โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 19 คืนสู่เหย้า

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 19 คืนสู่เหย้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 19 คืนสู่เหย้า

ไอเซ็นเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และถอนหายใจออกมาเสียงดัง “เสร็จแล้ว!” เขายิ้มและพับกางเกงวางทับไว้บนเสื้อเชิ้ตสีแดงดำ

บรีเงยหน้ามองไอเซ็นและเอียงหัวด้วยความสงสัย “คุณจะเริ่มทำชุดถัดไปเลยหรือเปล่าคะ?”

“คิดว่าไม่แล้วนะ ฉันอยากลองสร้างอะไรสักอย่างด้วยมือมานาน่ะ จำได้ไหม? อยากจะรู้ว่ามันจะมีอิทธิพลยังไงต่อสิ่งของและจะได้ชำนาญขึ้นด้วย”

“โอ้จริงสิ! เอาเลยค่ะ ฉันเองก็อยากเห็นคุณสร้างของพวกนั้น!” บรีตอบกลับอย่างตื่นเต้นและได้รับรอยยิ้มอันอ่อนโยนของไอเซ็นเป็นการตอบแทน “ได้สิ!”

ไอเซ็นหลับตาลงและเริ่มบีบอัดมานา หลังจากที่ทำให้เป็นทรงกลม เขาก็ค่อย ๆ แบ่งมันเป็นสองซีก แล้วเคลื่อนซีกหนึ่งไปที่แขนขวา ส่วนอีกอันไปที่แขนซ้าย เขาให้มานากระจายไปทั่วมือทั้งสองข้าง และไม่ช้าไอเซ็นก็สังเกตเห็นว่าเขาออกจากการเพ่งสมาธิได้เนื่องจากเปิดใช้งานทักษะมือมานาแล้ว

ตรงหน้าไอเซ็น มีสิ่งที่ลักษณะคล้ายก้อนหิมะสองก้อนกำลังลอยอยู่บนมือ มีแสงประกายออกมาโดยรอย

“โอ้! มันสวยมาก!” บรีพึมพำออกมาจึงทำให้ไอเซ็นนั้นหัวเราะเบา ๆ

ไอเซ็นสูดหายใจลึกและหลับตาลง จากนั้นก็ยืนขึ้นและก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อเพิ่มระยะห่างจากมือของตัวเอง

ไอเซ็นค่อย ๆ เคลื่อนมือมานาข้างขวาไปยังมีดเอนกประสงค์และหยิบขึ้นมาอย่างช้า ๆ ส่วนอีกข้างเขาเคลื่อนไปหยิบแบบของกระเป๋าสตางค์และกดลงบนผ้าฝ้ายสีแดงที่ยังวางอยู่บนโต๊ะลัดเป็นรูปหยดน้ำสองชิ้น

ถัดไป ไอเซ็นหยิบปลายด้ายที่ยังเหลืออยู่ ร้อยเข้ากับรูเข็มก่อนที่จะมัดเงื่อนเพื่อไม่ให้ด้ายเลื่อนหลุด จนกระทั่งถึงตอนนี้ ไอเซ็นได้เตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้วเช่นปกติ แต่การมัดเงื่อนด้ายนั้นเป็นอะไรที่ยากกว่าไอเซ็นคิดไว้เสียอีก จนมัดได้ในที่สุดแต่ต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง

“นี่อาจจะยากที่ฉันคิดเอาไว้เสียอีกนะ… ฉันไม่มั่นใจว่ามือมานานี่นะคล่องแคล่วพอที่จะเย็บกระเป๋าสตางค์ได้หรือเปล่า… หรือบางที…” จู่ ๆ ไอเซ็นก็คิดบางอย่างออก แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่

เขาเพ่งสมาธิเพื่อเปิดใช้งานทักษะติดตัว หัตถ์คนแคระ ซึ่งนั่นทำให้เขาเห็นและรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงกับมือมานาทันที ที่ชัด ๆ เลยก็คือบางสิ่งที่คล้ายกับด้ายมานาเกิดขึ้นระหว่างมือจริง ๆ และมือมานา

ไอเซ็นรู้สึกว่าหลังจากเกิดสิ่งนี้ขึ้น มานาของเขาค่อย ๆ หายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเขาได้เติมพลังการเคลื่อนไหวให้กับมือมานาคู่นี้

เมื่อเขาขยับมืออีกครั้ง จึงได้เห็นว่ามือมานานั้นได้ขยับตามทันที ด้วยรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏบนใบหน้า ไอเซ็นเริ่มเย็บผ้าฝ้ายรูปหยดน้ำสองชิ้นเข้าด้วยกันก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ได้ทำ เมื่อพิจารณาจากได้ลองใช้มือมานาทำแบบเดียวกับที่ใช้มือจริง ๆ ทำ พบว่ามันยากกว่าที่ใครคนหนึ่งจะคาดคิดไว้มาก แต่ขณะที่มือจำลองนั้นทำเช่นเดียวกับที่มือเขาทำ ก็ได้เห็นความแตกต่างที่เด่นชัดอย่างหนึ่ง

เขากลับไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทำอยู่ ไม่รู้สึกถึงเข็มโลหะเย็น ๆ หรือแม้แต่ผ้าฝ้ายที่อยู่บนนิ้ว นี่เป็นรายละเอียดที่สำคัญ และเนื่องจากไอเซ็นเคยมีความรู้สึกพวกนี้มาตลอดทั้งชีวิต มันจึงเป็นการยากที่จู่ ๆ จะให้เขาสร้างสิ่งต่าง ๆ โดยที่ไม่ได้จับหรือสัมผัสมันเลย

อย่างไรก็ตามเนื่องจากนี่ไม่ใช่อุปสรรคที่ยากเกินจะเอาชนะ ไอเซ็นยังคงทำกระเป๋าสตางค์ต่อจนเสร็จภายในครึ่งชั่วโมงที่เขามีอยู่

[คุณสร้างกระเป๋าสตางค์สีแดงทั่วไปกระเป๋าสตางค์สีแดงทั่วไปสำเร็จ]
[กระเป๋าสตางค์สีแดงทั่วไป]
[คุณภาพ – สูง] [อันดับ – 1]
[คำอธิบาย]
กระเป๋าสตางค์สีแดงทั่วไปที่สร้างด้วยความหมายพิเศษ เช่นเดียวกับที่สร้างขึ้นมาด้วยมือที่มาจากมานาอันบริสุทธิ์ ลำพังการกระทำนี้เพียงอย่างเดียวนำมาซึ่งการควบคุมจำนวนมหาศาล

“รับไปสิ! ไม่ใช่เดรสหรอกนะ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลยเนาะ”

ดวงตาของบรีเบิกโพลงขณะหยิบกระเป๋าสตางค์มาไว้ในมือ “จะ จริงเหรอคะ? ขอบคุณไอเซ็นมากนะคะ”

“ไม่เป็นอะไรหรอกบรี วันนี้พอเท่านี้ดีกว่า กลับโรงแรมกันเถอะ เพราะใช้มานาไปเยอะฉันเลยรู้สึกเพลีย ๆ น่ะ”

แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงข้ออ้าง ไอเซ็นอยากกลับโรงแรมให้ไวที่สุดเพื่อที่เขาจะสามารถออกจากระบบเกมได้สักสองสามชั่วโมงเพื่อหาอะไรกินหรืออาบน้ำ และบางทีเมโลดี้อาจจะโทรหาเขาอีกครั้งก็ได้ และต้องไปรับมือกับการทำให้อารมณ์ลูกสาวของเขาเย็นลง มันคงเป็นความคิดที่ดีเช่นกันหากได้โทรไปหา โทนี่ หรือ นัทสึโอะ ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง

หลังจากจัดเก็บของบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ไอเซ็นก็หยิบกางเกงและเสื้อเชิ้ตตัวใหม่รวมถึงตัวเก่าด้วย และสะพายกระเป๋าเป้ที่พาดอยู่บนบ่า ก่อนที่ไอเซ็นและบรีจะออกจากห้องทำงาน เมื่อฟลอเมียร่าห์หันมาตามเสียงของประตูที่เปิดกว้าง เธอก็หรี่ตามองและเอนกายมาข้างหน้าเล็กน้อย

“ตอนเข้ามาใส่เสื้ออีกตัวไม่ใช่เหรอ?” เธอถามพร้อมทั้งมองเสื้อเชิ้ตไอเซ็นอย่างละเอียด เขาหัวเราะและเกาเคราขณะตอบกลับ “อ่า ใช่ ก็อย่างที่บอกไงว่าวันนี้ฉันจะตัดเสื้อผ้า พรุ่งนี้ก็ด้วย และวันมะรืนก็ด้วยเช่นกัน ฮ่า ๆ”

เขายกเสื้อเชิ้ตสีแดงดำขึ้นมาให้ฟลอเมียร่าห์ดู เธอดึงไปชมอย่างมีความสุข ดวงตาโต ๆ ของเธอกำลังสำรวจเสื้อเชิ้ตของไอเซ็นทั้งหน้าและหลังซ้ำไปมา ก่อนที่จะเริ่มพูดติด ๆ ขัด ๆ ออกมา

“นะ นี่มันอะไรกัน? อะ… อันดับทักษะของคุณ อย่าบอกนะว่ายังอยู่แค่อันดับหนึ่ง… เด็นเมียร์บอกว่าคุณเลื่อนอันดับทักษะช่างตีเหล็ก แต่กับทักษะงานตัดเย็บก็เกิดขึ้นแบบเดียวกันอีก… มะ ไม่อยากจะเชื่อ ฉันขอให้คุณมาเป็นช่างตัดเสื้อได้ไหม?”

[[มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนอาชีพของคุณเป็น ช่างตัดเสื้อ คุณจะรับหรือไม่?]

ไอเซ็นอ่านการแจ้งเตือนอย่างละเอียดก่อนจะส่ายหน้า “ขอโทษนะ ฉันไม่แน่ใจว่าเด็นเมียร์บอกเธอแล้วหรือยัง แต่ฉันยังไม่ต้องการตัดสินใจเลือกตอนนี้น่ะ”

“ฉันเข้าใจนะ… แต่ถ้าคุณเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ตัวเลือกรอคุณอยู่เสมอ! แค่มาหาฉันแล้วฉันจะมอบอาชีพนี้ให้คุณทันที!”

“ขอบคุณนะฟลอเมียร่าห์ งั้นเจอกันวันพรุ่งนี้นะ”

เมื่อยิ้ม ไอเซ็นก็ออกจากร้านไปพร้อมกับบรีที่เดินตามมาข้างหลัง ทั้งคู่ตรงไปยังโรงแรม กินดินเนอร์ด้วยกัน และบอกราตรีสวัสดิ์กันก่อนที่ไอเซ็นจะจ่ายค่าห้องสำหรับอีกหนึ่งคืน

เขาเดินผ่านประตูห้องและวางข้าวของลงทันที ถอดเสื้อผ้าก่อนที่จะทอดกายลงบนเตียง

 

* * * * *

 

“โอ๊ยยย… ให้ตายสิ… ไอ้แก่เบนเอ้ยยย…” เบนจามินโอดครวญขณะลุกออกจากแคปซูล เอามือกุมหลังไว้ขณะเดินกระเผลกไปยังห้อง ตลอดทางที่เดินไปยังครัวเพื่อทำอาหารก็มีเสียงข้อต่อลั่นเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาหารที่เขาทำก็แค่ขนมปังเนย ช่วงที่ผ่านมานี้เขาเองก็ไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไหร่ แถมเวลาที่ใช้ส่วนใหญ่ก็หมดไปกับเกมด้วย

หลังจากกินมื้อเช้าเบา ๆ เสร็จ เขาก็เดินไปที่โทรศัพท์และนั่งลงบนโซฟา

“ไงครับพ่อ! เป็นยังไงบ้าง?… เคธี่ อย่าแกล้งพี่สิลูก กินวาฟเฟิลในมือนั่นด้วย!… โทษทีครับ ผมเครียด ๆ นิดหน่อย อะไรเนี่ย? เคธี่ พ่อบอกว่าอย่าแกล้งน้องไง! ไม่ หยุด หยุด อย่ากัดพี่!” โทนี่ คือลูกชายคนเล็กของเบนจามิน เขาเป็นคนแรกที่ได้รับการโทรหา เขาดูทั้งเหนื่อยและรู้สึกรำคาญ เขาตะโกนใส่ลูกสาวคนเล็กขณะคุยโทรศัพท์กับพ่อของตัวเองอยู่

เบนจามินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ออกมา “ยุ่งอยู่หรือเปล่า? ถ้ายุ่งอยู่ก็เอาไว้คุยกันคราวหลังก็ได้ แค่โทรมาคุยอะไรด้วยนิดหน่อยเท่านั้น”

“ไม่ครับ ไม่เป็นอะไร พ่อเป็นยังไงบ้าง? เบนจี้เอาแต่บอกให้ผมไปถามว่าเกมนั่นมันคืออะไร เกมอะไรนะครับ? โลกแห่ง… อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ใช่ไหม?”

“ใช่ลูก โลกแห่งเวทมนต์ สนุกมากเลยนะ แกก็รู้ว่าพ่อ…”

“พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เคธี่! ถ้าลูกไม่ยอมหยุดกันพี่ฌอห์น พ่อจะไปเกียมไม้เรียวแล้วนะ! โทษครับพ่อ เมื่อกี้พ่อพูดว่าอะไรนะ?” โทนี่กล่าวขอโทษขณะพยายามทำให้ลูก ๆ อยู่ในความสงบ “ไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ? ถ้ามีเวลาก็พาหลาน ๆ มาเยี่ยมปู่มันบ้างนะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว”

เบนจามินแนะนำ ทั้งเป็นห่วงลูกชายด้วย เจนนิเฟอร์ ภรรยาของโทนี่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ และเบนจามินก็รู้ดีว่าความรู้สึกของการที่ต้องเลี้ยงลูกสามคนด้วยตัวเองนั้นเป็นอย่างไร

“…ขอบคุณครับพ่อ ว่างจากงานผมจะไปหานะ ผมไม่เงินค่า…”

“โทนี่ พ่อบอกแกเป็นล้านครั้งแล้วไง ว่าถ้าต้องการเงิน พ่อจะให้ยืม เงินไม่จำเป็นสำหรับพ่อแล้ว! ฉันแก่แล้ว บ้านก็ไม่ต้องเช่า ค่าผ้าอ้อมก็ไม่ได้แพงอย่างแต่ก่อนแล้วด้วย” เบนจามินเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อรอคำตอบที่เขาอยากได้ยิน และเมื่อในที่สุดโทนี่หัวเราะออกมา เบนจามินก็นิ่งสงบอีกครั้ง

“ขอบคุณนะครับพ่อ ผมนี่ไม่เคยทันมุกของพ่อเลยจริง ๆ ผมจะดูวันที่ไปหาได้ในเดือนหน้านะครับ เดี๋ยวผมโทรหาพี่นัทสึโอะเอง ผมอยากคุยกับพี่ด้วย เมื่อวานพี่เมโลดี้ก็โทรมาหาผมอยู่บ้างครับ และ…”

“…นี่แกบ้าไปแล้วเหรอ? ใช่ ผมรู้ พี่เขาโทรหาผมเพื่อจะได้รู้ว่าผมยังได้ยินอยู่หรือเปล่า เอาล่ะ ผมต้องไปจริง ๆ แล้วก่อนที่เคธี่จะกลายเป็นมนุษย์กินคนไปจริง รักพ่อนะ”

“รักแกเหมือนกันไอ้ลูกชาย” เบนจามินยิ้ม เขามีความสุขที่ได้ช่วยลูกชายเล็กน้อยในช่วงเวลาที่เขานั้นยากลำบาก ต่อมา เขาโทรไปหา นัทสึโอะ ลูกชายคนโต

“อรุณสวัสดิ์ นัทสึโอะ เป็นยังไงบ้าง?” เขาถาม เขาตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงของลูกชายอีกคน ขณะที่เมโลดี้เลือกเป็นครู และโทนี่เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ ส่วนนัทสึโอะได้ทำตามพ่อของเขาและเลือกที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เขาเป็นวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้วยหุ่นยนต์และตามทันโลกเพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจ ซึ่งเบนจามินก็ชอบที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีเมื่อได้คุยกับลูกชายคนนี้

“อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ! ผมกำลังจะโทรหาอยู่พอดีเลย! เมื่อวานเมโลดี้เป็นบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ผมรู้ว่าพ่อเล่นเกมอยู่ ผมก็เลยไม่ได้เป็นห่วงอะไรมาก ซึ่งมันก็เตือนให้ผมไม่ลืมที่จะถามพ่อว่าเกมมันเป็นยังไงบ้าง! เพื่อนร่วมงานผมบางคนเขาพูดกันว่า นี่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวงที่จะดึงเอาเงินวิจัยจากพวกคนรวยมาใช้ ถ้าเทคโนโลยีนี้ใช้งานได้จริง พ่อต้องคิดไม่ถึงแน่ ว่านี่มันมีความหมายยังไงบ้าง! ลองคิดดูสิว่าแขนขาเทียมที่ใส่ให้คนไข้น่ะเหมือนจริงจนแยกไม่ออก! คนตาบอดได้กลับมามองเห็นอีกครั้งโดยให้ดวงตาเทียมแก่พวกเขา!”

“ฮ่า ๆ พ่อดีใจนะที่ลูกกระตือรือร้นเรื่องนี้ ถ้าเกมนี้เปิดออกสู่สาธารณะเมื่อไหร่ก็อย่าลืมเล่นล่ะ” เบนจามินขำ และได้รับคำตอบกลับมาจากนัทสึโอะทันที “ครับ! ต้องเล่นแน่นอน! พ่ออย่าลืมสอนผมเล่นด้วยล่ะ ฮ่า ๆ!” เขาหัวเราะออกมาและเบนจามินก็ยิ้ม

“ว่าแต่ ช่วงนี้มีงานอะไรใหญ่ ๆ ไหม? เพราะพ่อกับ โทนี่น้องแก เราเพิ่งคุยกันเมื่อกี้นี้ และเราเห็นตรงกันว่าคงดีหากมาเยี่ยมพ่อพร้อมกับหลานสักพักหนึ่ง น้องบอกว่าลูกจะมาได้ กลับมารวมตัวครอบครัวกันหน่อย” เบนจามินอธิบายถึงสถานการณ์อย่างช้า ๆ และนัทสึโอะก็ตอบตกลงทันที

“ได้สิครับพ่อ! ผมเองก็ไม่ได้เจอโทนี่กับเมโลดี้นานแล้วด้วย! และผมมั่นใจว่าโรล่ากับไลล่าต้องมีความสุขแน่ที่จะได้เจอพี่น้องคนอื่น ๆ! คริสตี้คงดีใจที่เธอจะได้ไปพักผ่อนด้วย ได้วันที่ลงตัวหรือยังครับ?”

“ยังเลย ไว้พ่อจะบอกนะ ไหน ๆ ก็พูดถึงคริสตี้ ฝากคำทักทายจากพ่อถึงเธอด้วย”

“ได้ครับ! แต่ต้องขอโทษด้วยนะครับพ่อ ผมต้องไปแล้ว! เพื่อนร่วมงานเรียกตัว ไว้คุยกันใหม่นะครับ รักพ่อนะ!”

“รักแกเหมือนกัน นัทสึโอะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด