โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 414

Now you are reading โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 Chapter 414 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.414 – รับชมความสนุก

 

สายฟ้าฟาดเข้าใส่ทหารกริมที่อยู่ใกล้เคียง พวกมันรู้สึกราวกับถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อต กระตุกไปทั้งตัว

 

“ยังมัวรออะไรกันอยู่อีก? รีบหนีด้วยตัวเชื่อมมิติเร็วเข้า!”

 

เล่ยหยิงร้องตะโกน

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเชื่อมมิติ มิใช่สิ่งที่ทุกคนจะมีเตรียมไว้กับตัว!

 

ทั้งคนทั้งร่างของเล่ยหยิงถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน และหายวับไปจากสนามรบในพริบตา

 

“เล่ยหยิง ไอ้สารเลว!”

 

หวังเจี้ยนคำรามเกรี้ยวกราด

 

นั่นเพราะเขาคือหนึ่งในคนที่ไม่ได้เตรียมตัวเชื่อมมิติมา

 

กว่าสิบทหารกริมปิดล้อมหวังเจี้ยนจากทุกทิศทาง ปราณกำลังภายในของเขาถูกกรงเล็บแหลมกรีดกระชาก สลายไปในพริบตา

 

หวังเจี้ยนดิ้นรนต่อสู้กลับด้วยกำลังทั้งหมดที่มี สำแดงกระบวนท่าวรยุทธอันแข็งแกร่งเข้าต้านทาน

 

ในวิดีโอ ฉินเฟิงสามารถสังหารกริมเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้หวังเจี้ยนค้นพบแล้ว ว่าสิ่งที่ตนนึกว่าง่าย แท้จริงแล้วเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน

 

ทหารกริมอีกตัวโจมตีเขาจากเบื้องหลัง อาวุธในมือหวังเจี้ยนถูกงัดวูบบบ! ชนเคร้งเข้าป้องกันได้อย่างทันท่วงที แต่วินาทีต่อมา เจ้าตัวก็ถูกพละกำลังอันมหาศาลกระแทกปลิวออกไป

 

ราวกับนัดกันมา กริมที่รอคอยอยู่เบื้องหน้าง้างกรงเล็บกรีดเข้าต้อนรับทันใด

 

ฟุบบบ!

 

ชิ้นเนื้อฉ่ำเลือดถูกเฉือนหลุดออกมา

 

“อ๊ากกก”

 

หวังเจี้ยนเจ็บปวดสุดแสน พยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่ก็นะ … ทำเช่นนี้อย่างมากก็แค่ช่วยยืดเวลาตายออกไปเท่านั้น

 

ฉัวะ!

 

กรงเล็บแหลมของกริมเฉือนผ่านลำคอของหวังเจี้ยน ด้วยพละกำลังอันมหาศาล ส่งผลให้ศีรษะกระเด็นไปบนฟ้าสูง ใช้เวลาสักพักเลยกว่าจะร่วงตกลงในแอ่งเลือดที่อยู่ห่างออกไป

 

–ตัวตนทรงพลังในเลเวล C กระทั่งศพก็ยังไม่อาจรักษาเอาไว้ได้

 

สุดท้ายแล้ว สมาชิกกว่า 200 คนที่ถูกซุ่มโจมตี มีอยู่แค่ 100 คนเท่านั้นที่พกตัวเชื่อมมิติไว้กับตัว เลยสามารถหลบหนีมาได้

 

อันที่จริงแล้วในเทือกเขาหลงฉวน มันมีอุปกรณ์มิติเอาไว้ใช้เป็นตัวเชื่อมมิติสำหรับมนุษย์เวลาออกปฏิบัติการเป็นกลุ่มใหญ่อยู่หรอก แต่น่าเสียดาย ที่พวกกริมไม่ให้โอกาสพวกเขาหนีไปถึงจุดนั้น

 

ก็เหมือนกับในกรณีกองกำลังของเกาหยูคัง ที่มิได้รับโอกาสในตอนแรก

 

หลังจบการต่อสู้ ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าทางฝั่งกริมกลับไม่มีใครตายแม้แต่ตนเดียว เรื่องนี้ช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่พวกมันเป็นอย่างมาก

 

“โอ้สวรรค์ ทุกคนมาดูนี่สิ มันคือสิ่งใดกัน?”

 

ทหารกริมตนหนึ่งอุทานขึ้นมา

 

ในมือของมัน คืออุปกรณ์รูนมิติสีเงิน

 

“นั่นคือศิลามิติ!”

 

“สวรรค์! เป็นศิลามิติจริงๆ ไม่คิดเลยว่าต่างมิติแห่งนี้ก็มีศิลามิติอยู่ด้วย!”

 

“ประเสริฐ! แค่นี้พวกเราก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว!”

 

ฝูงกริมหลั่งน้ำตาด้วยความยินดี

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนนึกไปถึงสหายร่วมชาติที่ตกตายลงไปกว่าครึ่ง ใบหน้าของพวกกริม ก็เปลี่ยนเป็นดุร้าย

 

แต่ไหนแต่ไร พวกมันคือเผ่าพันธุ์ที่รักในการสำรวจ!

 

“ช้าก่อน เหตุใดไม่คิดกลับกัน ทำไมไม่ใช้สิ่งนี้เรียกสหายร่วมชาติของพวกเรามาที่นี่เล่า?”

 

ทหารกริมมองหน้ากันด้วยความตกใจ สักพักในแววตาของพวกมัน ร่องรอยของความเกลียดชังชนิดฝังรากลึกก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมา

 

“นั่นสิ ทำไมข้าถึงลืมคิดไปได้นะ!”

 

“เปิดช่องว่างมิติ เรียกกองทัพของพวกเรามาก็สิ้นเรื่อง!”

 

“ระดมพลเหล่าพี่น้อง มาพิชิตมิติแห่งนี้!”

 

“ข้อมูลใหม่ที่สำคัญก็คือ ชนพื้นเมืองของมิติแห่งนี้ ใช่ว่าจะแข็งแกร่งกันทุกคน”

 

“เพราะถ้าพวกมันแข็งแกร่ง พวกเราคงพ่ายแพ้ย่อยยับไปแล้ว!”

 

ทหารกริมตนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

 

บทสนทนามีมากกว่านี้แต่ที่เหลือล้วนยิ่บย่อย บางตนแยกย้ายออกไปเก็บกวาดสนามรบ รวบรวมอุปกรณ์รูนมิติมา แต่สำหรับพวกมัน อุปกรณ์รูนมิติในปัจจุบันยังมีจำนวนน้อยเกินไป

 

อย่างไรก็ตาม พวกมันสามารถออกล่าและปล้นชิงได้

 

กริมเหล่านี้ รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

 

พวกมันสยายปีก เร่งบินมุ่งตรงไปข้างหน้าทันที

 

 

ขณะเดียวกัน เล่ยหยิงหนีกลับมายังสถานชุมชนหลงฉวนที่ 3 ในสภาพอิดโรย เตรียมป่าวประกาศแก่เหล่าผู้ใช้พลังในโถงหลักทันที–

 

–ว่าพวกเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา กำลังจะบุกเข้ามา!

 

เมื่อเล่ยหยิงปรากฏกาย คนอื่นๆที่ร่วมเดินทางกับเขาก็เริ่มทยอยตามมา

 

เล่ยหยิงก้าวเข้าไปยังตึกรับรองผู้ใช้พลัง ขบกรามเปล่งเสียงเล็ดลอดไรฟัน “ฉันมีข้อมูลจะรายงานนายพลซื่อฉิง!”

 

แม้ระหว่างเลเวล C กับ B จะห่างกันแค่ระดับเดียว ทว่ามันแตกต่างกัน ราวเมฆบนฟ้ากับโคลนตม ดังนั้นเล่ยหยิงไม่สามารถเข้าพบกับซื่อฉิงได้ตรงๆ

 

หากอยากเจอซื่อฉิง เล่ยหยิงทำได้แค่ติดต่อผ่านตึกผู้ใช้พลังเท่านั้น

 

“มิสเตอร์ กรุณารอสักครู่ ทางเราจะรีบติดต่อท่านนายพลให้ทันที”

 

เจ้าหน้าที่กล่าวเสียงสั่น รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนของตึกอย่างรวดเร็ว

 

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้พลังบางคนเมื่อทราบข่าว ก็ตรงเข้ามายังตึกรับรองผู้ใช้พลัง เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 

“ประธานเล่ย เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”

 

“สหายฮั่น ทำไมนายไม่พูดอะไรเลย? อย่าปล่อยให้เหล่าพี่น้องต้องกังวลสิ!”

 

“หวังเจี้ยนอยู่ไหน เขาไม่ได้ออกไปกับพวกนายหรอ?”

 

สีหน้าของฮั่นเฉิงหมิงกับเล่ายี่กลายเป็นอัปลักษณ์ยิ่ง

 

การตายของเลเวล C ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก หากจะให้กล่าวตามตรง อันที่จริงแล้วเป็นพวกเขาที่ทิ้งหวังเจี้ยนไว้เป็นแพะรับบาป ส่วนพวกตนหลบหนีออกมา!

 

หากมีใครปริปาก แล้วทะลึ่งเอ่ยไม่ตรงกัน ทั้งหมดอาจต้องรับผิดชอบร่วมกัน!

 

ขณะเดียวกัน ภายในห้องฝึกซ้อม ฉินเฟิงกำลังอบรมกองทหารรับจ้างเฟิงหลี 

 

เหล่าสมาชิกต่างมองฉินเฟิงด้วยสายตาเทิดทูน ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยคิดเลย ว่าฉินเฟิงจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับวรยุทธโบราณลึกซึ้งถึงขนาดนี้

 

แน่นอน ว่าในส่วนเรื่องอบิลิตี้ฉินเฟิงไม่สามารถสอนสั่งได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพราะเขาครอบครองศิลานรก และพลังพิเศษดูดกลืน ถึงร้ายกาจอย่างทุกวันนี้

 

ด้วยเหตุนี้ ต่อให้เฉินเซี่ยงและผู้ใช้อบิลิตี้คนอื่นๆจะรู้สักคันในหัวใจมากมายขนาดไหน แต่ฉินเฟิงก็ไม่สามารถคายความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไปได้

 

“หัวหน้า มีข่าวมารายงาน”

 

เฉินเซี่ยงก้มลงบนอุปกรณ์สื่อสาร เตรียมอธิบายแก่ฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงเลิกคิ้ว นอกจากเขาแล้วยังมีคนไปสอดแนมพวกเผ่ากริมอีกหรือ?

 

“ข่าวอะไร?”

 

เฉินเซี่ยงเริ่มบอกเล่าถึงข่าวของเล่ยหยิงที่หนีหัวซุกหัวซุน

 

มุมปากของฉินเฟิงยกยิ้ม และกล่าว “ฟังดูน่าสนุกดีแฮะ ไป๋หลี พวกเราไปกันเถอะ”

 

“จะไปทำภารกิจอีกแล้วหรอ? เวลาแบบนี้เนี่ยนะ” ไป๋หลีบ่น แต่ก็ลุกขึ้นเตรียมพร้อม

 

“เปล่าๆ พวกเราจะไปรับชมเรื่องสนุก!”

 

 

ภายในห้องโถงหลัก ซื่อฉิงก้าวออกมา เมื่อพบเล่ยหยิงเต็มไปด้วยเลือด เขาก็ตกใจ

 

“เกิดอะไรขึ้น?” ซื่อฉิงกล่าวเสียงจม

 

เล่ยหยิงทำได้เพียงกัดฟันกรอด และบอกเล่าเรื่องของตัวเองออกไป

 

ใบหน้าของซื่อฉิงกลายเป็นดำคล้ำ

 

“ส่งวิดีโอมาให้ฉัน”

 

สีหน้าของเล่ยหยิงแสดงออกถึงความลำบากใจ

 

“ขออภัยท่านนายพล ฉัน .. ฉันไม่มีเวลาทันได้ถ่ายมัน ถ้ายังไงลองถามผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันดู!”

 

ซื่อฉิงฉีกยิ้มด้วยความโกรธ

 

“ประธานเล่ยเอ๋ยประธานเล่ย! ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ นอกจากคุณจะไม่ประจำการที่สถานชุมชนแล้ว ยังออกไปซุ่มโจมตีศัตรูอีก ถ้าคุณสามารถทำได้ก็แล้วกันไปเถอะ แต่นี่อะไร! กระทั่งหวังเจี้ยนก็ต้องจบชีวิตลง! แล้วคุณจะรับผิดชอบยังไง? รู้หรือเปล่าว่าที่คุณทำ มันไม่ต่างจากนำข้อมูลของพวกเราไปให้ศัตรู!”

 

ซื่อฉิงตวาด ตำหนิอีกฝ่าย

 

สีหน้าของเล่ยหยิงไม่น่าดู ครั้งสุดท้ายที่เขาถูกตำหนิ มันกี่ปีแล้วกันนะ แต่ตอนนี้ทำได้เพียงอดทน เส้นเลือดตรงขมับปูดโปนออกมา

 

“จะไปไหนก็หัดพกสมองออกด้วยไปซะบ้าง ข้อมูลจากฉินเฟิงเมื่อวานนี้ พวกมันถูกเขาตามรังควานตลอดทั้งคืน เลยต้องหยุดพักระหว่างช่วงเช้า ทำไมคุณไม่อาศัยโอกาสนั้นตั้งหลักลอบโจมตีเล่า จะบุกเข้าไปเรื่อยๆทำไม?”

 

ซื่อฉิงแทบจะกลายเป็นบ้า

 

สมองของเล่ยหยิงคงถูกลาเตะไปแล้ว!

 

ขณะนี้ บางคนในฝูงชนถึงขั้นสะอึกกับคำพูดของนายพลซื่อ สีหน้ากลายเป็นน่าเกลียด ท่าทีแลดูหดหู่

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว บุคคลเหล่านี้ล้วนเคยมีความคิดแบบเดียวกันมาก่อน แต่ลงมือไม่ทันเล่ยหยิงก็เท่านั้นเอง

 

ฉากในวิดีโอ ฉินเฟิงยิงปืนใหญ่เข้าใส่ฝูงกริมเพียงลูกเดียว พวกมันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเลยมีผู้คนมากมาย คิดนำกระสุนติดตัวไปมากมาย แค่นี้ก็เพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับพวกเขาแล้วถูกไหม?

 

แต่ไม่คาดหวังเลย ว่าเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาจะร้ายกาจขนาดนี้ แต่สักพักทั้งหมดก็ยิ้มออกมา เพราะพวกเขาไม่ใช่คนที่ต้องจบชีวิตลง

 

นี่สินะ ที่เรียกกันว่ามีความสุขในความทุกข์ของผู้อื่น!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด