แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 988 ความน่ากลัวของร่างแม่

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 988 ความน่ากลัวของร่างแม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฉันหาพวกนี้ได้…” อวี่เหวินซวนบอก

“……”

ทั้งสามมองตากันเงียบๆ ครู่หนึ่ง ไม่นานหลิงม่อก็พูดขึ้นว่า “สัตว์ประหลาดตัวนี้มีความชอบที่พิเศษมากจริงๆ…” ขณะที่พูด เขาก็ก้มหน้าพิจารณ์สิ่งของเหล่านั้น…ดูจากรูปแบบ ความจริงสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรในการเก็บสะสม นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้หลิงม่อผิดคาดก็คือ ในจำนวนเหล่านั้นมีของผู้ชายรวมอยู่ด้วย…ดูเหมือนมันไม่ใช่แค่ไม่สนใจรูปแบบ แต่ไม่สนใจเรื่องการแบ่งเพศด้วย…

พอเห็นหลิงม่อจ้องมองอย่างละเอียด สวี่ซูหานกระแอมเสียงขุ่นเคือง พลางถลึงตาจ้องหน้าพวกเขา

อวี่เหวินซวนที่จู่ๆ โดนลูกหลงหัวเราะแห้ง จากนั้นก็โบกมือไปมาอย่างปฏิเสธความผิด “ตอนที่ฉันได้มา ของพวกนี้ล้วนอยู่ในสภาพสะอาดทั้งนั้น ดังนั้นฉันคิดว่า ที่นี่จะต้องมีสัตว์ประหลาดขึ้นไปบนพื้นบ่อยมากแน่ๆ และพวกมันก็มักเก็บของพวกนี้ลงมาไว้ที่นี่ผ่านทางเข้าออก ไมแน่ว่า…ทางเข้าออกนี้…”

“อาจอยู่ใกล้ๆ” หลิงม่อพูดต่อ

ทั้งสามสบตากันอีกครั้ง สองวินาทีถัดมา สวี่ซูหานพลันพูดขึ้นอย่างอดตื่นเต้นไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นจะรออะไรอยู่อีก พวกเรา…” แต่เพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียว เธอก็เงียบไปอีกครั้ง หาทางออกใกล้ๆ เจอย่อมเป็นเรื่องดี…แต่สัตว์ประหลาดตัวนั้นยังอยู่ที่นี่นี่นา! ไม่ใช่แค่เจ้าตัวที่มากินอาหาร แต่ยังมี “บุคคลที่สาม” ซึ่งมีพลังแข็งแกร่งและเป็นคนลอบโจมตีอวี่เหวินซวนอยู่อีกด้วย…

ถึงอวี่เหวินซวนจะบอกว่าไม่รู้เขาไปอยู่ไหนแล้ว แต่หลิงม่อกับสวี่ซูหานกลับเพิ่งมาจากช่องทางเดินเส้นนั้น ตลอดช่องทางเดินเส้นนั้นพวกเขาไม่เจอเงาคนอื่นเลย ดังนั้นนอกจากว่าข้างหน้ายังมีช่องทางเดินอยู่อีก หากไม่อย่างนั้น “บุคลลที่สาม” ต้องยังอยู่แถวนี้แน่นอน

อีกอย่างในพื้นที่ที่กว้างขวางอย่างนั้น ใครจะรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า…บวกกับไอหมอกมืดปกคลุมไปทั่ว การตามหาทางออกในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ยากเกินไป แต่การแปลงร่างของเจ้า “โอเบลิสก์” รวมถึงเสื้อในกางเกงในเหล่านี้ที่ดูแวบแรกก็รู้แล้วว่ามีปัญหาซ่อนอยู่ กลับทำให้สวี่ซูหานรู้สึกแปลกๆ…

“สัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่ได้เก็บสะสม…อาจเป็นไปได้มากว่าพวกมันกำลังเรียนรู้วิธีการแต่งตัว หรือก็คือเรียนรู้วิธีปลอมตัวเป็นมนุษย์…” อยู่ๆ หลิงม่อพลันพูดขึ้นมา “ก็เหมือนกับคนฉีกหน้าที่อวี่เหวินซวนเห็น…เจ้านั่นเรียกตัวเองว่าโอเบลิสก์ หลังจากที่นายโดนลากออกไปมันก็แปลงร่างเป็นนาย จากนั้นก็วิ่งมาหลอกล่อพวกเราให้มาที่นี่ ต่อมาตอนที่ถูกพวกฉันจับได้ มันก็เคยพูดถึงเรื่อง ‘การเรียนรู้’ หรือ ‘การเข้าไปปะปนท่ามกลางมนุษย์’ อะไรทำนองนั้นด้วย ฉันว่า เรื่องนี้ได้บ่งบอกถึงอะไรหลายอย่างแล้ว…”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้…” อวี่เหวินซวนอึ้ง

หลิงม่อครุ่นคิด “ไม่น่าล่ะภายหลังสัตว์ประหลาดตัวนั้นถึงได้หมดแรงเร็วนัก ที่แท้ตอนที่พวกเราเจอมัน มันก็ใช้พลังแปลงร่างเป็นรอบที่สองแล้วนี่เอง แถมยังเป็นการแปลงร่างเป็นคนสองคนที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย…บวกกับมันไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับอวี่เหวินซวนมากนัก และแปลงร่างได้ค่อนข้างเร่งรีบ ดังนั้นจึงได้เผยพิรุธตั้งแต่อ้าปากครั้งแรกอย่างนั้น…

แต่ถึงแม้อย่างนั้น เรื่องนี้หากคิดให้ดีก็ยังคงน่ากลัวมาก!

ตอนนี้เรื่องที่หลิงม่อสนใจมากที่สุดก็คือ…ตอนที่ปรากฏตัวต่อหน้าอวี่เหวินซวน เจ้า “โอเบลิสก์” แปลงร่างเป็นใครกันแน่…ถ้าหากได้คำตอบนี้มา ไม่แน่ว่า…

“เรื่องทางเข้าออกเอาไว้ก่อน ในเมื่อหาของพวกนี้ได้ที่นี่ ก็ไม่แน่ว่าอาจหาของใช้มนุษย์อย่างอื่นเจอด้วย อาศัยของพวกนี้ พวกเราน่าจะรู้ว่าพวกมันปลอมตัวและเลียนแบบไปถึงขั้นไหนแล้ว” หลิงม่อ

เทียบกับซอมบี้ สัตว์ประหลาดพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง…ซอมบี้จะฟื้นฟูความทรงจำกลับมาช้าๆ ในระหว่างวิวัฒนาการ และเริ่มมีนิสัยเฉพาะของตัวเอง ถึงแม้อาจดูเหมือนมีบางจุดที่คล้ายกับมนุษย์ แต่ความจริงมันกลับมีความแตกต่างที่ชัดเจนมาก แต่สัตว์ประหลาดพวกนี้ พวกมันกลับเข้าใกล้มนุษย์ได้อย่างใกล้ชิดผ่านการปลอมตัวและเลียนแบบ ขณะที่เนื้อแท้กลับเป็นเพียงเครื่องจักรสังหารโดยแท้

หากถกกันเรื่องระดับความอันตราย บางที่สัตว์ประหลาดพวกนี้คงจะอันตรายกว่า…

ข่าวดีเพียงเรื่องเดียวก็คือ ผลงานสมบูรณ์แบบอย่างเจ้า “โอเบลิสก์” นั้นมีจำนวนน้อยมาก…

“ลักษณะเด่นพื้นฐานของสัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่น่าจะต่างจากซอมบี้มาก…ซึ่งหมายความว่า พลังความสามารถที่สัตว์ประหลาดพวกนี้มี ได้มากจากร่างแม่…ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่พวกเราจำเป็นต้องรู้ ก็คือร่างแม่ตัวนั้นอยู่ในระดับใดแล้วกันแน่…” หลิงม่อพูดด้วยสายตาเคร่งขรึม

เห็นชัดว่าที่นี่ไม่ได้จัดเตรียมไว้เพื่อเจ้า “โอเบลิสก์” ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ถูกสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพวกนั้นฆ่าตายในช่องทางเดิน กลับกัน “บุคคลที่สาม” ที่เอาตัวอวี่เหวินซวนไป อาจเป็นคนที่สามารถเข้าออกไอหมอกมืดได้ตามใจชอบ…บางทีหน้าที่ของมัน อาจเป็นการนำอาหารพิเศษอย่างอวี่เหวินซวนส่งเข้าไป และเพราะมีมันอยู่ อวี่เหวินซวนจึงไม่ถูกสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดโจมตี

อีกหนึ่งสถานะที่อาจได้รับการปฏิบัติที่พิเศษ ก็คือเจ้าของอาหารที่สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพวกนั้นนำเข้าไปส่ง…นอกจากนี้ก็ยังมีอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ…

ร่างแม่!

ดังนั้นที่หลิงม่อพูดอย่างนี้ ก็หมายความว่า เป็นไปได้มากว่าสิ่งของเหล่านี้อาจเป็นของร่างแม่…

สิ้นเสียงพูดของเขา สวี่ซูหานใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่อวี่เหวินซวนก็ยังกำหมัดแน่นโดยอัตโนมัติ เหมือนตระหนกกับสิ่งที่ได้ยิน

“ร่างแม่…แปลงร่างเป็น…มนุษย์ได้…” สวี่ซูหานพลันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว

การแปลงร่างของเจ้า “โอเบลิสก์” ก็น่าตกใจมากอยู่แล้ว! อย่างน้อยดูจากภายนอก การแปลงร่างของมันก็แทบไม่เห็นช่องโหว่อะไรแล้ว! แต่พลังของมัน กลับเทียบกับพลังของร่างแม่ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย…ถ้าอย่างนั้น ร่างแม่ทำได้ถึงขั้นไหนแล้วล่ะ?

ไม่กล้าคิดไปไกลกว่านี้แล้ว!

ตอนนี้เธอเข้าใจเหตุผลที่หลิงม่อรั้งอวี่เหวินซวนไว้แล้ว…เขาไม่ได้คิดจะคัดค้านความคิดของอวี่เหวินซวน แต่เขาเพียงต้องการรวบรวมข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายมีเข้าด้วยกันก่อนจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ต้องทำอย่างนี้เท่านั้น พวกเขาจึงจะไม่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยกะทันหัน สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า อาจเป็นศัตรูที่น่ากลัวมากก็ได้…แต่อย่างน้อยดูจากตอนนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้จักซักนิดอีกต่อไป พอคิดอย่างนี้ พวกเขาก็รู้สึกวางใจได้บ้างไม่มากก็น้อย

耽搁这点时间对于他们来说,却是极为重要的……

สำหรับพวกเขา การเสียเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านี้กลับเป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆ…

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องออกไปดูแล้วล่ะ…” อวี่เหวินซวนอ้าปากพูด “ฉันสังเกตการณ์อยู่ที่นี่มาพักหนึ่งแล้ว ทุกครั้งที่มีเสียงดังฉันจะออกไปดู จากนั้นฉันก็สรุปกฎการเคลื่อนไหวขั้นต้นของเจ้าพวกนั้นผ่านวิธีนี้ ดังนั้นเมื่อกี้ที่ฉันไปเจอพวกนายได้ ก็เพราะอย่างนี้แหละ บอกตามตรง เมื่อกี้พวกนายใจกล้าเกินไปนะ…ฉันไม่รู้หรอกว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะไร แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้มัน ฉันก็รู้สึกขนลุกขนพองตลอด”

“นายมีสิทธืพูดอย่างนั้นด้วยหรอ!” สวี่ซูหานตวาด

“อุวะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” อวี่เหวินซวนหัวเราะแห้งๆ

ไม่คิดว่าหลิงม่อกลับพยักหน้า แล้วพูดอย่างเห็นด้วย “เป็นอย่างนั้นจริงๆ…ตอนนั้นฉันยังอยู่ห่างจากมันเล็กน้อย แต่แค่สัมผัสถึง ฉันก็รู้สึกไม่ดีมากแล้ว กระทั่งรู้สึกอึกอัดเลยก็ว่าได้ เจ้านั่น น่ากลัวมากจริงๆ…” พูดถึงตรงนี้ เขาก็วกกลับไปพูดเรื่องเดิมอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้มันก็น่าจะอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างมั่นคงแล้ว?”

“ใช่!” อวี่เหวินซวนพูดระคนตื่นเต้นว่า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันหนีมา มันดูคลั่งอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อกี้ตอนที่พวกนายโผล่มา มันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้…ดูเหมือนว่าหลังจากกินอิ่มมันก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นอีก ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุดที่พวกเราจะออกไปนะ”

“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก…” สวี่ซูหานพึมพำ

ทว่าฟังจากน้ำเสียงของสองคนนี้ เธอก็รู้แล้วว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดพวกเขาได้อีก…พวกเขาตัดสินใจจะไปแน่แล้ว แต่บอกตามตรง ในขณะที่รู้สึกกลัว เธอเองก็รู้สึกฉงนกับสถานที่แห่งนี้มาก…อยู่ๆ สวี่ซูหานก็รู้แล้วว่าทำไมหลิงม่อถึงได้ดูตื่นเต้นอย่างนั้น…เขาเหมือนกับเธอ ที่ต่างก็สนใจการแปลงร่างของสัตว์ประหลาดตัวนั้นมาก!

หรือพูดให้ถูกก็คือ ที่เธอสนใจเพราะเธอเป็นซอมบี้ แต่ที่หลิงม่อสนใจ กลับเป็นเพราะพวกเย่เลี่ยน…บางที เขาอาจยังหมายปองไวรัสนางพญาที่อยู่ในตัวสัตว์ประหลาดพวกนั้นด้วยก็ได้…

“อุแหวะ…” พอคิดถึงตรงนี้ สวี่ซูหานก็หงุดหงิด…

แต่ช่วยไม่ได้ เธอยังต้องกินอยู่ดี…

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ใช่สิ นายยังจำที่ที่เจ้าโอเบลิสก์ล่อนายไปก่อนหน้านี้ได้ไหม?” อยู่ๆ หลิงม่อก็ถามขึ้น

อวี่เหวินซวนชะงัก จากนั้นก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “จำได้สิ”

“ถ้าหากมีโอกาส พวกเราไปที่นั่นซักครั้งกัน” หลิงม่อบอก

เสื้อผ้าที่เจ้า “โอเบลิสก์” ถอดออกก่อนหน้านั้น อาจจะยังอยู่ที่นั่นก็ได้…ไม่รู้ทำไม หลิงม่อมักรู้สึกว่า การแปลงร่างก่อนหน้านั้นของเจ้า “โอเบลิสก์” เป็นเรื่องที่สำคัญมาก…

————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ 988 ความน่ากลัวของร่างแม่

Now you are reading แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ Chapter 988 ความน่ากลัวของร่างแม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฉันหาพวกนี้ได้…” อวี่เหวินซวนบอก

“……”

ทั้งสามมองตากันเงียบๆ ครู่หนึ่ง ไม่นานหลิงม่อก็พูดขึ้นว่า “สัตว์ประหลาดตัวนี้มีความชอบที่พิเศษมากจริงๆ…” ขณะที่พูด เขาก็ก้มหน้าพิจารณ์สิ่งของเหล่านั้น…ดูจากรูปแบบ ความจริงสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรในการเก็บสะสม นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้หลิงม่อผิดคาดก็คือ ในจำนวนเหล่านั้นมีของผู้ชายรวมอยู่ด้วย…ดูเหมือนมันไม่ใช่แค่ไม่สนใจรูปแบบ แต่ไม่สนใจเรื่องการแบ่งเพศด้วย…

พอเห็นหลิงม่อจ้องมองอย่างละเอียด สวี่ซูหานกระแอมเสียงขุ่นเคือง พลางถลึงตาจ้องหน้าพวกเขา

อวี่เหวินซวนที่จู่ๆ โดนลูกหลงหัวเราะแห้ง จากนั้นก็โบกมือไปมาอย่างปฏิเสธความผิด “ตอนที่ฉันได้มา ของพวกนี้ล้วนอยู่ในสภาพสะอาดทั้งนั้น ดังนั้นฉันคิดว่า ที่นี่จะต้องมีสัตว์ประหลาดขึ้นไปบนพื้นบ่อยมากแน่ๆ และพวกมันก็มักเก็บของพวกนี้ลงมาไว้ที่นี่ผ่านทางเข้าออก ไมแน่ว่า…ทางเข้าออกนี้…”

“อาจอยู่ใกล้ๆ” หลิงม่อพูดต่อ

ทั้งสามสบตากันอีกครั้ง สองวินาทีถัดมา สวี่ซูหานพลันพูดขึ้นอย่างอดตื่นเต้นไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นจะรออะไรอยู่อีก พวกเรา…” แต่เพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียว เธอก็เงียบไปอีกครั้ง หาทางออกใกล้ๆ เจอย่อมเป็นเรื่องดี…แต่สัตว์ประหลาดตัวนั้นยังอยู่ที่นี่นี่นา! ไม่ใช่แค่เจ้าตัวที่มากินอาหาร แต่ยังมี “บุคคลที่สาม” ซึ่งมีพลังแข็งแกร่งและเป็นคนลอบโจมตีอวี่เหวินซวนอยู่อีกด้วย…

ถึงอวี่เหวินซวนจะบอกว่าไม่รู้เขาไปอยู่ไหนแล้ว แต่หลิงม่อกับสวี่ซูหานกลับเพิ่งมาจากช่องทางเดินเส้นนั้น ตลอดช่องทางเดินเส้นนั้นพวกเขาไม่เจอเงาคนอื่นเลย ดังนั้นนอกจากว่าข้างหน้ายังมีช่องทางเดินอยู่อีก หากไม่อย่างนั้น “บุคลลที่สาม” ต้องยังอยู่แถวนี้แน่นอน

อีกอย่างในพื้นที่ที่กว้างขวางอย่างนั้น ใครจะรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า…บวกกับไอหมอกมืดปกคลุมไปทั่ว การตามหาทางออกในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ยากเกินไป แต่การแปลงร่างของเจ้า “โอเบลิสก์” รวมถึงเสื้อในกางเกงในเหล่านี้ที่ดูแวบแรกก็รู้แล้วว่ามีปัญหาซ่อนอยู่ กลับทำให้สวี่ซูหานรู้สึกแปลกๆ…

“สัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่ได้เก็บสะสม…อาจเป็นไปได้มากว่าพวกมันกำลังเรียนรู้วิธีการแต่งตัว หรือก็คือเรียนรู้วิธีปลอมตัวเป็นมนุษย์…” อยู่ๆ หลิงม่อพลันพูดขึ้นมา “ก็เหมือนกับคนฉีกหน้าที่อวี่เหวินซวนเห็น…เจ้านั่นเรียกตัวเองว่าโอเบลิสก์ หลังจากที่นายโดนลากออกไปมันก็แปลงร่างเป็นนาย จากนั้นก็วิ่งมาหลอกล่อพวกเราให้มาที่นี่ ต่อมาตอนที่ถูกพวกฉันจับได้ มันก็เคยพูดถึงเรื่อง ‘การเรียนรู้’ หรือ ‘การเข้าไปปะปนท่ามกลางมนุษย์’ อะไรทำนองนั้นด้วย ฉันว่า เรื่องนี้ได้บ่งบอกถึงอะไรหลายอย่างแล้ว…”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้…” อวี่เหวินซวนอึ้ง

หลิงม่อครุ่นคิด “ไม่น่าล่ะภายหลังสัตว์ประหลาดตัวนั้นถึงได้หมดแรงเร็วนัก ที่แท้ตอนที่พวกเราเจอมัน มันก็ใช้พลังแปลงร่างเป็นรอบที่สองแล้วนี่เอง แถมยังเป็นการแปลงร่างเป็นคนสองคนที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย…บวกกับมันไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับอวี่เหวินซวนมากนัก และแปลงร่างได้ค่อนข้างเร่งรีบ ดังนั้นจึงได้เผยพิรุธตั้งแต่อ้าปากครั้งแรกอย่างนั้น…

แต่ถึงแม้อย่างนั้น เรื่องนี้หากคิดให้ดีก็ยังคงน่ากลัวมาก!

ตอนนี้เรื่องที่หลิงม่อสนใจมากที่สุดก็คือ…ตอนที่ปรากฏตัวต่อหน้าอวี่เหวินซวน เจ้า “โอเบลิสก์” แปลงร่างเป็นใครกันแน่…ถ้าหากได้คำตอบนี้มา ไม่แน่ว่า…

“เรื่องทางเข้าออกเอาไว้ก่อน ในเมื่อหาของพวกนี้ได้ที่นี่ ก็ไม่แน่ว่าอาจหาของใช้มนุษย์อย่างอื่นเจอด้วย อาศัยของพวกนี้ พวกเราน่าจะรู้ว่าพวกมันปลอมตัวและเลียนแบบไปถึงขั้นไหนแล้ว” หลิงม่อ

เทียบกับซอมบี้ สัตว์ประหลาดพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง…ซอมบี้จะฟื้นฟูความทรงจำกลับมาช้าๆ ในระหว่างวิวัฒนาการ และเริ่มมีนิสัยเฉพาะของตัวเอง ถึงแม้อาจดูเหมือนมีบางจุดที่คล้ายกับมนุษย์ แต่ความจริงมันกลับมีความแตกต่างที่ชัดเจนมาก แต่สัตว์ประหลาดพวกนี้ พวกมันกลับเข้าใกล้มนุษย์ได้อย่างใกล้ชิดผ่านการปลอมตัวและเลียนแบบ ขณะที่เนื้อแท้กลับเป็นเพียงเครื่องจักรสังหารโดยแท้

หากถกกันเรื่องระดับความอันตราย บางที่สัตว์ประหลาดพวกนี้คงจะอันตรายกว่า…

ข่าวดีเพียงเรื่องเดียวก็คือ ผลงานสมบูรณ์แบบอย่างเจ้า “โอเบลิสก์” นั้นมีจำนวนน้อยมาก…

“ลักษณะเด่นพื้นฐานของสัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่น่าจะต่างจากซอมบี้มาก…ซึ่งหมายความว่า พลังความสามารถที่สัตว์ประหลาดพวกนี้มี ได้มากจากร่างแม่…ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่พวกเราจำเป็นต้องรู้ ก็คือร่างแม่ตัวนั้นอยู่ในระดับใดแล้วกันแน่…” หลิงม่อพูดด้วยสายตาเคร่งขรึม

เห็นชัดว่าที่นี่ไม่ได้จัดเตรียมไว้เพื่อเจ้า “โอเบลิสก์” ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ถูกสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพวกนั้นฆ่าตายในช่องทางเดิน กลับกัน “บุคคลที่สาม” ที่เอาตัวอวี่เหวินซวนไป อาจเป็นคนที่สามารถเข้าออกไอหมอกมืดได้ตามใจชอบ…บางทีหน้าที่ของมัน อาจเป็นการนำอาหารพิเศษอย่างอวี่เหวินซวนส่งเข้าไป และเพราะมีมันอยู่ อวี่เหวินซวนจึงไม่ถูกสัตว์ประหลาดไอหมอกมืดโจมตี

อีกหนึ่งสถานะที่อาจได้รับการปฏิบัติที่พิเศษ ก็คือเจ้าของอาหารที่สัตว์ประหลาดไอหมอกมืดพวกนั้นนำเข้าไปส่ง…นอกจากนี้ก็ยังมีอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ…

ร่างแม่!

ดังนั้นที่หลิงม่อพูดอย่างนี้ ก็หมายความว่า เป็นไปได้มากว่าสิ่งของเหล่านี้อาจเป็นของร่างแม่…

สิ้นเสียงพูดของเขา สวี่ซูหานใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่อวี่เหวินซวนก็ยังกำหมัดแน่นโดยอัตโนมัติ เหมือนตระหนกกับสิ่งที่ได้ยิน

“ร่างแม่…แปลงร่างเป็น…มนุษย์ได้…” สวี่ซูหานพลันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว

การแปลงร่างของเจ้า “โอเบลิสก์” ก็น่าตกใจมากอยู่แล้ว! อย่างน้อยดูจากภายนอก การแปลงร่างของมันก็แทบไม่เห็นช่องโหว่อะไรแล้ว! แต่พลังของมัน กลับเทียบกับพลังของร่างแม่ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย…ถ้าอย่างนั้น ร่างแม่ทำได้ถึงขั้นไหนแล้วล่ะ?

ไม่กล้าคิดไปไกลกว่านี้แล้ว!

ตอนนี้เธอเข้าใจเหตุผลที่หลิงม่อรั้งอวี่เหวินซวนไว้แล้ว…เขาไม่ได้คิดจะคัดค้านความคิดของอวี่เหวินซวน แต่เขาเพียงต้องการรวบรวมข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายมีเข้าด้วยกันก่อนจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ต้องทำอย่างนี้เท่านั้น พวกเขาจึงจะไม่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยกะทันหัน สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า อาจเป็นศัตรูที่น่ากลัวมากก็ได้…แต่อย่างน้อยดูจากตอนนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้จักซักนิดอีกต่อไป พอคิดอย่างนี้ พวกเขาก็รู้สึกวางใจได้บ้างไม่มากก็น้อย

耽搁这点时间对于他们来说,却是极为重要的……

สำหรับพวกเขา การเสียเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านี้กลับเป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆ…

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องออกไปดูแล้วล่ะ…” อวี่เหวินซวนอ้าปากพูด “ฉันสังเกตการณ์อยู่ที่นี่มาพักหนึ่งแล้ว ทุกครั้งที่มีเสียงดังฉันจะออกไปดู จากนั้นฉันก็สรุปกฎการเคลื่อนไหวขั้นต้นของเจ้าพวกนั้นผ่านวิธีนี้ ดังนั้นเมื่อกี้ที่ฉันไปเจอพวกนายได้ ก็เพราะอย่างนี้แหละ บอกตามตรง เมื่อกี้พวกนายใจกล้าเกินไปนะ…ฉันไม่รู้หรอกว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะไร แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้มัน ฉันก็รู้สึกขนลุกขนพองตลอด”

“นายมีสิทธืพูดอย่างนั้นด้วยหรอ!” สวี่ซูหานตวาด

“อุวะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” อวี่เหวินซวนหัวเราะแห้งๆ

ไม่คิดว่าหลิงม่อกลับพยักหน้า แล้วพูดอย่างเห็นด้วย “เป็นอย่างนั้นจริงๆ…ตอนนั้นฉันยังอยู่ห่างจากมันเล็กน้อย แต่แค่สัมผัสถึง ฉันก็รู้สึกไม่ดีมากแล้ว กระทั่งรู้สึกอึกอัดเลยก็ว่าได้ เจ้านั่น น่ากลัวมากจริงๆ…” พูดถึงตรงนี้ เขาก็วกกลับไปพูดเรื่องเดิมอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้มันก็น่าจะอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างมั่นคงแล้ว?”

“ใช่!” อวี่เหวินซวนพูดระคนตื่นเต้นว่า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันหนีมา มันดูคลั่งอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อกี้ตอนที่พวกนายโผล่มา มันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้…ดูเหมือนว่าหลังจากกินอิ่มมันก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นอีก ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุดที่พวกเราจะออกไปนะ”

“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก…” สวี่ซูหานพึมพำ

ทว่าฟังจากน้ำเสียงของสองคนนี้ เธอก็รู้แล้วว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดพวกเขาได้อีก…พวกเขาตัดสินใจจะไปแน่แล้ว แต่บอกตามตรง ในขณะที่รู้สึกกลัว เธอเองก็รู้สึกฉงนกับสถานที่แห่งนี้มาก…อยู่ๆ สวี่ซูหานก็รู้แล้วว่าทำไมหลิงม่อถึงได้ดูตื่นเต้นอย่างนั้น…เขาเหมือนกับเธอ ที่ต่างก็สนใจการแปลงร่างของสัตว์ประหลาดตัวนั้นมาก!

หรือพูดให้ถูกก็คือ ที่เธอสนใจเพราะเธอเป็นซอมบี้ แต่ที่หลิงม่อสนใจ กลับเป็นเพราะพวกเย่เลี่ยน…บางที เขาอาจยังหมายปองไวรัสนางพญาที่อยู่ในตัวสัตว์ประหลาดพวกนั้นด้วยก็ได้…

“อุแหวะ…” พอคิดถึงตรงนี้ สวี่ซูหานก็หงุดหงิด…

แต่ช่วยไม่ได้ เธอยังต้องกินอยู่ดี…

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ใช่สิ นายยังจำที่ที่เจ้าโอเบลิสก์ล่อนายไปก่อนหน้านี้ได้ไหม?” อยู่ๆ หลิงม่อก็ถามขึ้น

อวี่เหวินซวนชะงัก จากนั้นก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “จำได้สิ”

“ถ้าหากมีโอกาส พวกเราไปที่นั่นซักครั้งกัน” หลิงม่อบอก

เสื้อผ้าที่เจ้า “โอเบลิสก์” ถอดออกก่อนหน้านั้น อาจจะยังอยู่ที่นั่นก็ได้…ไม่รู้ทำไม หลิงม่อมักรู้สึกว่า การแปลงร่างก่อนหน้านั้นของเจ้า “โอเบลิสก์” เป็นเรื่องที่สำคัญมาก…

————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+