A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน 2039 เคล็ดวิชาฟื้นฟูวิญญาณ

Now you are reading A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน Chapter 2039 เคล็ดวิชาฟื้นฟูวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ก่อนหน้านี้ในส่วนลึกของหุบเขาแห่งหนึ่ง เขาพบผลึกลมอัคคีขนาดใหญ่ในมือ แต่เมื่อเขากำลังจะนำมันไป กลับถูกกลุ่มวิหคอสูรที่อยู่ใกล้ๆ ค้นพบ จากนั้นจึงถูกไล่ล่า และสุดท้ายก็ทำให้พวกมันกลัวจนหนีไป ฉันพลันก็เกิดแสงสว่างวาบในมือของหานลี่ เขาเก็บผลึกลมอัคคี และจดจ่อกับการเดินทาง เค้าบินไปตลอดทางโดยไม่เกิดเหตุใดๆ หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เมื่อถึงชายป่า กลับมีมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ปรากฏอยู่ไกลๆ หานลี่ขมวดคิ้วน้อยๆ แต่แล้วก็ผ่อนคลาย นี่คงจะเป็นมหาสมุทรส่วนใน แม้จะมีอสูรทะเลอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับมหาสมุทรส่วนนอกที่ไร้ขอบเขต แสงเขียวสว่างวาบ หานลี่กลายเป็นลำแสงหลีกหนีแล้วทะยานเข้าไปในอาณาเขตทะเล หลังจากกะพริบวาบไม่กี่ครั้ง ก็ไปถึงยังทะเลที่อยู่ห่างออกไปกว่าพันลี้ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกระหึ่มจากทะเลเบื้องล่าง! ลำแสงสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากทะเล มุ่งเป้าไปที่หานลี่ที่อยู่บนท้องฟ้า ทันใดนั้นแขนเสื้อของเขาก็สะบัดด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย แสงสีเทาสายหนึ่งพุ่งออกมาและรวมเป็นเส้นสีเทาเรียวยาวนับไม่ถ้วน ‘พรึ่บ’ ลำแสงสีน้ำเงินถูกเจาะด้วยแสงสีเทา ปลาประหลาดสีน้ำเงินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือตกลงมาจากท้องฟ้า ปลาประหลาดเหล่านี้ไม่มีเกล็ด ทว่าหัวกลับยาวและคมราวกับมีด ประหลาดจริงๆ หานลี่สังหารปลาประหลาดหลายร้อยตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่แสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากทะเลมากกว่าเดิม หานลี่เลิกคิ้ว อาคมเปลี่ยนไปเล็กน้อย แสงสีเทาที่พุ่งออกจากแขนเสื้อ แตกกิ่งเป็นเส้นสายออกมามากขึ้นในทันที จากนั้นก็สังหารปลาประหลาดที่บินไปมาทั้งหมดลง ไม่นานนัก ปลาประหลาดนับหมื่นตัวก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น ดูเหมือนว่าวิธีการเช่นนี้จะทำให้ปลาประหลาดหวาดกลัว ทะเลที่เคยปั่นป่วนกลับเข้าสู่ความสงบ และไม่มีแสงสีน้ำเงินเล็ดลอดออกมาจากทะเลอีกเลย หานลี่สะบัดฝ่ามือ แสงสีเทาวาบประกายและม้วนกลับเข้าไปในแขนเสื้อของเขา ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เพิ่มพลังปราณของเขาเล็กน้อย และด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเมื่อก่อนเกือบครึ่ง เขาจึงพุ่งทะยานเข้าลึกในอาณาเขตทะเล ไม่กี่ชั่วยาม เมื่อดวงอาทิตย์มารจมลงสู่ทะเล ท้องฟ้าพลันมืดลงทันใด อาณาเขตทะเลส่วนลึกนั้นเงียบงัน กลิ่นอายที่ไม่อ่อนแอเริ่มปรากฏ หานลี่กวาดสายตามองไปข้างล่าง ในบางครั้งสามารถเห็นแขนขาของอสูรทะเลขนาดใหญ่มหึมาจนน่าตกใจปรากฏให้เห็นบนพื้นผิวทะเลเป็นครั้งคราว หานลี่ขมวดคิ้ว เมื่อแหงนหน้ามองฟ้า ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวันนี้ไม่เหมาะจะเดินทางต่อ แม้ว่าด้วยอิทธิฤทธิ์ของเขา ไม่จำเป็นจะต้องกลัวอสูรทะเลทรงพลังที่ปรากฏตอนกลางคืน แต่ก็สามารถเกิดปัญหาได้ ซึ่งเขาไม่อยากลำบากจนเกินไป และยิ่งไปกว่านั้นด้วยความที่เขารีบเดินทาง จึงไม่ได้พักผ่อนมาสิบกว่าวันแล้ว เป็นการดีที่จะใช้โอกาสนี้ในการพักฟื้นพลัง เมื่อตัดสินใจได้ จึงปล่อยจิตสัมผัสออกไปยังบริเวณโดยรอบทันที กวาดผ่านอาณาเขตภายในทะเลหลายพันลี้ ไม่นานนัก สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไป ทิศทางของแสงหลีกหนีเปลี่ยนไปกะทันหัน แล้วพุ่งแหวกอากาศไปต่อ เวลาผ่านไปหนึ่งกาน้ำชา ก็มีจุดสีดำปรากฏขึ้นในทะเลอยู่ไกลๆ เมื่อหานลี่กระตุ้นให้ลำแสงสีเขียวเข้าไปใกล้ พลันมองเห็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่มากได้อย่าชัดเจน มีขนาดราวๆ สิบลี้ แต่กลับมีภูเขาสูงหลายพันจั้งอยู่ด้านบน และเกาะยังถูกล้อมรอบด้วยชั้นหมอกบางๆ หานลี่หรี่ตาลง ใช้จิตสัมผัสกวาดมองทั้งเกาะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ร่อนลงไปยังเกาะทันที หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีเขียวกะพริบวาบ หานลี่ปรากฏตัวขึ้นบนไหล่เขาแห่งหนึ่ง ด้านหน้ามีปากทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่หลายจั้ง เมื่อหานลี่เหลือบมองปากถ้ำ แขนเสื้อข้างหนึ่งของเขาก็สั่นไหว ทันใดนั้นกระบี่เล่มเล็กสีเขียวก็พุ่งออกมาและหายไปในพริบตา ผ่านไปไม่นาน มีเสียงอสูรมารร้องคำรามอยู่ในถ้ำ และเสียงหยุดลงทันทีพร้อมกับเสียงคำราม ฝีเท้าของหานลี่ขยับ สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมในขณะที่ก้าวเดิน ถ้ำแคบและยาวมาก หลังจากเดินไปไกลห้าสิบหกสิบจั้ง ถ้ำจึงค่อยๆ กว้างขึ้น ถ้ำนี้ปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้งสีเขียวที่ไม่รู้จัก ด้านบนมีอสูรมารถูกกรีดร่างผ่าครึ่ง หานลี่ชี้นิ้วไปยังศพของอสูรมาร จากนั้นจึงเกิดประกายไฟ ‘พรึ่บ’ เปลวเพลิงได้เปลี่ยนอสูรมารและหญ้าแห้งด้านล่างให้เป็นเถ้าถ่านในทันที ในที่สุดถ้ำก็สะอาดหมดจด จากนั้นหานลี่จึงนั่งขัดสมาธิอยู่กลางถ้ำ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก สร้อยข้อมือเก็บของก็เกิดสั่นไหวเล็กน้อย แสงสีขาววาบประกาย ทันใดนั้นอิฐผลึกใสแวววาวยาวครึ่งฉื่อสี่ก้อนก็พุ่งออกมาและลอยอยู่ข้างหน้าเขา เป็นอิฐศักดิ์สิทธิ์สี่ก้อนที่หานลี่ได้รับมาจากเจ้าเมืองเซวี่ยยาเมื่อปีก่อน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หานลี่ศึกษาพวกมัน เขายกฝ่ามือขึ้นโบกอย่างคุ้นชิน เสียงฟ้าร้องดังสนั่น! ประจุไฟฟ้าสีทองสี่สายพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ในชั่วพริบตามันหายเข้าไปในอิฐผลึกทั้งสี่ก้อน อิฐศักดิ์สิทธิ์พลันเปล่งแสงออกมาในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นมันขยายใหญ่เป็นสิบเท่า แปรเปลี่ยนเป็นกำแพงผลึกขนาดใหญ่สี่ด้าน จากนั้นก็มีอักขระสีม่วงดำปรากฏอยู่บนกำแพงอย่างหนาแน่น ดวงตาของหานลี่กะพริบเล็กน้อย เขาตรวจสอบอักขระบนผลึกอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่บนอิฐผลึก ครึ่งชั่วยามผ่านไป หานลี่หลับตาลง ครุ่นคิดอยู่สักพัก บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ชีหลิงสมกับที่มีชื่อเสียงในแดนมารเมื่อครั้งอดีต การฝึกวิทยายุทธ์หลายแขนงของเขาไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย น่าเสียดายที่เขาฝึกฝนวิชามารเที่ยงแท้พราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะเปลี่ยนเคล็ดวิชาฝึกฝนก็ได้ แต่ถึงกระนั้น ความลับของเคล็ดวิชามารที่อยู่ในอิฐศักดิ์สิทธิ์ ยังเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก อีกทั้งยังมีสองสามชุดที่สามารถฝึกฝนได้ หานลี่ครุ่นคิดในใจ จากนั้นชี้นิ้วทั้งห้าไปยังอิฐผลึกทั้งสี่และวาดไปมาบนอากาศสองสามครั้ง ทันใดนั้นอิฐผลึกทั้งสี่ก้อนเคลื่อนไหวและเปลี่ยนตำแหน่งต่อหน้าเขา ภายใต้การเคลื่อนไหว ในที่สุดทั้งสี่ก้อนทับซ้อนกันก็เรียงเป็นแถว จากนั้นแสงของอิฐศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไป แต่ละก้อนเปล่งลำแสงสวยงามออกมาในทิศทางเดียวกัน ลำแสงทั้งสี่ซ้อนทับและรวมเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด จากนั้นก็ปรากฏแผนที่ขนาดใหญ่อย่างชัดเจนยาวหลายจั้งสะท้อนให้เห็นบนกำแพงหินที่อยู่ไม่ไกล ภูมิประเทศของภูเขาและแม่น้ำถูกทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่ และมีเครื่องหมายแปลกประหลาดของมังกรดำเขาเดี่ยวประทับอยู่ตรงกลาง หานลี่จองไปยังแผนที่ด้วยดวงตาที่สั่นไหว ใบหน้าครุ่นคิด ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเพียงใด แขนเสื้อของเขาสะบัดไปด้านหน้า จากนั้นแสงก็กะพริบวาบ กำแพงผลึกทั้งสี่หายไปในพริบตา แผนที่บนกำแพงหินก็หายไปในเวลาเดียวกัน หานลี่ถอนหายใจเบาๆ วางมือบนเข่าพลางคิดไตร่ตรอง หนึ่งปีก่อน เขาเริ่มศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ก้อนที่ได้รับมาในทันทีหลังจากกำจัดมดมารเหล่านั้นได้สำเร็จ ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขา เขาสามารถศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างละเอียดภายในไม่กี่วัน และได้ค้นพบแผนที่คลังสมบัติชีหลิง น่าเสียดาย แท้ดูเหมือนว่าแผนที่จะละเอียดมาก แต่ไม่มีข้อความใดระบุไว้เลย ภูมิประเทศที่อยู่บนแผนที่นั้นยิ่งไม่คุ้นเคยกับคนนอกอย่างหานลี่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าสมบัติอยู่ที่ใด แม้หานลี่จะได้แผนที่บางส่วนในเมืองเซวี่ยยามา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงแผนที่คร่าวๆ ของแดนมาร และมีแผนที่ภูมิศาสตร์ที่มีรายละเอียดเจาะจงเพียงเล็กน้อย เขาทำได้เพียงลองหาส่วนอื่นจากเมืองอื่นๆ ในภายภาคหน้า เพื่อดูว่าเขาจะสามารถหาเบาะแสได้หรือไม่ ด้วยพลังอิทธิฤทธิ์พลังยุทธ์ของเขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพึ่งพาคลังสมบัติลับชีหลิงนี้ แต่ถ้าไม่ทำให้เป้าหมายหลักในการเดินทางท่องแดนมารล่าช้า มันก็คงดีไม่น้อยหากได้รับผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงนี้ หลังจากที่หานลี่ครุ่นคิดสักพัก เขาจึงวางเรื่องนี้ไว้ชั่วครู่ และยกมือขึ้นร่ายอาคม เกิดประกายสีทองระยิบระยับบนร่างกายของเขา เกล็ดสีทองปรากฏขึ้นบนผิวกาย จากนั้นเทวรูปสามเศียรหกกรก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังของเขา ดวงตาทั้งหกเปิดขึ้นพร้อมกับกะพริบแสงเย็นวาบ และแขนทั้งหกต่างร่ายรำในท่าทางแปลกๆ หานลี่พลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นกองจานเขตอาคมหลากสีก็ปรากฏในมือเขา เมื่อสะบัดข้อมือ มันก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงหลายสิบสายพุ่งออกไป และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในอากาศรอบๆ ในเวลาต่อมา ร่างกายของหานลี่มีแสงห้าสีเปล่งประกาย จากนั้นจึงปรากฏเขตอาคมโบราณขนาดหลายจั้งห่อหุ้มไว้ แสงส่องประกายในเขตอาคม มองเห็นอักขระอาคมสีทองวิจิตรงดงามสลักอยู่บนนั้น เมื่อมองดูด้านในให้ความรู้ราวกับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ใบหน้าของหานลี่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทว่าสิบนิ้วของเขากลับดีดไปมา ศิลาวิญญาณระดับสูงพุ่งออกมาเจ็ดแปดก้อน และตกลงไปในเขตอาคมภายในพริบตา หลังจากนั้นก็ประสานมือ และส่งเสียงร้องคำรามออกมา! เมื่อเขตอาคมส่งเสียงอื้ออึง ทันใดนั้นก็เกิดแสงประกายงดงาม กลายเป็นม่านแสงห้าสี และปกคลุมร่างกายของหานลี่อย่างสมบูรณ์ ปราณมารจางๆ ในอากาศถูกแสงขับไล่ออกไปในทันที ในขณะเดียวกันนั้นปราณวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสูงก็ลเนทะลักออกมาภายในม่านแสง! หานลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองของเขาร่ายอาคมแปลกๆ มีแสงสีดำเปล่งประกายระหว่างคิ้ว ทันใดนั้นดวงตาอันมืดมิดก็ปรากฏขึ้น เสียงร่ายคาถาที่ยากจะเข้าใจดังออกมาจากเขตอาคม ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าทั้งสามของเทวรูปมารเที่ยงแท้กลับแสดงสีหน้าเป็นสุข โกรธเกรี้ยว และโศกเศร้าที่แตกต่างกันออกมา ทว่าร่างกายกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง ขณะนี้ หานลี่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อ ภายใต้การกระตุ้นของคาถา อักขระอาคมสีเงินขนาดเท่าเมล็ดถั่วยังคงหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง ทว่าแรกเริ่มมีไม่ถึงกี่อักขระ ตอนนี้มีมากกว่าสิบอักขระ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อักขระอาคมเริ่มโผล่ออกมาจากร่างกายของหานลี่มากขึ้น และหมุนวนไปมาในม่านแสง ในที่สุดก็เริ่มมีขนาดเท่ากำปั้น ในขณะนี้ ร่างกายของหานลี่เริ่มค่อยๆ เปล่งประกายใสแวววาวราวกับหยก เกล็ดบนผิวกายเริ่มสั่นไหว แปรเปลี่ยนเป็นอักขระอาคมสีทองหายเข้าไปในร่างกายหานลี่ เสียงคำรามดังสนั่น! เมื่ออักขระอาคมสีเงินในม่านแสงหยุดนิ่ง จึงกลายเป็นแสงสีเงิน และพุ่งเข้าหาหานลี่ราวกับพายุ

ก่อนหน้านี้ในส่วนลึกของหุบเขาแห่งหนึ่ง เขาพบผลึกลมอัคคีขนาดใหญ่ในมือ แต่เมื่อเขากำลังจะนำมันไป กลับถูกกลุ่มวิหคอสูรที่อยู่ใกล้ๆ ค้นพบ จากนั้นจึงถูกไล่ล่า และสุดท้ายก็ทำให้พวกมันกลัวจนหนีไป

ฉันพลันก็เกิดแสงสว่างวาบในมือของหานลี่ เขาเก็บผลึกลมอัคคี และจดจ่อกับการเดินทาง

เค้าบินไปตลอดทางโดยไม่เกิดเหตุใดๆ หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เมื่อถึงชายป่า กลับมีมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ปรากฏอยู่ไกลๆ

หานลี่ขมวดคิ้วน้อยๆ แต่แล้วก็ผ่อนคลาย

นี่คงจะเป็นมหาสมุทรส่วนใน แม้จะมีอสูรทะเลอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับมหาสมุทรส่วนนอกที่ไร้ขอบเขต

แสงเขียวสว่างวาบ

หานลี่กลายเป็นลำแสงหลีกหนีแล้วทะยานเข้าไปในอาณาเขตทะเล หลังจากกะพริบวาบไม่กี่ครั้ง ก็ไปถึงยังทะเลที่อยู่ห่างออกไปกว่าพันลี้

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกระหึ่มจากทะเลเบื้องล่าง!

ลำแสงสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากทะเล มุ่งเป้าไปที่หานลี่ที่อยู่บนท้องฟ้า

ทันใดนั้นแขนเสื้อของเขาก็สะบัดด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย แสงสีเทาสายหนึ่งพุ่งออกมาและรวมเป็นเส้นสีเทาเรียวยาวนับไม่ถ้วน

‘พรึ่บ’ ลำแสงสีน้ำเงินถูกเจาะด้วยแสงสีเทา

ปลาประหลาดสีน้ำเงินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือตกลงมาจากท้องฟ้า

ปลาประหลาดเหล่านี้ไม่มีเกล็ด ทว่าหัวกลับยาวและคมราวกับมีด ประหลาดจริงๆ

หานลี่สังหารปลาประหลาดหลายร้อยตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่แสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากทะเลมากกว่าเดิม

หานลี่เลิกคิ้ว อาคมเปลี่ยนไปเล็กน้อย แสงสีเทาที่พุ่งออกจากแขนเสื้อ แตกกิ่งเป็นเส้นสายออกมามากขึ้นในทันที จากนั้นก็สังหารปลาประหลาดที่บินไปมาทั้งหมดลง

ไม่นานนัก ปลาประหลาดนับหมื่นตัวก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น

ดูเหมือนว่าวิธีการเช่นนี้จะทำให้ปลาประหลาดหวาดกลัว

ทะเลที่เคยปั่นป่วนกลับเข้าสู่ความสงบ และไม่มีแสงสีน้ำเงินเล็ดลอดออกมาจากทะเลอีกเลย

หานลี่สะบัดฝ่ามือ แสงสีเทาวาบประกายและม้วนกลับเข้าไปในแขนเสื้อของเขา

ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เพิ่มพลังปราณของเขาเล็กน้อย และด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเมื่อก่อนเกือบครึ่ง เขาจึงพุ่งทะยานเข้าลึกในอาณาเขตทะเล

ไม่กี่ชั่วยาม เมื่อดวงอาทิตย์มารจมลงสู่ทะเล ท้องฟ้าพลันมืดลงทันใด

อาณาเขตทะเลส่วนลึกนั้นเงียบงัน กลิ่นอายที่ไม่อ่อนแอเริ่มปรากฏ

หานลี่กวาดสายตามองไปข้างล่าง ในบางครั้งสามารถเห็นแขนขาของอสูรทะเลขนาดใหญ่มหึมาจนน่าตกใจปรากฏให้เห็นบนพื้นผิวทะเลเป็นครั้งคราว

หานลี่ขมวดคิ้ว เมื่อแหงนหน้ามองฟ้า ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวันนี้ไม่เหมาะจะเดินทางต่อ

แม้ว่าด้วยอิทธิฤทธิ์ของเขา ไม่จำเป็นจะต้องกลัวอสูรทะเลทรงพลังที่ปรากฏตอนกลางคืน แต่ก็สามารถเกิดปัญหาได้ ซึ่งเขาไม่อยากลำบากจนเกินไป

และยิ่งไปกว่านั้นด้วยความที่เขารีบเดินทาง จึงไม่ได้พักผ่อนมาสิบกว่าวันแล้ว เป็นการดีที่จะใช้โอกาสนี้ในการพักฟื้นพลัง

เมื่อตัดสินใจได้ จึงปล่อยจิตสัมผัสออกไปยังบริเวณโดยรอบทันที กวาดผ่านอาณาเขตภายในทะเลหลายพันลี้

ไม่นานนัก สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไป ทิศทางของแสงหลีกหนีเปลี่ยนไปกะทันหัน แล้วพุ่งแหวกอากาศไปต่อ

เวลาผ่านไปหนึ่งกาน้ำชา ก็มีจุดสีดำปรากฏขึ้นในทะเลอยู่ไกลๆ เมื่อหานลี่กระตุ้นให้ลำแสงสีเขียวเข้าไปใกล้ พลันมองเห็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่มากได้อย่าชัดเจน มีขนาดราวๆ สิบลี้ แต่กลับมีภูเขาสูงหลายพันจั้งอยู่ด้านบน และเกาะยังถูกล้อมรอบด้วยชั้นหมอกบางๆ

หานลี่หรี่ตาลง ใช้จิตสัมผัสกวาดมองทั้งเกาะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ร่อนลงไปยังเกาะทันที

หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีเขียวกะพริบวาบ หานลี่ปรากฏตัวขึ้นบนไหล่เขาแห่งหนึ่ง ด้านหน้ามีปากทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่หลายจั้ง

เมื่อหานลี่เหลือบมองปากถ้ำ แขนเสื้อข้างหนึ่งของเขาก็สั่นไหว

ทันใดนั้นกระบี่เล่มเล็กสีเขียวก็พุ่งออกมาและหายไปในพริบตา

ผ่านไปไม่นาน มีเสียงอสูรมารร้องคำรามอยู่ในถ้ำ และเสียงหยุดลงทันทีพร้อมกับเสียงคำราม

ฝีเท้าของหานลี่ขยับ สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมในขณะที่ก้าวเดิน

ถ้ำแคบและยาวมาก หลังจากเดินไปไกลห้าสิบหกสิบจั้ง ถ้ำจึงค่อยๆ กว้างขึ้น

ถ้ำนี้ปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้งสีเขียวที่ไม่รู้จัก ด้านบนมีอสูรมารถูกกรีดร่างผ่าครึ่ง

หานลี่ชี้นิ้วไปยังศพของอสูรมาร จากนั้นจึงเกิดประกายไฟ

‘พรึ่บ’ เปลวเพลิงได้เปลี่ยนอสูรมารและหญ้าแห้งด้านล่างให้เป็นเถ้าถ่านในทันที

ในที่สุดถ้ำก็สะอาดหมดจด

จากนั้นหานลี่จึงนั่งขัดสมาธิอยู่กลางถ้ำ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก สร้อยข้อมือเก็บของก็เกิดสั่นไหวเล็กน้อย

แสงสีขาววาบประกาย ทันใดนั้นอิฐผลึกใสแวววาวยาวครึ่งฉื่อสี่ก้อนก็พุ่งออกมาและลอยอยู่ข้างหน้าเขา

เป็นอิฐศักดิ์สิทธิ์สี่ก้อนที่หานลี่ได้รับมาจากเจ้าเมืองเซวี่ยยาเมื่อปีก่อน

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หานลี่ศึกษาพวกมัน เขายกฝ่ามือขึ้นโบกอย่างคุ้นชิน

เสียงฟ้าร้องดังสนั่น!

ประจุไฟฟ้าสีทองสี่สายพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ในชั่วพริบตามันหายเข้าไปในอิฐผลึกทั้งสี่ก้อน

อิฐศักดิ์สิทธิ์พลันเปล่งแสงออกมาในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นมันขยายใหญ่เป็นสิบเท่า แปรเปลี่ยนเป็นกำแพงผลึกขนาดใหญ่สี่ด้าน จากนั้นก็มีอักขระสีม่วงดำปรากฏอยู่บนกำแพงอย่างหนาแน่น

ดวงตาของหานลี่กะพริบเล็กน้อย เขาตรวจสอบอักขระบนผลึกอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่บนอิฐผลึก

ครึ่งชั่วยามผ่านไป หานลี่หลับตาลง ครุ่นคิดอยู่สักพัก

บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ชีหลิงสมกับที่มีชื่อเสียงในแดนมารเมื่อครั้งอดีต การฝึกวิทยายุทธ์หลายแขนงของเขาไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย น่าเสียดายที่เขาฝึกฝนวิชามารเที่ยงแท้พราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะเปลี่ยนเคล็ดวิชาฝึกฝนก็ได้ แต่ถึงกระนั้น ความลับของเคล็ดวิชามารที่อยู่ในอิฐศักดิ์สิทธิ์ ยังเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก อีกทั้งยังมีสองสามชุดที่สามารถฝึกฝนได้

หานลี่ครุ่นคิดในใจ จากนั้นชี้นิ้วทั้งห้าไปยังอิฐผลึกทั้งสี่และวาดไปมาบนอากาศสองสามครั้ง

ทันใดนั้นอิฐผลึกทั้งสี่ก้อนเคลื่อนไหวและเปลี่ยนตำแหน่งต่อหน้าเขา ภายใต้การเคลื่อนไหว ในที่สุดทั้งสี่ก้อนทับซ้อนกันก็เรียงเป็นแถว

จากนั้นแสงของอิฐศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไป แต่ละก้อนเปล่งลำแสงสวยงามออกมาในทิศทางเดียวกัน

ลำแสงทั้งสี่ซ้อนทับและรวมเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด จากนั้นก็ปรากฏแผนที่ขนาดใหญ่อย่างชัดเจนยาวหลายจั้งสะท้อนให้เห็นบนกำแพงหินที่อยู่ไม่ไกล

ภูมิประเทศของภูเขาและแม่น้ำถูกทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่ และมีเครื่องหมายแปลกประหลาดของมังกรดำเขาเดี่ยวประทับอยู่ตรงกลาง

หานลี่จองไปยังแผนที่ด้วยดวงตาที่สั่นไหว ใบหน้าครุ่นคิด

ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเพียงใด แขนเสื้อของเขาสะบัดไปด้านหน้า จากนั้นแสงก็กะพริบวาบ

กำแพงผลึกทั้งสี่หายไปในพริบตา

แผนที่บนกำแพงหินก็หายไปในเวลาเดียวกัน

หานลี่ถอนหายใจเบาๆ วางมือบนเข่าพลางคิดไตร่ตรอง

หนึ่งปีก่อน เขาเริ่มศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ก้อนที่ได้รับมาในทันทีหลังจากกำจัดมดมารเหล่านั้นได้สำเร็จ

ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขา เขาสามารถศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างละเอียดภายในไม่กี่วัน และได้ค้นพบแผนที่คลังสมบัติชีหลิง

น่าเสียดาย แท้ดูเหมือนว่าแผนที่จะละเอียดมาก แต่ไม่มีข้อความใดระบุไว้เลย ภูมิประเทศที่อยู่บนแผนที่นั้นยิ่งไม่คุ้นเคยกับคนนอกอย่างหานลี่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าสมบัติอยู่ที่ใด

แม้หานลี่จะได้แผนที่บางส่วนในเมืองเซวี่ยยามา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงแผนที่คร่าวๆ ของแดนมาร และมีแผนที่ภูมิศาสตร์ที่มีรายละเอียดเจาะจงเพียงเล็กน้อย

เขาทำได้เพียงลองหาส่วนอื่นจากเมืองอื่นๆ ในภายภาคหน้า เพื่อดูว่าเขาจะสามารถหาเบาะแสได้หรือไม่

ด้วยพลังอิทธิฤทธิ์พลังยุทธ์ของเขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพึ่งพาคลังสมบัติลับชีหลิงนี้ แต่ถ้าไม่ทำให้เป้าหมายหลักในการเดินทางท่องแดนมารล่าช้า มันก็คงดีไม่น้อยหากได้รับผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงนี้

หลังจากที่หานลี่ครุ่นคิดสักพัก เขาจึงวางเรื่องนี้ไว้ชั่วครู่ และยกมือขึ้นร่ายอาคม

เกิดประกายสีทองระยิบระยับบนร่างกายของเขา เกล็ดสีทองปรากฏขึ้นบนผิวกาย จากนั้นเทวรูปสามเศียรหกกรก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังของเขา

ดวงตาทั้งหกเปิดขึ้นพร้อมกับกะพริบแสงเย็นวาบ และแขนทั้งหกต่างร่ายรำในท่าทางแปลกๆ

หานลี่พลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นกองจานเขตอาคมหลากสีก็ปรากฏในมือเขา เมื่อสะบัดข้อมือ มันก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงหลายสิบสายพุ่งออกไป และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในอากาศรอบๆ

ในเวลาต่อมา ร่างกายของหานลี่มีแสงห้าสีเปล่งประกาย จากนั้นจึงปรากฏเขตอาคมโบราณขนาดหลายจั้งห่อหุ้มไว้

แสงส่องประกายในเขตอาคม มองเห็นอักขระอาคมสีทองวิจิตรงดงามสลักอยู่บนนั้น เมื่อมองดูด้านในให้ความรู้ราวกับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

ใบหน้าของหานลี่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทว่าสิบนิ้วของเขากลับดีดไปมา

ศิลาวิญญาณระดับสูงพุ่งออกมาเจ็ดแปดก้อน และตกลงไปในเขตอาคมภายในพริบตา

หลังจากนั้นก็ประสานมือ และส่งเสียงร้องคำรามออกมา!

เมื่อเขตอาคมส่งเสียงอื้ออึง ทันใดนั้นก็เกิดแสงประกายงดงาม กลายเป็นม่านแสงห้าสี และปกคลุมร่างกายของหานลี่อย่างสมบูรณ์

ปราณมารจางๆ ในอากาศถูกแสงขับไล่ออกไปในทันที ในขณะเดียวกันนั้นปราณวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสูงก็ลเนทะลักออกมาภายในม่านแสง!

หานลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองของเขาร่ายอาคมแปลกๆ มีแสงสีดำเปล่งประกายระหว่างคิ้ว ทันใดนั้นดวงตาอันมืดมิดก็ปรากฏขึ้น

เสียงร่ายคาถาที่ยากจะเข้าใจดังออกมาจากเขตอาคม ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าทั้งสามของเทวรูปมารเที่ยงแท้กลับแสดงสีหน้าเป็นสุข โกรธเกรี้ยว และโศกเศร้าที่แตกต่างกันออกมา ทว่าร่างกายกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง

ขณะนี้ หานลี่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อ

ภายใต้การกระตุ้นของคาถา อักขระอาคมสีเงินขนาดเท่าเมล็ดถั่วยังคงหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง ทว่าแรกเริ่มมีไม่ถึงกี่อักขระ ตอนนี้มีมากกว่าสิบอักขระ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป อักขระอาคมเริ่มโผล่ออกมาจากร่างกายของหานลี่มากขึ้น และหมุนวนไปมาในม่านแสง ในที่สุดก็เริ่มมีขนาดเท่ากำปั้น

ในขณะนี้ ร่างกายของหานลี่เริ่มค่อยๆ เปล่งประกายใสแวววาวราวกับหยก เกล็ดบนผิวกายเริ่มสั่นไหว แปรเปลี่ยนเป็นอักขระอาคมสีทองหายเข้าไปในร่างกายหานลี่

เสียงคำรามดังสนั่น!

เมื่ออักขระอาคมสีเงินในม่านแสงหยุดนิ่ง จึงกลายเป็นแสงสีเงิน และพุ่งเข้าหาหานลี่ราวกับพายุ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน 2039 เคล็ดวิชาฟื้นฟูวิญญาณ

Now you are reading A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน Chapter 2039 เคล็ดวิชาฟื้นฟูวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ก่อนหน้านี้ในส่วนลึกของหุบเขาแห่งหนึ่ง เขาพบผลึกลมอัคคีขนาดใหญ่ในมือ แต่เมื่อเขากำลังจะนำมันไป กลับถูกกลุ่มวิหคอสูรที่อยู่ใกล้ๆ ค้นพบ จากนั้นจึงถูกไล่ล่า และสุดท้ายก็ทำให้พวกมันกลัวจนหนีไป ฉันพลันก็เกิดแสงสว่างวาบในมือของหานลี่ เขาเก็บผลึกลมอัคคี และจดจ่อกับการเดินทาง เค้าบินไปตลอดทางโดยไม่เกิดเหตุใดๆ หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เมื่อถึงชายป่า กลับมีมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ปรากฏอยู่ไกลๆ หานลี่ขมวดคิ้วน้อยๆ แต่แล้วก็ผ่อนคลาย นี่คงจะเป็นมหาสมุทรส่วนใน แม้จะมีอสูรทะเลอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับมหาสมุทรส่วนนอกที่ไร้ขอบเขต แสงเขียวสว่างวาบ หานลี่กลายเป็นลำแสงหลีกหนีแล้วทะยานเข้าไปในอาณาเขตทะเล หลังจากกะพริบวาบไม่กี่ครั้ง ก็ไปถึงยังทะเลที่อยู่ห่างออกไปกว่าพันลี้ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกระหึ่มจากทะเลเบื้องล่าง! ลำแสงสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากทะเล มุ่งเป้าไปที่หานลี่ที่อยู่บนท้องฟ้า ทันใดนั้นแขนเสื้อของเขาก็สะบัดด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย แสงสีเทาสายหนึ่งพุ่งออกมาและรวมเป็นเส้นสีเทาเรียวยาวนับไม่ถ้วน ‘พรึ่บ’ ลำแสงสีน้ำเงินถูกเจาะด้วยแสงสีเทา ปลาประหลาดสีน้ำเงินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือตกลงมาจากท้องฟ้า ปลาประหลาดเหล่านี้ไม่มีเกล็ด ทว่าหัวกลับยาวและคมราวกับมีด ประหลาดจริงๆ หานลี่สังหารปลาประหลาดหลายร้อยตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่แสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากทะเลมากกว่าเดิม หานลี่เลิกคิ้ว อาคมเปลี่ยนไปเล็กน้อย แสงสีเทาที่พุ่งออกจากแขนเสื้อ แตกกิ่งเป็นเส้นสายออกมามากขึ้นในทันที จากนั้นก็สังหารปลาประหลาดที่บินไปมาทั้งหมดลง ไม่นานนัก ปลาประหลาดนับหมื่นตัวก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น ดูเหมือนว่าวิธีการเช่นนี้จะทำให้ปลาประหลาดหวาดกลัว ทะเลที่เคยปั่นป่วนกลับเข้าสู่ความสงบ และไม่มีแสงสีน้ำเงินเล็ดลอดออกมาจากทะเลอีกเลย หานลี่สะบัดฝ่ามือ แสงสีเทาวาบประกายและม้วนกลับเข้าไปในแขนเสื้อของเขา ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เพิ่มพลังปราณของเขาเล็กน้อย และด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเมื่อก่อนเกือบครึ่ง เขาจึงพุ่งทะยานเข้าลึกในอาณาเขตทะเล ไม่กี่ชั่วยาม เมื่อดวงอาทิตย์มารจมลงสู่ทะเล ท้องฟ้าพลันมืดลงทันใด อาณาเขตทะเลส่วนลึกนั้นเงียบงัน กลิ่นอายที่ไม่อ่อนแอเริ่มปรากฏ หานลี่กวาดสายตามองไปข้างล่าง ในบางครั้งสามารถเห็นแขนขาของอสูรทะเลขนาดใหญ่มหึมาจนน่าตกใจปรากฏให้เห็นบนพื้นผิวทะเลเป็นครั้งคราว หานลี่ขมวดคิ้ว เมื่อแหงนหน้ามองฟ้า ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวันนี้ไม่เหมาะจะเดินทางต่อ แม้ว่าด้วยอิทธิฤทธิ์ของเขา ไม่จำเป็นจะต้องกลัวอสูรทะเลทรงพลังที่ปรากฏตอนกลางคืน แต่ก็สามารถเกิดปัญหาได้ ซึ่งเขาไม่อยากลำบากจนเกินไป และยิ่งไปกว่านั้นด้วยความที่เขารีบเดินทาง จึงไม่ได้พักผ่อนมาสิบกว่าวันแล้ว เป็นการดีที่จะใช้โอกาสนี้ในการพักฟื้นพลัง เมื่อตัดสินใจได้ จึงปล่อยจิตสัมผัสออกไปยังบริเวณโดยรอบทันที กวาดผ่านอาณาเขตภายในทะเลหลายพันลี้ ไม่นานนัก สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไป ทิศทางของแสงหลีกหนีเปลี่ยนไปกะทันหัน แล้วพุ่งแหวกอากาศไปต่อ เวลาผ่านไปหนึ่งกาน้ำชา ก็มีจุดสีดำปรากฏขึ้นในทะเลอยู่ไกลๆ เมื่อหานลี่กระตุ้นให้ลำแสงสีเขียวเข้าไปใกล้ พลันมองเห็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่มากได้อย่าชัดเจน มีขนาดราวๆ สิบลี้ แต่กลับมีภูเขาสูงหลายพันจั้งอยู่ด้านบน และเกาะยังถูกล้อมรอบด้วยชั้นหมอกบางๆ หานลี่หรี่ตาลง ใช้จิตสัมผัสกวาดมองทั้งเกาะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ร่อนลงไปยังเกาะทันที หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีเขียวกะพริบวาบ หานลี่ปรากฏตัวขึ้นบนไหล่เขาแห่งหนึ่ง ด้านหน้ามีปากทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่หลายจั้ง เมื่อหานลี่เหลือบมองปากถ้ำ แขนเสื้อข้างหนึ่งของเขาก็สั่นไหว ทันใดนั้นกระบี่เล่มเล็กสีเขียวก็พุ่งออกมาและหายไปในพริบตา ผ่านไปไม่นาน มีเสียงอสูรมารร้องคำรามอยู่ในถ้ำ และเสียงหยุดลงทันทีพร้อมกับเสียงคำราม ฝีเท้าของหานลี่ขยับ สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมในขณะที่ก้าวเดิน ถ้ำแคบและยาวมาก หลังจากเดินไปไกลห้าสิบหกสิบจั้ง ถ้ำจึงค่อยๆ กว้างขึ้น ถ้ำนี้ปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้งสีเขียวที่ไม่รู้จัก ด้านบนมีอสูรมารถูกกรีดร่างผ่าครึ่ง หานลี่ชี้นิ้วไปยังศพของอสูรมาร จากนั้นจึงเกิดประกายไฟ ‘พรึ่บ’ เปลวเพลิงได้เปลี่ยนอสูรมารและหญ้าแห้งด้านล่างให้เป็นเถ้าถ่านในทันที ในที่สุดถ้ำก็สะอาดหมดจด จากนั้นหานลี่จึงนั่งขัดสมาธิอยู่กลางถ้ำ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก สร้อยข้อมือเก็บของก็เกิดสั่นไหวเล็กน้อย แสงสีขาววาบประกาย ทันใดนั้นอิฐผลึกใสแวววาวยาวครึ่งฉื่อสี่ก้อนก็พุ่งออกมาและลอยอยู่ข้างหน้าเขา เป็นอิฐศักดิ์สิทธิ์สี่ก้อนที่หานลี่ได้รับมาจากเจ้าเมืองเซวี่ยยาเมื่อปีก่อน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หานลี่ศึกษาพวกมัน เขายกฝ่ามือขึ้นโบกอย่างคุ้นชิน เสียงฟ้าร้องดังสนั่น! ประจุไฟฟ้าสีทองสี่สายพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ในชั่วพริบตามันหายเข้าไปในอิฐผลึกทั้งสี่ก้อน อิฐศักดิ์สิทธิ์พลันเปล่งแสงออกมาในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นมันขยายใหญ่เป็นสิบเท่า แปรเปลี่ยนเป็นกำแพงผลึกขนาดใหญ่สี่ด้าน จากนั้นก็มีอักขระสีม่วงดำปรากฏอยู่บนกำแพงอย่างหนาแน่น ดวงตาของหานลี่กะพริบเล็กน้อย เขาตรวจสอบอักขระบนผลึกอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่บนอิฐผลึก ครึ่งชั่วยามผ่านไป หานลี่หลับตาลง ครุ่นคิดอยู่สักพัก บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ชีหลิงสมกับที่มีชื่อเสียงในแดนมารเมื่อครั้งอดีต การฝึกวิทยายุทธ์หลายแขนงของเขาไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย น่าเสียดายที่เขาฝึกฝนวิชามารเที่ยงแท้พราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะเปลี่ยนเคล็ดวิชาฝึกฝนก็ได้ แต่ถึงกระนั้น ความลับของเคล็ดวิชามารที่อยู่ในอิฐศักดิ์สิทธิ์ ยังเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก อีกทั้งยังมีสองสามชุดที่สามารถฝึกฝนได้ หานลี่ครุ่นคิดในใจ จากนั้นชี้นิ้วทั้งห้าไปยังอิฐผลึกทั้งสี่และวาดไปมาบนอากาศสองสามครั้ง ทันใดนั้นอิฐผลึกทั้งสี่ก้อนเคลื่อนไหวและเปลี่ยนตำแหน่งต่อหน้าเขา ภายใต้การเคลื่อนไหว ในที่สุดทั้งสี่ก้อนทับซ้อนกันก็เรียงเป็นแถว จากนั้นแสงของอิฐศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไป แต่ละก้อนเปล่งลำแสงสวยงามออกมาในทิศทางเดียวกัน ลำแสงทั้งสี่ซ้อนทับและรวมเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด จากนั้นก็ปรากฏแผนที่ขนาดใหญ่อย่างชัดเจนยาวหลายจั้งสะท้อนให้เห็นบนกำแพงหินที่อยู่ไม่ไกล ภูมิประเทศของภูเขาและแม่น้ำถูกทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่ และมีเครื่องหมายแปลกประหลาดของมังกรดำเขาเดี่ยวประทับอยู่ตรงกลาง หานลี่จองไปยังแผนที่ด้วยดวงตาที่สั่นไหว ใบหน้าครุ่นคิด ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเพียงใด แขนเสื้อของเขาสะบัดไปด้านหน้า จากนั้นแสงก็กะพริบวาบ กำแพงผลึกทั้งสี่หายไปในพริบตา แผนที่บนกำแพงหินก็หายไปในเวลาเดียวกัน หานลี่ถอนหายใจเบาๆ วางมือบนเข่าพลางคิดไตร่ตรอง หนึ่งปีก่อน เขาเริ่มศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ก้อนที่ได้รับมาในทันทีหลังจากกำจัดมดมารเหล่านั้นได้สำเร็จ ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขา เขาสามารถศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างละเอียดภายในไม่กี่วัน และได้ค้นพบแผนที่คลังสมบัติชีหลิง น่าเสียดาย แท้ดูเหมือนว่าแผนที่จะละเอียดมาก แต่ไม่มีข้อความใดระบุไว้เลย ภูมิประเทศที่อยู่บนแผนที่นั้นยิ่งไม่คุ้นเคยกับคนนอกอย่างหานลี่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าสมบัติอยู่ที่ใด แม้หานลี่จะได้แผนที่บางส่วนในเมืองเซวี่ยยามา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงแผนที่คร่าวๆ ของแดนมาร และมีแผนที่ภูมิศาสตร์ที่มีรายละเอียดเจาะจงเพียงเล็กน้อย เขาทำได้เพียงลองหาส่วนอื่นจากเมืองอื่นๆ ในภายภาคหน้า เพื่อดูว่าเขาจะสามารถหาเบาะแสได้หรือไม่ ด้วยพลังอิทธิฤทธิ์พลังยุทธ์ของเขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพึ่งพาคลังสมบัติลับชีหลิงนี้ แต่ถ้าไม่ทำให้เป้าหมายหลักในการเดินทางท่องแดนมารล่าช้า มันก็คงดีไม่น้อยหากได้รับผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงนี้ หลังจากที่หานลี่ครุ่นคิดสักพัก เขาจึงวางเรื่องนี้ไว้ชั่วครู่ และยกมือขึ้นร่ายอาคม เกิดประกายสีทองระยิบระยับบนร่างกายของเขา เกล็ดสีทองปรากฏขึ้นบนผิวกาย จากนั้นเทวรูปสามเศียรหกกรก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังของเขา ดวงตาทั้งหกเปิดขึ้นพร้อมกับกะพริบแสงเย็นวาบ และแขนทั้งหกต่างร่ายรำในท่าทางแปลกๆ หานลี่พลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นกองจานเขตอาคมหลากสีก็ปรากฏในมือเขา เมื่อสะบัดข้อมือ มันก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงหลายสิบสายพุ่งออกไป และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในอากาศรอบๆ ในเวลาต่อมา ร่างกายของหานลี่มีแสงห้าสีเปล่งประกาย จากนั้นจึงปรากฏเขตอาคมโบราณขนาดหลายจั้งห่อหุ้มไว้ แสงส่องประกายในเขตอาคม มองเห็นอักขระอาคมสีทองวิจิตรงดงามสลักอยู่บนนั้น เมื่อมองดูด้านในให้ความรู้ราวกับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ใบหน้าของหานลี่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทว่าสิบนิ้วของเขากลับดีดไปมา ศิลาวิญญาณระดับสูงพุ่งออกมาเจ็ดแปดก้อน และตกลงไปในเขตอาคมภายในพริบตา หลังจากนั้นก็ประสานมือ และส่งเสียงร้องคำรามออกมา! เมื่อเขตอาคมส่งเสียงอื้ออึง ทันใดนั้นก็เกิดแสงประกายงดงาม กลายเป็นม่านแสงห้าสี และปกคลุมร่างกายของหานลี่อย่างสมบูรณ์ ปราณมารจางๆ ในอากาศถูกแสงขับไล่ออกไปในทันที ในขณะเดียวกันนั้นปราณวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสูงก็ลเนทะลักออกมาภายในม่านแสง! หานลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองของเขาร่ายอาคมแปลกๆ มีแสงสีดำเปล่งประกายระหว่างคิ้ว ทันใดนั้นดวงตาอันมืดมิดก็ปรากฏขึ้น เสียงร่ายคาถาที่ยากจะเข้าใจดังออกมาจากเขตอาคม ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าทั้งสามของเทวรูปมารเที่ยงแท้กลับแสดงสีหน้าเป็นสุข โกรธเกรี้ยว และโศกเศร้าที่แตกต่างกันออกมา ทว่าร่างกายกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง ขณะนี้ หานลี่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อ ภายใต้การกระตุ้นของคาถา อักขระอาคมสีเงินขนาดเท่าเมล็ดถั่วยังคงหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง ทว่าแรกเริ่มมีไม่ถึงกี่อักขระ ตอนนี้มีมากกว่าสิบอักขระ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อักขระอาคมเริ่มโผล่ออกมาจากร่างกายของหานลี่มากขึ้น และหมุนวนไปมาในม่านแสง ในที่สุดก็เริ่มมีขนาดเท่ากำปั้น ในขณะนี้ ร่างกายของหานลี่เริ่มค่อยๆ เปล่งประกายใสแวววาวราวกับหยก เกล็ดบนผิวกายเริ่มสั่นไหว แปรเปลี่ยนเป็นอักขระอาคมสีทองหายเข้าไปในร่างกายหานลี่ เสียงคำรามดังสนั่น! เมื่ออักขระอาคมสีเงินในม่านแสงหยุดนิ่ง จึงกลายเป็นแสงสีเงิน และพุ่งเข้าหาหานลี่ราวกับพายุ

ก่อนหน้านี้ในส่วนลึกของหุบเขาแห่งหนึ่ง เขาพบผลึกลมอัคคีขนาดใหญ่ในมือ แต่เมื่อเขากำลังจะนำมันไป กลับถูกกลุ่มวิหคอสูรที่อยู่ใกล้ๆ ค้นพบ จากนั้นจึงถูกไล่ล่า และสุดท้ายก็ทำให้พวกมันกลัวจนหนีไป

ฉันพลันก็เกิดแสงสว่างวาบในมือของหานลี่ เขาเก็บผลึกลมอัคคี และจดจ่อกับการเดินทาง

เค้าบินไปตลอดทางโดยไม่เกิดเหตุใดๆ หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เมื่อถึงชายป่า กลับมีมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ปรากฏอยู่ไกลๆ

หานลี่ขมวดคิ้วน้อยๆ แต่แล้วก็ผ่อนคลาย

นี่คงจะเป็นมหาสมุทรส่วนใน แม้จะมีอสูรทะเลอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับมหาสมุทรส่วนนอกที่ไร้ขอบเขต

แสงเขียวสว่างวาบ

หานลี่กลายเป็นลำแสงหลีกหนีแล้วทะยานเข้าไปในอาณาเขตทะเล หลังจากกะพริบวาบไม่กี่ครั้ง ก็ไปถึงยังทะเลที่อยู่ห่างออกไปกว่าพันลี้

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกระหึ่มจากทะเลเบื้องล่าง!

ลำแสงสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากทะเล มุ่งเป้าไปที่หานลี่ที่อยู่บนท้องฟ้า

ทันใดนั้นแขนเสื้อของเขาก็สะบัดด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย แสงสีเทาสายหนึ่งพุ่งออกมาและรวมเป็นเส้นสีเทาเรียวยาวนับไม่ถ้วน

‘พรึ่บ’ ลำแสงสีน้ำเงินถูกเจาะด้วยแสงสีเทา

ปลาประหลาดสีน้ำเงินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือตกลงมาจากท้องฟ้า

ปลาประหลาดเหล่านี้ไม่มีเกล็ด ทว่าหัวกลับยาวและคมราวกับมีด ประหลาดจริงๆ

หานลี่สังหารปลาประหลาดหลายร้อยตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่แสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากทะเลมากกว่าเดิม

หานลี่เลิกคิ้ว อาคมเปลี่ยนไปเล็กน้อย แสงสีเทาที่พุ่งออกจากแขนเสื้อ แตกกิ่งเป็นเส้นสายออกมามากขึ้นในทันที จากนั้นก็สังหารปลาประหลาดที่บินไปมาทั้งหมดลง

ไม่นานนัก ปลาประหลาดนับหมื่นตัวก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น

ดูเหมือนว่าวิธีการเช่นนี้จะทำให้ปลาประหลาดหวาดกลัว

ทะเลที่เคยปั่นป่วนกลับเข้าสู่ความสงบ และไม่มีแสงสีน้ำเงินเล็ดลอดออกมาจากทะเลอีกเลย

หานลี่สะบัดฝ่ามือ แสงสีเทาวาบประกายและม้วนกลับเข้าไปในแขนเสื้อของเขา

ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เพิ่มพลังปราณของเขาเล็กน้อย และด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเมื่อก่อนเกือบครึ่ง เขาจึงพุ่งทะยานเข้าลึกในอาณาเขตทะเล

ไม่กี่ชั่วยาม เมื่อดวงอาทิตย์มารจมลงสู่ทะเล ท้องฟ้าพลันมืดลงทันใด

อาณาเขตทะเลส่วนลึกนั้นเงียบงัน กลิ่นอายที่ไม่อ่อนแอเริ่มปรากฏ

หานลี่กวาดสายตามองไปข้างล่าง ในบางครั้งสามารถเห็นแขนขาของอสูรทะเลขนาดใหญ่มหึมาจนน่าตกใจปรากฏให้เห็นบนพื้นผิวทะเลเป็นครั้งคราว

หานลี่ขมวดคิ้ว เมื่อแหงนหน้ามองฟ้า ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวันนี้ไม่เหมาะจะเดินทางต่อ

แม้ว่าด้วยอิทธิฤทธิ์ของเขา ไม่จำเป็นจะต้องกลัวอสูรทะเลทรงพลังที่ปรากฏตอนกลางคืน แต่ก็สามารถเกิดปัญหาได้ ซึ่งเขาไม่อยากลำบากจนเกินไป

และยิ่งไปกว่านั้นด้วยความที่เขารีบเดินทาง จึงไม่ได้พักผ่อนมาสิบกว่าวันแล้ว เป็นการดีที่จะใช้โอกาสนี้ในการพักฟื้นพลัง

เมื่อตัดสินใจได้ จึงปล่อยจิตสัมผัสออกไปยังบริเวณโดยรอบทันที กวาดผ่านอาณาเขตภายในทะเลหลายพันลี้

ไม่นานนัก สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไป ทิศทางของแสงหลีกหนีเปลี่ยนไปกะทันหัน แล้วพุ่งแหวกอากาศไปต่อ

เวลาผ่านไปหนึ่งกาน้ำชา ก็มีจุดสีดำปรากฏขึ้นในทะเลอยู่ไกลๆ เมื่อหานลี่กระตุ้นให้ลำแสงสีเขียวเข้าไปใกล้ พลันมองเห็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่มากได้อย่าชัดเจน มีขนาดราวๆ สิบลี้ แต่กลับมีภูเขาสูงหลายพันจั้งอยู่ด้านบน และเกาะยังถูกล้อมรอบด้วยชั้นหมอกบางๆ

หานลี่หรี่ตาลง ใช้จิตสัมผัสกวาดมองทั้งเกาะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ร่อนลงไปยังเกาะทันที

หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีเขียวกะพริบวาบ หานลี่ปรากฏตัวขึ้นบนไหล่เขาแห่งหนึ่ง ด้านหน้ามีปากทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่หลายจั้ง

เมื่อหานลี่เหลือบมองปากถ้ำ แขนเสื้อข้างหนึ่งของเขาก็สั่นไหว

ทันใดนั้นกระบี่เล่มเล็กสีเขียวก็พุ่งออกมาและหายไปในพริบตา

ผ่านไปไม่นาน มีเสียงอสูรมารร้องคำรามอยู่ในถ้ำ และเสียงหยุดลงทันทีพร้อมกับเสียงคำราม

ฝีเท้าของหานลี่ขยับ สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมในขณะที่ก้าวเดิน

ถ้ำแคบและยาวมาก หลังจากเดินไปไกลห้าสิบหกสิบจั้ง ถ้ำจึงค่อยๆ กว้างขึ้น

ถ้ำนี้ปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้งสีเขียวที่ไม่รู้จัก ด้านบนมีอสูรมารถูกกรีดร่างผ่าครึ่ง

หานลี่ชี้นิ้วไปยังศพของอสูรมาร จากนั้นจึงเกิดประกายไฟ

‘พรึ่บ’ เปลวเพลิงได้เปลี่ยนอสูรมารและหญ้าแห้งด้านล่างให้เป็นเถ้าถ่านในทันที

ในที่สุดถ้ำก็สะอาดหมดจด

จากนั้นหานลี่จึงนั่งขัดสมาธิอยู่กลางถ้ำ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก สร้อยข้อมือเก็บของก็เกิดสั่นไหวเล็กน้อย

แสงสีขาววาบประกาย ทันใดนั้นอิฐผลึกใสแวววาวยาวครึ่งฉื่อสี่ก้อนก็พุ่งออกมาและลอยอยู่ข้างหน้าเขา

เป็นอิฐศักดิ์สิทธิ์สี่ก้อนที่หานลี่ได้รับมาจากเจ้าเมืองเซวี่ยยาเมื่อปีก่อน

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หานลี่ศึกษาพวกมัน เขายกฝ่ามือขึ้นโบกอย่างคุ้นชิน

เสียงฟ้าร้องดังสนั่น!

ประจุไฟฟ้าสีทองสี่สายพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ในชั่วพริบตามันหายเข้าไปในอิฐผลึกทั้งสี่ก้อน

อิฐศักดิ์สิทธิ์พลันเปล่งแสงออกมาในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นมันขยายใหญ่เป็นสิบเท่า แปรเปลี่ยนเป็นกำแพงผลึกขนาดใหญ่สี่ด้าน จากนั้นก็มีอักขระสีม่วงดำปรากฏอยู่บนกำแพงอย่างหนาแน่น

ดวงตาของหานลี่กะพริบเล็กน้อย เขาตรวจสอบอักขระบนผลึกอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่บนอิฐผลึก

ครึ่งชั่วยามผ่านไป หานลี่หลับตาลง ครุ่นคิดอยู่สักพัก

บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ชีหลิงสมกับที่มีชื่อเสียงในแดนมารเมื่อครั้งอดีต การฝึกวิทยายุทธ์หลายแขนงของเขาไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย น่าเสียดายที่เขาฝึกฝนวิชามารเที่ยงแท้พราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะเปลี่ยนเคล็ดวิชาฝึกฝนก็ได้ แต่ถึงกระนั้น ความลับของเคล็ดวิชามารที่อยู่ในอิฐศักดิ์สิทธิ์ ยังเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก อีกทั้งยังมีสองสามชุดที่สามารถฝึกฝนได้

หานลี่ครุ่นคิดในใจ จากนั้นชี้นิ้วทั้งห้าไปยังอิฐผลึกทั้งสี่และวาดไปมาบนอากาศสองสามครั้ง

ทันใดนั้นอิฐผลึกทั้งสี่ก้อนเคลื่อนไหวและเปลี่ยนตำแหน่งต่อหน้าเขา ภายใต้การเคลื่อนไหว ในที่สุดทั้งสี่ก้อนทับซ้อนกันก็เรียงเป็นแถว

จากนั้นแสงของอิฐศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไป แต่ละก้อนเปล่งลำแสงสวยงามออกมาในทิศทางเดียวกัน

ลำแสงทั้งสี่ซ้อนทับและรวมเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด จากนั้นก็ปรากฏแผนที่ขนาดใหญ่อย่างชัดเจนยาวหลายจั้งสะท้อนให้เห็นบนกำแพงหินที่อยู่ไม่ไกล

ภูมิประเทศของภูเขาและแม่น้ำถูกทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่ และมีเครื่องหมายแปลกประหลาดของมังกรดำเขาเดี่ยวประทับอยู่ตรงกลาง

หานลี่จองไปยังแผนที่ด้วยดวงตาที่สั่นไหว ใบหน้าครุ่นคิด

ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเพียงใด แขนเสื้อของเขาสะบัดไปด้านหน้า จากนั้นแสงก็กะพริบวาบ

กำแพงผลึกทั้งสี่หายไปในพริบตา

แผนที่บนกำแพงหินก็หายไปในเวลาเดียวกัน

หานลี่ถอนหายใจเบาๆ วางมือบนเข่าพลางคิดไตร่ตรอง

หนึ่งปีก่อน เขาเริ่มศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ก้อนที่ได้รับมาในทันทีหลังจากกำจัดมดมารเหล่านั้นได้สำเร็จ

ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขา เขาสามารถศึกษาอิฐศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างละเอียดภายในไม่กี่วัน และได้ค้นพบแผนที่คลังสมบัติชีหลิง

น่าเสียดาย แท้ดูเหมือนว่าแผนที่จะละเอียดมาก แต่ไม่มีข้อความใดระบุไว้เลย ภูมิประเทศที่อยู่บนแผนที่นั้นยิ่งไม่คุ้นเคยกับคนนอกอย่างหานลี่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าสมบัติอยู่ที่ใด

แม้หานลี่จะได้แผนที่บางส่วนในเมืองเซวี่ยยามา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงแผนที่คร่าวๆ ของแดนมาร และมีแผนที่ภูมิศาสตร์ที่มีรายละเอียดเจาะจงเพียงเล็กน้อย

เขาทำได้เพียงลองหาส่วนอื่นจากเมืองอื่นๆ ในภายภาคหน้า เพื่อดูว่าเขาจะสามารถหาเบาะแสได้หรือไม่

ด้วยพลังอิทธิฤทธิ์พลังยุทธ์ของเขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพึ่งพาคลังสมบัติลับชีหลิงนี้ แต่ถ้าไม่ทำให้เป้าหมายหลักในการเดินทางท่องแดนมารล่าช้า มันก็คงดีไม่น้อยหากได้รับผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงนี้

หลังจากที่หานลี่ครุ่นคิดสักพัก เขาจึงวางเรื่องนี้ไว้ชั่วครู่ และยกมือขึ้นร่ายอาคม

เกิดประกายสีทองระยิบระยับบนร่างกายของเขา เกล็ดสีทองปรากฏขึ้นบนผิวกาย จากนั้นเทวรูปสามเศียรหกกรก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังของเขา

ดวงตาทั้งหกเปิดขึ้นพร้อมกับกะพริบแสงเย็นวาบ และแขนทั้งหกต่างร่ายรำในท่าทางแปลกๆ

หานลี่พลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นกองจานเขตอาคมหลากสีก็ปรากฏในมือเขา เมื่อสะบัดข้อมือ มันก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงหลายสิบสายพุ่งออกไป และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในอากาศรอบๆ

ในเวลาต่อมา ร่างกายของหานลี่มีแสงห้าสีเปล่งประกาย จากนั้นจึงปรากฏเขตอาคมโบราณขนาดหลายจั้งห่อหุ้มไว้

แสงส่องประกายในเขตอาคม มองเห็นอักขระอาคมสีทองวิจิตรงดงามสลักอยู่บนนั้น เมื่อมองดูด้านในให้ความรู้ราวกับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

ใบหน้าของหานลี่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทว่าสิบนิ้วของเขากลับดีดไปมา

ศิลาวิญญาณระดับสูงพุ่งออกมาเจ็ดแปดก้อน และตกลงไปในเขตอาคมภายในพริบตา

หลังจากนั้นก็ประสานมือ และส่งเสียงร้องคำรามออกมา!

เมื่อเขตอาคมส่งเสียงอื้ออึง ทันใดนั้นก็เกิดแสงประกายงดงาม กลายเป็นม่านแสงห้าสี และปกคลุมร่างกายของหานลี่อย่างสมบูรณ์

ปราณมารจางๆ ในอากาศถูกแสงขับไล่ออกไปในทันที ในขณะเดียวกันนั้นปราณวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสูงก็ลเนทะลักออกมาภายในม่านแสง!

หานลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองของเขาร่ายอาคมแปลกๆ มีแสงสีดำเปล่งประกายระหว่างคิ้ว ทันใดนั้นดวงตาอันมืดมิดก็ปรากฏขึ้น

เสียงร่ายคาถาที่ยากจะเข้าใจดังออกมาจากเขตอาคม ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าทั้งสามของเทวรูปมารเที่ยงแท้กลับแสดงสีหน้าเป็นสุข โกรธเกรี้ยว และโศกเศร้าที่แตกต่างกันออกมา ทว่าร่างกายกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง

ขณะนี้ หานลี่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อ

ภายใต้การกระตุ้นของคาถา อักขระอาคมสีเงินขนาดเท่าเมล็ดถั่วยังคงหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง ทว่าแรกเริ่มมีไม่ถึงกี่อักขระ ตอนนี้มีมากกว่าสิบอักขระ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป อักขระอาคมเริ่มโผล่ออกมาจากร่างกายของหานลี่มากขึ้น และหมุนวนไปมาในม่านแสง ในที่สุดก็เริ่มมีขนาดเท่ากำปั้น

ในขณะนี้ ร่างกายของหานลี่เริ่มค่อยๆ เปล่งประกายใสแวววาวราวกับหยก เกล็ดบนผิวกายเริ่มสั่นไหว แปรเปลี่ยนเป็นอักขระอาคมสีทองหายเข้าไปในร่างกายหานลี่

เสียงคำรามดังสนั่น!

เมื่ออักขระอาคมสีเงินในม่านแสงหยุดนิ่ง จึงกลายเป็นแสงสีเงิน และพุ่งเข้าหาหานลี่ราวกับพายุ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+