A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน 1861 ยาลูกกลอนกร่อนเซียน

Now you are reading A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน Chapter 1861 ยาลูกกลอนกร่อนเซียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ชิงหยวนจื่อมีเรื่องเช่นนี้จริงๆ หรือ?” ชายชรากะพริบตาปริบๆ เอ่ยถามชิงหยวนจื่อด้วยความประหลาดใจ

“ใช่แล้ว นมแม่น้ำยมโลกของสหายจินเยี่ยนถูกข้าน้อยใช้ของสิ่งอื่นแลกไปแล้ว พี่ซวีหลิงนมวิญญาณดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อท่านนะ และยิ่งไปกว่านั้นเผ่าของท่านก็ได้นมวิญญาณจำนวนมากไปอยู่แล้วมิใช่หรือ! ผู้อื่นอาจจะใช้พวกมันไม่ได้ แต่จากฐานะของท่านน่าจะใช้ได้อย่างง่ายดาย?” ชิงหยวนจื่อเอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ประการแรกตาเฒ่าไม่ได้หานมวิญญาณให้ตัวเอง ข้ามีประโยชน์ใช้สอยด้านอื่น ประการที่สองเผ่าแมลงเม่าของพวกเราสูญเสียนมวิญญาณไปจำนวนมากจึงไม่ได้มีเยอะอย่างที่เจ้าคิด นมวิญญาณที่เหลืออยู่ก็ถูกข้านำไปใช้หมดแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่มาหาที่พวกเจ้าหรอก ข้าแลกจากคนอื่นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่พอใช้ ดังนั้นชิงหยวนจื่อ ตาเฒ่าไม่สนว่าเจ้าจะเอานมวิญญาณไปทำอันใดแต่ข้ายอมจ่ายให้สองเท่าเพื่อแลกมันมา” ชายชราเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายชิงหยวนจื่อก็หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยอดที่จะครุ่นคิดไม่ได้

หานลี่นั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในใจกับเต้นระรัว

ส่วนจินเยี่ยนโหวกลับกอดอกมองชิงหยวนจื่อและชายชราด้วยรอยยิ้ม ท่าทางไม่เกี่ยวกับตนเอง

“พี่ซวีหลิงจากราคาที่สูงเช่นนี้ผู้แซ่เจียงไม่ควรจะปฏิเสธ แต่นมวิญญาณเหล่านี้ถูกข้าน้อยมอบให้กับสหายน้อยหานแล้ว ต่อให้ผู้แซ่เจียงอยากตอบรับก็เกรงว่าจะทำไม่ได้” ในที่สุดชิงหยวนจื่อก็สั่นศีรษะ

“ให้คนอื่นแล้ว! เจ้าเด็กนี่งั้นหรือ?” ชายชราขมวดคิ้วเผยสีหน้าไม่ยินดีออกมา

“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าติดค้างสหายน้อยหานอยู่ครั้งหนึ่ง นมวิญญาณเหล่านี้เป็นค่าตอบแทนของผู้แซ่เจียงหากสหายจะบังคับเอาเกรงว่าข้าน้อยคงไม่อาจไม่สนใจเหตุผลได้” ชิงหยวนจื่อถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

“อ๋อ ดูแล้วเจ้าคงติดค้างเจ้าหนูนี่ไม่น้อย แม้แต่คำพูดเช่นนี้ก็ยังพูดออกมา ไม่ค่อยได้พบเห็นเลยนะ! ทว่าแม้ว่าตาเฒ่าจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่มีทางบีบเอาของจากชนผู้น้อย แต่หากเขายอมให้ข้าเอง เจ้าก็ไม่ควรขัดขวางสินะ!” แววตาของชายชราฉายแววสีเหลืองสว่างวาบ หาววอดแล้วเอ่ยถาม

“ขอแค่สหายน้อยหานยอม ผู้แซ่เจียงย่อมไม่ยุ่ง” ครานี้ชิงหยวนจื่อจึงพลันเอ่ยอย่างเด็ดขาด

“เช่นนั้นก็ดี!” ชายชราพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หันหน้าไปพิจารณาหานลี่สองสามแวบอีกครั้ง แล้วเผยรอยยิ้มออกมา

“ท่านอาวุโส นมวิญญาณเหล่านั้น…” หานลี่เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเช่นนี้ ก็ใจเต้นตึกตัก รีบประสานมือคารวะพลางอธิบาย

“ไม่ต้องพูดอันใด! แม้ว่าตาเฒ่าจะบ้าคลั่งแต่ก็ไม่รังแกผู้ด้อยกว่า ต่อให้ต้องการนมวิญญาณในมือของเจ้า ก็ต้องให้เจ้ามอบมันด้วยตัวเอง” ชายชราโบกมืออย่างมีแผนการ แล้วเอ่ยอย่างตัดบท

จากนั้นก็เห็นเขาสะบัดแขนเสื้อ บนโต๊ะมีลำแสงสีดำเปล่งแสงสว่างวาบ ขวดหยกขนาดน้อยใหญ่ไม่เท่ากันสิบกว่าขวดปรากฏขึ้น

“ยาลูกกลอนในขวดยาเหล่านี้เป็นยาลูกกลอนพัฒนาระดับขั้นผสานอินทรีย์ที่ข้ารวบรวมมา จำนวนมากเช่นนี้ คุ้มค่ากับนมวิญญาณหนึ่งขวดหรือยัง เจ้ามีนมวิญญาณกี่ขวด ข้าจะให้ยาลูกกลอนชดเชยเท่านั้น” ชายชราหัวเราะหึๆ ขณะเอ่ย

แม้ว่าชิงหยวนจื่อและจินเยี่ยนโหวจะใช้ยาลูกกลอนเหล่านั้นไม่ได้ แต่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ตกตะลึง

ยาลูกกลอนเหล่านี้ไม่ว่าขวดใดเอาออกไปด้านนอก ก็ทำให้ผู้ที่มีพลังยุทธ์ระดับผสานอินทรีย์ตั้งเท่าไหร่แย่งชิงกันแล้ว เมื่อยาลูกกลอนจำนวนมากขนาดนี้อยู่ด้วยกัน สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไปแล้ว มูลค่าย่อมเหนือกว่านมวิญญาณแม่น้ำยมโลก

ชายชราซวีหลิงลงมือ ก็หยิบออกมายี่สิบถึงสามสิบขวดอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้ชิงหยวนจื่อและพวกทั้งสองตาค้าง และมองไปทางหานลี่อย่างอดไม่ไหว

หานลี่เห็นยาลูกกลอนเหล่านี้ก็ตกตะลึง แต่ไม่ได้เผยสีหน้ายินดีออกมา กลับมีสีหน้าแปลกประหลาด

ลังเลเล็กน้อย หานลี่ยกมือขึ้น ตะปบมือไปฝั่งตรงข้าม

ขวดหนึ่งส่งเสียง “สวบ” แล้วถูกดูดเข้ามาในมือ เปิดฝาขวดออก เทยาลูกกลอนสีเขียวออกมาเม็ดหนึ่ง

หานลี่ถือยาลูกกลอน พิจารณาอย่างละเอียด

“นี่คือยาลูกกลอนเงามรกต เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ในเผ่าทะเลมรกต กินไปเม็ดหนึ่ง ก็เพียงพอจะทำให้เจ้าลดการฝึกบำเพ็ญเพียรอย่างหนักไปสองสามเดือนแล้ว! และยาที่ข้าเอาออกมาทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ระดับกลางเท่านั้น” ชายชราซวีหลิงเห็นการเคลื่อนไหวของหานลี่ ก็ลูบเคราหร็อมแหร็มใต้ค้าง สั่นศีรษะขณะเอ่ย

เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็พึงพอใจมากที่ตนรวบรวมยาลูกกลอนระดับผสานอินทรีย์มาได้มากมายเช่นนี้

“ยาลูกกลอนเหล่านี้ของท่านอาวุโสล้ำค่าจริงๆ แต่ชนรุ่นหลังกลับเกรงว่าจะเอานมวิญญาณออกมาแลกไม่ได้” หานลี่มองยาลูกกลอนสีเขียวในมือ แล้วกวาดตามองยาลูกกลอนอื่นๆ บนโต๊ะ แต่กลับเอ่ยพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา

“อันใด หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าให้ยาลูกกลอนปลอมกับเจ้า?” ชายชราพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา

ชิงหยวนจื่อและจินเยี่ยนโหวมองสบตากันแวบหนึ่ง แต่กลับมีสีหน้าหลากหลาย

“ชนรุ่นหลังไม่มีความคิดนี้ ไม่ปิดบังม่านอาวุโส ชนรุ่นหลังมียาลูกกลอนที่ใช้พัฒนาระดับขั้นอยู่ไม่น้อย ดังนั้นต่อให้ยาลูกกลอนของท่านอาวุโสดีขนาดไหน แต่สำหรับชนรุ่นหลังกลับไม่มีประโยชน์นัก” หานลี่รีบอธิบาย

“มียาลูกกลอนแล้ว! เจ้าใช้ยาลูกกลอนชนิดใด หรือว่าจะดีกว่าตาเฒ่า?” ชายชราพลันตกตะลึง แต่ก็เผยสีหน้าไม่เชื่อออกมา

หานลี่ได้ยิน ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วทำได้เพียงเอ่ยว่า

“ชนรุ่นหลังจะกล้าหลอกลวงได้อย่างไร! หากท่านอาวุโสไม่เชื่อล่ะก็ ดูยาลูกกลอนของชนรุ่นหลังได้”

เอ่ยจบ หานลี่ก็พลิกฝ่ามือ ลำแสงวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบ ขวดหยกสีขาวปรากฏขึ้นในมือ สะบัดแขนแล้วโยนให้ฝั่งตรงข้าม

ชายชรายังคงมีสีหน้าไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นท่าทางราบเรียบของหานลี่ ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เขารับขวดยามา เพิ่งจะเปิดฝาขวด กลิ่นหอมบริสุทธิ์ก็โชยมา

ชายชราหน้าเปลี่ยนสี และไม่ได้รีบเทยาลูกกลอนออกมา แต่ดมกลิ่นอยู่ที่ปากขวด และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ครู่ต่อมาเขาก็มีสีหน้าบัดเดี๋ยวเคร่งขรึมบัดเดี๋ยวสดใส!

“พี่ซวีหลิง เจ้าเป็นปรมาจารย์ด้านการปรุงยาหรือว่ายาของสหายน้อยหานมีปัญหา?” จินเยี่ยนโหวที่ไม่เกี่ยวข้องพลันเอ่ยถามด้วยความสนใจอย่างไม่หวาดกลัว

“ยาลูกกลอนไม่มีปัญหาแต่กลิ่นยาดูเหมือนจะแปลกประหลาด…” ชายชราไม่ได้เอ่ยอันใดมากพลางสั่นศีรษะ จากนั้นก็เปิดฝาออกและเทยาลูกกลอนขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา

ยาลูกกลอนนี้เป็นสีแดงเพลิงผิวของมันมีลวดลายสีทองเป็นเส้นๆ มีลำแสงวิญญาณไหลวนโคจรไปมาไม่หยุดราวกับสิ่งมีชีวิต

“นี่คือ… ยาลูกกลอนกร่อนเซียนไม่ผิดแน่ คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะหาหญ้ากร่อนพิษที่หายสาบสูญไปได้?” ชายชราคู่ควรกับที่เป็นตัวประหลาดเฒ่าที่ใกล้จะฟาดเคราะห์สวรรค์แค่พิจารณายาลูกกลอนสีแดงเพลิงก็เอ่ยออกมาด้วยความตกตะลึง

“อันใดนะ ยาลูกกลอนนี้ปรุงจากหญ้ากร่อนพิษ?” จินเยี่ยนโหวที่แต่เดิมนั่งหลังตรงได้ยินคำนี้ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าตื่นเต้น

ชิงหยวนจื่อแววตาเปล่งประกายและเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา

ชายชราไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาทันทีแต่พิจารณาและตรวจสอบยาลูกกลอนในมืออีกครั้งถึงได้เก็บเข้าไปในขวดอีกครั้งและโยนขวดยากลับมาให้หานลี่โดยไม่พูดไม่จา

“ในเมื่อเป็นยากร่อนเซียน สรรพคุณของยานี้ก็เหนือกว่ายาลูกกลอนของตาเฒ่านับว่าเจ้าไม่ได้พูดโกหก ทว่าเจ้าหาหญ้ากร่อนพิษได้และหลอมยาชนิดนี้ได้ก็นับว่ามีวาสนามาก จากจุดนี้หญ้ากร่อนพิษก็มีประสิทธิภาพต่อสิ่งมีชีวิตระดับมหายานไม่น้อย” ชายชราพยักหน้าแล้วเอ่ยกับหานลี่อย่างมีเลศนัย

“ชนรุ่นหลังรู้เพียงว่าหญ้านี้ใช้หลอมยาลูกกลอนที่มีประโยชน์ต่อผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ได้ แต่ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใดกับระดับมหายานหวังว่าท่านอาวุโสจะชี้แนะสักหน่อย!” หานลี่ใจเต้นแล้วคาระวะพลางเอ่ยถามชายชรา

“นี่ไม่ใช่ความลับอันใดหากหลอมพิษของหญ้ากร่อนพิษได้จากนั้นก็กินเข้าไปยามที่อยู่ในระดับมหายานอาศัยการกระตุ้นของพิษก็สามารถทะลวงจุดคอขวดที่ติดอยู่ได้สองสามส่วนทว่าวิธีการเช่นนี้อันตรายยิ่งหากไม่ระวังก็อาจจะถูกพิษกำเริบจนตาย และยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ปราณแท้จะต้องได้รับบาดเจ็บ นับว่าเป็นวิธีที่ไม่สมบูรณ์ ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิธีนี้เพิ่มอัตราการบรรลุระดับได้น้อยมากได้ไม่คุ้มเสีย! ทว่าหากมั่นใจว่าตนเองไม่มีโอกาสทะลวงจุดคอขวดได้และยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่อาจฟาดเคราะห์อัสนีครั้งต่อไปได้ก็อาจจะลองเสี่ยงชีวิตดูได้ แต่หากหลอมเป็นของเหลวกร่อนพิษมากินจำนวนของหญ้าที่ต้องการก็น่าตกตะลึงจริงๆ เป็นเรื่องที่ในอดีตก็มีคนทำได้น้อยมาก” ชายชรากวาดตามองชิงหยวนจื่อและจินเยี่ยนโหวแล้วหัวเราะหึๆ ขณะเอ่ย

ชิงหยวนจื่อเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะน้อยๆ ออกมาสีหน้าราบเรียบไม่ได้เผยสีหน้าประหลาดใจใดๆ ส่วนจินเยี่ยนโหวกลับแววตาเปล่งประกายเผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา

“เอาล่ะในเมื่อสหายน้อยไม่ขาดแคลนยาลูกกลอน เช่นนั้นตาเฒ่าก็จะใช้สมบัติอาคมแลกเปลี่ยนก็แล้วกัน เจ้าดูให้ดีก็แล้วกันตาเฒ่าจะให้เจ้าเลือกได้สามชิ้น!” ชายชราซวีหลิงเพิ่งเอ่ยจบก็สะบัดแขนเสื้อขึ้นไปกลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นแขนเสื้อพลันเปล่งแสงสว่างวาบคาดไม่ถึงว่าจะขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า จากนั้นก็มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น สมบัติอาคมนับร้อยชิ้นทะลักออกมาจากแขนเสื้อราวกับระลอกคลื่น

สมบัติอาคมบางชิ้นก็เปล่งแสงเจิดจ้าจนแสบตา บางชิ้นก็กรีดร้องโหยหวนไม่หยุด และบางชิ้นก็กะพริบวาบๆ ราวกับควันสีเขียวก็ไม่ปาน…

ไม่ว่าสมบัติชนิดใดกลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็น่าตกตะลึงยิ่ง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสมบัติระดับสุดยอดทุกชิ้นมีอยู่สองสามชิ้นที่พลังแรงกดไม่ด้อยไปกว่าไม้สีเงินในมือของหานลี่

ยามนี้แม้ว่าหานลี่จะมองจนตาพร่ามัวแต่ก็ตกตะลึงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

จินเยี่ยนโหวและชิงหยวนจื่อเห็นเช่นนี้กลับมองสบตากันด้วยรอยยิ้ม

“พี่ซวีหลิงสหายน้อยหานเป็นผู้ที่มีฐานะไม่ธรรมดา ไม่แน่ว่าแม้แต่สมบัติในรายการหมื่นสมบัติก็ยังมีติดตัวอยู่สองสามชิ้น หากท่านอยากแลกกับนมวิญญาณแค่ของเหล่านี้เกรงว่าจะไม่พอ มิสู้เอาของที่แท้จริงออกมาสักสองสามชิ้นให้ข้าและพี่เจียงได้เปิดโลกไปด้วยกัน!” จินเยี่ยนโหวกลอกตาไปมาเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน 1861 ยาลูกกลอนกร่อนเซียน

Now you are reading A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน Chapter 1861 ยาลูกกลอนกร่อนเซียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ชิงหยวนจื่อมีเรื่องเช่นนี้จริงๆ หรือ?” ชายชรากะพริบตาปริบๆ เอ่ยถามชิงหยวนจื่อด้วยความประหลาดใจ

“ใช่แล้ว นมแม่น้ำยมโลกของสหายจินเยี่ยนถูกข้าน้อยใช้ของสิ่งอื่นแลกไปแล้ว พี่ซวีหลิงนมวิญญาณดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อท่านนะ และยิ่งไปกว่านั้นเผ่าของท่านก็ได้นมวิญญาณจำนวนมากไปอยู่แล้วมิใช่หรือ! ผู้อื่นอาจจะใช้พวกมันไม่ได้ แต่จากฐานะของท่านน่าจะใช้ได้อย่างง่ายดาย?” ชิงหยวนจื่อเอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ประการแรกตาเฒ่าไม่ได้หานมวิญญาณให้ตัวเอง ข้ามีประโยชน์ใช้สอยด้านอื่น ประการที่สองเผ่าแมลงเม่าของพวกเราสูญเสียนมวิญญาณไปจำนวนมากจึงไม่ได้มีเยอะอย่างที่เจ้าคิด นมวิญญาณที่เหลืออยู่ก็ถูกข้านำไปใช้หมดแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่มาหาที่พวกเจ้าหรอก ข้าแลกจากคนอื่นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่พอใช้ ดังนั้นชิงหยวนจื่อ ตาเฒ่าไม่สนว่าเจ้าจะเอานมวิญญาณไปทำอันใดแต่ข้ายอมจ่ายให้สองเท่าเพื่อแลกมันมา” ชายชราเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายชิงหยวนจื่อก็หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยอดที่จะครุ่นคิดไม่ได้

หานลี่นั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในใจกับเต้นระรัว

ส่วนจินเยี่ยนโหวกลับกอดอกมองชิงหยวนจื่อและชายชราด้วยรอยยิ้ม ท่าทางไม่เกี่ยวกับตนเอง

“พี่ซวีหลิงจากราคาที่สูงเช่นนี้ผู้แซ่เจียงไม่ควรจะปฏิเสธ แต่นมวิญญาณเหล่านี้ถูกข้าน้อยมอบให้กับสหายน้อยหานแล้ว ต่อให้ผู้แซ่เจียงอยากตอบรับก็เกรงว่าจะทำไม่ได้” ในที่สุดชิงหยวนจื่อก็สั่นศีรษะ

“ให้คนอื่นแล้ว! เจ้าเด็กนี่งั้นหรือ?” ชายชราขมวดคิ้วเผยสีหน้าไม่ยินดีออกมา

“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าติดค้างสหายน้อยหานอยู่ครั้งหนึ่ง นมวิญญาณเหล่านี้เป็นค่าตอบแทนของผู้แซ่เจียงหากสหายจะบังคับเอาเกรงว่าข้าน้อยคงไม่อาจไม่สนใจเหตุผลได้” ชิงหยวนจื่อถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

“อ๋อ ดูแล้วเจ้าคงติดค้างเจ้าหนูนี่ไม่น้อย แม้แต่คำพูดเช่นนี้ก็ยังพูดออกมา ไม่ค่อยได้พบเห็นเลยนะ! ทว่าแม้ว่าตาเฒ่าจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่มีทางบีบเอาของจากชนผู้น้อย แต่หากเขายอมให้ข้าเอง เจ้าก็ไม่ควรขัดขวางสินะ!” แววตาของชายชราฉายแววสีเหลืองสว่างวาบ หาววอดแล้วเอ่ยถาม

“ขอแค่สหายน้อยหานยอม ผู้แซ่เจียงย่อมไม่ยุ่ง” ครานี้ชิงหยวนจื่อจึงพลันเอ่ยอย่างเด็ดขาด

“เช่นนั้นก็ดี!” ชายชราพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หันหน้าไปพิจารณาหานลี่สองสามแวบอีกครั้ง แล้วเผยรอยยิ้มออกมา

“ท่านอาวุโส นมวิญญาณเหล่านั้น…” หานลี่เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเช่นนี้ ก็ใจเต้นตึกตัก รีบประสานมือคารวะพลางอธิบาย

“ไม่ต้องพูดอันใด! แม้ว่าตาเฒ่าจะบ้าคลั่งแต่ก็ไม่รังแกผู้ด้อยกว่า ต่อให้ต้องการนมวิญญาณในมือของเจ้า ก็ต้องให้เจ้ามอบมันด้วยตัวเอง” ชายชราโบกมืออย่างมีแผนการ แล้วเอ่ยอย่างตัดบท

จากนั้นก็เห็นเขาสะบัดแขนเสื้อ บนโต๊ะมีลำแสงสีดำเปล่งแสงสว่างวาบ ขวดหยกขนาดน้อยใหญ่ไม่เท่ากันสิบกว่าขวดปรากฏขึ้น

“ยาลูกกลอนในขวดยาเหล่านี้เป็นยาลูกกลอนพัฒนาระดับขั้นผสานอินทรีย์ที่ข้ารวบรวมมา จำนวนมากเช่นนี้ คุ้มค่ากับนมวิญญาณหนึ่งขวดหรือยัง เจ้ามีนมวิญญาณกี่ขวด ข้าจะให้ยาลูกกลอนชดเชยเท่านั้น” ชายชราหัวเราะหึๆ ขณะเอ่ย

แม้ว่าชิงหยวนจื่อและจินเยี่ยนโหวจะใช้ยาลูกกลอนเหล่านั้นไม่ได้ แต่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ตกตะลึง

ยาลูกกลอนเหล่านี้ไม่ว่าขวดใดเอาออกไปด้านนอก ก็ทำให้ผู้ที่มีพลังยุทธ์ระดับผสานอินทรีย์ตั้งเท่าไหร่แย่งชิงกันแล้ว เมื่อยาลูกกลอนจำนวนมากขนาดนี้อยู่ด้วยกัน สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไปแล้ว มูลค่าย่อมเหนือกว่านมวิญญาณแม่น้ำยมโลก

ชายชราซวีหลิงลงมือ ก็หยิบออกมายี่สิบถึงสามสิบขวดอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้ชิงหยวนจื่อและพวกทั้งสองตาค้าง และมองไปทางหานลี่อย่างอดไม่ไหว

หานลี่เห็นยาลูกกลอนเหล่านี้ก็ตกตะลึง แต่ไม่ได้เผยสีหน้ายินดีออกมา กลับมีสีหน้าแปลกประหลาด

ลังเลเล็กน้อย หานลี่ยกมือขึ้น ตะปบมือไปฝั่งตรงข้าม

ขวดหนึ่งส่งเสียง “สวบ” แล้วถูกดูดเข้ามาในมือ เปิดฝาขวดออก เทยาลูกกลอนสีเขียวออกมาเม็ดหนึ่ง

หานลี่ถือยาลูกกลอน พิจารณาอย่างละเอียด

“นี่คือยาลูกกลอนเงามรกต เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ในเผ่าทะเลมรกต กินไปเม็ดหนึ่ง ก็เพียงพอจะทำให้เจ้าลดการฝึกบำเพ็ญเพียรอย่างหนักไปสองสามเดือนแล้ว! และยาที่ข้าเอาออกมาทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ระดับกลางเท่านั้น” ชายชราซวีหลิงเห็นการเคลื่อนไหวของหานลี่ ก็ลูบเคราหร็อมแหร็มใต้ค้าง สั่นศีรษะขณะเอ่ย

เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็พึงพอใจมากที่ตนรวบรวมยาลูกกลอนระดับผสานอินทรีย์มาได้มากมายเช่นนี้

“ยาลูกกลอนเหล่านี้ของท่านอาวุโสล้ำค่าจริงๆ แต่ชนรุ่นหลังกลับเกรงว่าจะเอานมวิญญาณออกมาแลกไม่ได้” หานลี่มองยาลูกกลอนสีเขียวในมือ แล้วกวาดตามองยาลูกกลอนอื่นๆ บนโต๊ะ แต่กลับเอ่ยพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา

“อันใด หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าให้ยาลูกกลอนปลอมกับเจ้า?” ชายชราพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา

ชิงหยวนจื่อและจินเยี่ยนโหวมองสบตากันแวบหนึ่ง แต่กลับมีสีหน้าหลากหลาย

“ชนรุ่นหลังไม่มีความคิดนี้ ไม่ปิดบังม่านอาวุโส ชนรุ่นหลังมียาลูกกลอนที่ใช้พัฒนาระดับขั้นอยู่ไม่น้อย ดังนั้นต่อให้ยาลูกกลอนของท่านอาวุโสดีขนาดไหน แต่สำหรับชนรุ่นหลังกลับไม่มีประโยชน์นัก” หานลี่รีบอธิบาย

“มียาลูกกลอนแล้ว! เจ้าใช้ยาลูกกลอนชนิดใด หรือว่าจะดีกว่าตาเฒ่า?” ชายชราพลันตกตะลึง แต่ก็เผยสีหน้าไม่เชื่อออกมา

หานลี่ได้ยิน ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วทำได้เพียงเอ่ยว่า

“ชนรุ่นหลังจะกล้าหลอกลวงได้อย่างไร! หากท่านอาวุโสไม่เชื่อล่ะก็ ดูยาลูกกลอนของชนรุ่นหลังได้”

เอ่ยจบ หานลี่ก็พลิกฝ่ามือ ลำแสงวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบ ขวดหยกสีขาวปรากฏขึ้นในมือ สะบัดแขนแล้วโยนให้ฝั่งตรงข้าม

ชายชรายังคงมีสีหน้าไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นท่าทางราบเรียบของหานลี่ ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เขารับขวดยามา เพิ่งจะเปิดฝาขวด กลิ่นหอมบริสุทธิ์ก็โชยมา

ชายชราหน้าเปลี่ยนสี และไม่ได้รีบเทยาลูกกลอนออกมา แต่ดมกลิ่นอยู่ที่ปากขวด และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ครู่ต่อมาเขาก็มีสีหน้าบัดเดี๋ยวเคร่งขรึมบัดเดี๋ยวสดใส!

“พี่ซวีหลิง เจ้าเป็นปรมาจารย์ด้านการปรุงยาหรือว่ายาของสหายน้อยหานมีปัญหา?” จินเยี่ยนโหวที่ไม่เกี่ยวข้องพลันเอ่ยถามด้วยความสนใจอย่างไม่หวาดกลัว

“ยาลูกกลอนไม่มีปัญหาแต่กลิ่นยาดูเหมือนจะแปลกประหลาด…” ชายชราไม่ได้เอ่ยอันใดมากพลางสั่นศีรษะ จากนั้นก็เปิดฝาออกและเทยาลูกกลอนขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา

ยาลูกกลอนนี้เป็นสีแดงเพลิงผิวของมันมีลวดลายสีทองเป็นเส้นๆ มีลำแสงวิญญาณไหลวนโคจรไปมาไม่หยุดราวกับสิ่งมีชีวิต

“นี่คือ… ยาลูกกลอนกร่อนเซียนไม่ผิดแน่ คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะหาหญ้ากร่อนพิษที่หายสาบสูญไปได้?” ชายชราคู่ควรกับที่เป็นตัวประหลาดเฒ่าที่ใกล้จะฟาดเคราะห์สวรรค์แค่พิจารณายาลูกกลอนสีแดงเพลิงก็เอ่ยออกมาด้วยความตกตะลึง

“อันใดนะ ยาลูกกลอนนี้ปรุงจากหญ้ากร่อนพิษ?” จินเยี่ยนโหวที่แต่เดิมนั่งหลังตรงได้ยินคำนี้ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าตื่นเต้น

ชิงหยวนจื่อแววตาเปล่งประกายและเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา

ชายชราไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาทันทีแต่พิจารณาและตรวจสอบยาลูกกลอนในมืออีกครั้งถึงได้เก็บเข้าไปในขวดอีกครั้งและโยนขวดยากลับมาให้หานลี่โดยไม่พูดไม่จา

“ในเมื่อเป็นยากร่อนเซียน สรรพคุณของยานี้ก็เหนือกว่ายาลูกกลอนของตาเฒ่านับว่าเจ้าไม่ได้พูดโกหก ทว่าเจ้าหาหญ้ากร่อนพิษได้และหลอมยาชนิดนี้ได้ก็นับว่ามีวาสนามาก จากจุดนี้หญ้ากร่อนพิษก็มีประสิทธิภาพต่อสิ่งมีชีวิตระดับมหายานไม่น้อย” ชายชราพยักหน้าแล้วเอ่ยกับหานลี่อย่างมีเลศนัย

“ชนรุ่นหลังรู้เพียงว่าหญ้านี้ใช้หลอมยาลูกกลอนที่มีประโยชน์ต่อผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ได้ แต่ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใดกับระดับมหายานหวังว่าท่านอาวุโสจะชี้แนะสักหน่อย!” หานลี่ใจเต้นแล้วคาระวะพลางเอ่ยถามชายชรา

“นี่ไม่ใช่ความลับอันใดหากหลอมพิษของหญ้ากร่อนพิษได้จากนั้นก็กินเข้าไปยามที่อยู่ในระดับมหายานอาศัยการกระตุ้นของพิษก็สามารถทะลวงจุดคอขวดที่ติดอยู่ได้สองสามส่วนทว่าวิธีการเช่นนี้อันตรายยิ่งหากไม่ระวังก็อาจจะถูกพิษกำเริบจนตาย และยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ปราณแท้จะต้องได้รับบาดเจ็บ นับว่าเป็นวิธีที่ไม่สมบูรณ์ ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิธีนี้เพิ่มอัตราการบรรลุระดับได้น้อยมากได้ไม่คุ้มเสีย! ทว่าหากมั่นใจว่าตนเองไม่มีโอกาสทะลวงจุดคอขวดได้และยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่อาจฟาดเคราะห์อัสนีครั้งต่อไปได้ก็อาจจะลองเสี่ยงชีวิตดูได้ แต่หากหลอมเป็นของเหลวกร่อนพิษมากินจำนวนของหญ้าที่ต้องการก็น่าตกตะลึงจริงๆ เป็นเรื่องที่ในอดีตก็มีคนทำได้น้อยมาก” ชายชรากวาดตามองชิงหยวนจื่อและจินเยี่ยนโหวแล้วหัวเราะหึๆ ขณะเอ่ย

ชิงหยวนจื่อเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะน้อยๆ ออกมาสีหน้าราบเรียบไม่ได้เผยสีหน้าประหลาดใจใดๆ ส่วนจินเยี่ยนโหวกลับแววตาเปล่งประกายเผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา

“เอาล่ะในเมื่อสหายน้อยไม่ขาดแคลนยาลูกกลอน เช่นนั้นตาเฒ่าก็จะใช้สมบัติอาคมแลกเปลี่ยนก็แล้วกัน เจ้าดูให้ดีก็แล้วกันตาเฒ่าจะให้เจ้าเลือกได้สามชิ้น!” ชายชราซวีหลิงเพิ่งเอ่ยจบก็สะบัดแขนเสื้อขึ้นไปกลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นแขนเสื้อพลันเปล่งแสงสว่างวาบคาดไม่ถึงว่าจะขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า จากนั้นก็มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น สมบัติอาคมนับร้อยชิ้นทะลักออกมาจากแขนเสื้อราวกับระลอกคลื่น

สมบัติอาคมบางชิ้นก็เปล่งแสงเจิดจ้าจนแสบตา บางชิ้นก็กรีดร้องโหยหวนไม่หยุด และบางชิ้นก็กะพริบวาบๆ ราวกับควันสีเขียวก็ไม่ปาน…

ไม่ว่าสมบัติชนิดใดกลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็น่าตกตะลึงยิ่ง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสมบัติระดับสุดยอดทุกชิ้นมีอยู่สองสามชิ้นที่พลังแรงกดไม่ด้อยไปกว่าไม้สีเงินในมือของหานลี่

ยามนี้แม้ว่าหานลี่จะมองจนตาพร่ามัวแต่ก็ตกตะลึงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

จินเยี่ยนโหวและชิงหยวนจื่อเห็นเช่นนี้กลับมองสบตากันด้วยรอยยิ้ม

“พี่ซวีหลิงสหายน้อยหานเป็นผู้ที่มีฐานะไม่ธรรมดา ไม่แน่ว่าแม้แต่สมบัติในรายการหมื่นสมบัติก็ยังมีติดตัวอยู่สองสามชิ้น หากท่านอยากแลกกับนมวิญญาณแค่ของเหล่านี้เกรงว่าจะไม่พอ มิสู้เอาของที่แท้จริงออกมาสักสองสามชิ้นให้ข้าและพี่เจียงได้เปิดโลกไปด้วยกัน!” จินเยี่ยนโหวกลอกตาไปมาเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+