โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 16 การออกแบบ

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 16 การออกแบบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 16 การออกแบบ

“เอาล่ะ เราได้แบบร่างมาแล้ว ฉันจะเริ่มทำบางส่วนเมื่อฉันได้เรียนรู้งานเครื่องหนังก่อน หรืออย่างน้อยก็บางส่วนน่ะนะ อย่างไรเสีย ไปต่อในส่วนที่เธออยากได้กันดีกว่า” ไอเซ็นเปล่งเสียงขณะมองแบบร่างทั้งห้าแผ่นตรงหน้าเขา

หนึ่งในแบบร่างคือชุดทำงาน กางเกงเป็นสีเทาเข้มมีกระเป๋ากางเกงหลายจุด มาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีแดงดำ ถัดไปที่พวกเขาวาดขึ้นนั้นยังคงเป็นแบบร่างพื้นฐานเดียวกันอยู่ แต่สับเปลี่ยนสี ตรงที่เป็นสีแดงจะเติมสีดำ ตรงที่เป็นสีดำจะเติมสีแดง แต่กางเกงยังคงเป็นสีเทาเข้มเช่นเดิม

แบบร่างที่สามรวมถึงเสื้อคลุมหนังที่ทนทานทำจากหนังที่มีความยืดหยุ่นและบาง หนังที่แข็งแรงจะคลุมรอบอกและแผ่นหลัง มีช่องว่างระหว่างกลางเพื่อทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวและอิสระ ส่วนกางเกงยังคงแนวคิดคล้าย ๆ เดิม หนังที่มีความยืดหยุ่นเป็นหลักเช่นเดิม แต่หนังที่หนาจะคลุมรอบเพื่อปกป้องส่วนที่สำคัญที่สุดของร่างกาย

แบบร่างที่สี่เป็นผ้ากันเปื้อนหนังธรรมดาที่มาพร้อมกับกางเกงแบ็กกี้ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากสำหรับงานในโรงตีเหล็กที่อุณหภูมิสูง ๆ หรือในอนาคตที่ไอเซ็นอาจจะตั้งร้านค้าของตัวเอง

ขณะที่สี่ชุดดังกล่าวมาข้างต้นนั้นเหมาะสำหรับทำงานทั้งหมด สามชุดสำหรับพวกงานฝีมือ หนึ่งชุดสำหรับการล่าสัตว์ ชุดสุดท้ายนั้นไม่ได้เป็นชุดสำหรับทำงาน แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่อาจจะไม่มองเช่นนั้น แต่ไอเซ็นเห็น บางทีอาจเป็นเพราะความชราของเขา อาจจะเฉพาะแค่ไอเซ็นคนเดียว แต่เขาก็คิดแล้วว่าชุดนี้เหมาะแก่การใส่ไปไหนมาไหน ชุดสุดท้ายนั้นคือชุดสูทสีดำล้วน มีเสื้อเชิ้ตสีดำข้างใน และไทสีแดง

และนอกเหนือจากความจริงที่ไอเซ็นคิดว่านี่เป็นชุดที่ดูดีทีเดียว เขาจึงยังคงคิดอยู่ว่ามันเท่ห์มากหากใส่เดินไปไหนมาไหนเหมือนกับแบ้ดบอยในชุดสูท

หลังจากมองแบบร่างทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง เขาก็วางลงไว้ด้านข้าง จากนั้นก็หันไปหาบรี “เอาล่ะ ไปทำชุดของเธอกัน อยากได้ชุดแบบไหนล่ะ?”

บรีเงยหน้ามองไอเซ็น “ชุดที่สวย ๆ น่ะค่ะ”

“ฮ่า ๆ ฉันก็คิดแบบนั้นนะบรี เดรสล่ะ เป็นไง?” ไอเซ็นแนะนำ และบรีก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“ใช่แล้ว! เอาเดรสค่ะ! มันต้องสวยมากแน่ ๆ เลย!”

ไอเซ็นหัวเราะและวาดรูปร่างของบรีแล้วลองวาดชุดมาทาบในแบบร่าง เขาตัดสินใจจะให้ความยาวเป็นครึ่งหนึ่งของต้นขาเธอ บริเวณรอบอกจะแน่นพอดี สำหรับเรื่องสี เขาเลือกสีเขียวเข้มเป็นหลักผสมกับสีชมพูเหมือนสีผมของเธอเพื่อเพิ่มรายละเอียดความงามเข้าไป เนื่องจากเฟย์หรือแฟรี่นั้น น่าจะเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้ค่อนข้างมาก ไอเซ็นจึงเลือกวาดดอกไม้สีชมพูบนชุดสีเขียวของเธอ

“ชอบไหม?” เขาหันมาหาบรีและถามเธอด้วยรอยยิ้ม เธอพยักหน้ารับทันทีและยิ้มอย่างสดใส “ใช่! ใช่ แบบนี้เลยค่ะ มันสวยมาก! ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ!”

“ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าเอาเท่านี้ก่อนแล้วกันสำหรับวันนี้ เราต้องกลับโรงแรมแล้ว หรือจะกลับไปที่ที่เธออยู่แทน” ไอเซ็นแนะนำและเก็บข้าวของพร้อมกับกระดาษที่ใช้วาดโครงร่างด้วย

“ฉันก็อยู่ที่โรงแรมเหมือนกันค่ะ พวกเขาให้ที่พักฉันแทนการจ่ายค่าจ้างค่ะ แถมยังได้กินอาหารที่นั่นฟรีด้วยนะคะ! มันดีมากเลยใช่ไหมล่ะ?” เธอเปล่งเสียงและเดินตามไอเซ็นขณะเขากำลังออกจากห้องทำงาน

“ใช่ มันดีมากเลยล่ะ แต่จะอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิตเลยเหรอ? ไม่อยากจะย้ายไปอยู่บ้านของตัวเองมั่งเหรอ?”

“คือฉัน… ค่ะ แต่ก็…” เธอเบือนหน้าหนีและเริ่มขยับนิ้วอย่างช้า ๆ “…ฉันอยากทำบางเรื่องก่อนน่ะค่ะ… อย่างเช่น ตามหาแม่ แล้วก็อีกหลาย ๆ อย่าง…”

ไอเซ็นเริ่มขมวดคิ้วและก้มมองบรี หากเธอไม่รู้จักแม่ของตัวเองเลยจริง ๆ นั่นก็สมเหตุสมผลพอที่จะให้เธอพยายามตามหาแม่

“แล้วทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ? แม่ของเธออยู่ไหนสักที่ไหนเมืองนี้งั้นเหรอ?”

เธอส่ายหน้าและก้มมองพื้นขณะกำลังเดินบนสะพานข้ามถนนเพื่อไปยังโรงแรม “ไม่ค่ะ…ฉันไม่คิดว่าอย่างงั้นนะ ฉันบอกคุณเรื่องที่เป็นเด็กขนของไปแล้วใช่ไหมคะ? พวกเขาอยากจะข้ามเทือกเขา ในวันแรก พวกเขาเจอถ้ำที่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ที่นั่นมีสมบัติเยอะมาก!… แบบ เยอะ มาก ๆ… พวกเขาบอกให้ฉันขนมาให้เยอะเท่าที่ฉันจะแบกไหว แต่ความแข็งแกร่งของฉันไม่เพียงพอที่จะแบกรับความโลภอันหนักอึ้งของพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงขโมยกระเป๋าฉันไปและแบกมันด้วยตัวเอง… พวกเขาจับฉันโยนออกนอกถ้ำ จนเดินทางมาถึงที่นี่ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้างต่อจากนั้น ฉันไม่มีทั้งเงินหรืออาหารหรืออะไรทั้งนั้น แต่จากนั้น ฉันก็พบกับเจ้าของโรงแรมผู้ใจดี เขาบอกฉันว่าจะให้ฉันอยู่แบบฟรี ๆ ถ้าฉันช่วยงานเขาเล็ก ๆ น้อย ๆ”

“เขาเป็นคนดีมากเลยนะ แม้จะดูเป็นคนเงียบ ๆ ก็เถอะ” ไอเซ็นพยักหน้าและเริ่มเกาเคราขณะหลับตาลง

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง พวกเขาต่างเดินไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อกันจนมาถึงโรงแรม

ไอเซ็นและบรีเดินเข้าไปกินข้าวในร้านอาหารพร้อมกัน และบริกรหญิงก็เดินเข้ามา “อ้าวบรี! เป็นยังไงบ้าง? วันนี้ฉันไม่เจอกันเลย!” เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ แต่ไอเซ็นสามารถบอกได้จากประสบการณ์ชีวิตที่มากมาย ว่ารอยยิ้มแบบนี้เป็นอย่างอื่นเสียนอกจากความจริงใจ เช่น มีความเกลียดชังและที่ยังถูกปิดบังไว้อีกด้วย

บรีก้มมองโต๊ะเพื่อเลี่ยงที่จะสบสายตา นี่จึงเป็นพฤติกรรมที่สนับสนุนสิ่งที่ไอเซ็นคิด

“อะ อื้อ ฉันอยู่กับคุณไอเซ็นมาทั้งวันน่ะ…”

“โอ้? ในที่สุดเธอก็ขายตัวเองให้กับตาแก่ผู้เดียวดายแล้วสินะ? แต่ฉันคิดว่าเธอน่าจะชอบนะ” บริกรหญิงเอามือป้องปากแล้วหัวเราะออกมา ขณะมองบรีที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น เมื่อไอเซ็นลุกขึ้นและมองแม่มนุษย์สาว

“นี่ ฟังนะสาวน้อย ฉันจะไปแล้ว ตอนนี้เลย” เขาพูด ขณะก้มมองเธอด้วยหน้าตาที่นิ่งเฉย ซึ่งเป็นสีหน้าเดียวกันกับตอนที่คุยกับเฮนดริก

บริกรหญิงผงะถอยหลังออกไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เริ่มยิ้ม “โอ้? นี่มันอะไรกัน? คุณคงจะแก่แล้วจริง ๆ สินะ แม่นี่ไม่ใช่คนนะคุณตา ไม่ต้องโกรธแทนเธอก็ได้”

“ฉันเตือนเธอแล้วนะสาวน้อย และฉันจะไม่ให้โอกาสเธอเป็นครั้งที่สอง” ไอเซ็นพร่ำบ่น เขายกตัวเธอขึ้นและพาดบ่า โดยไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว

“นะ นี่ จะทำอะไรของคุณน่ะ?! นะ นี่มันทำร้ายร่างกายกันชัด ๆ!” เธอตะโกนลั่นและเริ่มทุบตีที่หลังของเขาเพื่อให้เขาปล่อยเธอลง เขาเดินไปยังแผนกต้อนรับโรงแรมโดยไม่พูดจาใด ๆ และมองเจ้าของโรงแรมที่เพียงถอนหายใจและขมวดคิ้ว

“ธัญญ่า ฉันพูดกับเธอเรื่องที่ดูถูกดูแคลนบรีแล้วใช่ไหม?”

“อะ อะไรนะคะ? คุณไม่ช่วยฉันเลยเหรอ?!” เธอตะโกนขณะที่ไอเซ็นค่อย ๆ วางเธอลง ใบหน้าของเธอแดงก่ำ เจ้าของโรงแรมกอดอกและพยักหน้า “เออน่ะสิ นี่ ธัญญ่า ไปเปลี่ยนชุดหลังร้านไป เธอไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีกต่อไปแล้ว”

“ดะ เดี๋ยวก่อนสิคะ คุณหมายความว่ายังไง?! เพราะนังนี่น่ะเหรอ? คนก็ไม่ใช่ ทำไมถึง…”

“ก็ได้ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เจ้าของโรงแรมพูดแทรก และเด็กสาวก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจราวกับว่าเธอกำลังจะพูดดูถูกบรีอีกครั้ง แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูด เขาก็เริ่มพูดต่อ “ไสหัวออกไปจากที่นี่เสีย แล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก เดี๋ยวนี้ ได้ยินไหม?!”

เจ้าของโรงแรมพูดด้วยโทสะ เมื่อเห็นว่าเขาจริงจัง ธัญญ่าก็เดินจ๋อยไปที่ประตู ใบหน้าของเธอแดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศ

ไอเซ็นยิ้มและหันกลับมามองเจ้าของโรงแรม “ขอโทษด้วยที่สร้างปัญหานะ ทั้งตอนนี้แล้วก็เรื่องเมื่อเช้าด้วย”

เจ้าของโรงแรมส่ายหน้า เขาเผยให้เห็นรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวบนใบหน้า “ไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นหรอกหน่า! แม่ธัญญ่าน่ะ ยังไงเสีย ฉันก็ต้องไล่เธอออกอยู่ดี บังเอิญว่านายแค่มอบโอกาสที่จะไล่เธอออกมาให้ฉันพอดีก็เท่านั้นเอง เธอเป็นเด็กหยิ่งยโส มักคอยดูถูกดูแคลนลูกค้าที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่ตลอด ซึ่งลูกค้าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเราก็หนีไม่พ้นเมืองคนแคระนี่หรอกนะ”

“ถ้านายว่าอย่างงั้น ฉันก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรจริง ๆ ล่ะนะ ฮ่า ๆ แต่ต้องขอตัวกลับไปหาบรีก่อนล่ะ” ไอเซ็นหัวเราะเบา ๆ และกลับไปยังร้านอาหาร

หลังจากนั้นไอเซ็นและบรีต่างก็แลกเปลี่ยนบทสนทนาสนุก ๆ ซึ่งกันและกันขณะกินข้าว และไอเซ็นก็ได้รู้สิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติมมากมายที่เกี่ยวกับบรี

เธอเกิดจากพ่อที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ตกหลุมรักกับพิกซี่แม่ของบรี ผู้ที่เป็นเฟย์แต่กำเนิด ไอเซ็นไม่ได้สนใจที่จะถามว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เขาเพียงยิ้มกับความคิดของคนสองคนที่ทำให้ความแตกต่างทางวัฒนธรรมนี้ไปด้วยกันได้ แท้จริงแล้ว มันสะกิดให้เขานึกถึงภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเขาไปเจอเธอระหว่างใช้เวลาอยู่ที่ญี่ปุ่น

พ่อของบรีเสียชีวิตลงตั้งแต่เธอยังไม่ได้ครบสิบขวบดี ปล่อยให้เธอเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เกลียดชังการมีอยู่ของเผ่าพันธุ์เธอตามลำพัง เธอดิ้นรนอย่างหนัก หางานเล็ก ๆ ทำที่นี่บ้าง ที่นู่นบ้างเพื่อหาเงินมาซื้อข้าวขณะอาศัยอยู่ข้างถนนที่บ้านเกิด จนกระทั่งพบว่าตัวเองนั้นเก่งด้านเวทมนต์สนับสนุนและมีปริมาณมานาเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อเธอกลายมาเป็นนักผจญภัยก็ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ด้วยการที่มีเวทมนต์สนับสนุนนี้จึงทำให้เธอสามารถเรียนรู้คาถาต่าง ๆ ได้ เช่น ‘การทำให้ของมีน้ำหนักเบา’ ซึ่งก็ตามชื่อ เธอรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ มาไว้ด้วยกันจากนั้นก็ทำให้ของกองใหญ่นั้นมีน้ำหนักเบาได้แบบทันตา

และด้วยการที่รวบรวมของมากขึ้น ๆ จึงทำให้อันดับของเธอเพิ่มขึ้นและกลายเป็นที่สนใจของบรรดาสมาคมอันดับสูง ๆ ในพื้นที่ จนถูกดึงตัวเข้าไปใบฐานะเด็กขนของ เพื่อนำของที่พวกเขาปล้นมาได้จำนวนมากมารวมกันในบางครั้งแล้วส่งต่อให้กิลด์เพื่อขาย แต่เธอถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ ล่อ เท่านั้น และไม่ใช่สำหรับเวทมนต์สนับสนุนของเธอ สมาคมส่วนใหญ่มีพระหรือหมอผี และบรีมักจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังเสมอ ๆ เมื่อสมาคมรวบรวมเงินได้มากพอที่จะซื้อพื้นที่สำหรับเก็บสิ่งของได้ เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องแบ่งเงินที่ได้จากภารกิจให้ใครเพิ่มอีกคน

หลังจากวงจรอุบาทว์นี้ยังคงหมุนเวียนวนต่อไปอีกหลายปี เธอก็เลือกที่จะมีตำแหน่งที่สูงขึ้นชั่วคราวในสมาคม จึงได้ออกไปทำภารกิจที่พวกเขาหมายจะปล้นสะดมจำนวนมาก ๆ จากนั้นเธอก็ถูกจ้างโดยสมาคมหนึ่งจากการที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเขตบ้านเกิดของเธอเอง ซึ่งภายหลังสมาคมนั้นก็ได้ทอดทิ้งเธอในที่สุด

และตอนนี้ เธอใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพูดคุยกับผู้คนที่จะเจอได้ในโรงแรม โดยหวังว่านักผจญภัยจะบังเอิญเจอเธอแล้วช่วยให้เธอกลับไปเมืองใหญ่ได้อีกครั้ง

เขาได้ยินเรื่องราว และไอเซ็นก็พิงพนักเก้าอี้ เกาเคราและหลับตาลง “แล้วฉันจะช่วยเธอได้ยังไงบ้าง? ต้องรออย่างน้อยก็เดือนหนึ่งเลยนะ เพราะฉันมีธุระบางอย่างไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ที่ต้องไปทำ แต่หลังจากนั้น ฉันจะออกเดินทาง เราร่วมมือกันได้นะ การมีการสนับสนุนของเธอก็ดูจะเป็นประโยชน์มากเลยนะในตอนต่อสู้ อย่างตอนนั้นที่เธอช่วยฉันตอนที่เราอยู่ในโรงตีเหล็กนั่น”

“คุ คุณต้องการความช่วยเหลือจากฉันจริง ๆ เหรอคะ?”

“ก็แหงน่ะสิ!” เขาหัวเราะเสียงดังและมองเด็กสาวที่กำลังน้ำตาคลอเบ้าตรงหน้า

“อีกเดือนหนึ่งเลยเหรอคะ? ฉันช่วยคุณเร็วกว่านั้นได้ไหม? มันสนุกมากเลยที่ดูคุณทำงาน!”

“ได้สิ! งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ?” ไอเซ็นถามและยิ้ม เมื่อบรีพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เขาก็โบกมือเรียกบริกรเพื่อคิดเงิน และจากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินกลับห้องเพื่อฝึกซ้อมการจัดการมานาอีกหน่อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด