โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 86

Now you are reading โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 Chapter 86 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.86 – สังหารเต็มรูปแบบ

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.86 – สังหารเต็มรูปแบบ

 

“รีบใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว!” ฉินเฟิงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

 

“วันนี้อากาศดี ดังนั้น หนูว่าจะสวมเดรสยาวตัวนี้!” ไป๋หลีจุกจิก สุดท้ายตัดสินใจหยุดชุดเดรสตัวหนึ่งขึ้นมาสวม

 

จริงๆแล้วฉินเฟิงมีคำมากมายที่อยากจะเอ่ยถามกับไป๋หลี เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้มีโจวฮ่าวกับเสี่ยวจิงอยู่ด้วย เขาเลยไม่มีโอกาสได้พูดมันออกมา

 

“เสี่ยวไป๋ ก่อนหน้านี้แกเคยจัดการตัดมือของศัตรูมาก่อนใช่ไหม เจ้าของมือมีโอกาสที่จะปรากฏตัวขึ้นอีกรึเปล่า?”

 

แม้ฉินเฟิงจะทราบแก่ใจว่ามันเป็นไปได้ยากที่ตัวทรงอำนาจดังกล่าวจะเข้ามาที่นี่ แต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตัวตนที่ว่าถึง คือการดำรงอยู่ของเลเวล S

 

ไป๋หลีส่ายหัว “นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก บุคคลที่ว่าแข็งแกร่งเกินไป เขาถูกผูกมัดด้วยกฏเกณฑ์แห่งมิติ เพราะฉะนั้นคราวก่อน เขาจึงสามารถยื่นออกมาได้แค่มือเท่านั้น สุดท้ายเลยถูกหนูจัดการออกไปได้อย่างง่ายดาย”

 

“ได้ยินแบบนั้นก็โล่งอก!” เฉินเฟิงผ่อนลมหายใจยาว

 

แต่ไป๋หลีกลับตรงกันข้าม มันหน้ามุ่ย เอ่ยอย่างไม่พอใจ “นายท่าน หนูคิดว่านายท่านไม่ควรจะมาที่นี่ เพราะซากศพบริเวณนี้มีกลิ่นอายคล้ายกันกับมือที่พวกเราตัดมาก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่า ถ้าถูกพบ นายท่านจะต้องถูกพวกมันจับตัวกลับไปแน่นอน!”

 

ฉินเฟิงเองก็คาดเดาคล้ายๆกัน ยิ่งไป๋หลีเอ่ยออกมา เขาก็ยิ่งมั่นใจ

 

“กล่าวอีกนัยนึงก็คือ ฉันคาดเดาไม่ผิด เจ้าชุดคลุมดำกระหายเลือดนั่น จริงๆแล้วคือลูกน้องของคนที่ถูกพวกเราตัดมือไป และมันกำลังร่วมมือกับราชันย์อัศวิน ถ้าฉันกับแกช่วยกันสู้ พวกเราก็ยังเป็นรองอยู่หลายขุม!”

 

ต้องรู้นะว่า ปัจจุบันฉินเฟิงก็อยู่ในเลเวล F เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่เลเวล F ธรรมดาๆ แต่เป็นเลเวล F ที่ครอบครองกำลังภายในมากกว่าปกติถึง 10 เท่า! นอกจากนี้ พลังทางกายภาพของเขาก็แข็งแกร่ง ดังนั้นฉินเฟิงมั่นใจว่าหากต่อสู้กับราชันย์สัตว์ร้ายแบบตัวต่อตัว เขาจะสามารถโค่นอีกฝ่ายลงได้

 

เพราะหากเทียบกัน ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ก็เปรียบได้กับราชันย์สัตว์ร้ายเช่นกัน!

 

ยังไงก็ตาม ไป๋หลีกลับตัดทอนความมั่นใจของเขาอย่างไร้ความปราณี “นายท่าน ท่านไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้”

 

ฉินเฟิงยื่นมือออกไป ใช้สองนิ้วบีบจมูกไป๋หลีเบาๆ

 

“ดูเหมือนแกจะไม่ค่อยเชื่อในตัวฉันเลยนะ”

 

“นายท่าน ตอนนี้ท่านอ่อนแอเกินไป แต่ถ้าคิดจะสู้จริงๆก็ไม่เป็นไร เพราะหนูสามารถปกป้องนายท่านและพาหนีไปได้!”

 

จากข้างต้น เป็นการบ่งบอกกลายๆว่า กระทั่งตัวเสี่ยวไป๋เองก็ยังไม่มั่นใจว่าเธอสามารถเอาชนะศัตรูทั้งสองตนได้

 

ฉินเฟิงพูดไม่ออก “เอาเถอะๆ ยังไงก็ลองไปกันดูก่อน คราวนี้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องช่วยลงมือทำอะไรก็ได้ เพราะแก่นพลังงานที่กำลังจะได้มามันไม่เหมาะกับแก!”

 

ว่าจบ ฉินเฟิงก็ชักมีดกษัตริย์ครามขึ้นมา เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

 

ไป๋หลีไม่เข้าใจว่าทำไมฉินเฟิงถึงกีดกันอาหารของเธอ แต่แก่นพลังงานของพวกซากศพก็ไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่จริงๆ ดังนั้นเธอเลยคิดว่าไม่ได้กินมันก็คงจะไม่เป็นไร!

 

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังย้ำเตือนนายท่านที่อ่อนแอของเธอ

 

“นายท่าน อย่าไปที่นั่นเลย พวกนี้ถูกส่งมาโดยเจ้ามือขาดไม่ผิดแน่ๆ พวกมันคงมาเพื่อจับตัวท่านโดยเฉพาะ ตราบใดที่พวกมันจับท่านได้ นายท่านจะถูกสกัดแก่นอบิลิตี้ ศิลานรกเองก็จะกลับคืนสู่เจ้าของเดิม ฉะนั้นอย่าไปเลย นายท่านไม่สมควรเดินไปหาที่ตาย!”

 

“แค่เชื่อใจฉันสักหน่อยมันไม่ได้รึไง?” ฉินเฟิงกล่าวอย่างไร้หนทาง

 

“หนูเคยเห็นคนในทีวีพูดแบบนี้ แล้วก็ไม่รอดซักราย!”

 

ฉินเฟิงหมดคำจะเถียง นี่ไป๋หลีไปดูอะไรมากันแน่นะ?

 

ไม่เชื่อใจฉัน แต่ดันไปเชื่อคำคนจากในละครซะได้ แบบนี้ดูเหมือนว่าคงต้องสั่งสอนมันบ้างซะแล้ว

 

เมื่อถึงจุดนี้ ฉินเฟิงก็เกิดความคิดซุกซนขึ้นมาในจิตใจ

 

“เสี่ยวไป๋ จากนี้ไปให้แกเรียกฉันว่าที่รัก อย่าเรียกว่านายท่าน เพราะมนุษย์ปกติเขาไม่ใช้คำเรียกกันแบบนั้น!”ปากของฉินเฟิงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

 

ในเมื่อแกไม่ยอมเชื่อฟังฉัน งั้นฉันก็จะขอเอาเปรียบแกเล็กๆน้อยๆเป็นการแก้แค้น!

 

“อา เข้าใจแล้วนาย- … ไม่สิ เข้าใจแล้วที่รัก!” ไป๋หลีพยักหน้า แต่จู่ๆดวงตาของมันก็เบิกกว้าง “ระวัง!”

 

ในความมืดมิด ซากศพเน่าเปื่อยจู่ๆก็พุ่งออกมาจากหลังซากต้นไม้อย่างกระทันหัน มันอ้าปากหวีดร้อง ตะครุบเข้าใส่ฉินเฟิง

 

มีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิงเหวี่ยงสะบัดอย่างรุนแรง ตามด้วยเสียงฉับที่ดังคล้ายเสียงหั่นแตงโม หัวของร่างศพเน่าเปื่อยในเลเวล G5 ถูกตัดกระเด็นทันทีโดยฉินเฟิง

 

เมื่อต้องเผชิญกับซากศพ ฉินเฟิงกลับสามารถสังหารมันได้ในใบมีดเดียว!

 

“เอาล่ะ ฉันจะไม่เถียงกับแกแล้ว เพราะในเมื่อตอนนี้พวกเราอ่อนแอมาก แต่พวกมันแข็งแกร่ง งั้นพวกเราก็สมควรจะล่าถอยใช่ไหม เอาเป็นถอยไปถึงใจกลางฐานศัตรูเลยเป็นไง?”

 

ฉินเฟิงประชดประชัน เริ่มมุ่งสมาธิ จดจ่อไปกับการสังหารซากศพ

 

ก่อนที่เขาจะเกิดใหม่ ฉินเฟิงเคยประสบกับช่วงชีวิตที่น่าเศร้าและยากลำบากมานับไม่ถ้วน จนสุดท้ายได้กลายเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A

 

ขณะที่ในชีวิตนี้ ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างราบรื่น ฉะนั้น เขาจะมาล่าถอยกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ได้อย่างไร!?

 

ถ้าทำแบบนั้น ตัวเขาคงไม่ใช่ฉินเฟิงแล้ว!

 

ช่วงจังหวะที่ร่างศพกำลังร่วงลงกับพื้น ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า สะบัดมีดกษัตริย์คราม ตัดหน้าผากของซากศพ แล้วควักเอาแก่นพลังงานที่อยู่ภายในออกมา

 

“จงดูดกลืน!”

 

แก่นพลังงานหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว และในพริบตา มันก็ไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่อีกเลย

 

“ซากศพเน่าเปื่อยพวกนี้มีพลังงานนิดเดียวเอง!”

 

ฉินเฟิงเตะหัวของซากศพไปอีกทาง เขากลับไปอยู่ในสภาวะโอบกอดทมิฬอีกครั้ง และเริ่มมุ่งหน้าต่อไป

 

บริเวณรอบนอก มันเต็มไปด้วยซากศพระดับต่ำ แต่ยิ่งลึกเข้าไปในภูเขาพ่อมากเท่าไหร่ ซากศพก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงทางลาดช่วงหลังของภูเขาพ่อ ฉินเฟิงก็สามารถมองเห็นถึงสภาพแวดล้อมของภูเขาแม่ที่อยู่ห่างไกลได้ในที่สุด

 

ฉินเฟิงรู้ว่าบนยอดภูเขาลูกนั้น มีราชันย์อัศวินและชุดคลุมดำกระหายเลือดอาศัยอยู่ สองตาจดจ้องไปยังทิศทางดังกล่าว หนึ่งปากเอ่ยสัตย์สาบาน

 

“ไม่ว่ายังไงฉันก็จะฆ่าพวกแกให้จงได้!”

 

ใบหน้าของฉินเฟิงฟุ้งไปด้วยเจตนาฆ่า

 

ในเวลานี้ เขาได้ถอนตัวโอบกอดทมิฬแล้ว เปิดเผยถึงร่างกายที่แท้จริงของตนเองออกมา ทั้งๆที่ตนอยู่กลางดงซากศพเลเวล F -เมื่อความมืดที่คอยปกคลุมหายไปจากตัวฉินเฟิง พวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมนุษย์ ทั้งหมดสับฝีเท้าตรงเข้าหาอย่างไม่ลังเล

 

“ก๊าซซซซ!”

 

พวกมันสามารถได้ยินถึงเสียงของเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกายมนุษย์ ทั้งหมดเริ่มจะคลุ้มคลั่ง บุกเข้ามาหมายจะเพลิดเพลินไปกับอาหารค่ำที่มาเสิร์ฟถึงที่!

 

“จงตายเพื่อฉัน!”

 

มีดกษัตริย์ครามเหวี่ยงสะบัด สาดสะท้อนประกายเย็นเยียบกับแสงจันทร์

 

ฉัวะ!

 

หัวของซากศพเน่าเปื่อยตัวหนึ่งลอยคว้านไปกลางอากาศ ถูกสะบั้นแยกจากร่างในมีดเดียว

 

ซากศพตัวอื่นๆที่ตามมาทีหลังประชิดเข้ามาใกล้ ฉินเฟิงม้วนขาเตะไปอีกฝั่งหนึ่ง พลางตวัดหลังมือ ตัดหัวอีกซากศพข้างตัวเขา

 

“แก๊ซซซซ!”

 

ซากศพอีกตัวคำราม ฉกมือคว้าจับหลังของฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงบิดตัวกลับมา สับมีดกษัตริย์ครามเฉือนสวนไป

 

พรวด พรวด!!

 

ซากศพเน่าเปื่อยที่รุมล้อมฉินเฟิง ทั้งหมดถูกตัดหัวจนสิ้น

 

ในพริบตาเดียว ซากศพเน่าเปื่อยในเลเวล F กว่าเจ็ดตัวก็ถูกกวาดล้างลงโดยฉินเฟิง

 

จากนั้น เขาก็เฉือนลงตรงหน้าผากของพวกมัน นำเอาแก่นพลังงานออกมา ดูดกลืนพลังงาน -ร่างกายของฉินเฟิงได้รับการฟื้นฟู ขณะเดียวกันก็กลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง

 

ขณะเดียวกัน ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการวิวัฒนาการทางกายภาพ!

 

ก้าวขึ้นสู่เลเวล F1!

 

ฉินเฟิงรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา

 

“ในชีวิตก่อนหน้า กว่าฉันจะมีความแข็งแกร่งทางกายภาพได้ถึงขนาดนี้ มันก็ปาเข้าไปตั้งในเลเวล E แล้ว! แต่ในชีวิตนี้ น่าจะเพราะพลังพิเศษดูดกลืนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มันเลยช่วยส่งเสริมให้ร่างกายของฉันทนทานยิ่งกว่าผู้ใช้วรยุทธโบราณในระดับเดียวกัน เหมือนกับว่าได้ฝึกวิชาป้องกันของพวกเส้าหลินเลย!”

 

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ฉินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดไฟลุกโชติช่วงในจิตใจ

 

วูซซซซซ!

 

ทว่าทันใดนั้นเอง เงาดำหนึ่งก็โฉบเข้าโจมตีเขาอย่างกระทันหัน

 

ฉินเฟิงย่ำเท้า ร่างกายพลันกระพริบไหว หลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว

 

ท่ามกลางความมืดมิด เงามืดที่ว่าแทบจะกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ

 

“ที่แท้ก็ซากศพระดับทหาร!”

 

เห็นได้ชัดว่านี่คือตัวตนระดับสูงในหมู่ซากศพ

 

ร่างของทหารซากศพตนนี้ มีขนาดตัวเล็กกว่าซากศพตัวอื่นๆทั้งตัวดำเมี่ยม เนื้อหนังมันแห้งเหี่ยวจนติดกระดูก เมื่อไม่มีเนื้อหนังเน่าเปื่อย ความว่องไวของมันจึงสูงขึ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟิงยังสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ถึงรูนมืดอันเข้มข้นจากอีกฝ่าย

 

-เห็นได้ชัดว่ามันคือซากศพที่กลายพันธ์เป็นนักฆ่าในเงามืด!

 

“การลอบฆ่าของแกเมื่อกี้ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะได้ผล แต่เสียใจด้วยนะ สำหรับฉันแล้วมันไร้ประโยชน์!”

 

ทหารซากศพใช้ความมืดเพื่อปกปิดตนเอง หากเป็นคนอื่นคงไม่มีทางค้นพบมัน แต่ฉินเฟิงเองก็เป็นผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุมืดเช่นกัน ดังนั้นเทคนิคซ่อนตัวนี่จะเล็ดลอดสายตาของเขาไปได้อย่างไร?

 

“จงตายเพื่อฉัน!”

 

ฉินเฟิงโฉบตัวออกไปสังหารอย่างรวดเร็ว

 

ศพแห้งเหี่ยวระดับทหารหลบฉาก ถอยเข้าไปในเงามืด ย้อนกลับมาด้านหลังของฉินเฟิงอีกครั้ง มันคิดว่าฉินเฟิงคงไม่ทราบถึงการกระทำของตนเอง มันยกฝ่ามือเหี่ยวเฉาขึ้น เล็บแหลมคมสีดำสนิทกางออกทันใด

 

ฟิ้ว!

 

กรงเล็บตะปบบลงมา ทว่าผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่ศัตรูคาดคิด อาหารของมันกลับสามารถต่อต้านได้อย่างกระทันหัน

 

เคร้ง!

 

มีดกษัตริย์ครามฟาดสวนเข้าใส่กรงเล็บดำ ทันใดนั้นจู่ๆก็มีแสงระเบิดออกมา

 

“จงสับสะบั้น … !”

 

มีดกษัตริย์ครามในมือของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนเป็นพร่ามัว ความรวดเร็วของมันเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างกระทันหัน หากสังเกตดูดีๆจะคล้ายกับว่ามีใบมีดแยกออกมาเป็นสามทิศทาง

 

สะบั้นสามครั้งซ้อน!

 

-กระบวนท่าวรยุทธได้ปรากฏออกมาแล้ว!

 

ชิ้ง!

 

นิ้วมือที่เหี่ยวเฉาของซากศพระดับทหารถูกตัดขาดทันที ตามต่อด้วยคมมีดกษัตริย์คราม ที่ปักเข้าใส่ลำคอของมันโดยตรง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด