โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 213

Now you are reading โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 Chapter 213 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Provider : Muntra

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.213 – เริ่มการประมูล

 

การดำรงอยู่ระดับหัวเมือง มีอยู่ทั้งสิ้นสามเมืองในบริเวณนี้ อันได้แก่ : เฉิงหยาง , ฟูเฉิง และเมืองไห่ (ชื่อเต็มคือไห่เฉิง) และในบรรดาทั้งหมด เมืองเฉิงหยางถูกก่อตั้งขึ้นเป็นเมืองแรก และยืนยงยาวนานกว่า 200 ปี ในขณะที่เมืองอื่นๆสร้างขึ้นตามมาทีหลัง

 

ดังนั้นทั้งสามเมืองนี้เลยมีอีกชื่อเรียกกันทั่วไปว่า ‘สามเฉิง’ ตามเมืองเฉิงหยาง

 

สามเฉิงไม่ได้มีขนาดเล็ก มีอาณาเขตค่อนข้างกว้างใหญ่ ดังนั้นเลยมีสถานชุมชนผุดขึ้นตามมา กระจายตัวอยู่รอบๆท่ามกลางทุ่งล่า ดังนั้นเลยมีองค์กรมืดปะปนเข้ามาเป็นธรรมดา

 

พวกมันคือเนื้อร้ายที่ไม่อาจกำจัด

 

โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ในทุกๆปี พวกมันจะปรากฏกายขึ้นต่อหน้าฝูงชน

 

และแน่นอน ว่าในช่วงเวลานี้ ทางตัวแทนจากเมืองอื่นๆไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ 

 

เนื่องจากองค์กรมืดนำผู้ใช้พลังเลเวล E มามากกว่า 30 คน! ส่งผลให้พื้นที่ในโถงประมูลค่อยๆเริ่มกลายเป็นแออัด ที่นั่งเริ่มถูกจับจองจนเต็ม

 

และเมื่อประตูทางเข้าปิดลง การประมูลก็เริ่มต้นขึ้น

 

“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลที่จัดขึ้นโดยกลุ่มหวันซ่ง และขอขอบพระคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พวกเราจะเริ่มประมูลสินค้าชิ้นแรกกันเลย –นี่คือกระสุนที่ทำมาจากนายพลสัตว์ร้ายเต่าสองเขาเลเวล E 3 …. ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 3 ล้าน! และการเสนอเพิ่มราคาแต่ละครั้งต้องไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญ!”

 

เงินเท่านี้ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด ในขณะที่แม้ทุกคนจะเป็นเลเวล E แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เก่งกาจพอจะสู้กับนายพลสัตว์ร้ายในระดับเดียวกันได้

 

ดังนั้น เมื่อปรากฏวัตถุดิบนายพลสัตว์ร้ายขึ้นมา เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่พลาด

 

“4 ล้านเหรียญ!”

 

“5 ล้านเหรียญ!”

 

ในพริบตา วัตถุดิบระดับนายพลก็ถูกขายออกไปเป็นจำนวนเงินกว่า 12 ล้าน และขายได้แพงกว่าราคาตลาดถึง 2 เท่า! แต่กว่าผู้คนจะรู้สึกตัวกันอีกที มันก็สายไปแล้ว

 

เวลานี้ทั้งหมดเริ่มระมัดระวังกันมากขึ้น

 

“12 ล้านครั้งที่หนึ่ง , 12 ล้านครั้งที่สอง และสาม! ขอแสดงความยินดีด้วย สินค้าชิ้นนี้เป็นของคุณ!”

 

“ต่อไปคือสินค้าชิ้นที่สอง … ”

 

ช่วงเวลานี้ สินค้าแต่ละชิ้นถูกนำออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแก่นพลังงาน , แก่นอบิลิตี้ , หินพลังงานธรรมชาติ , เม็ดยาที่สกัดจากสมุนไพรวิญญาณ ล้วนกระตุ้นให้ผู้คนควักกระเป๋าจ่ายเงินออกมา

 

แต่ฉินเฟิงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคลื่อนไหว เพราะทุกสิ่งที่ถูกนำออกมาประมูล ยังอยู่ในระดับนายพล ซึ่งมันไร้ประโยชน์สำหรับเขา

 

ในทางตรงกันข้าม ฮั่นเจียนกับชิหลงที่อยู่ข้างๆต่างเสนอราคาสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายก็ต้องยอมถอดใจ ไม่ได้อะไรเป็นของตัวเอง

 

ไม่นานบรรยากาศของงานประมูลก็ดำเนินมาถึงขีดสุด

 

“รายการต่อไป คือผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์จากต่างมิติ!”

 

ไม่กี่คำข้างต้น ดึงดูดความสนใจของฝูงชนทั้งหมดในทันที

 

ต้องทราบนะว่าสิ่งที่ออกมาจากรอยแยกมิตินั้นปรากฏขึ้นได้ทุกรูปแบบ ไม่เพียงสัตว์ร้ายหรือศิลานรกของฉินเฟิง แต่ยังมีโอกาสอย่างซุปเปอร์เทคโนโลยีสุดล้ำจะผุดออกมาเช่นกัน! หลังยุคโลกาวินาศ การที่วิทยาศาสตร์ของมนุษย์ก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกมันนี่แหละ

 

และผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์จากต่างมิติ ก็ตามชื่อ มันคือการผสมผสานระหว่างพลังเหนือธรรมชาติจากต่างมิติและวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการดำรงอยู่ที่เหนือยิ่งกว่าอบิลิตี้

 

ไม่รอช้า พิธีกรสาวได้เผยโฉมสิ่งที่ตนอธิบายไปทันที 

 

บนโต๊ะตัวหนึ่ง ปรากฏลูกบาศก์สีเงินที่มีขนาดเท่ากำปั้นวางอยู่ ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากมายอะไร

 

“นี่คือผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์จากต่างมิติที่แปลกประหลาดมาก ทั้งยังทรงประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยส่วนตัวแล้วดิฉันชอบเรียกมันว่า รูบิควิเศษ!”

 

ว่าจบ พิธีกรสาวก็หยิบปืนเลเวล G ออกมาวางบนโต๊ะ และกดตรงกลางรูบิค

 

วินาทีต่อมา ใจกลางรูบิคพลันแยกออกจากกัน ปรากฏรังสีแสงสาดออกมา และดูดปืนเลเวล G เข้าไป

 

“รูบิควิเศษสามารถเชื่อมต่อกับพลังสมาธิ และช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอุปกรณ์ที่ดูดเข้าไปได้ตามใจปรารถนา!”

 

พิธีกรสาวกระตุ้นพลังสมาธิ จากนั้นก็กดลงบนรูบิคอีกครั้ง ใจกลางที่แยกออกเป็นสองฟากฝั่งหุบเข้าหากันอีกครา ทั้งยังมีแสงสีเงินสาดออกมาเป็นระยะๆ และเมื่อแสงสีเงินสาดออกจนสว่างจ้าที่สุด สิ่งที่ปรากฏขึ้นหลังจากแสงหายไป มิใช่ปืน หากแต่เป็นมีดจำนวน 2 เล่ม

 

“แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไม่ใช่ฟังก์ชั่นที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน ที่จริงแล้วความสามารถของรูบิควิเศษโดดเด่นในด้านการ ‘หลอมรวม’ ทุกท่านคงทราบดี ว่ามันเป็นเรื่องยากเพียงใดหากจะหาช่างฝีมือที่มากประสบการณ์สักคนหนึ่ง พวกเขาแต่ละคนมีค่าดั่งทองคำ และการสั่งทำอุปกรณ์ในแต่ละครั้ง ไม่สามารถนำไปใช้ต่อสู้ได้ในทันที คุณจำเป็นต้องรอพวกเขาหลอมรวมวัตถุดิบเป็นเวลาหลายวัน บางทีอาจจะ 10 หรือหนึ่งเดือนถึงจะก่อรูปเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการได้ ซึ่งมันเสียเวลามากเกินไป แต่หากคุณครอบครองรูบิควิเศษ ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาจะหมดไป!”

 

ขณะกล่าว พิธีกรสาวได้นำวัตถุดิบเลเวล F อีกชิ้นออกมา 

 

รูบิควิเศษฉายแสงสแกนมันอีกครั้ง และดูดกริชเลเวล F เข้าไปด้านใน เมื่อมันถูกส่งออกมาอีกที สิ่งที่แต่เดิมสมควรเป็นกริช บัดนี้กลับกลายเป็นอุปกรณ์รูนเลเวล F !!

 

บังเกิดความโกลาหลขึ้นในห้องประมูลทันที ในดวงตาของทุกผู้คน แทบจะกลายเป็นลุกไหม้ ฟังก์ชั่นหลอมรวมของรูบิควิเศษทำให้อารมณ์ของพวกเขาเดือดพล่าน!

 

เวลานี้ในหัวใจของหลายคนเกิดความมุ่งมั่นที่จะครอบครองรูบิควิเศษ และจินตนาการถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคต

 

ด้วยสิ่งนี้ จะช่วยให้สามารถผลิตสินค้าในปริมาณมหาศาล โดยไม่เสียทั้งเงินและเวลา กระทั่งละทิ้งอาชีพผู้ใช้พลัง และหันไปเปิดร้านอุปกรณ์รูนเลยก็ยังได้

 

เพราะเพียงอาศัยมัน ผู้ที่ครอบครองก็จะมีความสามารถไม่แตกต่างไปจากปรมาจารย์ผลิตอุปกรณ์รูนเลย!

 

หลายคนกระตือรือร้น เตรียมที่จะเริ่มประมูล

 

“หลิงหวูยี่ นายช่วยอะไรฉันหน่อยสิ” ริมฝีปากของฉินเฟิงขยับเล็กน้อย เขาเริ่มกระตุ้นกำลังภายใน เตรียมส่งคำพูดไปให้อีกฝ่าย

 

“อะไรล่ะ?” ดวงตาของหลิงหวูยี่ยังคงสงบตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ห้วงอารมณ์ไม่เดือดพล่านเหมือนกับคนอื่นๆในห้องประมูล เนื่องจากเจ้าตัวสามารถยกระดับขึ้นสู่เลเวล E ได้โดยตรง จึงไม่รับรู้ถึงความยากลำบากในการฝึกฝนของแต่ละคน ว่าหากพบเจอกับสมบัติชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่อาจช่วยยกระดับตนเองได้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม สิ่งนั้นล้วนมีค่า

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิงหวูยี่ได้เห็นคนอื่นๆเสนอราคาซื้อสินค้าประมูลแต่ละชิ้น มันก็ทำให้เขาอดอ้าปากตาค้างไม่ได้จริงๆ

 

ฉินเฟิงส่งเสียงที่ห่อหุ้มกำลังภายในไปยังหูของหลิงหวูยี่ และหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของฉินเฟิง เขาก็พยักหน้า ทำทีว่าเข้าใจอย่างต่อเนื่อง

 

ฝูงชนเบื้องล่างเตรียมตัวที่จะเริ่มประมูล มีบางคนถึงขั้นยกสองมือขึ้นมาถูๆ หมายมั่นจะครอบครองสมบัติชิ้นนี้

 

ทว่าอารมณ์ของพวกเขาก็ถูกขัดขวางลงโดยฝีมือของหลิงหวูยี่

 

“ช้าก่อน เรื่องที่ว่าสินค้าประมูลชิ้นนี้มันวิเศษผมเห็นด้วยจริงๆ และเกรงว่ามันคงมีค่ามหาศาล แต่เวลาจะซื้ออะไร ผมมักจะชอบทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับมันก่อน ดังนั้นผมมีคำถาม อย่างเช่นคุณภาพของปืนและมีดสั้นสองอันก่อนหน้านี้มันไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่า ในขณะที่รูบิควิเศษเริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง มันคงสูบกลืนอะไรบางอย่างไปด้วยใช่ไหม?”

 

ทั้งยังไม่ใช่การสูบกลืนเพียงเล็กน้อยซะด้วย

 

พิธีกรสาวขมวดคิ้ว แต่ก็คลายมันลงอย่างรวดเร็ว ยอมเปิดใจกล่าว “ถูกต้อง การใช้งานมันมีโอาสสูญเสียวัตถุดิบที่เป็นองค์ประกอบบางอย่างจริงๆ แต่ทั้งหมดที่ฉันนำออกมาล้วนเป็นวัตถุดิบสัตว์ร้ายธรรมดาๆ ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่วัตถุดิบบางอย่างจะสูญเสียไประหว่างกระบวนการ”

 

หลิงหวูยี่พยักหน้าว่าเข้าใจและกล่าว “ถ้าอย่างนั้นมันก็ฟังดูสมเหตุสมผล แต่ผมยังมีอีกคำถามหนึ่ง นั่นคือคุณสามารถมอบอุปกรณ์รูนที่หลอมกลั่นจากมีดสั้นมาให้ผมดูหน่อยจะได้ไหม?”

 

คราวนี้ใบหน้าของพิธีกรสาวเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง เธอเผยท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด ฉากนี้ทำให้ผู้เข้าร่วมประมูลเริ่มรู้สึกแปลกๆ แววตาที่แทบลุกไหม้เริ่มทอประกายสงสัย

 

“ทำไมหรือ? อย่าบอกนะว่ามันมีข้อเสียบางอย่างที่คุณไม่สามารถแสดงให้พวกเราเห็นได้?” หลิงหวูยี่กล่าว

 

พิธีกรสาวสูดหายใจลึกและกล่าว “ไม่ใช่แบบนั้น ตรงกันข้ามเลย มันกลับกลายเป็นข้อดีเสียอีก อย่างอุปกรณ์รูนที่ถูกสร้างขึ้นจากรูบิควิเศษ จะถูกประทับสัญญากับพลังสมาธิโดยอัตโนมัติ มันคือสัญญาณทางจิตที่ช่วยทำให้อุปกรณ์รูนเป็นหนึ่งเดียวกับคุณมากยิ่งขึ้น”

 

ที่ฟังดู คุณสมบัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆ แต่สำหรับคนที่ต้องการจ่ายเงินก้อนโตเพื่อซื้อรูบิคชิ้นนี้แล้ว ทั้งหมดราวกับถูกน้ำเย็นสาดเข้าใส่

 

เพราะข้อดีที่ว่าไม่ตรงตามความต้องการของพวกเขา เดิมตนคิดซื้อมัน เพื่ออยากจะกลายเป็นปรมาจารย์ผลิตอุปกรณ์รูน ทว่ากลับกลายเป็นผลงานทุกชิ้นดันทำสัญญาทางจิตกับตัวเองอย่างกระทันหัน

 

แม้ฟังดูเป็นข้อดี แต่หากคิดอย่างรอบครอบ จะพบว่ามันมีข้อเสียเยอะกว่า ตัวอย่างเช่นหากคุณใช้ฟังก์ชั่นหลอมกลั่นของมัน ผลงานที่ออกมาทั้งหมดจะมีสัญญาทางจิตกับคุณ แบบนั้นมันไม่สามารถนำไปขายได้มิใช่หรือ?

 

ฟังก์ชั่นการหลอมกลั่นของรูบิคมีประโยชน์มากก็จริง ทว่าหากสามารถหลอมกลั่นอุปกรณ์ระดับสูงได้ แต่นำมันไปขายให้กับคนอื่นไม่ได้ แบบนั้นมันไม่แตกต่างไปจากเสียทั้งเงินและวัตถุดิในการสร้างอุปกรณ์ขึ้นมาอย่างไร้ประโยชน์หรอกหรือ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด