แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1021 กับดักรายละเอียด

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1021 กับดักรายละเอียด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวกนายได้ยินไหม?” มู่เฉินถามด้วยสีหน้าตื่นๆ

ทุกคนต่างพยักหน้าเงียบๆ จากนั้นก็มองไปข้างหลังประตูอย่างระแวดระวัง

“ทุกคนระวังตัวให้ดี” หลิงม่อพูดเสียงเบา ขณะเดียวกันก็เดินเข้าไปช้าๆ

พื้นที่ด้านหลังประตูไม่ถือว่าใหญ่มาก แต่กลับมีสิ่งของมากมายกองสะเปะสะปะไปทั่ว และด้านซ้ายของทางเข้า ก็มีประตูอยู่อีกหนึ่งบาน หลิงม่อเพิ่งจะเบนสายตาไปที่ประตูบานนั้น ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบาๆ ดังมาจากหลังกองขยะ เสียงครวญครางที่เขาได้ยินก็ดังมาจากตรงนั้น “ช่วยฉันด้วย…”

“ใครน่ะ?” ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของทุกคน หลิงม่อถามออกไป พลางเดินไปหยุดตรงหน้ากองขยะ

“ช่วยด้วย…” คนคนนั้นกลับไม่ตอบคำถาม ยังคงคร่ำครวญซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด

เวลานี้พอได้ยินเสียงนี้ในระยะใกล้ๆ สีหน้าของหลิงม่อพลันแปลกไปทันที… “เหมือนฉันจะเคยได้ยินเสียงนี้จากที่ไหนมาก่อน…” อยู่ๆ เขาก็พูดโพล่งออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปคุ้ยเปิดขยะกองนั้น

เคยได้ยิน? คนที่เหลือต่างอึ้งงัน…เสียงนี้แหบมาก ทว่าหลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็เริ่มรู้สึกคุ้นหูขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ เพียงแต่ยิ่งคิด ก็ยิ่งนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหน

เมื่อกองขยะถูกจัดการจนราบ มือที่อาบไปด้วยเลือดก็ยื่นออกมาจากข้างใน คว้ากางเกงหลิงม่อทันที “ชะ…ช่วยฉันด้วย…”

เมื่อหลิงม่อยกไม้กระดานแผ่นสุดท้ายขึ้น ประตูที่เชื่อมต่อกับห้องข้างๆ บานนั้นก็พลันส่งเสียง “แกร๊ก” ขึ้นมาเบาๆ

เสี้ยววินาทีนั้น ทุกคนต่างถูกดึงดูดความสนใจไปทางนั้นหมด…กลอนประตูนั่น กำลังหมุนช้าๆ ขณะเดียวกัน หลิงม่อก็ได้ดันไม้กระดานแผ่นนั้นออกไปข้างหนึ่ง เผยให้เห็นคนที่ร้องขอความช่วยเหลือซึ่งนอนอยู่ข้างล่างอย่างชัดเจน…เขากำขากางเกงของหลิงม่อไว้แน่น กลางแผ่นหลังมีเหล็กเส้นถูกเสียบไว้ ตรึงร่างเขาไว้กับพื้น…

“ช่วยด้วย…” เขายังคงพึมพำ เพียงแต่สายตาของเขาเลื่อนลอยไร้จุดหมายไปนานแล้ว

และเวลานี้ ประตูบานนั้นก็เปิดออกแล้ว…

“ทำไมไม่ช่วยฉัน…ทำไมต้อง…ฆ่าฉัน…ฉันต่างหากที่เป็นตัวจริง…” คนคนนั้นเพิ่งจะตวาดเสียงดังได้ประโยคเดียว ลำคอพลันหักคอ สิ้นลมหายใจทันใด เพียงแต่มือของเขา ยังคงกำขากางเกงหลิงม่อไว้แน่น และประโยคที่เขาพูดเมื่อกี้ ก็ลอยไปเข้าหูคนสองคนที่เพิ่งเดินออกมาจากประตูบานนั้นพอดี

ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น กว่าพวกมู่เฉินจะตั้งสติได้ ประตูบานนั้นก็เปิดออกแล้ว และหลิงม่อก็ดันไม้กระดานแผ่นนั้นออกเสียแล้ว…

“ซย่าน่า?” มู่เฉินเบิกตากว้างจ้องสองคนนั้น พลันตะโกนเรียกอย่างประหลาดใจ

…………

สองคนที่เดินออกมาจากประตูบานนั้น กลับเป็นซย่าน่ากับหลี่ย่าหลิน…และหลังจากที่กวาดตามองพวกเขาหนึ่งรอบ ซย่าน่าก็หันไปมองหลิงม่อที่ยืนหันหลังอยู่ รวมถึงศพที่นอนตายอยู่ข้างเท้าเขา

หลิงม่อได้ยินก็หันกลับมา ใบหน้าจริงๆ ของศพนั้น ก็ได้ปรากฏสู่สายตาของทุกคนในตอนนั้นเช่นกัน นั่นคือมู่เฉิน…

ไม่มีใครที่จะมีสีหน้าประหลาดไปกว่ามู่เฉินแล้ว…ทว่าผ่านไปไม่นาน ทุกคนต่างตระหนักได้ถึงปัญหาที่สำคัญกว่า

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ พวกเราไม่ได้ฆ่าเขา…แล้วเขาก็ไม่ใช่โค้ชตัวจริงด้วย!” เจ้าลิงผอมตัวสั่นเทา จากนั้นก็รีบหันไปอธิบายให้พวกซย่าน่าฟัง

“นายพูดอะไรน่ะ!” กู่ซวงซวงสะดุ้งตกใจ หันไปมองเจ้าลิงผอม

กล้ามเนื้อบนใบหน้าเจ้าลิงผอมกระตุกยิกๆ เขายกมือชี้ไปทางศพของ “มู่เฉิน” อย่างกล้าๆ กลัวๆ บอกว่า “พวกเธออาจเข้าใจผิดได้…”

“แต่ว่านั่นไม่ใช่โค้ชตัวจริงอยู่แล้ว ไม่เห็นหรอว่าพวกเราอยู่ตรงนี้กันหมด…” พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของจางซินเฉิงกลับดูเคร่งเครียดขึ้นมา เขาตระหนักได้ว่า สายตาที่ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินมองมาทางพวกเขา ดูแปลกไป

“พวกเธอเจอศพอื่น” จางซินเฉิงพูดสั้นๆ

ทุกคนต่างใจเต้น “ตึกตัก” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ…ถ้าหากเป็นอย่างนั้น เรื่องราวก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก…

“แล้วยังไงล่ะ? พวกเราต่างหากที่เป็นตัวจริง ศพพวกนั้นเป็นตัวปลอม!” เย่ไคบอก “แม่งเอ๊ย! ไอ้สัตว์ประหลาดสารเลวนั่น!  วิธีโบราณๆ อย่างนี้มันยังคิดได้นะ? ที่มันทำอย่างนี้ ก็เพื่อจะยุให้พวกเราแตกคอกันเอง พวกนายจะตื่นตูมกันไปทำไมวะ? ทำตัวเป็นโจรร้อนตัวไปได้ แล้วก็นาย เจ้าลิงผอม แม่เอ็งจะพูดมากหาอะไรนักหนา…”

“ไม่มีประโยชน์หรอก พูดเรื่องพวกนี้ไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยซักนิด เพราะว่าตอนนี้พวกเรา…” มู่เฉินพูดเพียงครึ่งเดียว ก็เงียบไป ทว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าอีกครึ่งประโยคที่เขาพูดไม่จบคืออะไร…

“เพราะว่าตอนนี้ พวกเราไม่มีวิธีพิสูจน์ได้เลยว่าเราเป็นตัวจริง”

ศพเหล่านั้นที่ตายไปเหมือนกับพวกเขาทุกประการ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐาน และแปลกประหลาดอย่างนี้ ไม่ว่าพวกเขาพูดอะไร พวกซย่าน่าก็จะแคลงใจอยู่ดี ถึงแม้จะไม่ลงมือกับพวกเขา แต่พวกเธอไม่มีทางเชื่อพวกเขาสนิทใจแน่นอน…

เมื่อเป็นอย่างนี้ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็จะสามารถใช้ช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ทำให้พวกเขาแตกหักกัน…

กู่ซวงซวงมองซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินอย่างตระหนก อยู่ๆ ก็ยกมือปิดหน้า บอกว่า “ตอนนั้นฉันไม่น่าร้องเลย ฉันผิดเองที่เป็นคนเห็นศพเป็นคนแรก ถ้าหากว่าฉัน…” เธอหันไปมองหลิงม่อ อยากรู้ว่าเขามีวิธีอะไรที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้หรือไม่ ทว่าในใจเธอรู้ดี เวลานี้ทุกคนต่างก็มืดแปดด้านไปหมดแล้ว และหลิงม่อที่ดูก็รู้ว่ากลายเป็น “ฆาตกร” ไปแล้วในตอนนี้ เกรงว่าคงไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ได้เช่นกัน…

ที่แย่ที่สุดก็คือ พอลองนึกย้อนกลับไป ศพพวกนั้นเหมือนจะสวมใส่ไว้เพียงเสื้อผ้ารัดรูปเท่านั้น…แต่ตอนนั้นพวกเขามัวแต่สนใจรูปร่างหน้าตาของศพ จนมองข้ามรายละเอียดสำคัญนี้ไป มาตอนนี้ เห็นชัดว่านี่เป็นการปูทางเพื่อทำให้พวกเขาดูน่าสงสัยมากกว่าเดิม! และรายละเอียดเล็กๆ ที่ดูเหมือนกันทุกประการเหล่านั้น ก็คล้ายว่าจงใจถูกเผยออกมาให้เห็น…

“ในเมื่ออีกฝ่ายเลียนแบบได้แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ ถ้าอย่างนั้นถึงแม้มีรหัสลับหรือความทรงจำร่วมกัน ก็ไม่อาจพิสูจน์อะไรได้แล้ว…แย่แล้ว ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือพวกเธออาจคิดเหมือนเราตอนนี้ก็ได้!” กู่ซวงซวงเริ่มสติแตกอีกครั้ง…รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้อาจฟังดูน้ำหนักเบาไม่น่าเชื่อถือ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าจริงๆ กลับพบว่าพวกมันล้วนเป็นกับดักที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นวางไว้

และเวลานี้ ซย่าน่าที่เอาแต่จ้องพวกเขามาตลอดก็เปิดปากพูด เธอมองหลิงม่อ บอกว่า “ฉันตามพี่หลิงมา…”

“อะไรนะ?”

…หลังจากที่ขึ้นมาจากใต้ดิน ซย่าน่าก็มองเห็นเงาหลังหลิงม่อจากที่ไกลๆ…และเงาร่างนั้น ก็เป็นเงาเดียวกับที่เธอเคยเห็นในท่อน้ำทิ้งใต้ดินนั่น

เธอกับหลี่ย่าหลินรีบตามไปทันที แล้วพวกเธอก็ตาม “หลิงม่อ” คนนั้นเข้ามาในอาคารที่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างหลังนี้ ทว่าหลังจากลงมาชั้นใต้ดิน อยู่ๆ พวกเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง…และพอพวกเธอวิ่งตามไป สิ่งที่เห็นก็คือศพของกู่ซวงซวง…

“จากนั้นพวกฉันก็เห็นศพอื่นๆ ศพแล้วศพเล่า…ในระหว่างนั้น ฉันยังได้ยินเสียงพี่หลิงม่อตะโกนถามเสียงดังลั่นว่า ‘พวกแกเอาเพื่อนร่วมทีมตัวจริงของฉันไปซ่อนไว้ไหนหมดแล้ว’…แล้วยังมีคนตอบกลับมาว่า ตัวเขานี่แหละคือตัวจริง…” พูดถึงตรงนี้ ซย่าน่าก็หันไปมองพวกมู่เฉินอีกครั้ง “แล้วจากนั้นพวกฉันก็มาถึงที่นี่…พวกฉันตามพี่หลิงเข้ามาที่นี่ ถ้าหากไม่ใช่ว่าได้ยิน…” เธอชี้ไปที่ศพศพนั้น “พวกฉันก็คงไม่รู้ว่าพวกนายอยู่ห้องข้างๆ นี้เอง”

หลี่ย่าหลินชะโงกหน้ามาจากข้างหลัง พูดเสริมว่า “ดังนั้นพวกฉันก็เลยประหลาดใจมากเหมือนกัน…”

“แล้วก็อีกอย่าง…”

ทุกคนต่างชะงักไปแล้ว หลังจากมองหน้ากัน พวกเขาก็พากันหันไปมองหลิงม่อ

เขาในตอนนั้นที่ซย่าน่าพูดถึงคือตัวจริงงั้นหรอ?

“เดี๋ยวก่อน…นั่นต้องเป็นตัวปลอมแน่นอน…” มู่เฉินบอก

เย่ไคพยักหน้า “ใช่แล้ว…”

“แต่ว่าพวกเธอจะใช่ตัวจริงจริงๆ หรอ?” เจ้าลิงผอมกลืนน้ำลาย แล้วพูดขึ้น พอเห็นซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินมองมาทางตัวเอง เขาก็รีบก้าวถอยหลัง แนบตัวชิดผนังอย่างหวาดกลัว ปากก็บอกว่า “ฉัน…ฉันก็แค่พูดไปตามความจริง…”

“พูดได้…” พวกมู่เฉินไม่ได้พูดอะไร แต่จากสายตาของพวกเขาก็ดูออกแล้ว พวกเขาเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

ต้องเข้าใจว่าจู่ๆ พวกเธอก็โผล่มาในสถานที่แบบนี้…และหลังจากที่นึกว่าหลิงม่อฆ่าพวกเขา ปฏิกิริยาของพวกเธอก็ยังคงนิ่งสงบอยู่อย่างนั้น…นั่นมันไม่เหมือนการตอบสนองของคนทั่วไปเลย

“ไม่ได้ๆๆ…ตอนนี้พวกเรากำลังเริ่มสงสัยกันเองแล้ว…” มู่เฉินพูดอย่างสติหลุด

“แค่เนี้ย?” ในเวลานั้นเอง อยู่ๆ หลิงม่อกลับทำหน้าเหมือนอยากจะหัวเราะ แล้วพูดขึ้น

“อะไรคือแค่เนี้ย…” ทุกคนต่างชะงักงัน

แค่นี้ก็แย่มากแล้วนะ!

สถานการณ์อย่างนี้ เรียกว่าแทบจะหมดหนทางแล้ว!

ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงมากกว่าก็คือ หลังจากที่หลิงม่อหัวเราะ ซย่าน่ากลับคลี่มุมปาก เผยรอยยิ้มบางๆ

หลิงม่อเดินไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็ดึงซย่าน่าเข้ามา และใช้มืออีกข้างดึงหลี่ย่าหลินเข้ามา ขณะเดียวกับที่ดึงทั้งสองเข้ามากอด หลิงม่อหันกลับมาบอกว่า “ลูกไม้นี้ตื้นเกินไปแล้ว”

ถูกหลิงม่อจ้องอย่างนั้น ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนมีเครื่องหมายคำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมอง ขณะเดียวกันเจ้าลิงผอมที่เอาแต่ตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอดกลับลอบหลบสายตาเขา

กู่ซวงซวงมองพวกเขาอย่างตกตะลึง แล้วก็ได้ยินเสียงจางซินเฉิงพึมพำเบาๆ ข้างหู “คงไม่ใช่ซิกเซนส์หรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะ…”

“ไม่น่าจะใช่อะไรที่จับต้องไม่ได้แบบนั้นหรอก…ถ้าหากไม่มั่นใจว่าพวกเธอเป็นตัวจริง หัวหน้าคงไม่ทำอย่างนั้น แต่เขาจะเป็นห่วงว่าตัวจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใช่หรอ?” เย่ไคบอก แล้วหันมาถามกู่ซวงซวง “เธอคิดว่าไง?”

“ฉัน…คิดว่าน่าจะนะ…” กู่ซวงซวงได้สติ พลันพยักหน้าตอบ

“แต่พวกเธอมั่นใจได้ยังไงว่าฉันเป็นฉันจริงๆ?” หลิงม่อละสายตากลับมา แล้วกระซิบข้างหูซย่าน่าเบาๆ

ซย่าน่าเงยหน้าขึ้น แล้วตอบเสียงเบา “กลิ่น เงาคนที่ฉันไล่ตามก่อนหน้านี้อยู่ไกลจากฉันมาก แต่ถ้าหากในระยะใกล้ล่ะก็ ฉันจะได้กลิ่นทันที ฉันก็แค่สงสัยมาก…” พูดไป เธอก็เล่าเรื่องที่ตัวเองเจอในช่องทางเดินให้หลิงม่อฟัง จากนั้นก็ถามว่า “ตอนนั้น นอกจากพวกฉัน ก็ไม่น่าจะมีใครเคยสัมผัสตัวพี่นี่นา…”

“ไม่หรอก ความจริงแล้วมันมีอยู่…” หลิงม่อนึกถึงซอมบี้ตัวนั้นขึ้นมาอีกครั้ง…ตอนนั้น ขณะที่อยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ มันก็มองเห็นเขาแล้ว แต่พอนึกถึงคำถามของเหมียวเจ๋อขึ้นมาอีกครั้ง หลิงม่อกลับรู้สึกว่า บางทีนั่นอาจไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเห็นเขา …

———————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 1021 กับดักรายละเอียด

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 1021 กับดักรายละเอียด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวกนายได้ยินไหม?” มู่เฉินถามด้วยสีหน้าตื่นๆ

ทุกคนต่างพยักหน้าเงียบๆ จากนั้นก็มองไปข้างหลังประตูอย่างระแวดระวัง

“ทุกคนระวังตัวให้ดี” หลิงม่อพูดเสียงเบา ขณะเดียวกันก็เดินเข้าไปช้าๆ

พื้นที่ด้านหลังประตูไม่ถือว่าใหญ่มาก แต่กลับมีสิ่งของมากมายกองสะเปะสะปะไปทั่ว และด้านซ้ายของทางเข้า ก็มีประตูอยู่อีกหนึ่งบาน หลิงม่อเพิ่งจะเบนสายตาไปที่ประตูบานนั้น ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบาๆ ดังมาจากหลังกองขยะ เสียงครวญครางที่เขาได้ยินก็ดังมาจากตรงนั้น “ช่วยฉันด้วย…”

“ใครน่ะ?” ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของทุกคน หลิงม่อถามออกไป พลางเดินไปหยุดตรงหน้ากองขยะ

“ช่วยด้วย…” คนคนนั้นกลับไม่ตอบคำถาม ยังคงคร่ำครวญซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด

เวลานี้พอได้ยินเสียงนี้ในระยะใกล้ๆ สีหน้าของหลิงม่อพลันแปลกไปทันที… “เหมือนฉันจะเคยได้ยินเสียงนี้จากที่ไหนมาก่อน…” อยู่ๆ เขาก็พูดโพล่งออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปคุ้ยเปิดขยะกองนั้น

เคยได้ยิน? คนที่เหลือต่างอึ้งงัน…เสียงนี้แหบมาก ทว่าหลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็เริ่มรู้สึกคุ้นหูขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ เพียงแต่ยิ่งคิด ก็ยิ่งนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหน

เมื่อกองขยะถูกจัดการจนราบ มือที่อาบไปด้วยเลือดก็ยื่นออกมาจากข้างใน คว้ากางเกงหลิงม่อทันที “ชะ…ช่วยฉันด้วย…”

เมื่อหลิงม่อยกไม้กระดานแผ่นสุดท้ายขึ้น ประตูที่เชื่อมต่อกับห้องข้างๆ บานนั้นก็พลันส่งเสียง “แกร๊ก” ขึ้นมาเบาๆ

เสี้ยววินาทีนั้น ทุกคนต่างถูกดึงดูดความสนใจไปทางนั้นหมด…กลอนประตูนั่น กำลังหมุนช้าๆ ขณะเดียวกัน หลิงม่อก็ได้ดันไม้กระดานแผ่นนั้นออกไปข้างหนึ่ง เผยให้เห็นคนที่ร้องขอความช่วยเหลือซึ่งนอนอยู่ข้างล่างอย่างชัดเจน…เขากำขากางเกงของหลิงม่อไว้แน่น กลางแผ่นหลังมีเหล็กเส้นถูกเสียบไว้ ตรึงร่างเขาไว้กับพื้น…

“ช่วยด้วย…” เขายังคงพึมพำ เพียงแต่สายตาของเขาเลื่อนลอยไร้จุดหมายไปนานแล้ว

และเวลานี้ ประตูบานนั้นก็เปิดออกแล้ว…

“ทำไมไม่ช่วยฉัน…ทำไมต้อง…ฆ่าฉัน…ฉันต่างหากที่เป็นตัวจริง…” คนคนนั้นเพิ่งจะตวาดเสียงดังได้ประโยคเดียว ลำคอพลันหักคอ สิ้นลมหายใจทันใด เพียงแต่มือของเขา ยังคงกำขากางเกงหลิงม่อไว้แน่น และประโยคที่เขาพูดเมื่อกี้ ก็ลอยไปเข้าหูคนสองคนที่เพิ่งเดินออกมาจากประตูบานนั้นพอดี

ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น กว่าพวกมู่เฉินจะตั้งสติได้ ประตูบานนั้นก็เปิดออกแล้ว และหลิงม่อก็ดันไม้กระดานแผ่นนั้นออกเสียแล้ว…

“ซย่าน่า?” มู่เฉินเบิกตากว้างจ้องสองคนนั้น พลันตะโกนเรียกอย่างประหลาดใจ

…………

สองคนที่เดินออกมาจากประตูบานนั้น กลับเป็นซย่าน่ากับหลี่ย่าหลิน…และหลังจากที่กวาดตามองพวกเขาหนึ่งรอบ ซย่าน่าก็หันไปมองหลิงม่อที่ยืนหันหลังอยู่ รวมถึงศพที่นอนตายอยู่ข้างเท้าเขา

หลิงม่อได้ยินก็หันกลับมา ใบหน้าจริงๆ ของศพนั้น ก็ได้ปรากฏสู่สายตาของทุกคนในตอนนั้นเช่นกัน นั่นคือมู่เฉิน…

ไม่มีใครที่จะมีสีหน้าประหลาดไปกว่ามู่เฉินแล้ว…ทว่าผ่านไปไม่นาน ทุกคนต่างตระหนักได้ถึงปัญหาที่สำคัญกว่า

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ พวกเราไม่ได้ฆ่าเขา…แล้วเขาก็ไม่ใช่โค้ชตัวจริงด้วย!” เจ้าลิงผอมตัวสั่นเทา จากนั้นก็รีบหันไปอธิบายให้พวกซย่าน่าฟัง

“นายพูดอะไรน่ะ!” กู่ซวงซวงสะดุ้งตกใจ หันไปมองเจ้าลิงผอม

กล้ามเนื้อบนใบหน้าเจ้าลิงผอมกระตุกยิกๆ เขายกมือชี้ไปทางศพของ “มู่เฉิน” อย่างกล้าๆ กลัวๆ บอกว่า “พวกเธออาจเข้าใจผิดได้…”

“แต่ว่านั่นไม่ใช่โค้ชตัวจริงอยู่แล้ว ไม่เห็นหรอว่าพวกเราอยู่ตรงนี้กันหมด…” พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของจางซินเฉิงกลับดูเคร่งเครียดขึ้นมา เขาตระหนักได้ว่า สายตาที่ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินมองมาทางพวกเขา ดูแปลกไป

“พวกเธอเจอศพอื่น” จางซินเฉิงพูดสั้นๆ

ทุกคนต่างใจเต้น “ตึกตัก” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ…ถ้าหากเป็นอย่างนั้น เรื่องราวก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก…

“แล้วยังไงล่ะ? พวกเราต่างหากที่เป็นตัวจริง ศพพวกนั้นเป็นตัวปลอม!” เย่ไคบอก “แม่งเอ๊ย! ไอ้สัตว์ประหลาดสารเลวนั่น!  วิธีโบราณๆ อย่างนี้มันยังคิดได้นะ? ที่มันทำอย่างนี้ ก็เพื่อจะยุให้พวกเราแตกคอกันเอง พวกนายจะตื่นตูมกันไปทำไมวะ? ทำตัวเป็นโจรร้อนตัวไปได้ แล้วก็นาย เจ้าลิงผอม แม่เอ็งจะพูดมากหาอะไรนักหนา…”

“ไม่มีประโยชน์หรอก พูดเรื่องพวกนี้ไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยซักนิด เพราะว่าตอนนี้พวกเรา…” มู่เฉินพูดเพียงครึ่งเดียว ก็เงียบไป ทว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าอีกครึ่งประโยคที่เขาพูดไม่จบคืออะไร…

“เพราะว่าตอนนี้ พวกเราไม่มีวิธีพิสูจน์ได้เลยว่าเราเป็นตัวจริง”

ศพเหล่านั้นที่ตายไปเหมือนกับพวกเขาทุกประการ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐาน และแปลกประหลาดอย่างนี้ ไม่ว่าพวกเขาพูดอะไร พวกซย่าน่าก็จะแคลงใจอยู่ดี ถึงแม้จะไม่ลงมือกับพวกเขา แต่พวกเธอไม่มีทางเชื่อพวกเขาสนิทใจแน่นอน…

เมื่อเป็นอย่างนี้ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็จะสามารถใช้ช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ทำให้พวกเขาแตกหักกัน…

กู่ซวงซวงมองซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินอย่างตระหนก อยู่ๆ ก็ยกมือปิดหน้า บอกว่า “ตอนนั้นฉันไม่น่าร้องเลย ฉันผิดเองที่เป็นคนเห็นศพเป็นคนแรก ถ้าหากว่าฉัน…” เธอหันไปมองหลิงม่อ อยากรู้ว่าเขามีวิธีอะไรที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้หรือไม่ ทว่าในใจเธอรู้ดี เวลานี้ทุกคนต่างก็มืดแปดด้านไปหมดแล้ว และหลิงม่อที่ดูก็รู้ว่ากลายเป็น “ฆาตกร” ไปแล้วในตอนนี้ เกรงว่าคงไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ได้เช่นกัน…

ที่แย่ที่สุดก็คือ พอลองนึกย้อนกลับไป ศพพวกนั้นเหมือนจะสวมใส่ไว้เพียงเสื้อผ้ารัดรูปเท่านั้น…แต่ตอนนั้นพวกเขามัวแต่สนใจรูปร่างหน้าตาของศพ จนมองข้ามรายละเอียดสำคัญนี้ไป มาตอนนี้ เห็นชัดว่านี่เป็นการปูทางเพื่อทำให้พวกเขาดูน่าสงสัยมากกว่าเดิม! และรายละเอียดเล็กๆ ที่ดูเหมือนกันทุกประการเหล่านั้น ก็คล้ายว่าจงใจถูกเผยออกมาให้เห็น…

“ในเมื่ออีกฝ่ายเลียนแบบได้แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ ถ้าอย่างนั้นถึงแม้มีรหัสลับหรือความทรงจำร่วมกัน ก็ไม่อาจพิสูจน์อะไรได้แล้ว…แย่แล้ว ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือพวกเธออาจคิดเหมือนเราตอนนี้ก็ได้!” กู่ซวงซวงเริ่มสติแตกอีกครั้ง…รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้อาจฟังดูน้ำหนักเบาไม่น่าเชื่อถือ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าจริงๆ กลับพบว่าพวกมันล้วนเป็นกับดักที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นวางไว้

และเวลานี้ ซย่าน่าที่เอาแต่จ้องพวกเขามาตลอดก็เปิดปากพูด เธอมองหลิงม่อ บอกว่า “ฉันตามพี่หลิงมา…”

“อะไรนะ?”

…หลังจากที่ขึ้นมาจากใต้ดิน ซย่าน่าก็มองเห็นเงาหลังหลิงม่อจากที่ไกลๆ…และเงาร่างนั้น ก็เป็นเงาเดียวกับที่เธอเคยเห็นในท่อน้ำทิ้งใต้ดินนั่น

เธอกับหลี่ย่าหลินรีบตามไปทันที แล้วพวกเธอก็ตาม “หลิงม่อ” คนนั้นเข้ามาในอาคารที่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างหลังนี้ ทว่าหลังจากลงมาชั้นใต้ดิน อยู่ๆ พวกเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง…และพอพวกเธอวิ่งตามไป สิ่งที่เห็นก็คือศพของกู่ซวงซวง…

“จากนั้นพวกฉันก็เห็นศพอื่นๆ ศพแล้วศพเล่า…ในระหว่างนั้น ฉันยังได้ยินเสียงพี่หลิงม่อตะโกนถามเสียงดังลั่นว่า ‘พวกแกเอาเพื่อนร่วมทีมตัวจริงของฉันไปซ่อนไว้ไหนหมดแล้ว’…แล้วยังมีคนตอบกลับมาว่า ตัวเขานี่แหละคือตัวจริง…” พูดถึงตรงนี้ ซย่าน่าก็หันไปมองพวกมู่เฉินอีกครั้ง “แล้วจากนั้นพวกฉันก็มาถึงที่นี่…พวกฉันตามพี่หลิงเข้ามาที่นี่ ถ้าหากไม่ใช่ว่าได้ยิน…” เธอชี้ไปที่ศพศพนั้น “พวกฉันก็คงไม่รู้ว่าพวกนายอยู่ห้องข้างๆ นี้เอง”

หลี่ย่าหลินชะโงกหน้ามาจากข้างหลัง พูดเสริมว่า “ดังนั้นพวกฉันก็เลยประหลาดใจมากเหมือนกัน…”

“แล้วก็อีกอย่าง…”

ทุกคนต่างชะงักไปแล้ว หลังจากมองหน้ากัน พวกเขาก็พากันหันไปมองหลิงม่อ

เขาในตอนนั้นที่ซย่าน่าพูดถึงคือตัวจริงงั้นหรอ?

“เดี๋ยวก่อน…นั่นต้องเป็นตัวปลอมแน่นอน…” มู่เฉินบอก

เย่ไคพยักหน้า “ใช่แล้ว…”

“แต่ว่าพวกเธอจะใช่ตัวจริงจริงๆ หรอ?” เจ้าลิงผอมกลืนน้ำลาย แล้วพูดขึ้น พอเห็นซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินมองมาทางตัวเอง เขาก็รีบก้าวถอยหลัง แนบตัวชิดผนังอย่างหวาดกลัว ปากก็บอกว่า “ฉัน…ฉันก็แค่พูดไปตามความจริง…”

“พูดได้…” พวกมู่เฉินไม่ได้พูดอะไร แต่จากสายตาของพวกเขาก็ดูออกแล้ว พวกเขาเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

ต้องเข้าใจว่าจู่ๆ พวกเธอก็โผล่มาในสถานที่แบบนี้…และหลังจากที่นึกว่าหลิงม่อฆ่าพวกเขา ปฏิกิริยาของพวกเธอก็ยังคงนิ่งสงบอยู่อย่างนั้น…นั่นมันไม่เหมือนการตอบสนองของคนทั่วไปเลย

“ไม่ได้ๆๆ…ตอนนี้พวกเรากำลังเริ่มสงสัยกันเองแล้ว…” มู่เฉินพูดอย่างสติหลุด

“แค่เนี้ย?” ในเวลานั้นเอง อยู่ๆ หลิงม่อกลับทำหน้าเหมือนอยากจะหัวเราะ แล้วพูดขึ้น

“อะไรคือแค่เนี้ย…” ทุกคนต่างชะงักงัน

แค่นี้ก็แย่มากแล้วนะ!

สถานการณ์อย่างนี้ เรียกว่าแทบจะหมดหนทางแล้ว!

ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงมากกว่าก็คือ หลังจากที่หลิงม่อหัวเราะ ซย่าน่ากลับคลี่มุมปาก เผยรอยยิ้มบางๆ

หลิงม่อเดินไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็ดึงซย่าน่าเข้ามา และใช้มืออีกข้างดึงหลี่ย่าหลินเข้ามา ขณะเดียวกับที่ดึงทั้งสองเข้ามากอด หลิงม่อหันกลับมาบอกว่า “ลูกไม้นี้ตื้นเกินไปแล้ว”

ถูกหลิงม่อจ้องอย่างนั้น ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนมีเครื่องหมายคำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมอง ขณะเดียวกันเจ้าลิงผอมที่เอาแต่ตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอดกลับลอบหลบสายตาเขา

กู่ซวงซวงมองพวกเขาอย่างตกตะลึง แล้วก็ได้ยินเสียงจางซินเฉิงพึมพำเบาๆ ข้างหู “คงไม่ใช่ซิกเซนส์หรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะ…”

“ไม่น่าจะใช่อะไรที่จับต้องไม่ได้แบบนั้นหรอก…ถ้าหากไม่มั่นใจว่าพวกเธอเป็นตัวจริง หัวหน้าคงไม่ทำอย่างนั้น แต่เขาจะเป็นห่วงว่าตัวจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใช่หรอ?” เย่ไคบอก แล้วหันมาถามกู่ซวงซวง “เธอคิดว่าไง?”

“ฉัน…คิดว่าน่าจะนะ…” กู่ซวงซวงได้สติ พลันพยักหน้าตอบ

“แต่พวกเธอมั่นใจได้ยังไงว่าฉันเป็นฉันจริงๆ?” หลิงม่อละสายตากลับมา แล้วกระซิบข้างหูซย่าน่าเบาๆ

ซย่าน่าเงยหน้าขึ้น แล้วตอบเสียงเบา “กลิ่น เงาคนที่ฉันไล่ตามก่อนหน้านี้อยู่ไกลจากฉันมาก แต่ถ้าหากในระยะใกล้ล่ะก็ ฉันจะได้กลิ่นทันที ฉันก็แค่สงสัยมาก…” พูดไป เธอก็เล่าเรื่องที่ตัวเองเจอในช่องทางเดินให้หลิงม่อฟัง จากนั้นก็ถามว่า “ตอนนั้น นอกจากพวกฉัน ก็ไม่น่าจะมีใครเคยสัมผัสตัวพี่นี่นา…”

“ไม่หรอก ความจริงแล้วมันมีอยู่…” หลิงม่อนึกถึงซอมบี้ตัวนั้นขึ้นมาอีกครั้ง…ตอนนั้น ขณะที่อยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ มันก็มองเห็นเขาแล้ว แต่พอนึกถึงคำถามของเหมียวเจ๋อขึ้นมาอีกครั้ง หลิงม่อกลับรู้สึกว่า บางทีนั่นอาจไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเห็นเขา …

———————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+