โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 31 การต่อสู้

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 31 การต่อสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 31 การต่อสู้

 

ไอเซ็นมองดูการแจ้งเตือนอย่างตื่นเต้นและประหลาดใจ ถึงแม้จะไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่ามูลค่าของมันจะถึงห้าสิบทองไหมก็ตาม แต่ที่เขาเห็นอยู่นี้คือยาอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม มีสามคุณลักษณะใหม่ที่เขาไม่รู้จักเลย ซึ่งไอเซ็นก็เริ่มการตรวจสอบในทันที

 

[คุณลักษณะ – เบิกเนตร]

 

[อิทธิพล]

 

มองทะลุปรุโปร่งทุกอย่าง คําโกหก, การหยั่งรู้ และกลลวงต่างๆ

 

[การเปิดใช้งาน]

 

คงที่

 

[คุณลักษณะ – นักสู้ชั้นยอด]

 

[อิทธิพล]

 

เพิ่มปฏิกิริยาตอบโต้อย่างมาก และร่างกายของคุณจะเคลื่อนไปตามสัญชาตญาณเพื่อป้องกันการโจมตีและสวนกลับคู่ต่อสู้

 

[การเปิดใช้งาน]

 

เข้าร่วมการต่อสู้

 

[คุณลักษณะ – กายทองคํา]

 

[อิทธิพล]

 

ร่างกายของคุณจะแข็งขึ้น หนักขึ้น แต่ยังคงความยืดหยุ่น ในตัวผิวหนังจะประกายสีทองระเรื่อ

 

[การเปิดใช้งาน]

 

คงที่

 

ตอนนี้ไอเซ็นเปลี่ยนใจแล้ว เนื่องจากสิ่งนี้ดูจะเป็นประโยชน์มาก เมื่อต้องต่อสู้กับใครสักคน ยาความหายนะของพระเจ้าจะมอบขุมพลังที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ใช้ ทั้งการหยั่งรู้ที่สูง, ความสามารถในการต่อสู้ และการป้องกัน หากใครต้องการที่จะครอบครองมันจริงๆ ห้าสิบทองถือเป็นราคาที่ไม่ได้แพงเกินไปเลย

 

มอร์โรมมองไอเซ็นและยิ้มออกมา “ว่าไงครับ? ได้ผลไหม? คุณทลายขีดจํากัดได้ไหม?!” เขาตะโกนและไอเซ็นก็ยิ้มตอบ พร้อมพยักหน้าช้าๆ “ได้ผลสิ ฉันทลายขีดจํากัดทักษะแล้ว และตอนนี้ฉายาก็เลื่อนเป็นขั้นที่สี่แล้วด้วย”

 

“แล้วไงอีกครับ? ได้โบนัสค่าสถานะทุกรายการเพิ่มอีกสี่หรือเปล่าครับ? โอ้ แล้วคําอธิบายว่ายังไงบ้างครับ?” มอร์โรมถามในความอยากรู้อยากเห็น บรีที่เองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจที่ทั้งคู่ พูดกันเท่าไหร่จึงเอนกายเข้ามาใกล้ๆแล้วตั้งใจฟัง

 

“ฮ่า ๆ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะเล่าให้เธอทั้งคู่ได้ฟัง ใช่ ฉันได้โบนัสค่าสถานะ และคําอธิบายก็ระบุไว้ว่า “จากการทลายขีดจํากัดของทักษะ คุณได้แสดงให้พระเจ้าเห็นว่าคุณยืนหยัดอยู่ข้างพระองค์”

 

“ “ยืนหยัดอยู่ข้างพระองค์” หา? ผมอดใจรอไม่ไหวแล้วครับ! เราไปต่อที่ทักษะการร่ายมนต์กันเลยได้ไหม?!” มอร์โรมถามอย่างตื่นเต้น พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือเคลียร์โต๊ะที่ใช้ปรุงยาเมื่อครู่นี้จนเสร็จสรรพ

 

แต่ก่อนที่เขาจะเตรียมสิ่งของจําเป็นในการร่ายมนต์นั้น ไอเซ็นก็หยุดเขาไว้ เพราะตอนนี้ค่อนข้างดึกมากแล้ว และไอเซ็นก็ต้องไปต่อสู้ในวันรุ่งขึ้นด้วย

 

“โทษทีนะ วันนี้ยังไม่ได้นะ พอจะเป็นพรุ่งนี้ตอนบ่ายได้ไหม? โอเคไหม?” ไอเซ็นพูดแนะนํา และมอร์โรมก็มองด้วยความเศร้าใจจากนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้ครับ พร้อมเมื่อไหร่ก็มาได้เลยนะครับ ทักษะนี้ไม่ได้ใช้เวลาในการเรียนรู้มากเท่าไหร่ครับ”

 

“ฮ่าๆ เข้าใจแล้ว อยากไปดินเนอร์กับเราไหม?” ไอเซ็นถามและขยิบตาให้บรี เป็นการแสดงให้เธอรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องไปแล้วเพื่อที่เธอจะได้ไปเตรียมสัมภาระให้พร้อม

 

“หืม? อ้อ ได้สิครับ! ไปครับ! แต่ก่อนอื่นยาความหายนะของ…” มอร์โรมพูด และไอเซ็นก็พยักหน้ารับทันที

 

“จริงสิ โทษทีๆ อ่ะ ดูเหมือนว่ายาจะไม่ได้ออกมาดีเท่าที่ควรนะ” ไอเซ็นอธิบายและยื่นขวดยาให้มอร์โรม

 

“โอ้ ผมรู้อยู่แล้วล่ะครับว่าต้องเป็นแบบนั้น ถึงแม้คุณจะทลายขีดจํากัดทักษะได้ก็จริง แต่ปกติแล้วสิ่งของนั้นๆ ก็จะมีอิทธิพลที่ต่ํากว่าที่ควรจะเป็นในอับดับนั้นๆครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ ผมอยากจะจ่ายเงินให้คุณ ไหนๆ คุณก็ปรุงยาให้ผมแล้ว ใช้เวลาไปตั้งสามชั่วโมงกว่าจะได้มา ถ้าคุณโอเค ผมก็จะแบ่งกําไรให้ครึ่งหนึ่งครับ ทีนี้ผมกับคุณก็จะได้กันคนละสิบห้าทอง ถ้ายาถูกขายได้ในราคาที่มากกว่านั้น ผมก็จะแบ่งให้ครึ่งๆเท่าเดิมครับ”

 

“ว้าว เยี่ยมไปเลย! ขอบใจมากนะ! ฉันกําลังหาลู่ทางทําเงินอยู่พอดีเลย!” ไอเซ็นหัวเราะและตอบตกลง หลังจากที่มอร์โรมเดินไปด้านหลังชั้นวางของ เขาก็กลับมาพร้อมกับเงินสิบห้าเหรียญทอง

 

“รับไปสิครับ!” เขายิ้มและสํารวจตรวจสอบยาอีกครั้ง

 

หลังจากนั้นไอเซ็น มอร์โรมและบรีก็เดินออกจากห้องทํางาน และไอเซ็นก็ได้ประเมินสิ่งของต่างๆรอบตัวเพิ่มเติมจนกระทั่งอ่านไปเจอชื่อหนึ่ง เป็นชื่อที่ไม่คุ้นสําหรับเขา เขาเดินเข้าไปหาแหวนโลหะวงนั้นและหันมาหามอร์โรม “นี่ แหวนวงนี้น่ะ มันคือ…”

 

“มันไม่ใช่อย่างที่เห็นหรอกครับ! ผมไม่เคยมีสักวงเลย! ของพวกนี้ถูกสร้างขึ้นจากการร่ายมนต์ครับ ซึ่งผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นการร่ายมนต์ประเภทไหน นั่นคือเรื่องเดียวที่เกิดขึ้นครับ! แต่ในตอนที่ผมหยิบมาเล่นก็บังเอิญทํามันหัก คุณภาพมันต่ําครับ ก็ชัดเจนว่า ถ้าของดีคงไม่หักง่ายขนาดนี้ มันก็สมเหตุสมผลครับ ผมซื้อมาราคายังไม่ถึงหนึ่งทองเลยครับ” มอร์โรมอธิบายและหยิบแหวนวงนั้น และทําให้แน่ใจว่าทั้งไอเซ็นและบรีจะไม่เข้าใจผิด และเนื่องจากเขาไม่ได้ดูเป็นคนแบบนั้น ทั้งคู่จึงเชื่อเขา

 

“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกนะ แต่ฉันมีเรื่องจะถาม มันต่างไปจากตอนที่มันยังใช้งานได้อยู่ไหม?” ไอเซ็นถาม ขณะกําลังคิดกลเม็ดดีๆสําหรับวันพรุ่งนี้

 

“ไม่ครับ ไม่ต่างไปเลยแม้แต่น้อย ปกติคุณจะไม่ได้เห็นการร่ายมนต์แบบนั้นหรอกครับ และเนื่องจากผมไม่ได้ทํามันหักโดยตรง สภาพมันก็เลยยังเหมือนกับตอนแรกอยู่ครับ”

 

ไอเซ็นยิ้มกว้างและจับแหวนโลหะอย่างแน่น “ขอยืมได้ไหม?”

 

***

 

วันรุ่งขึ้นมาถึง ถึงวันที่เขาต้องดวลกับเฮนดริก มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันเพื่อชมการต่อสู้ครั้งนี้ที่หน้าทางเข้าเหมือง ก้นบึ้งของเมืองเมลโร

 

เมื่อไอเซ็นเดินฝ่าฝูงชนไปยังที่โล่ง เขาก็ได้รับการทักทายจากผู้คนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ตรงหน้าเขาคือเฮนดริกที่เผยรอยยิ้มเยาะและเหล่าลูกน้องของเขา ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ ไอเซ็นจําชายหนุ่มคนหนึ่งได้ เขาคือคนที่พยายามจะเข้าไปในห้องของไอเซ็นที่โรงแรมเมื่อไม่กี่วันก่อน

 

ยังมีคนอื่นอีกที่ไอเซ็นจําได้ อย่างเช่น เจ้าของโรงแรม, เด็นเมียร์, ฟลอเมียร่าห์, เจคเคิล และแน่นอนที่สุด มอร์โรม พวกเขากําลังรอชมอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่คราคร่ํา

 

เฮนดริกอยู่ในชุดเกราะสีขาวพร้อมโล่สะท้อนแสงวาววับ พร้อมกับดาบที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ไอเซ็นอดไม่ได้ที่จะยิ้มเย้ย เมื่อได้เห็น เห็นชัดได้ว่าของเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรที่มากไปกว่าเอาไว้ขู่ขวัญไอเซ็น และเขายังบอกได้ทันทีอีกว่า เฮนดริกไร้ซึ่งสมดุล อุปกรณ์ต่างๆที่เขาสวมใส่อยู่นั้นไม่ได้เข้ากับสรีระของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

ตรงข้ามกับไอเซ็นที่อยู่ในชุดของพวกมือใหม่ ไม่คิดจะถอดเข็มขัดหรือรองเท้าออกด้วยซ้ํา เนื่องจากของเหล่านี้ เป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องการเพื่อจบการต่อสู้ให้โดยไว และดาบก็ให้บรีเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย รวมทั้งสิ่งของอื่นๆด้วย

 

ทุกคนต่างประหลาดใจที่เห็นไอเซ็นไม่ได้เตรียมความพร้อมที่จะต่อสู้มาเลย และเฮนดริกก็เริ่มหัวเราะ “โอ้? นี่เขาเรียกว่า ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มหรือเปล่านะ?”

 

ไอเซ็นส่ายหน้าเป็นการตอบกลับและเกราเคราพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานที่ปรากฏบนใบหน้า “ตรงกันข้ามเลยล่ะพ่อหนุ่ม ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อ

แพ้”

 

เฮนดริกมองข้ามไปด้านหลังของไอเซ็นและพบว่าบรียืนอยู่ตรงนั้น ในมือของเธอกําลังถือของชิ้นเยี่ยมของไอเซ็นอยู่ สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่หลัง และมีแหวนโลหะห้อยอยู่ที่คอ “น่าสนใจดีนี่ แล้วมันเป็นยังไง หา?” เขากัดฟัน และไอเซ็นก็หัวเราะเป็นการตอบ

 

“ฉันไม่รู้ว่านายหมายถึงอะไร”

 

“อย่ามาลูกเล่นกับฉันนะตาเฒ่า แต่อย่างไรเสีย มาสู้กันให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยดีกว่า?” เฮนดริกพูดแนะนํา และไอเซ็นก็ยังคงยิ้มอ่อนหวานให้

 

“จะเอายังไงก็ว่ามา” ไอเซ็นพูด และเฮนดริกก็ยิ้มกว้าง

 

“มาพนันกันดีกว่า เอาไหม? แกเป็นช่างฝีมือนี่ ใช่ไหม? คนของฉันสืบมาแล้วว่านายสร้างสิ่งของที่ยอดเยี่ยมได้”

 

“ฮ่า ๆ ฉันเข้าใจล่ะ แต่นั่นมันเกี่ยวข้องกับการสู้กันด้วยเหรอ?”

 

“ฉันต้องการของของแกทั้งหมด ทุกชิ้นจะเป็นของฉันเมื่อแกแพ้การต่อสู้ จะขออะไรจากฉันไปก็ได้นะ แต่ฉันไม่มีวันแพ้แกเสียหรอก” เฮนดริกตะโกนดังลั่นพอที่จะได้ยินกันทุกคน ทําให้ทุกคนค่อนข้างตกใจกับข้อเสนอนี้ ความสดใสของไอเซ็นเริ่มหายไปเรื่อยๆ นี่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาอย่างแน่นอน

 

“อืม…. เอาสิ ฉันจะมอบทุกอย่างที่ฉันมีให้นาย ไม่ต้องกังวลไปนะ แต่ในทางกลับกัน ถ้านายแพ้… ฉันจะให้นายแก้ผ้าแล้ววิ่งรอบเมืองพร้อมทําเสียงไก่ขันไปด้วย ตะโกนให้ทุกคนที่นายพบเจอได้ยินว่านายมันก็แค่ไอ้เด็กน้อยผู้ไร้น้ํายา” ไอเซ็นหัวเราะ และใบหน้าของเฮนดริกก็เริ่มแดงฉานขึ้นมาในทันที เนื่องจากฝูงชนที่อยู่รอบๆเริ่มหัวเราะคิกคักออกมา 

 

“หน็อย กะ แก! ก็ได้! ฉันขอรับทําท้า! แต่ไม่มีวันที่แกจะสมหวังเสียหรอก!”

 

[ภารกิจอัพเดท – การต่อสู้กับเฮนดริก]

 

[คําอธิบาย]

 

หลังจากการปกป้องเฟย์คินจากเฮนดริก ทําให้เขารู้สึกอุ่นเคืองและเรียกร้องการต่อสู้ คุณไม่มีทางรู้ว่าจะได้รับหรือสูญเสียอะไรจากการต่อสู้ครั้งนี้

 

[รางวัล]

 

เฮนดริกจะเปลื้องผ้าวิ่งไปทั่วเมือง และทําความอัปยศอดสูแก่ตัวเองด้วยการโห่ร้องเป็นเสียงไก่ขันให้แก่ผู้คนที่เขาวิ่งผ่านไป

 

[ความล้มเหลว]

 

คุณต้องมอบสัมภาระทุกอย่างที่มีแก่เฮนดริก

 

“เอาล่ะ ไอ้ขุนนางไร้ประโยชน์ ก้าวเข้ามาตรงนี้แล้วเริ่มการต่อสู้ของฉันได้แล้ว! ฉันจะสอนบทเรียนให้ตาแก่นี่ได้หลาบจํา!” เฮนดริกตะโกนและมองไปด้านข้างที่ฝูงชนเริ่มแยกตัวออกเป็นทาง

 

และไอเซ็นก็ต้องประหลาดใจกับเบลริมในสภาพเมาและดูข้องใจเดินเข้ามา ตามมาด้วยชายจํานวนหนึ่งในชุดเกราะ “เฮ้ย? แกเรียกฉันว่าอะไรนะไอ้เวร? ระวังปากแกหน่อยนะเข้าใจไหม? หรือจะให้ฉันบอก… อึก(เสียงสะอีกเพราะเมา) สมาคมให้ลดขั้นของแกเพราะไร้มารยาทแบบนี้?!” เบลริมเดินโซเซและมาหยุดอยู่หน้าไอเซ็น เขามองด้วยความสงสัย

 

“ไอเซ็น นายมาทําอะไรที่นี่? ฉันนึกว่านายเล่นงานไอ้ลูกหมาเฮนดริกนั่นแล้วเสียอีก!”

 

ไอเซ็นหัวเราะเบาๆ และวางมือบนไหล่ของคนแคระขี้เมา “ใช่ ฉันกําลังจะทํานี่ไง เมื่อกี้นายก็เพิ่งคุยกับหมอนั่นไปเองนะ อีกอย่าง ถ้านายไม่ถือสาล่ะก็เราจะคุยกันเรื่องตําแหน่งขุนนางของนายกันทีหลังนะ โอเคไหม?”

 

เบลริมเงยหน้ามองไอเซ็นและดวงตาเขาก็เบิกกว้าง “เดี๋ยว ฉันยังเป็นไอ้ขุนนางบ้าอะไรนั่นอยู่อีกเหรอ? ฉันคิดว่าแค่ฝันไปเสียอีก! หรือมันเป็นฝันที่ฉันเสียงานไปหลังจากหลับนอนกับเมียของขุนนางอื่นงั้นเหรอ…?”

 

หนึ่งในผู้ติดตามด้านหลังเบลริมเดินเข้ามาและเอนกาย เขากระแอมที่หนึ่งก่อนจะเริ่มกระซิบ “ขอประทานโทษขอรับ ใต้เท้า แต่เรื่องนั้นยังอยู่ภายใต้การพิจารณาขอรับ เหล่าขุนนางฟ้องร้องต่อท่านดยุค(ขุนนางชั้นสูง) เขาขอให้ใต้เท้าไปเข้าเฝ้าที่อาณาจักร จําไม่ได้เหรอครับ?”

 

“เอ๋? จริงสิฉันจําได้แล้ว! แม่นางสามคนนั้นแสบเอาเรื่อง และไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ ฮ่าๆ” เบลริมหัวเราะดังลั่นจน ต้องเอามือกุมท้อง ขณะที่เฮนดริกกําลังโกรธมากขึ้นเรื่อยๆที่ถูกเมินเช่นนี้

 

“เฮ้ย เบลริม! เริ่มเสียที! แกจะมาเป็นพยานการต่อสู้ครั้งนี้ไหมหรือยังไง?!” เขาตะโกน เบลริมจึงหันมาและยิ้มเยาะ

 

“เออ ก็ได้ อย่าหงุดหงิด… อึก… กับเรื่องไม่เป็นเรื่องไปหน่อยเลยหน่า! พวกนายทั้งคู่พร้อมหรือยัง?” เบลริมถาม ในความรําคาญและก้าวเข้ามาอยู่ระหว่างไอเซ็นและเฮนดริก พร้อมชูแขนข้างซ้ายขึ้น

 

“พร้อม! ฉันจะฆ่าแก ไอ้แก่!” เฮนดริกยิ้มออกมาจากโทสะและไอเซ็นก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันพร้อมแล้วเบลริม”

 

เบลริมมองเฮนดริกและไอเซ็นสลับไปมา จากนั้นเขาก็วาดแขนซ้ายลง “เริ่มได้!”

 

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น เฮนดริกก้าวมาข้างหน้าและชี้ดาบ ไร้ซึ่งท่าทางป้องกันใดๆทั้งสิ้น “ว่าไง? แกคิดไว้หรือยังวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? แกจะตายวันนี้ไง ไอ้แก่ การต่อสู้จะถือคําขาดจากพยาน การต่อสู้จะจบลงเมื่อคนใดคนหนึ่งตายหรือยอมแพ้ ของรักและของเล่นตัวน้อยของแกจะต้องเป็นของฉันเป็นของฉันทั้งหมด”

 

ในทางกลับกัน ไอเซ็นยังคงยืนนิ่ง ๆ และจ้องมองเฮน ดริกด้วยรอยยิ้ม เขากระแอมออกมาเนื่องจากต้องการใช้เสียงดังเพื่อพูดให้ทุกคนได้ยิน เขากําลังจะพูดออกมาสามคํา แค่สามคํานี้เท่านั้นที่จะเปลี่ยนช่วงเวลาการต่อสู้ไปในทันที

 

สามคํา ถ้าเขาพึมพําออกมา ก็จะทําให้เฮนดริกไม่สามารถทําอันตรายเขาได้อีกต่อไป เป็นสามคําที่เขาคาดไม่ถึง

 

“ฉั น ย อ ม แพ้”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ 31 การต่อสู้

Now you are reading โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ Chapter 31 การต่อสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 31 การต่อสู้

 

ไอเซ็นมองดูการแจ้งเตือนอย่างตื่นเต้นและประหลาดใจ ถึงแม้จะไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่ามูลค่าของมันจะถึงห้าสิบทองไหมก็ตาม แต่ที่เขาเห็นอยู่นี้คือยาอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม มีสามคุณลักษณะใหม่ที่เขาไม่รู้จักเลย ซึ่งไอเซ็นก็เริ่มการตรวจสอบในทันที

 

[คุณลักษณะ – เบิกเนตร]

 

[อิทธิพล]

 

มองทะลุปรุโปร่งทุกอย่าง คําโกหก, การหยั่งรู้ และกลลวงต่างๆ

 

[การเปิดใช้งาน]

 

คงที่

 

[คุณลักษณะ – นักสู้ชั้นยอด]

 

[อิทธิพล]

 

เพิ่มปฏิกิริยาตอบโต้อย่างมาก และร่างกายของคุณจะเคลื่อนไปตามสัญชาตญาณเพื่อป้องกันการโจมตีและสวนกลับคู่ต่อสู้

 

[การเปิดใช้งาน]

 

เข้าร่วมการต่อสู้

 

[คุณลักษณะ – กายทองคํา]

 

[อิทธิพล]

 

ร่างกายของคุณจะแข็งขึ้น หนักขึ้น แต่ยังคงความยืดหยุ่น ในตัวผิวหนังจะประกายสีทองระเรื่อ

 

[การเปิดใช้งาน]

 

คงที่

 

ตอนนี้ไอเซ็นเปลี่ยนใจแล้ว เนื่องจากสิ่งนี้ดูจะเป็นประโยชน์มาก เมื่อต้องต่อสู้กับใครสักคน ยาความหายนะของพระเจ้าจะมอบขุมพลังที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ใช้ ทั้งการหยั่งรู้ที่สูง, ความสามารถในการต่อสู้ และการป้องกัน หากใครต้องการที่จะครอบครองมันจริงๆ ห้าสิบทองถือเป็นราคาที่ไม่ได้แพงเกินไปเลย

 

มอร์โรมมองไอเซ็นและยิ้มออกมา “ว่าไงครับ? ได้ผลไหม? คุณทลายขีดจํากัดได้ไหม?!” เขาตะโกนและไอเซ็นก็ยิ้มตอบ พร้อมพยักหน้าช้าๆ “ได้ผลสิ ฉันทลายขีดจํากัดทักษะแล้ว และตอนนี้ฉายาก็เลื่อนเป็นขั้นที่สี่แล้วด้วย”

 

“แล้วไงอีกครับ? ได้โบนัสค่าสถานะทุกรายการเพิ่มอีกสี่หรือเปล่าครับ? โอ้ แล้วคําอธิบายว่ายังไงบ้างครับ?” มอร์โรมถามในความอยากรู้อยากเห็น บรีที่เองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจที่ทั้งคู่ พูดกันเท่าไหร่จึงเอนกายเข้ามาใกล้ๆแล้วตั้งใจฟัง

 

“ฮ่า ๆ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะเล่าให้เธอทั้งคู่ได้ฟัง ใช่ ฉันได้โบนัสค่าสถานะ และคําอธิบายก็ระบุไว้ว่า “จากการทลายขีดจํากัดของทักษะ คุณได้แสดงให้พระเจ้าเห็นว่าคุณยืนหยัดอยู่ข้างพระองค์”

 

“ “ยืนหยัดอยู่ข้างพระองค์” หา? ผมอดใจรอไม่ไหวแล้วครับ! เราไปต่อที่ทักษะการร่ายมนต์กันเลยได้ไหม?!” มอร์โรมถามอย่างตื่นเต้น พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือเคลียร์โต๊ะที่ใช้ปรุงยาเมื่อครู่นี้จนเสร็จสรรพ

 

แต่ก่อนที่เขาจะเตรียมสิ่งของจําเป็นในการร่ายมนต์นั้น ไอเซ็นก็หยุดเขาไว้ เพราะตอนนี้ค่อนข้างดึกมากแล้ว และไอเซ็นก็ต้องไปต่อสู้ในวันรุ่งขึ้นด้วย

 

“โทษทีนะ วันนี้ยังไม่ได้นะ พอจะเป็นพรุ่งนี้ตอนบ่ายได้ไหม? โอเคไหม?” ไอเซ็นพูดแนะนํา และมอร์โรมก็มองด้วยความเศร้าใจจากนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้ครับ พร้อมเมื่อไหร่ก็มาได้เลยนะครับ ทักษะนี้ไม่ได้ใช้เวลาในการเรียนรู้มากเท่าไหร่ครับ”

 

“ฮ่าๆ เข้าใจแล้ว อยากไปดินเนอร์กับเราไหม?” ไอเซ็นถามและขยิบตาให้บรี เป็นการแสดงให้เธอรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องไปแล้วเพื่อที่เธอจะได้ไปเตรียมสัมภาระให้พร้อม

 

“หืม? อ้อ ได้สิครับ! ไปครับ! แต่ก่อนอื่นยาความหายนะของ…” มอร์โรมพูด และไอเซ็นก็พยักหน้ารับทันที

 

“จริงสิ โทษทีๆ อ่ะ ดูเหมือนว่ายาจะไม่ได้ออกมาดีเท่าที่ควรนะ” ไอเซ็นอธิบายและยื่นขวดยาให้มอร์โรม

 

“โอ้ ผมรู้อยู่แล้วล่ะครับว่าต้องเป็นแบบนั้น ถึงแม้คุณจะทลายขีดจํากัดทักษะได้ก็จริง แต่ปกติแล้วสิ่งของนั้นๆ ก็จะมีอิทธิพลที่ต่ํากว่าที่ควรจะเป็นในอับดับนั้นๆครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ ผมอยากจะจ่ายเงินให้คุณ ไหนๆ คุณก็ปรุงยาให้ผมแล้ว ใช้เวลาไปตั้งสามชั่วโมงกว่าจะได้มา ถ้าคุณโอเค ผมก็จะแบ่งกําไรให้ครึ่งหนึ่งครับ ทีนี้ผมกับคุณก็จะได้กันคนละสิบห้าทอง ถ้ายาถูกขายได้ในราคาที่มากกว่านั้น ผมก็จะแบ่งให้ครึ่งๆเท่าเดิมครับ”

 

“ว้าว เยี่ยมไปเลย! ขอบใจมากนะ! ฉันกําลังหาลู่ทางทําเงินอยู่พอดีเลย!” ไอเซ็นหัวเราะและตอบตกลง หลังจากที่มอร์โรมเดินไปด้านหลังชั้นวางของ เขาก็กลับมาพร้อมกับเงินสิบห้าเหรียญทอง

 

“รับไปสิครับ!” เขายิ้มและสํารวจตรวจสอบยาอีกครั้ง

 

หลังจากนั้นไอเซ็น มอร์โรมและบรีก็เดินออกจากห้องทํางาน และไอเซ็นก็ได้ประเมินสิ่งของต่างๆรอบตัวเพิ่มเติมจนกระทั่งอ่านไปเจอชื่อหนึ่ง เป็นชื่อที่ไม่คุ้นสําหรับเขา เขาเดินเข้าไปหาแหวนโลหะวงนั้นและหันมาหามอร์โรม “นี่ แหวนวงนี้น่ะ มันคือ…”

 

“มันไม่ใช่อย่างที่เห็นหรอกครับ! ผมไม่เคยมีสักวงเลย! ของพวกนี้ถูกสร้างขึ้นจากการร่ายมนต์ครับ ซึ่งผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นการร่ายมนต์ประเภทไหน นั่นคือเรื่องเดียวที่เกิดขึ้นครับ! แต่ในตอนที่ผมหยิบมาเล่นก็บังเอิญทํามันหัก คุณภาพมันต่ําครับ ก็ชัดเจนว่า ถ้าของดีคงไม่หักง่ายขนาดนี้ มันก็สมเหตุสมผลครับ ผมซื้อมาราคายังไม่ถึงหนึ่งทองเลยครับ” มอร์โรมอธิบายและหยิบแหวนวงนั้น และทําให้แน่ใจว่าทั้งไอเซ็นและบรีจะไม่เข้าใจผิด และเนื่องจากเขาไม่ได้ดูเป็นคนแบบนั้น ทั้งคู่จึงเชื่อเขา

 

“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกนะ แต่ฉันมีเรื่องจะถาม มันต่างไปจากตอนที่มันยังใช้งานได้อยู่ไหม?” ไอเซ็นถาม ขณะกําลังคิดกลเม็ดดีๆสําหรับวันพรุ่งนี้

 

“ไม่ครับ ไม่ต่างไปเลยแม้แต่น้อย ปกติคุณจะไม่ได้เห็นการร่ายมนต์แบบนั้นหรอกครับ และเนื่องจากผมไม่ได้ทํามันหักโดยตรง สภาพมันก็เลยยังเหมือนกับตอนแรกอยู่ครับ”

 

ไอเซ็นยิ้มกว้างและจับแหวนโลหะอย่างแน่น “ขอยืมได้ไหม?”

 

***

 

วันรุ่งขึ้นมาถึง ถึงวันที่เขาต้องดวลกับเฮนดริก มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันเพื่อชมการต่อสู้ครั้งนี้ที่หน้าทางเข้าเหมือง ก้นบึ้งของเมืองเมลโร

 

เมื่อไอเซ็นเดินฝ่าฝูงชนไปยังที่โล่ง เขาก็ได้รับการทักทายจากผู้คนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ตรงหน้าเขาคือเฮนดริกที่เผยรอยยิ้มเยาะและเหล่าลูกน้องของเขา ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ ไอเซ็นจําชายหนุ่มคนหนึ่งได้ เขาคือคนที่พยายามจะเข้าไปในห้องของไอเซ็นที่โรงแรมเมื่อไม่กี่วันก่อน

 

ยังมีคนอื่นอีกที่ไอเซ็นจําได้ อย่างเช่น เจ้าของโรงแรม, เด็นเมียร์, ฟลอเมียร่าห์, เจคเคิล และแน่นอนที่สุด มอร์โรม พวกเขากําลังรอชมอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่คราคร่ํา

 

เฮนดริกอยู่ในชุดเกราะสีขาวพร้อมโล่สะท้อนแสงวาววับ พร้อมกับดาบที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ไอเซ็นอดไม่ได้ที่จะยิ้มเย้ย เมื่อได้เห็น เห็นชัดได้ว่าของเหล่านี้ไม่ได้มีอะไรที่มากไปกว่าเอาไว้ขู่ขวัญไอเซ็น และเขายังบอกได้ทันทีอีกว่า เฮนดริกไร้ซึ่งสมดุล อุปกรณ์ต่างๆที่เขาสวมใส่อยู่นั้นไม่ได้เข้ากับสรีระของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

ตรงข้ามกับไอเซ็นที่อยู่ในชุดของพวกมือใหม่ ไม่คิดจะถอดเข็มขัดหรือรองเท้าออกด้วยซ้ํา เนื่องจากของเหล่านี้ เป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องการเพื่อจบการต่อสู้ให้โดยไว และดาบก็ให้บรีเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย รวมทั้งสิ่งของอื่นๆด้วย

 

ทุกคนต่างประหลาดใจที่เห็นไอเซ็นไม่ได้เตรียมความพร้อมที่จะต่อสู้มาเลย และเฮนดริกก็เริ่มหัวเราะ “โอ้? นี่เขาเรียกว่า ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มหรือเปล่านะ?”

 

ไอเซ็นส่ายหน้าเป็นการตอบกลับและเกราเคราพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานที่ปรากฏบนใบหน้า “ตรงกันข้ามเลยล่ะพ่อหนุ่ม ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อ

แพ้”

 

เฮนดริกมองข้ามไปด้านหลังของไอเซ็นและพบว่าบรียืนอยู่ตรงนั้น ในมือของเธอกําลังถือของชิ้นเยี่ยมของไอเซ็นอยู่ สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่หลัง และมีแหวนโลหะห้อยอยู่ที่คอ “น่าสนใจดีนี่ แล้วมันเป็นยังไง หา?” เขากัดฟัน และไอเซ็นก็หัวเราะเป็นการตอบ

 

“ฉันไม่รู้ว่านายหมายถึงอะไร”

 

“อย่ามาลูกเล่นกับฉันนะตาเฒ่า แต่อย่างไรเสีย มาสู้กันให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยดีกว่า?” เฮนดริกพูดแนะนํา และไอเซ็นก็ยังคงยิ้มอ่อนหวานให้

 

“จะเอายังไงก็ว่ามา” ไอเซ็นพูด และเฮนดริกก็ยิ้มกว้าง

 

“มาพนันกันดีกว่า เอาไหม? แกเป็นช่างฝีมือนี่ ใช่ไหม? คนของฉันสืบมาแล้วว่านายสร้างสิ่งของที่ยอดเยี่ยมได้”

 

“ฮ่า ๆ ฉันเข้าใจล่ะ แต่นั่นมันเกี่ยวข้องกับการสู้กันด้วยเหรอ?”

 

“ฉันต้องการของของแกทั้งหมด ทุกชิ้นจะเป็นของฉันเมื่อแกแพ้การต่อสู้ จะขออะไรจากฉันไปก็ได้นะ แต่ฉันไม่มีวันแพ้แกเสียหรอก” เฮนดริกตะโกนดังลั่นพอที่จะได้ยินกันทุกคน ทําให้ทุกคนค่อนข้างตกใจกับข้อเสนอนี้ ความสดใสของไอเซ็นเริ่มหายไปเรื่อยๆ นี่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาอย่างแน่นอน

 

“อืม…. เอาสิ ฉันจะมอบทุกอย่างที่ฉันมีให้นาย ไม่ต้องกังวลไปนะ แต่ในทางกลับกัน ถ้านายแพ้… ฉันจะให้นายแก้ผ้าแล้ววิ่งรอบเมืองพร้อมทําเสียงไก่ขันไปด้วย ตะโกนให้ทุกคนที่นายพบเจอได้ยินว่านายมันก็แค่ไอ้เด็กน้อยผู้ไร้น้ํายา” ไอเซ็นหัวเราะ และใบหน้าของเฮนดริกก็เริ่มแดงฉานขึ้นมาในทันที เนื่องจากฝูงชนที่อยู่รอบๆเริ่มหัวเราะคิกคักออกมา 

 

“หน็อย กะ แก! ก็ได้! ฉันขอรับทําท้า! แต่ไม่มีวันที่แกจะสมหวังเสียหรอก!”

 

[ภารกิจอัพเดท – การต่อสู้กับเฮนดริก]

 

[คําอธิบาย]

 

หลังจากการปกป้องเฟย์คินจากเฮนดริก ทําให้เขารู้สึกอุ่นเคืองและเรียกร้องการต่อสู้ คุณไม่มีทางรู้ว่าจะได้รับหรือสูญเสียอะไรจากการต่อสู้ครั้งนี้

 

[รางวัล]

 

เฮนดริกจะเปลื้องผ้าวิ่งไปทั่วเมือง และทําความอัปยศอดสูแก่ตัวเองด้วยการโห่ร้องเป็นเสียงไก่ขันให้แก่ผู้คนที่เขาวิ่งผ่านไป

 

[ความล้มเหลว]

 

คุณต้องมอบสัมภาระทุกอย่างที่มีแก่เฮนดริก

 

“เอาล่ะ ไอ้ขุนนางไร้ประโยชน์ ก้าวเข้ามาตรงนี้แล้วเริ่มการต่อสู้ของฉันได้แล้ว! ฉันจะสอนบทเรียนให้ตาแก่นี่ได้หลาบจํา!” เฮนดริกตะโกนและมองไปด้านข้างที่ฝูงชนเริ่มแยกตัวออกเป็นทาง

 

และไอเซ็นก็ต้องประหลาดใจกับเบลริมในสภาพเมาและดูข้องใจเดินเข้ามา ตามมาด้วยชายจํานวนหนึ่งในชุดเกราะ “เฮ้ย? แกเรียกฉันว่าอะไรนะไอ้เวร? ระวังปากแกหน่อยนะเข้าใจไหม? หรือจะให้ฉันบอก… อึก(เสียงสะอีกเพราะเมา) สมาคมให้ลดขั้นของแกเพราะไร้มารยาทแบบนี้?!” เบลริมเดินโซเซและมาหยุดอยู่หน้าไอเซ็น เขามองด้วยความสงสัย

 

“ไอเซ็น นายมาทําอะไรที่นี่? ฉันนึกว่านายเล่นงานไอ้ลูกหมาเฮนดริกนั่นแล้วเสียอีก!”

 

ไอเซ็นหัวเราะเบาๆ และวางมือบนไหล่ของคนแคระขี้เมา “ใช่ ฉันกําลังจะทํานี่ไง เมื่อกี้นายก็เพิ่งคุยกับหมอนั่นไปเองนะ อีกอย่าง ถ้านายไม่ถือสาล่ะก็เราจะคุยกันเรื่องตําแหน่งขุนนางของนายกันทีหลังนะ โอเคไหม?”

 

เบลริมเงยหน้ามองไอเซ็นและดวงตาเขาก็เบิกกว้าง “เดี๋ยว ฉันยังเป็นไอ้ขุนนางบ้าอะไรนั่นอยู่อีกเหรอ? ฉันคิดว่าแค่ฝันไปเสียอีก! หรือมันเป็นฝันที่ฉันเสียงานไปหลังจากหลับนอนกับเมียของขุนนางอื่นงั้นเหรอ…?”

 

หนึ่งในผู้ติดตามด้านหลังเบลริมเดินเข้ามาและเอนกาย เขากระแอมที่หนึ่งก่อนจะเริ่มกระซิบ “ขอประทานโทษขอรับ ใต้เท้า แต่เรื่องนั้นยังอยู่ภายใต้การพิจารณาขอรับ เหล่าขุนนางฟ้องร้องต่อท่านดยุค(ขุนนางชั้นสูง) เขาขอให้ใต้เท้าไปเข้าเฝ้าที่อาณาจักร จําไม่ได้เหรอครับ?”

 

“เอ๋? จริงสิฉันจําได้แล้ว! แม่นางสามคนนั้นแสบเอาเรื่อง และไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ ฮ่าๆ” เบลริมหัวเราะดังลั่นจน ต้องเอามือกุมท้อง ขณะที่เฮนดริกกําลังโกรธมากขึ้นเรื่อยๆที่ถูกเมินเช่นนี้

 

“เฮ้ย เบลริม! เริ่มเสียที! แกจะมาเป็นพยานการต่อสู้ครั้งนี้ไหมหรือยังไง?!” เขาตะโกน เบลริมจึงหันมาและยิ้มเยาะ

 

“เออ ก็ได้ อย่าหงุดหงิด… อึก… กับเรื่องไม่เป็นเรื่องไปหน่อยเลยหน่า! พวกนายทั้งคู่พร้อมหรือยัง?” เบลริมถาม ในความรําคาญและก้าวเข้ามาอยู่ระหว่างไอเซ็นและเฮนดริก พร้อมชูแขนข้างซ้ายขึ้น

 

“พร้อม! ฉันจะฆ่าแก ไอ้แก่!” เฮนดริกยิ้มออกมาจากโทสะและไอเซ็นก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันพร้อมแล้วเบลริม”

 

เบลริมมองเฮนดริกและไอเซ็นสลับไปมา จากนั้นเขาก็วาดแขนซ้ายลง “เริ่มได้!”

 

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น เฮนดริกก้าวมาข้างหน้าและชี้ดาบ ไร้ซึ่งท่าทางป้องกันใดๆทั้งสิ้น “ว่าไง? แกคิดไว้หรือยังวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? แกจะตายวันนี้ไง ไอ้แก่ การต่อสู้จะถือคําขาดจากพยาน การต่อสู้จะจบลงเมื่อคนใดคนหนึ่งตายหรือยอมแพ้ ของรักและของเล่นตัวน้อยของแกจะต้องเป็นของฉันเป็นของฉันทั้งหมด”

 

ในทางกลับกัน ไอเซ็นยังคงยืนนิ่ง ๆ และจ้องมองเฮน ดริกด้วยรอยยิ้ม เขากระแอมออกมาเนื่องจากต้องการใช้เสียงดังเพื่อพูดให้ทุกคนได้ยิน เขากําลังจะพูดออกมาสามคํา แค่สามคํานี้เท่านั้นที่จะเปลี่ยนช่วงเวลาการต่อสู้ไปในทันที

 

สามคํา ถ้าเขาพึมพําออกมา ก็จะทําให้เฮนดริกไม่สามารถทําอันตรายเขาได้อีกต่อไป เป็นสามคําที่เขาคาดไม่ถึง

 

“ฉั น ย อ ม แพ้”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+