แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1000 อาวุธร้ายแรง

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1000 อาวุธร้ายแรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอื้อก…” ในความมืดมน อวี่เหวินซวนลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่

เมื่อระยะทางสั้นลง หลิงม่อก็กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว…

ความรู้สึกเวลาต้องอยู่ในความมืด และพยายามเข้าใกล้เป้าหมายที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรอย่างนี้ ทั้งลุ้นระทึกและกดดันไม่น้อย…

“ระวัง…” สองวินาทีต่อมา สวี่ซูหานเตือนเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของเธอ ทันใดนั้นเสียงแผ่วเบาหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“ตึกๆ”

เสียงนั้นไม่ดัง แต่กลับทำให้คนสามคนที่กำลังกลั้นหายใจเพ่งสมาธิสะดุ้งตัวโยน

หลิงม่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับแขนเขาทันที ขณะเดียวกันก็ยังมีสัมผัสนุ่มนวลที่ถูกเบียดเสียดเข้ามา…

สวี่ซูหานปิดปาก คว้าแขนหลิงม่อแน่น

เธอที่เมื่อกี้ยังเดินนำอยู่หน้าสุด เวลานี้กลับสะดุ้งตกใจจนตัวสั่น…

ทนไม่ไหวแล้วนี่นา!

ส่วนอวี่เหวินซวนได้แต่ยืนอึ้งอยู่ข้างๆ กว่าเขาจะได้สติ หลิงม่อก็พาสวี่ซูหานโฉบหลบไปอีกด้านแล้ว ขณะเดียวกันเขารู้สึกแน่นที่เอว ไม่นานก็ถูกลากตามไปด้วย

“รีบนั่งลงเร็ว” หลิงม่อบอก

อวี่เหวินซวนหมายจะอ้าปากถาม แต่ก็ได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“แอ๊ดด…”

และเทียบกับเมื่อกี้ เสียงนี้ดังใกล้เข้ามากว่าเดิม…

มีอะไรบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้!

เห็นชัดว่า หลิงม่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งล่วงหน้า…

“ตึกๆ…”

ในระหว่างที่พวกเขาแปลกเปลี่ยนสายตากันสั้นๆ เสียง “ตึกๆ” นั้นก็เริ่มค่อยๆ ดังถี่ขึ้น และใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อยๆ…ถ้าหากจินตนาการโดยฟังเสียงอย่างเดียว ก็เหมือนกับคนคนหนึ่งกำลังเร่งความเร็ว เดินมาทางที่ซ่อนตัวของทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว…และการที่พวกเขานั่งอยู่ตรงนี้โดยอาศัยการบดบังของไอหมอกมืด ไม่แน่ว่าอาจไม่ได้ส่งผลต่อการซ่อนตัวแต่อย่างใด…

แต่ก็เหมือนกับที่สวี่ซูหานเคยบอกก่อนหน้านี้ ไอหมอกมืดที่นี่หนาแน่นเกินไปจริงๆ บวกกับพื้นที่โล่งกว้าง ดังนั้นเสียงที่พวกเขาได้ยินล้วนมีประสิทธิภาพสะท้อนกลับแฝงอยู่ด้วย แยกแยะทิศทางคร่าวๆ ยังพอได้ แต่จะให้ระบุตำแหน่งชัดเจน เกรงว่าคงยาก…

สรุปก็คือ สถานที่ไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา แต่หากมองในแง่ดี อีกฝ่ายอาจไม่ได้เดินมาทางพวกเขาก็ได้…

“เสียงฝีท้าหรอ?” หลิงม่อขมวดคิ้วคาเดา

ฟังจากความเร็วที่เสียงค่อยๆ ดังขึ้นก็รู้แล้ว ไม่นานอีกฝ่ายจะเดินมาใกล้พวกเขาแล้ว…

“กรี๊ด!”

แต่ไม่มีใครรู้เลย ว่าเวลานี้กลับมีเสียงร้องแหลมๆ ดังขึ้น…

และเสียงร้องนั้น ก็สะท้อนความหวาดกลัวสุดขีดอย่างชัดเจน…มันไม่ใช่เสียงที่สัตว์ประหลาดพวกนั้นร้องออกมาแน่ พวกมันมีเพียงสัญชาตญาณ ไม่มีทางรู้สึกถึงอารมณ์หวาดกลัวได้แน่นอน

“ตึกๆ!”

เสียงฝีเท้ากลับชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง ทว่าไม่นานมันก็ดังขึ้นติดๆ กัน และไกลออกไปเรื่อยๆ…

“ฉิบหาย!”

หลิงม่อได้สติกลับคืนจากความช็อกอย่างรวดเร็ว พลันดึงสวี่ซูหานลุกขึ้น

“นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?” อวี่เหวินซวนเองก็รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของหลิงม่อผ่านแรงกระตุกที่ส่งมาทางหนวดสัมผัส จึงลุกขึ้นยืนตาม และอดถามไม่ได้

“ฉันไม่รู้…” สวี่ซูหานส่ายหน้าอย่างขวัญหนีดีฝ่อ เหตุพลิกผันเกิดขึ้นกะทันหัน เธอมองไม่เห็นอะไรซักอย่าง…

หลิงม่อพูดเสียงเบา “ไม่ว่ายังไง…นี่ก็เป็นโอกาส!”

“นายหมายความว่า…พวกเราจะเป็นฝ่ายวิ่งตามไป?” สวี่ซูหานถาม

จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นในสถานที่อย่างนี้ เท่านี้ก็ประหลาดมากแล้ว…ตอนนี้แม้แต่เสียงกรีดร้องก็ยังมา แต่เขาก็ยังจะตามไปเนี่ยนะ?

“ถูกต้อง” หลิงม่อพยักหน้า แล้วพูดเสริม “เธอกับเฟิ่งจื่อซวนรอฉันอยู่ที่นี่ก็ได้”

“ไม่ได้!”

“ฉันไม่เอาด้วยนะ!”

สวี่ซูหานกับอวี่เหวินซวนปฏิเสธพร้อมกันทันควัน

“ฉันต้องไปให้ได้!” อวี่เหวินซวนค้าน “เรื่องน่าท้าทายขนาดนี้…”

“ท้าทายบ้าอะไรล่ะ! นายทำตัวปกติกับเขาเป็นบ้างไหม!”

“อุวะฮ่าฮ่าฮ่า…ขอโทษที…”

สวี่ซูหานกลับพูดเสียงเครียด “ฉันกลัวมาก แต่ว่า…แต่ฉันก็จะไป ฉันรู้ว่าทำไมนายถึงอยากไป…ฉันเอง…ฉันเองก็อยากเรียนรู้ให้มากขึ้น เพราะยังไงฉันก็…”

พุดมาถึงตรงนี้ เดาว่าเธอเองก็คงรู้สึกกระอ่วนใจ…แต่เพื่อแสดงความตั้งใจ เธอจึงฝืนพูดเสริมว่า “เอาเป็นว่าฉันช่วยได้ ที่กลัว…ก็แค่ชั่วคราว ฉันไม่เป็นตัวถ่วงนายหรอก”

“เอ่อ…งั้นก็ได้ วางใจ หากสถานการณ์ดูไม่ดีพวกเราก็ถอย” หลิงม่อพูดจบ ก็พูดขึ้นเสียงเบาว่า “คือว่า ผู้ประกาศข่าวสวี่…”

“ฉันจะไป!” สวี่ซูหานรีบตอบ

“ก็ไปสิ…แต่ว่า เธอกอดแน่นเกินไปหน่อยหรือเปล่า…” หลิงม่อพูดอย่างกระอักกระอ่วน กว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมาได้ ก็ลำบากใจไม่น้อยเหมือนกัน…

ความจริงเขาพูดอย่างเกรงใจและอ่อนโยนที่สุดแล้ว…สวี่ซูหานไม่ใช่แค่กอดแน่น แต่เธอแทบจะเข้ามาพันรัดเขาทั้งตัวแล้ว นอกจากโอบแขนหลิงม่อแน่นแล้ว ขาเรียวยาวทั้งสองข้างของเธอยังรัดรอบขาหลิงม่อไว้แน่นอีก…บวกกับเรี่ยงแรงมหาศาลในฐานะซอมบี้ของเธอ หลิงม่อรู้สึกเหมือนแขนของเขาใกล้จะถูกบีบจนแบบแล้ว…ช่างเป็น “อาวุธร้ายแรง” จริงๆ…

“ห๊ะ?…อ๊ะ!” สวี่ซูหานก้มมองตัวเอง พลันสะดุ้ง รีบคลายมือคลายเท้าทันที

ตอนนี้เธออับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว…เมื่อกี้เพิ่งพูดอยู่หยกๆ ว่าจะไม่เป็นตัวถ่วง ปรากฏว่าในขณะที่ปากบอกไม่ ร่างกายกลับไม่ให้ความร่วมมือ!

และที่แย่ที่สุดก็คือ…เธอยังต้องจับข้อมือหลิงม่อเพื่อนำทาง…

ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ที่ดวงหน้าร้อนผะผ่าวอย่างไร้ที่เปรียบ สวี่ซูหานจำเป็นต้องยื่นมือออกไป จับข้อมือหลิงม่ออีกครั้ง…

“ไปกัน!” หลิงม่อกลับไม่สังเกตเห็นความว้าวุ่นของสวี่ซูหาน ตอนนี้ความสนใจของเขา พุ่งเป้าไปที่ความมืดที่อยู่ตรงหน้า…

คนที่ตื่นเต้นเหมือนกันยังมีอวี่เหวินซวนอีกคน เพียงแต่เขาแสดงอารมณ์ผ่านคำพูดทั้งหมด “พวกนายก็ได้ยินแล้วใช่ไหม? เสียงนั้นน่าสงสัยมาก! ไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่ก็ไม่มีทางเป็นมนุษย์…ดูจากความน่าจะเป็นแล้ว ฉันว่าเสียงนั้นเป็นเสียงที่สัตว์ประหลาดที่กลายร่างเป็นร้องออกมาแน่นอน แต่เสียงฝีเท้านั่นมันยังไงกันแน่? ถ้าหากว่ารู้ว่าพวกเราอยู่ตรงนี้แล้ว มัน…”

“นี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน” หลิงม่อวิ่งไปพลาง พูดเสียงเบาไปพลาง “ถ้าหากว่าเสียงร้องนั้นต้องการล่อพวกเรา ถ้าอย่างนั้นเสียงฝีเท้านั้นก็ไม่มีคำอธิบาย ฉันว่า อาจเป็นไปได้ว่าเสียงร้องกับเสียงฝีเท้าไม่ใช่พวกเดียวกัน…ดังนั้น…”

“ดังนั้นนี่เลยเป็นโอกาส…” อวี่เหวินซวนเข้าใจทันที

สวี่ซูหานเองก็ได้สติ เมื่อกี้พวกเธอตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายไล่ล่า พลิกเกมเป็นฝ่ายได้เปรียบ…

เพียงแต่ไม่รู้ทำไม พอคิดถึงเสียงร้องนั้น สวี่ซูหานก็รู้สึกไม่สบายใจลึกๆ…

“หลิงม่อ ฉันว่า…”

“กรี๊ดดด!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงร้องในครั้งนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเสียงโหยหวน…

—————————————

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1000 อาวุธร้ายแรง

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1000 อาวุธร้ายแรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอื้อก…” ในความมืดมน อวี่เหวินซวนลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่

เมื่อระยะทางสั้นลง หลิงม่อก็กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว…

ความรู้สึกเวลาต้องอยู่ในความมืด และพยายามเข้าใกล้เป้าหมายที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรอย่างนี้ ทั้งลุ้นระทึกและกดดันไม่น้อย…

“ระวัง…” สองวินาทีต่อมา สวี่ซูหานเตือนเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของเธอ ทันใดนั้นเสียงแผ่วเบาหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“ตึกๆ”

เสียงนั้นไม่ดัง แต่กลับทำให้คนสามคนที่กำลังกลั้นหายใจเพ่งสมาธิสะดุ้งตัวโยน

หลิงม่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับแขนเขาทันที ขณะเดียวกันก็ยังมีสัมผัสนุ่มนวลที่ถูกเบียดเสียดเข้ามา…

สวี่ซูหานปิดปาก คว้าแขนหลิงม่อแน่น

เธอที่เมื่อกี้ยังเดินนำอยู่หน้าสุด เวลานี้กลับสะดุ้งตกใจจนตัวสั่น…

ทนไม่ไหวแล้วนี่นา!

ส่วนอวี่เหวินซวนได้แต่ยืนอึ้งอยู่ข้างๆ กว่าเขาจะได้สติ หลิงม่อก็พาสวี่ซูหานโฉบหลบไปอีกด้านแล้ว ขณะเดียวกันเขารู้สึกแน่นที่เอว ไม่นานก็ถูกลากตามไปด้วย

“รีบนั่งลงเร็ว” หลิงม่อบอก

อวี่เหวินซวนหมายจะอ้าปากถาม แต่ก็ได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“แอ๊ดด…”

และเทียบกับเมื่อกี้ เสียงนี้ดังใกล้เข้ามากว่าเดิม…

มีอะไรบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้!

เห็นชัดว่า หลิงม่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งล่วงหน้า…

“ตึกๆ…”

ในระหว่างที่พวกเขาแปลกเปลี่ยนสายตากันสั้นๆ เสียง “ตึกๆ” นั้นก็เริ่มค่อยๆ ดังถี่ขึ้น และใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อยๆ…ถ้าหากจินตนาการโดยฟังเสียงอย่างเดียว ก็เหมือนกับคนคนหนึ่งกำลังเร่งความเร็ว เดินมาทางที่ซ่อนตัวของทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว…และการที่พวกเขานั่งอยู่ตรงนี้โดยอาศัยการบดบังของไอหมอกมืด ไม่แน่ว่าอาจไม่ได้ส่งผลต่อการซ่อนตัวแต่อย่างใด…

แต่ก็เหมือนกับที่สวี่ซูหานเคยบอกก่อนหน้านี้ ไอหมอกมืดที่นี่หนาแน่นเกินไปจริงๆ บวกกับพื้นที่โล่งกว้าง ดังนั้นเสียงที่พวกเขาได้ยินล้วนมีประสิทธิภาพสะท้อนกลับแฝงอยู่ด้วย แยกแยะทิศทางคร่าวๆ ยังพอได้ แต่จะให้ระบุตำแหน่งชัดเจน เกรงว่าคงยาก…

สรุปก็คือ สถานที่ไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา แต่หากมองในแง่ดี อีกฝ่ายอาจไม่ได้เดินมาทางพวกเขาก็ได้…

“เสียงฝีท้าหรอ?” หลิงม่อขมวดคิ้วคาเดา

ฟังจากความเร็วที่เสียงค่อยๆ ดังขึ้นก็รู้แล้ว ไม่นานอีกฝ่ายจะเดินมาใกล้พวกเขาแล้ว…

“กรี๊ด!”

แต่ไม่มีใครรู้เลย ว่าเวลานี้กลับมีเสียงร้องแหลมๆ ดังขึ้น…

และเสียงร้องนั้น ก็สะท้อนความหวาดกลัวสุดขีดอย่างชัดเจน…มันไม่ใช่เสียงที่สัตว์ประหลาดพวกนั้นร้องออกมาแน่ พวกมันมีเพียงสัญชาตญาณ ไม่มีทางรู้สึกถึงอารมณ์หวาดกลัวได้แน่นอน

“ตึกๆ!”

เสียงฝีเท้ากลับชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง ทว่าไม่นานมันก็ดังขึ้นติดๆ กัน และไกลออกไปเรื่อยๆ…

“ฉิบหาย!”

หลิงม่อได้สติกลับคืนจากความช็อกอย่างรวดเร็ว พลันดึงสวี่ซูหานลุกขึ้น

“นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?” อวี่เหวินซวนเองก็รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของหลิงม่อผ่านแรงกระตุกที่ส่งมาทางหนวดสัมผัส จึงลุกขึ้นยืนตาม และอดถามไม่ได้

“ฉันไม่รู้…” สวี่ซูหานส่ายหน้าอย่างขวัญหนีดีฝ่อ เหตุพลิกผันเกิดขึ้นกะทันหัน เธอมองไม่เห็นอะไรซักอย่าง…

หลิงม่อพูดเสียงเบา “ไม่ว่ายังไง…นี่ก็เป็นโอกาส!”

“นายหมายความว่า…พวกเราจะเป็นฝ่ายวิ่งตามไป?” สวี่ซูหานถาม

จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นในสถานที่อย่างนี้ เท่านี้ก็ประหลาดมากแล้ว…ตอนนี้แม้แต่เสียงกรีดร้องก็ยังมา แต่เขาก็ยังจะตามไปเนี่ยนะ?

“ถูกต้อง” หลิงม่อพยักหน้า แล้วพูดเสริม “เธอกับเฟิ่งจื่อซวนรอฉันอยู่ที่นี่ก็ได้”

“ไม่ได้!”

“ฉันไม่เอาด้วยนะ!”

สวี่ซูหานกับอวี่เหวินซวนปฏิเสธพร้อมกันทันควัน

“ฉันต้องไปให้ได้!” อวี่เหวินซวนค้าน “เรื่องน่าท้าทายขนาดนี้…”

“ท้าทายบ้าอะไรล่ะ! นายทำตัวปกติกับเขาเป็นบ้างไหม!”

“อุวะฮ่าฮ่าฮ่า…ขอโทษที…”

สวี่ซูหานกลับพูดเสียงเครียด “ฉันกลัวมาก แต่ว่า…แต่ฉันก็จะไป ฉันรู้ว่าทำไมนายถึงอยากไป…ฉันเอง…ฉันเองก็อยากเรียนรู้ให้มากขึ้น เพราะยังไงฉันก็…”

พุดมาถึงตรงนี้ เดาว่าเธอเองก็คงรู้สึกกระอ่วนใจ…แต่เพื่อแสดงความตั้งใจ เธอจึงฝืนพูดเสริมว่า “เอาเป็นว่าฉันช่วยได้ ที่กลัว…ก็แค่ชั่วคราว ฉันไม่เป็นตัวถ่วงนายหรอก”

“เอ่อ…งั้นก็ได้ วางใจ หากสถานการณ์ดูไม่ดีพวกเราก็ถอย” หลิงม่อพูดจบ ก็พูดขึ้นเสียงเบาว่า “คือว่า ผู้ประกาศข่าวสวี่…”

“ฉันจะไป!” สวี่ซูหานรีบตอบ

“ก็ไปสิ…แต่ว่า เธอกอดแน่นเกินไปหน่อยหรือเปล่า…” หลิงม่อพูดอย่างกระอักกระอ่วน กว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมาได้ ก็ลำบากใจไม่น้อยเหมือนกัน…

ความจริงเขาพูดอย่างเกรงใจและอ่อนโยนที่สุดแล้ว…สวี่ซูหานไม่ใช่แค่กอดแน่น แต่เธอแทบจะเข้ามาพันรัดเขาทั้งตัวแล้ว นอกจากโอบแขนหลิงม่อแน่นแล้ว ขาเรียวยาวทั้งสองข้างของเธอยังรัดรอบขาหลิงม่อไว้แน่นอีก…บวกกับเรี่ยงแรงมหาศาลในฐานะซอมบี้ของเธอ หลิงม่อรู้สึกเหมือนแขนของเขาใกล้จะถูกบีบจนแบบแล้ว…ช่างเป็น “อาวุธร้ายแรง” จริงๆ…

“ห๊ะ?…อ๊ะ!” สวี่ซูหานก้มมองตัวเอง พลันสะดุ้ง รีบคลายมือคลายเท้าทันที

ตอนนี้เธออับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว…เมื่อกี้เพิ่งพูดอยู่หยกๆ ว่าจะไม่เป็นตัวถ่วง ปรากฏว่าในขณะที่ปากบอกไม่ ร่างกายกลับไม่ให้ความร่วมมือ!

และที่แย่ที่สุดก็คือ…เธอยังต้องจับข้อมือหลิงม่อเพื่อนำทาง…

ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ที่ดวงหน้าร้อนผะผ่าวอย่างไร้ที่เปรียบ สวี่ซูหานจำเป็นต้องยื่นมือออกไป จับข้อมือหลิงม่ออีกครั้ง…

“ไปกัน!” หลิงม่อกลับไม่สังเกตเห็นความว้าวุ่นของสวี่ซูหาน ตอนนี้ความสนใจของเขา พุ่งเป้าไปที่ความมืดที่อยู่ตรงหน้า…

คนที่ตื่นเต้นเหมือนกันยังมีอวี่เหวินซวนอีกคน เพียงแต่เขาแสดงอารมณ์ผ่านคำพูดทั้งหมด “พวกนายก็ได้ยินแล้วใช่ไหม? เสียงนั้นน่าสงสัยมาก! ไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่ก็ไม่มีทางเป็นมนุษย์…ดูจากความน่าจะเป็นแล้ว ฉันว่าเสียงนั้นเป็นเสียงที่สัตว์ประหลาดที่กลายร่างเป็นร้องออกมาแน่นอน แต่เสียงฝีเท้านั่นมันยังไงกันแน่? ถ้าหากว่ารู้ว่าพวกเราอยู่ตรงนี้แล้ว มัน…”

“นี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน” หลิงม่อวิ่งไปพลาง พูดเสียงเบาไปพลาง “ถ้าหากว่าเสียงร้องนั้นต้องการล่อพวกเรา ถ้าอย่างนั้นเสียงฝีเท้านั้นก็ไม่มีคำอธิบาย ฉันว่า อาจเป็นไปได้ว่าเสียงร้องกับเสียงฝีเท้าไม่ใช่พวกเดียวกัน…ดังนั้น…”

“ดังนั้นนี่เลยเป็นโอกาส…” อวี่เหวินซวนเข้าใจทันที

สวี่ซูหานเองก็ได้สติ เมื่อกี้พวกเธอตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายไล่ล่า พลิกเกมเป็นฝ่ายได้เปรียบ…

เพียงแต่ไม่รู้ทำไม พอคิดถึงเสียงร้องนั้น สวี่ซูหานก็รู้สึกไม่สบายใจลึกๆ…

“หลิงม่อ ฉันว่า…”

“กรี๊ดดด!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงร้องในครั้งนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเสียงโหยหวน…

—————————————

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+