เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]บทที่ 515 แนะนำให้เขาไล่คุณออก
บทที่ 515 แนะนำให้เขาไล่คุณออก
บทที่ 515 แนะนำให้เขาไล่คุณออก
คนบนเวทีมีสีหน้าแตกต่างกันไป สภาพเจียงเยว่ซานอ่อนระโหยโรยแรงมาก หากแต่แววตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
พิธีกรสาวยังนึกว่าตาฝาดเสียอีกตอนบังเอิญเห็นมัน
หลังจากกะพริบตามองอีกรอบ อีกฝ่ายก็ยังสีหน้าแบบเดิม
จนเธออดสงสัยไม่ได้
พิธีกรชายเห็นสายตาคนข้างกายก็อดมองตามมันไปไม่ได้ ก่อนจะเห็นสายตาชั่วร้ายคู่นั้น
ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก ก่อนละสายตาไปยังซื่อเลี่ยง
ชายคนนี้ดูซื่อตรงและไร้เดียงสา แววตาบริสุทธิ์ จะทำเรื่องพวกนี้จริง ๆ หรือ?
พิธีกรฉลาดพอที่รู้ว่าพูดอะไรไม่ได้
ตอนนั้นเองที่มีนักเรียนคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับปึกกระดาษวาดรูป ก่อนวางไว้ที่ที่นั่งแถวแรกข้างล่างเวที
ที่นั่งแถวนี้จะมีผู้นำมามอบรางวัล รวมถึงคณะกรรมการคัดเลือกในงานนั่งอยู่ด้วย
น้ำเสียงเจียงเยว่ซานยังอ่อนแรงอยู่ เธอเอ่ยขึ้นมาโดยไม่รอให้ซื่อเลี่ยงได้พูด “ท่านผู้นำและอาจารย์ทุกท่าน นี่เป็นงานฝึกวาดของฉันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่ะ”
“เอาผลงานที่ได้รับรางวัลมาดูหน่อยสิ!” ชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปีเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง
เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรม และเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้โดยเฉพาะ
เพราะงั้นจึงไม่คิดอยู่แล้วว่าจะมีเรื่องอัปยศเกิดขึ้น และทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่นดี แต่ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
ถ้าเป็นอุบัติเหตุก็ว่าไปอย่าง แต่นี่มันข่าวเสียเลยนะ
ถ้าหลุดออกไปจะเสียหน้าขนาดไหนกัน?
แต่เขาไม่ใช่คนที่ทำโทษคนอื่นโดยไม่สั่งสอน ไม่ว่ายังไงก็จะต้องให้โอกาสเด็กหนุ่มคนนี้
ในยุคนี้ถ้าได้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เราจะได้เรียนวิชาที่ใช้ได้ในชีวิตจริงและมีหลายคนเลยที่เรียนวาดรูป
หลังจากที่ผู้นำเอ่ย ในไม่ช้าเจ้าหน้าที่ก็ถือผลงานที่ได้รับรางวัลออกมาก่อนจะเปิดออกทีละแผ่น แล้ววางไว้ตรงหน้าเขากับคณะกรรมการตัดสิน
“รัฐมนตรีกู่ นี่เป็นภาพวาดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ครับ”
มีคนแนะนำให้รัฐมนตรีจ้าวได้ทราบ ส่วนรัฐมนตรีกู่หยิบภาพวาดที่ซื่อเลี่ยงเซ็นเอาไว้ขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง
แล้วก็ตรวจภาพที่เซ็นชื่อเจียงเยว่ซานขึ้นมาดูอย่างระวังเช่นกัน และภาพที่สามที่เป็นของซื่อเลี่ยง
เขาไม่เชี่ยวชาญพวกศิลปะพู่กันจีนแต่โชคดีที่มองออก ไม่งั้นจะรู้หรือภาพพวกนี้สไตล์เดียวกัน ทั้งการจัดองค์ประกอบรวมไปถึงฝีแปรง เห็นได้เลยว่าวาดโดยคนคนเดียวกัน
แถมเขาเคยเห็นลักษณะแบบนี้มาก่อน และยังคุ้นเคยเป็นอย่างดีด้วย
รัฐมนตรีกู่สีหน้าเย็นเฉียบ เอ่ยถามกรรมการข้าง ๆ “ตอนที่ตัดสินได้เจอปัญหาอะไรบ้างไหม?”
มีคนหนึ่งรีบตอบ “รัฐมนตรีกู่ครับ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าภาพมีความคล้ายคลึงกัน แต่ผมไม่ได้คิดมากเท่าไรครับ เพราะถ้าคนทั้งสองลอกเลียนแบบกันจริง ๆ หรือเรียนจากคนสอนคนคนเดียวกันก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ครับ”
กรรมการคนนั้นว่าก่อนจะมองเฉาเกาซวนอย่างมีนัย
คนโดนมองโดยไม่ได้ตั้งใจรู้สึกอึดอัดทันที
มองเขาทำไม?
เพราะแบบนี้ต่อให้หาเจอคนก็ไม่เชื่อกันหรอก แต่มันก็ไม่ง่ายอยู่ดีที่พวกเขาจะตัดสินงานทีละชิ้นจากหลายร้อยชิ้น และมันก็ยากมากที่จะสังเกตเห็น
รัฐมนตรีกู่ไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะตัดสินแบบนี้
แต่เขายังไม่เข้าใจ ลายเซ็นไม่เหมือนกันแต่มันวาดจากคนคนเดียวกัน ทว่าเราก็ไม่สามารถตัดสินมันได้ด้วยเหตุผลนี้
เพราะปัญหาคือเด็กสองคนนั้นต่างหาก
รัฐมนตรีกู่หันกลับมามองชายหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
หนึ่งในนี้ต้องมีคนที่โกหก แต่ว่าใครล่ะ เราต้องทำการพิจารณาต่อไป
“พวกคุณสองคนบอกผมได้ไหมว่าเรียนกับใครมา?” จู่ ๆ รัฐมนตรีกู่ก็ถามขึ้น
เจียงเยว่ซานสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
เรียนกับใครหรือ?
หรือซื่อเลี่ยงจะเคยเป็นศิษย์ใครมาก่อนด้วย?
แต่อาจารย์เฉาถามแล้ว ซื่อเลี่ยงบอกว่าไม่ได้เป็นศิษย์ใครมาด้วย
หรือซื่อเลี่ยงจะโกหก?
เจียงเยว่ซานเหลือบมองชายข้าง ๆ แต่รัฐมนตรีกู่บังเอิญเห็นพอดี
เขาขมวดคิ้ว เธอดูไม่มีพิษมีภัยนะแต่ทำไมรู้สึกเสแสร้งแปลก ๆ
“ท่านผู้นำสวัสดีค่ะ ฉันเรียนวาดรูปกับอาจารย์เฉาเกาซวนมาหลายปีแล้วค่ะ!” เจียงเยว่ซานเอ่ยเสียงอ่อน
ซื่อเลี่ยงต่อ “หลังจากที่ผมเข้ามหาวิทยาลัยก็เป็นนักเรียนของอาจารย์เฉาเหมือนกันครับ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคารวะเป็นศิษย์ของอาจารย์คนไหนครับ แต่ว่าตอนอยู่ในกองชุมชนเคยเรียนกับคุณย่าท่านหนึ่งมานิดหน่อยครับ!”
ถามเหมือนตอนที่เฉาเกาซวนถามเลย
ตอนได้ยินเหมือนเดิมเขาโล่งใจมาก
เขากลัวแน่ ๆ ถ้าจู่ ๆ ซื่อเลี่ยงโพล่งอะไรไม่น่าฟังออกมา
“ในกองชุมชนหรือ? เป็นคนของกองชุมชนหรือเปล่า?” จู่ ๆ สีหน้าของรัฐมนตรีกู่ก็ระมัดระวังมากขึ้น
ตอนนั้นซื่อเลี่ยงส่ายหัว “ไม่ครับ”
ชายหนุ่มคิดว่าอีกฝ่ายจะถามต่อ แต่ไม่นึกว่าแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
แต่การกระทำนั้น กลับทำให้เจียงเยว่ซานและเฉาเกาซวยประหม่ามาก
รัฐมนตรีหันไปพูดอะไรบางอย่างกับพวกคณะกรรมการ
“พวกคุณดูงานฝึกวาดพวกนี้ก่อนสิ”
สองอาจารย์และลูกศิษย์ผ่อนคลายลง
ท่านผู้นำคงไม่สงสัยหรอกใช่ไหม
คนอื่น ๆ เองก็คาดเดาความคิดของรัฐมนตรีไม่ได้เหมือนกัน แค่ทำตามที่เขาบอกด้วยการพิจารณาผลงานอย่างละเอียดถี่ถ้วนเท่านั้น
คณะกรรมการพลิกดูงานที่เซ็นชื่อเจียงเยว่ซานอย่างคร่าว ๆ หลังจากเปรียบเทียบกันเราก็เชื่อว่า ภาพที่ได้รางวัลทั้งสามน่าวาดจากคนคนเดียวกัน
“อาจารย์ทุกท่านคะ ตอนนี้ก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันได้แล้วใช่ไหมคะ?” เจียงเยว่ซานเอ่ยเสียงต่ำ น้ำเสียงคับแค้นใจราวกับโดนทำร้ายมาหนัก!
พวกคณะกรรมการเห็นหญิงสาวเสียใจ ก็มองซื่อเลี่ยงด้วยแววตารังเกียจ
ก่อนหน้าเราชอบซื่อเลี่ยงมาก เพราะเป็นเด็กที่มีความสามารถได้สองรางวัลพร้อมกัน แต่ตอนนี้รู้สึกแย่เหลือเกิน
ถ้าเด็กคนนี้ไม่ขยันก็ว่าไป แต่เขากลับลอกเลียนแบบผลงานคนอื่น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
แต่เพราะรัฐมนตรีกู่ไม่ได้เอ่ยปาก คนอื่น ๆ จึงได้แต่เงียบ
“ศิษย์น้อง มีอะไรที่อยากจะพูดอีกไหม?”
เจียงเยว่ซานภาคภูมิใจมาก ไม่คิดเลยว่าภาพฝึกวาดพวกนั้นจะเอามาใช้ได้
มาดูก่อนว่าคราวซูซื่อเลี่ยงจะทำอะไรได้อีก
เธอปกปิดสีหน้าได้ดีมาก แม้เราจะมาจนถึงตอนนี้แต่ก็ยังแสดงความอ่อนแอออกมาได้อยู่
พระเจ้ารู้ เพราะเป็นท่าทางที่ทำให้เธอขออะไรจากเฉาเกาซวนก็ได้!
ซื่อเลี่ยงเหอะเสียงเย็น
คนแบบนี้เขาไม่อยากจะพูดด้วยสักนิด!
และท่าทางของเขาทำให้พวกคณะกรรมการโกรธจัดเพราะคิดว่าเขารั้น
“ซูซื่อเลี่ยง ต่อให้คุณไม่มีความสามารถ ไม่มีพรสวรรค์ ชีวิตไม่ได้เลิศหรูก็ตาม แต่จะมาโกงกันแบบนี้ไม่ได้! แถมคุณยังไม่จดจำความผิดของตัวเองอีก น่าผิดหวังเหลือเกิน!”
มีกรรมการคนหนึ่งอดทนไม่ได้จึงด่าออกไปตรง ๆ
พอมีคนแรกก็มีคนที่สองตามมา
“ฉันจะเขียนจดหมายถึงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยคุณ และแนะนำให้เขาไล่คุณออกซะ!”
“อาจารย์จู ฉันขอเข้าร่วมด้วยคนค่ะ!”
เหล่ากรรมการกำลังแย่งกันพูด เหมือนกลัวว่าตัวเองจะเสียเปรียบใคร
Comments