แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 872 แนวป้องกันสุดท้าย

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 872 แนวป้องกันสุดท้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สุดทางเดินของถนนเส้นนี้มีตู้ล็อกเกอร์วางอยู่ เห็นชัดว่าตอนออกแบบไม่ได้คำนึงถึงว่าจะมีคนแอบเข้ามาในนี้ตอนกลางคืน…

ขณะที่หลิงม่อกำลังจ้องมอง ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน บางครั้งก็ชะงักและจัดการรายละเอียดเล็กๆ บางส่วนให้เข้าที่เข้าทาง…ทว่าสำหรับหลิงม่อผู้ผ่านสมรภูมิรบมานับครั้งไม่ถ้วน ภาพที่เห็นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเขามากนัก…

“ลองสังเกตการณ์ไปก่อน”

ในระยะที่ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร หลิงม่อแอบจ้องทุกการกระทำของอีกฝ่ายอย่างไม่กระพริบตา…

“อาจิ้ง มานี่หน่อย”

หลังจากติดกระดุมเสื้อเชิ้ตเสร็จ อยู่ๆ หญิงสาวก็ขานเรียกโดยไม่เงยหน้า

และในตอนนั้นเอง กระแสลมสายหนึ่งก็พุ่งมาจากข้างหลังพร้อมกับมือที่เอื้อมมาปิดปากของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็โอบรัดร่างกายท่อนบนของเธอไว้แน่น

ถูกจู่โจมกะทันหันแบบนี้ หญิงสาวตะลึงเบิกตากว้าง ขณะเดียวกันเธอยกเท้าขึ้น และเหยียบเท้าของคนที่อยู่ข้างหลังเต็มแรงอย่างไม่ลังเลทันที

ส้นรองเท้าแหลมที่สูงถึง 7 – 8 เซนติเมตร ถือเป็นอาวุธสังหารที่ร้ายกาจ หากผู้ลอบโจมตีได้รับบาดเจ็บ เธอก็มีโอกาสสลัดตัวออกจากการจับกุมของอีกฝ่ายได้

แต่ในเมื่อหลิงม่อตัดสินใจลงมือแล้ว เขาจะเปิดโอกาสนั้นให้เธอได้ยังไง…

รองเท้าส้นสูงจู่โจมเป้าหมายอย่างแม่นยำและรุนแรง แต่ผู้ลอบโจมตีที่อยู่ข้างหลังกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

ไม่รอให้เธอได้สติจากความประหลาดใจ อีกฝ่ายลากตัวเธอเข้าไปในเงามืดด้านหลังทันที

“อื้อๆ!”

“อย่าร้อง ไม่อย่างนั้นฉันจะทำลายแนวป้องกันสุดท้ายของเธอซะ!” หลิงม่อขู่เสียงเบา

คำจู่ของเขาได้ผลชะงัด หญิงสาวพลันตระหนักได้ถึงเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่ง…ตอนนี้เธอเปลือยท่อนล่างอยู่! แนวป้องกันสุดท้ายที่ว่าเดิมทีมีก็เหมือนไม่มีอยู่แล้ว แต่ยังไงก็ดีกว่าไม่มีล่ะนะ!

“หมายความว่า พนักงานที่ทำงานอยู่ในนี้เป็นผู้หญิงหมดเลยสินะ?” หลิงม่อถามอีกครั้ง

หญิงสาวกัดฟันไม่ยอมพูดอะไร แต่ร่างกายกลับทำท่าอยากขัดขืนเต็มที่ ทว่าถูกท่อนแขนแข็งแรงดั่งเหล็กกล้าทั้งสองข้างของหุ่นซอมบี้ล็อกตัวไว้อย่างนี้ เธอแทบไม่มีช่องว่างให้ขัดขืนได้เลย

“ไม่ยอมพยักหน้า? ไม่เป็นไร เพราะความจริงเรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก ถ้าหากไม่ได้เป็นเพศเดียวกันหมด การที่เธอยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างตู้ล็อกเกอร์ซึ่งอยู่ใกล้ประตูก็เป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก…” หลิงม่อบอก

“อื้อ!” หญิงสาวทนไม่ไหวในที่สุด พูดเหมือนการถูกแอบถ้ำมองเป็นความผิดของเธออย่างนั้นแหละ!

“แกจะทำอะไร!” ทั้งสองถอยหลังเข้าไปในมุมมืดอย่างรวดเร็ว หญิงสาวถามเสียงเบา

ในความมืด เธอมองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย แต่ดูจากเงาร่าง อีกฝ่ายร่างกายใหญ่โตกำยำจนน่าตกใจ

เทียบกับผู้ลอบโจมตี ตัวเธอช่างเล็กกระจิดริดเหมือนแอนน์ แดร์โรว์… (แอนน์ แดร์โรว์ นางเอกในหนังเรื่องคิงคอง)

“เขาคงไม่ได้คิดจะทำเหมือนเจ้าคิงคองหรอกนะ! คงไม่ได้คิดจะบังคับขืนใจกันหรอกนะ!”

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมองของหญิงสาวทันทีอย่างช่วยไม่ได้…ก็เธอถูกลากตัวมาในขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้านี่นา!

แต่สำหรับหลิงม่อ ความจริงเขาตระหนักได้ถึงโอกาสก็ตอนที่หญิงสาวขานเรียกชื่อใครบางคนเมื่อกี้…

ระยะห่างสิบเมตรไม่ถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับหุ่นซอมบี้ แต่เพื่อความรอบคอบเป็นหลัก หลิงม่อจึงไม่ได้รีบร้อนลงมือ

จนกระทั่งตอนที่อีกฝ่ายเปิดปากพูด หลิงม่อคิดว่านั่นเป็นโอกาสลงมือที่ดีที่สุด

ข้อแรก เพราะเวลาคนเราพูดสมาธิมักไม่นิ่ง ข้อสอง…

“ทำไม? จะให้ฉันช่วยเธอรูดซิปอีกแล้วหรอ?”

ทันใดนั้น เสียงหญิงสาวอีกคนดังมาจากข้างหน้า ขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าที่เริ่มดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

“อื้อ!”

หญิงสาวที่ถูกหลิงม่อจับตัวไว้หมายจะส่งเสียงร้อง ทว่ากลับตาเหลือกขาวหมดสติไปในทันที

หลิงม่อวางร่างเธอลงกับพื้นอย่างเบามือเลาเท้า จากนั้นก็มองเข้าไปในทางเดิน

“อ้าว ไปไหนแล้ว?”

ผู้มาใหม่เป็นหญิงสาวรูปร่างเล็ก เธอมองซ้ายมองขวา พลางตะโกนเรียกอย่างสงสัย

ทว่าไม่นาน สายตาเธอก็ชะงักหยุดที่ประตู และเธอก็เดินมาทางนี้อย่างไม่ลังเลทันที “นี่ เลิกเล่นเถอะ ฉันกำลังยุ่งอยู่นะ…อยู่ไหนเนี่ย?”

แต่เมื่อระยะห่างสั้นลงเรื่อยๆ หลิงม่อกลับสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่างรางๆ

หญิงสาวดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหวอย่างปกติ แต่ความจริงเธอกลับเกร็งไปทั้งตัวแล้ว

“หื้ม? ดูเหมือนกำลังระวังตัวมาก…”

นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายมีฝีมือไม่เลว ไม่แน่ว่าอาจเป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้วย…

“นี่…”

ไม่นานหญิงสาวร่างเล็กก็เดินมาถึงทางเลี้ยว ขณะที่เธอกำลังเดินเลี้ยวอย่างระมัดระวัง ก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที

“ทำไมถึง…”

ไม่มีใครเลย ที่นี่ว่างเปล่าไม่มีคนอยู่เลย…

แต่ในเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังตะลึงนั้น เงาร่างสีดำเส้นหนึ่งพลันพุ่งลงมาจากข้างบน และคร่อมทับตัวเธอไว้กับพื้นทันที

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที กว่าเธอจะได้สติกลับคืนมาจากอาการมึนงง มือทั้งสองข้างของเธอก็ถูกคนล็อกไว้แน่นแล้ว และข้างกายก็มีร่างหญิงสาวนอนไม่ได้สติเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน

จากความรู้สึก ผู้ลอบโจมตีนั่งคร่อมอยู่บนหลังเธอ และเขาก็ได้เงื้อมีดพกขึ้นในเสี้ยววินาทีที่เธอได้สติ…

หลังจากจัดการพนักงานสลบไปสองคน หลิงม่อก็มัดตัวพวกเธอไว้ด้วยกัน

เมื่อคำนึงถึงว่าสองในสามคนนี้เป็นสมาชิกของฐานทัพที่ 2 หลิงม่อจึงไม่ได้ลงมือเต็มแรง

ถึงแม้เขาจะมองเห็นอะไรมากมายโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็เป็นเหตุสุดวิสัยนี่นา…

ประเด็นสำคัญคือ สองคนนี้ไม่เห็นแม้กระทั่งหน้าตาของหุ่นซอมบี้

ผลกระทบที่จะตามมาไม่มีแล้ว เรื่องที่จะทำต่อไป ก็คือจัดการคนสุดท้ายนั่นเอง

หลิงม่อรู้สึกได้รางๆ คนที่สามที่ยังไม่เคยปรากฏตัวออกมานี้ มีความเป็นไปได้มากว่าเธอจะเป็นตะปูตัวนั้น ที่ตอกลงตรงกลางหัวใจของฐานทัพที่ 2…และเป็นหนึ่งในสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เขามีภัยอันตราย…

ณ ส่วนลึกของห้องเก็บเอกสาร บรรยากาศในห้องเงียบงัน

ตู้ที่วางเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบเหมือนในห้องสมุด ได้ผ่าแบ่งให้พื้นที่กว้างขวางในห้องกลายเป็นช่องเล็กช่องน้อยมากมาย แสงไฟสีเหลืองนวลเหมือนแสงอาทิตย์ยามสายัณห์ส่องลงมาจากข้างบน แต่กลับยิ่งทำให้รอบข้างดูมืดมิดยิ่งกว่าเดิม

และในความมืดนั้น เงาร่างหนึ่งกำลังโฉบไปโฉบมาอย่างระมัดระวัง

ค่อยๆ วางเท้าลงอย่างเบาเสียง และเคลื่อนไหวอย่างว่องไวเฉียบขาด…

“หืม?”

หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังพลิกอ่านเอกสารในมือพลันหันมามองเข้าไปในเงามืด

เงาร่างนั้นพลันชะงักเท้า และซ่อนตัวอยู่ข้างหลังตู้เก็บเอกสารตู้หนึ่ง

“ถูกจับได้แล้วงั้นหรอ? เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากเป็นผู้มีพลังจิต หนวดสัมผัสทางจิตของเราก็ต้องสัมผัสได้ถึงพลังสำรวจของอีกฝ่ายสิ…” หลิงม่อคิดในขณะที่ยืนนิ่งอยู่กับที่

หญิงสาวคนนี้ไว้ทรงผมสั้นดูกระฉับกระเฉง รูปร่างหน้าตาเห็นไม่ชัดเจน ดูจากเงาร่างแล้ว เธอเป็นคนรูปร่างค่อนข้างธรรมดา ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีข้อมูลที่มั่นใจแล้ว หลิงม่อไม่ค่อยอยากเชื่อว่าเธอจะเป็นตะปูตัวนั้นจริงๆ เธอทอดมองไปข้างหน้า เหมือนคนที่กำลังขบคิดปัญหาบางอย่างอยู่…

ทว่าหลิงม่อกลับได้กลิ่นอายผิดปกติจากหญิงสาว ดึกขนาดนี้แล้ว พนักงานสองคนนั้นต่างกำลังพากันอู้งาน แต่เธอกลับยังคงทำงานอยู่…และทั้งที่กำลังจดจ่อกับงานตรงหน้า แต่เธอกลับยังคงระแวดระวังได้ดีถึงขั้นนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาสามารถทำได้

พอเห็นว่ารอบกายไม่มีใครอยู่ หญิงสาวพลันวางแฟ้มเอกสารในมือลง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ และทิศที่เธอเดินไป กลับไม่ใช่บริเวณที่หลิงม่อซ่อนตัวอยู่ ท่าทางเธอเหมือนกำลังเดินไปค้นหาเอกสาร แต่หลิงม่อกลับรู้สึกเหมือนดวงตาคู้นั้นของเธอกำลังจ้องมาที่เขา…

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ธรรมดา…

เมื่อเป็นอย่างนี้หลิงม่อจึงไม่กล้าเคลื่อนไหวส่งเดช เขาจ้องมองอีกฝ่ายผ่านช่องว่างระหว่างตู้ ขณะเดียวกันก็ดึงสัญชาตญาณการอำพรางตัวของหุ่นซอมบี้ออกมาใช้อย่างเต็มที่ ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ เขาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติร่างกาย กล้ามเนื้อบางส่วนเริ่มหดเกร็ง เลือดและเนื้อภายในราวกับกำลังหลอมรวมกัน…หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่นานเขาคงได้กลายเป็นเศษเนื้อเน่าๆ กองหนึ่ง

ระยะห่างของทั้งสองใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นผ่านตู้วางเอกสารตู้หนึ่งนั้น พลันมีเสียงหนึ่งดังออกมาจากความมืดเบาๆ

“เคร้ง!”

หลิงม่อใจหายวาบ แต่ไม่นานก็ได้สติ

ทว่าในตอนนี้ กลับมีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังเขา พร้อมกับสัมผัสเย็นๆ ที่ต้นคอ “นายเป็นใคร?”

เสียงพูดของหญิงสาวราบเรียบมาก กระทั่งแฝงไปด้วยแววข่มขู่เล็กน้อย แม้แต่นิ้วมือของเธอก็ไม่กระดิกเลยแม้แต่น้อย เธอยืนอย่างระวังและรอบคอบอยู่ข้างหลังหลิงม่อ

ถูกเล่นงานจนได้…

หลิงม่อลอบคิดในใจ ผู้หญิงคนนี้ใจเย็นมาก ลงมือเฉียบขาดมากเช่นกัน…และนอกจากนี้ ฝีมือไม่ธรรมดา

แฝงตัวอยู่ในฐานทัพที่ 2 มาได้นานขนาดนี้ เป็นคนที่รับมือยากตามคาดจริงๆ…

“ถ้าอย่างนั้น…” หญิงสาวไม่อดทนรอแม้แต่สองวินาที เธอกดข้อมือลงมาอย่างแรง

หลิงม่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสแหลมคมที่ต้นคอทันที เขาสะดุ้ง รู้สึกเพียงว่าเส้นชีพจรถูกอะไรบางอย่างแทงขาดแล้ว

ลงมือเร็วมาก!

ทว่าในตอนนั้นเอง อยู่ๆ เธอกลับชะงักหยุด

ไม่นาน เธอก็ถามอีกครั้ง “นายเป็นใคร?”

—————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด