ เธอเอามือลูบหน้าเขา ดูซิเสี่ยวเฉียงของเธอขวัญหายหมด  

 

 

ฉันภูมิใจในตัวตาย สามีช่วยฉันไว้ ถ้าไม่ได้นายฉันคงตกอยู่ในอันตรายจริงๆแน่ อย่าพูดว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง นายเป็นผู้ชายที่เก่งที่สุดในโลก  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนขยับปากพูดกับเขา อวี๋หมิงหลางอ่านปากแล้วก็รู้สึกแย่ เขารู้สึกผิดต่อคำพูดของเสี่ยวเชี่ยนที่ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เก่งที่สุดในโลก  

 

 

เพราะอวี๋หมิงหลางรู้สึกผิดต่อเสี่ยวเชี่ยน ทั้งวันเขาจึงเอาแต่นั่งคอตก เขาดูแลเสี่ยวเชี่ยนไม่ดี ไม่กล้ามองหน้าเธอ หันหลังให้เธอตลอด มีแค่ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนต้องการอะไรเท่านั้นเขาถึงจะหันไป แน่นอนเสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเขาไม่ได้รังเกียจที่เธอมีรอยที่น่าเกลียดแบบนี้ แต่เป็นเพราะเขาไม่กล้ามองรอยที่คอเธอ เห็นแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิด  

 

 

เห้อ แบบนี้เรียกอะไร โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง? ทิ้งเงามืดในจิตใจเสียแล้ว  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนปวดใจที่เห็นอวี๋หมิงหลางตำหนิตัวเองแบบนี้เธอจึงดึงตัวเขาเข้ามาแล้วบังคับให้เขาโอบเธอ สองคนนั่งเคียงข้างกัน เขาจะลุกไปแต่เธอเอามือโอบเอวเขาไว้  

 

 

ทำได้แค่ใช้ความอบอุ่นบอกเขาว่าเธอยังอยู่ อีกไม่นานเธอก็หายดี อวี๋หมิงหลางถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย  

 

 

อันที่จริงเสี่ยวเชี่ยนคิดว่าตัวเองออกจากโรงพยาบาลเลยก็ได้ เรื่องคออักเสบค่อยกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ทำไมต้องอยู่โรงพยาบาลด้วย แต่อวี๋หมิงหลางไม่วางใจ จะให้เธออยู่ดูอาการให้ได้ กลัวว่าสมองของเธอจะเสียหาย  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอยากถามมากว่าแล้วจัดการเรื่องคนบ้ายังไง แต่เห็นเขาเศร้าสร้อยนั่งคอตกแบบนี้ก็เกรงใจไม่กล้าถาม คิดไว้เดี๋ยวออกจากโรงพยาบาลค่อยถาม  

 

 

หลังจากรอดูอาการหนึ่งคืน หมอแน่ใจแล้วว่าเสี่ยวเชี่ยนไม่เป็นอะไรให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ตื่น ถ้าตื่นแล้วก็กลับบ้านได้  

 

 

อวี๋หมิงหลางออกไปจัดหาอาหารเช้า พอกลับมาก็เห็นพ่อแม่ พี่ใหญ่พี่สะใภ้ และก็ต้าอี  

 

 

ถ้าอวี๋หมิงซีไม่ติดว่าอยู่เมืองอื่น อวี๋หมิงอี้ได้รับคำสั่งด่วนให้ไปบิน ไม่อย่างนั้นสองคนนั้นก็มาด้วยแล้ว เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัว  

 

 

“ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนเป็นไงบ้าง?” พ่ออวี๋ที่งานยุ่งมากยังรีบมา  

 

 

“ไม่เป็นไรแล้วครับ แต่คอยังเจ็บอยู่ หมอบอกว่าออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”  

 

 

“ไอ้ลูกคนนี้นี่” พ่ออวี๋ยกมือขึ้นจะตบอวี๋หมิงหลาง แต่แม่อวี๋รีบห้ามไว้  

 

 

“ลูกทำดีที่สุดแล้ว เขาถูกลดตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลาง แต่นั่นก็แค่ชั่วคราวไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ห้ามกลับมารับตำแหน่งอีกซะหน่อย”  

 

 

ผลตัดสินสุดท้ายของเรื่องนี้คืออวี๋หมิงหลางถูกลดขั้นมาเป็นหัวหน้ากลาง รอดูผลงานค่อยปรับเลื่อนขึ้นไปตำแหน่งเดิม และที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ได้ถูกบันทึกเป็นคดี นี่นับว่าเป็นเรื่องดีสุดๆ สำหรับทหารที่อนาคตสดใสอย่างอวี๋หมิงหลางแล้ว นับเป็นการลงโทษที่เมตตามาก แค่ลดตำแหน่งแค่นี้ไม่เท่าไร  

 

 

พ่ออวี๋ถลึงตาใส่ “ผมไม่ได้จะตีมันเพราะเรื่องนี้ เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมไม่โทรไปบอกที่บ้าน? ในสายตาแกยังมีครอบครัวนี้อยู่หรือเปล่า?”  

 

 

“ถึงผมไม่บอกพวกพ่อก็รู้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?” ตอนนี้อวี๋หมิงหลางรู้สึกหมดแรงกับทุกสิ่ง ใจของเขาไปอยู่กับผู้หญิงที่นอนอยู่ในห้องผู้ป่วยหมดแล้ว  

 

 

พ่ออวี๋พอได้ยินคำพูดที่ไม่สำนึกแบบนี้ก็เกิดความรู้สึกอยากตบขึ้นมาอีก “ไอ้ลูกคนนี้ เสี่ยวเชี่ยนเกิดเรื่องฉันยังต้องรู้จากปากเพื่อนทหารอีกที”  

 

 

พอได้ยินข่าวนี้ทั้งครอบครัวก็ตกใจใหญ่ ถึงได้รีบยกขบวนพากันมาเยี่ยมเสี่ยวเชี่ยน   

 

 

เวลานี้เสี่ยวเชี่ยนตื่นแล้ว พอได้ยินว่าอวี๋หมิงหลางถูกลดตำแหน่งก็ตกใจ ตกลงเขาทำเรื่องอะไรไป?  

 

 

เธอรีบเปิดประตูออกไป เห็นพ่ออวี๋กำลังทำท่าเหมือนจะตบอวี๋หมิงหลางเสี่ยวเชี่ยนจึงรีบเข้าไปขวาง  

 

 

เธอพูดไม่ได้ แต่สายตาเธอร้อนใจ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พ่ออวี๋ตีอวี๋หมิงหลางอีก  

 

 

เสี่ยวเฉียงโทษตัวเองอยู่นานเรื่องที่เธอบาดเจ็บ เธอจึงไม่อยากเห็นเขาบาดเจ็บอีก  

 

 

แม่อวี๋เห็นรอยที่คอเสี่ยวเชี่ยนน้ำตาก็ไหลออกมา รีบเข้าไปจับเสี่ยวเชี่ยนพลางร้องไห้ยกใหญ่  

 

 

“เสี่ยวเชี่ยนที่น่าสงสาร ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้”  

 

 

พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่ใหญ่เห็นแล้วก็ตกใจ ทำไมรอยมันถึงได้น่ากลัวแบบนี้  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรีบหันไปขยับปากพูดกับอวี๋หมิงหลาง ความหมายคือ ช่วยบอกทุกคนให้หน่อยว่าเธอไม่เป็นไร แต่อวี๋หมิงหลางกลับก้มหน้า “ความผิดผมเองที่ไม่ดูแลเธอให้ดี”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอยากจะบ้า โว้ยยยยยย ทำไมเอาอีกแล้ว?  

 

 

แค่เสี่ยวเฉียงผู้อ่อนไหวง่ายคนเดียวประธานเชี่ยนก็ปวดหัวพอแล้ว นี่มากันทั้งแก๊งค์ ตายแน่ฉัน  

 

 

“พูดไม่ได้เหรอ? งั้นพาไปรักษาในเมืองหลวงเถอะ โอ๊ยไม่ได้ละตาอวี๋ ต้องรีบหาหมอเก่งๆมารักษา” แม่อวี๋ร้อนใจหนัก ลูกสะใภ้ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานทำไมมาบาดเจ็บแบบนี้ล่ะ?  

 

 

“ครับ พาเธอไปรักษาผมก็จะได้วางใจด้วย” อวี๋หมิงหลางเห็นด้วย เสี่ยวเชี่ยนทนไม่ไหวเริ่มคุ้ยกระเป๋าต้าอี เธอรู้ว่าต้าอีมีนิสัยชอบพกสมุด ซึ่งก็ติดมาจากเธอ เสี่ยวเชี่ยนรีบเขียนข้อความลงบนกระดาษ หนูไม่เป็นไร หมอบอกว่าคอไม่ได้เป็นอะไรมาก พักสองวันก็พูดได้ค่ะ แค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว  

 

 

“ไม่ได้ ไปตรวจดูให้ครบทุกด้านเลยผมจะได้วางใจด้วย” อวี๋หมิงหลางรู้สึกไม่วางใจเลย  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำได้แค่ขอร้องแม่สามีกับพี่สะใภ้ใหญ่ เธอเขียนข้อความลงบนกระดาษ  

 

 

สองคนนี้เป็นหมอเหมือนกัน น่าจะรู้เรื่องความรู้ทางการแพทย์ดีไม่บ้าตามอวี๋หมิงหลาง คนที่ขาดอากศหายใจถ้าไม่ฟื้นสิน่ากลัว แต่ตอนนี้เธอฟื้นมาแล้วพ้นขีดอันตรายแล้ว ไม่ต้องหลับหูหลับตาเครียดกัน  

 

 

พูดกันอยู่ตั้งนานกว่าจะทำให้ทุกคนเข้าใจได้ เสี่ยวเชี่ยนจึงไม่ต้องถูกส่งตัวไปตรวจในเมืองหลวง จะตรวจอะไรล่ะ รักษาตัวสองวันก็ไม่เป็นไรแล้ว ไปที่ที่คนเยอะแบบนั้นเสียเวลาจะตาย  

 

 

หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทั้งหมดก็ยกขบวนกันไปที่บ้านใหม่ของเสี่ยวเชี่ยน ตอนนี้อวี๋หมิงหลางไม่วางใจให้เสี่ยวเชี่ยนไปอยู่ข้างนอก กลัวเธอไม่ปลอดภัย ปรากฏว่าพอเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นสภาพบ้านที่ตกแต่งใหม่หมด อวี๋หมิงหลางก็ปวดใจขึ้นมาอีกรอบ  

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+