โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 3 โลกใบใหม่กับร่างกายใหม่

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 3 โลกใบใหม่กับร่างกายใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 โลกใบใหม่กับร่างกายใหม่

“เอาล่ะโรเวอร์ เกมใกล้จะพร้อมแล้วใช่ไหม?” เบนจามินถามขณะนั่งอยู่ริมทะเลสาบในเดสก์ท็อปโหมดขว้างก้อนหินลงน้ำ ขณะที่เขาเอ่ยชื่อโรเวอร์ ลูกแก้วเล็ก ๆ ก็ปรากฏต่อหน้าชายชรา

“ครับ ถูกต้องแล้ว! จะเปิดให้เล่นในอีกประมาณสิบสี่วินาที! ทันทีที่แอปพลิเคชันพร้อม คุณต้องการเริ่มใช้งานทันทีเลยหรือไม่?” เขาถามด้วยน้ำเสียงของหุ่นยนต์ที่ร่าเริง เบนจามินพยักหน้าและลุกขึ้นปัดทรายที่กางเกงตามสัญชาตญาณ “ได้เลย! ชักอยากจะเห็นแล้วว่าโลกใบเล็ก ๆ นี้จะดูเหมือนจริงแค่ไหน ฉันแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าโลกของเกมจะเป็นอย่างไร ฮ่า ๆ”

เบนจามินหลับตา เอามือลูบเคราและหัวเราะเบา ๆ ขณะนึกภาพความเป็นไปได้ที่กำลังใกล้เข้ามา

“แอปพลิเคชันเปิดตัวแล้ว ขอให้เล่นอย่างมีความสุขครับเบนจามิน!”

โดยไม่มีโอกาสให้เขาได้โต้ตอบ สภาพแวดล้อมโดยรอยแบนจามินพลันเปลี่ยนไปทันที ทะเลสาบและป่ารอบ ๆ จางหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ และเขาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางพื้นที่สีขาวเหมือนกับครั้งแรกที่เข้าสู่เดสก์ท็อปโหมด

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือข้างหลังเขา มีประตูไม้บานหนึ่งตั้งอยู่ ซึ่งข้างหลังประตูบานนั้นก็มีแค่ความว่างเปล่าเช่นโดยรอบ ประหลาดใจแต่เมื่อคิดว่าคงมีเหตุผลที่ประตูตั้งอยู่ตรงนั้น เบนจามินจึงเดินไปใกล้ ๆ และจับลูกบิด

เขาดึงประตู ภายในพื้นที่ด้านหลังประตูมีห้องว่างเปล่าที่ทำจากหินอ่อน เถาองุ่นเลื้อยข้ามเสาที่ล้อมรอบด้วยโต๊ะเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง เมื่อเบนจามินก้าวข้ามผ่านเข้าไป ประตูก็ปิดเองทันทีและหายไป ตรงข้ามห้องเขามองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่ระเบียง ด้านหลังของเธอมีท้องฟ้าสดใสเป็นฉากหลัง

ผมสีบลอนด์สว่างของเธอพลิ้วไหวไปตามลมเป็นลูกคลื่นและตามมาด้วยชุดเดรสสีขาวที่พลิ้วไหวบนอากาศรอบ ๆ ตัวเธอ

หญิงคนนั้นกำลังเหม่อมองไกลออกไป และทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิด เธอหันมาและเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในอาณาเขตของเธอ

ดวงตาของเธอเริ่มทอประกายพร้อมกับวิ่งมาหาเขาด้วยความตื่นเต้น “คุณคือเบนจามินจ๊อยซ์ใช่ไหมคะ?!” เธอตะโกนลั่นและจับมือเขา ความประทับใจแรกของเบนจามินที่มีต่อเธอพลันหายไปเมื่อเขามองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้

ด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ และพฤติกรรมของเธอ เขาจึงเริ่มลูบเคราด้วยมืออีกข้างหนึ่ง “ฉันเอง แม่สาวน้อย ฮืม เธอเป็นใครกัน?” เขาถามด้วยความสงสัย หรือจะเป็นผู้เล่นอีกคน?

“เอ๋อ! ขอโทษค่ะ! ฉันตื่นเต้นมากหลังจากที่ป๊ะป๋าเล่าเรื่องคุณให้ฟัง…และเมื่อป๊ะป๋าบอกว่าคุณกำลังจะมาที่นี่ ฉันเองก็ตื่นเต้นมากจนแทบจะรอไม่ไหว! แต่ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!” เธอตะโกนและเหยียดแขนออกไปด้านข้างเพื่อหมุนไปรอบ ๆ จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้สามารถรับรู้ถึงความเป็นผู้ใหญ่จากเธอได้ แต่พลันหายไปทันทีคงไว้ซึ่งความเป็นเด็กดังภาพที่เห็น แต่เบนจามินก็ไม่ได้ถือสา เขาเพียงแต่สงสัยว่าเด็กสาวผู้นี้คือใคร!

ขณะที่เขากำลังจะถามเธออีกครั้ง เธอก็หันมาพร้อมรอยยิ้ม “ฉันชื่อ เอริ ค่ะ! ฉันคือปัญญาประดิษฐ์ที่ควบคุมดูแลโลกใบนี้!”

เบนจามินทึ่งเมื่อเขาได้ยินท้ายประโยคที่เด็กสาวกล่าวถึง ไม่มีทางว่านี่คือเอไอ(ปัญญาประดิษฐ์)! ต้องมีใครแกล้งเขาเล่นแน่ ๆ!

“เอ่อ…เธอคือปัญญาประดิษฐ์งั้นเหรอ? ไม่ใช่หนึ่งในพวกนักพัฒนาใช่ไหม?”

“อะไรนะคะ? ไร้สาระหน่า! จะพูดอย่างไรดีล่ะ ฉันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยจัดการโลกใบนี้ค่ะ! ที่คุณเห็นอยู่นี่แหละ โลกแห่งเวทมนต์ ทำงานหนักเหมือนโลกเดียวกับคุณข้างนอกนั่นเลย! ผู้คนที่นี่ทำตัวเหมือน… จริงสิ ผู้คน! ฉันก็ไม่รู้จักตัวเองหรอกค่ะ แต่ป๊ะป๋าบอกฉันว่าเกมส่วนใหญ่ ผู้คน หรือที่เรียกกันว่าเอ็นพีซีเนี่ยไม่สามารถคิดเองได้ แต่ไม่ใช่สำหรับที่นี่! ที่นี่พวกเขาคิดเป็น รักเป็น และเกลียดเป็น!” เอริอธิบายอย่างมีความสุข เธอเอามือไพล่หลัง พยายามคิดว่าเบนจามินจะแสดงสีหน้าตลก ๆ อะไรออกมาให้เธอดู

“ว้าว…นี่มันบ้าไปแล้ว! ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีอะไรแบบนี้ด้วย! ชักอดใจรอไม่ไหวแล้วสิ!” เบนจามินพูดอย่างตื่นเต้นและมองไปรอบ ๆ เพื่อหาประตู เมื่อเห็นอากัปกิริยาของเบนจามิน เอริก็เอามือป้องปากและหัวเราะคิกคักเบา ๆ “ฉันมีความสุขมากที่คุณตื่นเต้น! แต่ก่อนอื่น มีบางสิ่งที่เราต้องผ่านไปให้ได้ก่อนค่ะ!”

เอริเดินมายังโต๊ะกลางห้องและนั่งลง ชี้ให้เบนจามินนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัว เขาทำตามที่เธอบอกและนั่งลง เอริเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

“อย่างแรก ก่อนที่เราจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการใด ๆ ต่อไป คุณต้องยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการของไพร์มอิดัสทรีเสียก่อน!” เธอถอนหายใจเล็กน้อยกับช่วงที่น่าเบื่อนี้ เอริหยิบสัญญาขึ้นมาจากด้านล่างโต๊ะและยื่นมันให้เบนจามินพร้อมปากกา

“เข้าใจแล้ว ฉันต้องเซ็นชื่อก่อนถูกไหม?” เบนจามินเห็นด้วยกับส่วนที่ออกจะน่าเบื่อนี้ เขากวาดสายตาผ่านสัญญาอย่างรวดเร็วและเซ็นชื่อที่ด้านล่าง

เมื่อเซ็นเรียบร้อย เบนจามินก็ต้องประหลาดใจเพราะสัญญาตรงหน้าเขา จู่ ๆ ก็ติดไฟและหายวับไปจากโต๊ะ

เอริสูดหายเข้าลึกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพล่ามยาวนานคนเดียว “กฎข้อแรก! การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยทั่วไปเช่นการลักขโมยหรือการฆาตกรรมได้รับอนุญาตในโลกแห่งเวทมนต์ ห้ามการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้เล่น! ซึ่งหมายรวมถึงการทรมานหรือการกระทำทางเพศที่ไม่ยินยอม เช่น การ*** กฎข้อที่สอง! ห้ามความพยายามใด ๆ ที่จะเข้ายึดครองบัญชีหรือแคปซูลของผู้เล่นคนอื่นผ่านการเชื่อมต่อระยะไกลเช่นการแฮ็กที่ผิดต่อกฎหมาย! กฎข้อที่สาม! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้บอกเอ็นพีซีในโลกแห่งนี้ว่าพวกเขาอยู่ในเกม! ฉันอาจจะพอทราบเรื่องนี้ แต่ผู้คนปกติที่อาศัยอยู่ที่นี่นั้นไม่ทราบ! เราต้องการให้โลกใบนี้ดำเนินไปเหมือนจริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นการบอกผู้คนว่าชีวิตของพวกเขาไม่มีจริงนั้นไม่ช่วยอะไร หากฝ่าฝืนกฎใด ๆ ก็ตาม บัญชีของคุณจะถูกล็อคจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและอาจถูกอุทธรณ์ตามการดำเนินการทางกฎหมายขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่ฝ่าฝืนกฎ” เอริจบการบรรยายและพยายามหอบหายใจเข้าอย่างรวดเร็ว

เห็นได้ชัดว่าเบนจามินเข้าใจกฎสองข้อแรกทันที *** และทรมานนั้นเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ มันสมเหตุสมผลที่จะห้ามมิให้ครอบครองสิ่งของของผู้อื่นในความเป็นจริงซึ่งผิดต่อกฎหมาย สิ่งของที่ว่าก็คือบัญชีและแคปซูล เขายังสับสนอยู่เล็กน้อยกับกฎข้อสุดท้าย “มันหมายความว่าอย่างไร ที่ว่าห้ามไม่ให้พูดบอกสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในโลกนี้ว่านี่เป็นแค่เกม?” เขาถามพลางลูบเคราไปด้วย

เอริเพียงพยักหน้าและเริ่มอธิบายว่า “มีบางส่วนที่เอ็นพีซีรู้เนื่องจากพวกเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ เช่น ค่าสถานะ คุณสมบัติ ทักษะ เลเวล อื่น ๆ แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้น หรือพวกเขากำลังอยู่ในเกม ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงคำพูดเหล่านี้ เอ็นพีซี วีอาร์(ความจริงเสมือน) หรือผู้เล่นคือพระเจ้า เว้นแต่คู่สนทนาของคนจะเป็นผู้เล่นด้วยกันจริง ๆ”

เบนจามินหลับตาและพิงพนักเก้าอี้ คงไม่ง่ายที่จะหลีกเลี่ยงคำพูดพวกนั้นเพราะทุกคนต่างดูเหมือนคนจริง ๆ เช่นเอริเป็นต้น

“เอาล่ะ~ เนื่องจากป๊ะป๋าบอกฉันว่าคุณไม่ใช่นักเล่นเกม คุณอยากจะให้ฉันอธิบายพื้นฐานสำคัญให้ฟังก่อนไหมคะ?”

“ได้สิ ฉันจะไม่ได้พลาดส่วนสำคัญของเกมด้วย”

“โอเค~! ก่อนอื่น ค่าสถานะ! เพียงแค่คิดว่าจะแสดงสถานะของคุณ หรือแสดงภาพตัวละคร คุณจะต้องดึงมันขึ้นมา! คุณยังไม่สามารถทำได้เพราะเกมยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ~ สถานะของคุณจะแสดงชื่อ เลเวล เผ่าพันธุ์ อาชีพ คุณสมบัติ พร้อมด้วยทักษะของคุณ!” เธออธิบายอย่างมีความสุข เบนจามินพยักหน้าขณะฟังใกล้ ๆ พยายามปะติดปะต่อคำพูดที่เธอกล่าวถึง

“คุณสามารถตั้งชื่อได้หลังจากนี้ ดังนั้นยังไม่ต้องกังวลถึงมันในตอนนี้! เลเวลของคุณจะเพิ่มขึ้นผ่านการฆ่ามอนสเตอร์ บรรลุภารกิจ หรือว่าจะเป็นการกระทำพิเศษ! ทุก ๆ เลเวลคุณจะได้รับห้าแต้มซึ่งเอาไว้ใช้เพิ่มคุณสมบัติของคุณ! ซึ่งมีด้วยกันห้าคุณสมบัติดังนี้ ความแข็งแกร่ง ความอดทน ความคล่องแคล่ว ไหวพริบ และสติปัญญา อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณทำ คุณสามารถปลดล็อคคุณสมบัติเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่สามารถเพิ่มแต้มได้ แต่ต้องผ่านแค่การกระทำพิเศษเท่านั้น จากนั้น…” เอริอธิบายโดยไม่หยุดพัก เธออธิบายส่วนพื้นฐานทั้งหมดของเกมต่อไป แม้ว่าเบนจามินต้องการรู้ แต่เธอกำลังจะข้ามไป

“โว้ว โว้ว สาวน้อย! ช้าลงหน่อยก็ได้ ช่วยอธิบายให้หน่อยสิ ‘คุณสมบัติ’ ที่ว่าเนี่ยเอาไว้ทำอะไร?” เขาถามพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย เอริขอโทษและลดความเร็วในการพูดลง “ฮืม… ฉันจะอธิบายเป็นสไตล์การเล่นที่น่าจะเข้ากับคุณแล้วกัน โอเคนะคะ~? คุณข้องเกี่ยวกับงานฝีมือใช่ไหมคะ? ยิ่งคุณมีค่าความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น การทำงานกับพวกวัสดุบางชนิดก็ต้องใช้ความแข็งแรงเยอะ เพื่อที่จะได้ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างได้! หากคุณคงความแข็งแกร่งไว้ต่ำเกิน แม้แต่รอยบุ๋มเล็ก ๆ ตอนคุณลงค้อนบนวัสดุก็ไม่อาจทำได้ สำหรับค่าความอดทนที่สูงจะทั้งปกป้องและเพิ่มแรงกายให้คุณ! คุณสามารถทำงานได้นานขึ้นและร่างกายของคุณจะลดการสะท้านเมื่อทำงานหนักเกิน ค่าความคล่องแคล่วจะเพิ่มความเร็วโดยรวมให้คุณรวมถึงความคล่องตัวด้วยเพื่อคุณจะได้ทำงานอย่างละเอียดมากขึ้น! ค่าไหวพริบและสติปัญญาเป็นคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับเวทมนต์โดยตรง ดังนั้นฉันจึงไม่แน่ใจว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับคุณหรือเปล่า… แต่ถึงอย่างนั้นไหวพริบเพิ่มความมีประสิทธิภาพในส่วนการกระทำต่าง ๆ ที่ต้องใช้มานา และสติปัญญาจะเพิ่มปริมาณมานา นอกนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะควบคุมมันได้แค่ไหน!”

“เข้าใจแล้ว…ขอบใจนะ ค่าพวกนี้ดูค่อนข้างจะสำคัญมากทีเดียว แต่ฉันจะหาคำตอบเองว่าเวทมนต์จะมีประโยชน์กับฉันไหม” เบนจามินพึมพำกับตัวเอง ครุ่นคิดอยู่สักพักจนกระทั่งเอริเริ่มอธิบายต่อ “อาชีพและทักษะของคุณจะขึ้นอยู่กับการกระทำค่ะ! ขึ้นอยู่กับทางที่คุณเลือก คุณจะปลดล็อคทักษะ และบางอาชีพก็จะส่งผลต่อบางทักษะด้วยเช่นกัน นักเวทย์ก็จะมีพลังเวทมนต์ที่แข็งแกร่ง นักรบก็ย่อมเก่งการโจมตี และช่างฝีมือก็ย่อมสร้างชิ้นงานที่ยอดเยี่ยม! ฟังดูง่ายใช่ไหมล่ะ? ไม่ต้องห่วงค่ะ~! ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะอธิบายในตัวขณะที่คุณนั้นอยู่ในเกม”

เอริกระโดดขึ้นบนเก้าด้วยความตื่นเต้นและเดินไปหาเบนจามิน ขณะที่เขากำลังสงสัยว่าเธอจะทำอะไร เอริก็โบกมือและหุ่นจำลองก็ปรากฏต่อหน้าทั้งคู่

“นี่คือตัวละครพื้นฐาน! ในโลกแห่งเวทมนต์นี้มีหลายเผ่าพันธุ์ และบางเผ่าพันธุ์ก็มีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกเผ่าล้วนมีผู้ต้นแบบมาจากมนุษย์นะคะ อย่างไรก็ตาม ฉันขอแนะนำให้คุณเล่นเป็นคนแคระค่ะ! เป็นเผ่าที่เก่งงานหัตกรรมมากที่สุด! การตีเหล็ก การตัดเย็บ และศิลปิน! ฉันคิดว่ามันเหมาะกับคุณมากที่สุด! ถึงแม้ว่า…” เอริโบกมืออีกครั้งและหุ่นจำลองค่อย ๆ ย่อขนาดลงอย่างเห็นได้ชัด หัวใหญ่ ไหล่กว้าง แขนและขาหนาแต่สั้น และเตี้ยกว่าเบนจามินในชีวิตจริงอย่างน้อยก็ครึ่งเมตร

“…ตัวเล็กจัง…”

เบนจามินถอนหายใจ เผ่าคนแคระดูจะเหมาะสมกับเขามาก แต่เรื่องความสูงดูจะเป็นปัญหาจริง ๆ คงต้องใช้เวลานานกว่าจะคุ้นเคยกับร่างกายสั้น ๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความที่เขามักสร้างงานฝีมือที่ชิ้นใหญ่ แต่ความกังวลทั้งหมดพลันหายไปเมื่อได้ฟังเอริอธิบายต่อ

“ปกติแล้วนั่นอาจเป็นปัญหา แต่ป๊ะป๋าอนุญาตให้ฉันมอบสิทธิพิเศษในการสร้างตัวละครนี้แก่คุณค่ะ~ สิทธิ์นั้นคือฉันสามารถทำให้เผ่าที่คุณเลือกเป็นเผ่าผสมกับเผ่าที่ไม่มีอยู่! จะให้ยกตัวอย่างก็เช่น…”

เธอโบกมืออีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเธอ หุ่นจำลองขยายใหญ่ ตระหง่านสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป การสร้างคนแคระด้วยหุ่นจำลองโดยทั่วไปนั้นจะมีไหล่กว้าง และแขนขาที่หนา แต่แขนขาที่เห็นตรงหน้านั้นยาวกว่ามาก ว่ากันง่าย ๆ การสร้างนี้ดูคล้ายกับร่างกายเบนจามินมาก

“…ครึ่งยักษ์ครึ่งคนแคระ! คุณจะได้รับจุดเด่นทั้งหมดจากเผ่าคนแคระโดยไม่มีข้อกังขาในส่วนของร่างกาย… โดยทั่วไปแล้วเผ่าพันธุ์ผสมนั้นไม่ได้มีอยู่สำหรับผู้เล่น ถึงมีก็น้อยมากในโลกของเกมในบรรดาเหล่าเอ็นพีซี เท่าที่ฉันรู้ก็มีเพียงอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น!”

“แม่สาวน้อย! นี่มันสุดยอดไปเลย! ฉันมีความสุขมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้!” เบนจามินลุกขึ้นอย่างมีความสุขและเดินไปยังหุ่นจำลอง เอริที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คิดว่ามันช่างดูเหมือนกับมีเบนจามินสองคน! เพียงดีดนิ้ว หุ่นจำลองพลันเปลี่ยนเป็นหุ่นเสมือนจริงของเขาในทันที

“เอาล่ะค่ะ อย่างสุดท้ายก็คือชื่อของคุณ! มีในใจแล้วหรือยังคะ?” เอริถาม และก็ใช่ เบนจามินคิดชื่อผู้ใช้มาแล้วตอนที่รอพร้อมกับโรเวอร์ เขายิ้มอ่อนและมองเอริพร้อมบอกชื่อที่เขาต้องการจะใช้

 

* * * * *

 

หลังจากแนะทุกขั้นตอนแก่เบนจามินอย่างครับถ้วนแล้ว เอริก็เดินไปคุยกับคนสี่คนที่ดูเหมือนจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ในเกม หลังจากรอมาประมานสิบห้านาที พวกเขาก็มารวมตัวกันในห้องโถงที่ใหญ่ดูคล้ายกับห้องของเอริแต่ฉลุด้วยหินอ่อนในทุก ๆ ที่

“เอาล่ะทุกคนพร้อมนะ?” เอริที่ยืนอยู่ตรงกลางในกลุ่มพวกเขาตะโกนออกมาดังลั่น

พวกเขาสวมชุดเดียวกัน เป็นชุดสีน้ำตาลอ่อน และทุกคนต่างมีเหรียญสร้อยคอสีดำและแดงห้อยอยู่ แต่รูปแบบพวกเขาแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป

“ฉันจะแนะนำให้รู้จักทีละคนแบบเร็ว ๆ นะคะ คนแรก ผู้บุกเบิกแห่งเวทมนต์และเป็นเอลฟ์ระดับสูง ซีเนีย!”

เอริชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในกลุ่ม เธอมีผมยาวและดวงตาสีดำ ผิวขาวราวกับหิมะ มีเพียงอย่างเดียวที่ดูแตกต่างไปจากมนุษย์เราก็คือหูที่ชี้แหลมทั้งสองข้าง ถ้าเขาหนุ่มกว่านี้สักห้าสิบปี เขาคงจีบเธอแน่ แต่เขาก็ลบความคิดนั้นไปทันทีเนื่องจากเธอคงรุ่นราวคราวเดียวกับหลานสาวคนโตของเขา

“ถัดไป ผู้บุกเบิกแห่งการต่อสู้และเป็นครึ่งปีศาจครึ่งออร์ค โบรดี้!” ถัดมาเอริก็ชี้ไปยังชายร่างสูงใหญ่ที่มีผิวสีเขียวเข้ม ซึ่งเข้มจนเกือบจะดำคล้ำ เขามีผมสั้นสีดำและมีเขาโค้งงอนหนึ่งคู่งอกยาวออกมาที่หน้าผาก พร้อมด้วยเขี้ยวสองซี่ที่ยื่นออกมาจากปาก ถัดมาเอริก็หันไปหาผู้หญิงอีกคนหนึ่งในกลุ่ม “ผู้บุกเบิกแห่งศิลปะและเธอเป็นมนุษย์ เอวาเลีย!” เธอมีผมสีบลอนด์สว่างและตาน้ำข้าวเป็นประกาย ริมฝีปากของเธอถูกย้อมเป็นสีแดงเข้มมาพร้อมกับหน้าอกที่ออกจะดูใหญ่เกินไปสำหรับร่างกายของเธอ

“และที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็คือ ผู้บุกเบิกแห่งการอยู่อาศัยและเป็นวานร เจี๊ยก!” ชายคนนี้ดูมีรูปร่างที่ดีและมองเห็นผิวส่วนใหญ่ได้ เว้นแต่ช่วงฝ่ามือและใบหน้าที่ถูกปกคลุมด้วยขนสีส้ม รูปลักษณ์โดยรวมของเขาดูเหมือนลิงกับคนผสมกัน และรูปหน้าก็ถูกล้อมรอบด้วยขนอย่างสวยงาม ส่วนด้านหลังก็จะพบหางที่ยื่นยาวออกมา

หลังจากแนะนำทั้งสี่คนครบถ้วน เอริก็หันมาหาเบนจามิน

“คนสุดท้าย ผู้บุกเบิกแห่งศาสตร์เชิงกลไกและเป็นครึ่งยักษ์ครึ่งคนแคระ ไอเซ็น!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด