Alchemy Emperor of the Divine Dao 1016

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1016 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สัตว์อสูรระดับสุริยันจันทราปรากฏตัวแล้ว!

ไม่เพียงแค่จอมยุทธทุกคนจะรีบเหยียบซากเรือเอาไว้ แม้แต่ฝูงอสรพิษก็ยังเผ่นหนีไปอีกด้วย ตอนนี้เหลือเพียงราชาอสุรพิษอยู่อยู่ต่อหน้าปลายักษ์

มันกลายเป็นเป้าหมายของปลายักษ์ไปแล้ว เพียงไม่กี่วินาทีมันก็ถูกปลายักษ์จับตัวไว้ แม้จะดิ้นรนต่อสู้ได้ชั่วระยะสั้นๆ แต่มันก็ถูกปลายักษ์กลืนลงท้องไปในที่สุด

ราชาอสรพิษมีพลังที่อีกก้าวเดียวก็จะข้ามผ่านไปยังระดับสุริยันจันทรา แต่เมื่อต้องประจันหน้ากับระดับสุริยันจันทราที่แท้จริง มันไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อยและถูกกินแทบจะในพริบตา

ปลายักษ์นั้นดูเหมือนจะไม่ได้เสพติดการเข่นฆ่า

หลังจากกินอสรพิษเข้าไปมันก็สะบัดหางและว่ายกลับลงสู่ก้นมหาสมุทร

สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้ฝูงอสรพิษคือฝ่ายที่ได้เปรียบ ภายใต้การนำของราชาอสรพิษพวกมันไล่ล่าทุกคนอย่างไม่หวั่นเกรง แต่ภายในพริบตาอสูรอสรพิษเหล่านั้นกลับถูกเขมือบโดยปลายักษ์ จำนวนที่พวกมันหนีไปได้นั้นเหลือไม่ถึงสิบตัว

แต่ฝ่ายของมนุษย์ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน

กลุ่มโจรสลัดถูกทำลาย หลัวยวี่กับจั่วเซียวตกตาย องครักษ์สาวทั้งสี่ของชาหยวนก็เหลือเพียงเหลี่ยวหยิงคนเดียว ตระกูลหยางยิ่งหนักกว่า มีเพียงหยางเทียนเฉิงคนเดียวเท่านั้นที่รอดตาย คนอื่นที่เหลือรอดอีกสามคนคือ จินจื่อฮุยฟู่เทียนและหยินหยวนเซียง รวมแล้วมีผู้รอดชีวิตเพียงเจ็ดคน

พวกเขานั่งอยู่บนซากเรือที่อยู่ห่างจากจุดที่เกิดการปะทะด้วยท่าทีเหน็ดเหนื่อย

“อะไรกัน!” หยางเทียนเฉิงมองไปยังด้านหลังและอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

นั่นเพราะในทิศทางที่เขามองไปนั้นมีซากเรือลอยอยู่พร้อมกับคนสองคนที่ยืนอยู่บนนั้น ทั้งสองคือหลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่

คนอื่นรีบหันมองตามสายตาของหยางเทียนเฉิงและตกตะลึงไปพร้อมๆกัน

นี่หลิงฮันคือสัตว์ประหลาดที่ฆ่าไม่ตายหรือยังไง?

ก่อนหน้านี้ที่เขาถูกรุมโจมตีในหมอกดำ ไม่เพียงแค่เขาจะไม่ตายแต่ยังไร้บาดแผล เมือถูกโจรสลัดบุกเขาก็ยังรอดชีวิตแม้ศัตรูจะเป็นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่ง และสุดท้ายขนาดถูกพลักตกลงไปยังมหาสมุทรแล้ว เขาน่าจะต้องถูกฝูงอสรพิษรุมฉีกกระฉากเป็นชิ้นๆไปแล้วแท้ๆ

แต่ตอนนี้เขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่กลับปรากฏตัวอย่างไร้รอยขีดข่วน แบบนี้จะให้พวกเขายอมรับได้อย่างไร?

“ว่าไงทุกคน ไม่ได้เจอกันนานเลย” หลิงฮันโบกมือ เขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่ใช้ไม้พายซากเรือจากทั้งฝั่งซ้ายและขวามุ่งหน้าไปหาหยางเทียนเฉิง

คนอื่นๆนั้นไม่บาดเจ็บสาหัสก็ต้องมีบาดแผลกันบ้าง เมื่อเห็นท่าอันสงบนิ่งของหลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ พวกเขาก็อดรู้สึกอยากจะบ้าคลั่งไม่ได้ นี่พวกเจ้าสองคนมาพักร้อนกับรึอย่างไร?

ในทางตรงกันข้ามกับคนอื่น หยางเทียนเฉิงแสดงท่าทีประหลาดใจและกล่าว “เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”

ก่อนหน้านี้หลิงฮันได้ช่วยสังหารอสรพิษไปมากมาย นั่นถือเป็นการช่วยเขาแก้แค้นให้กับความตายของเหล่าลูกเรือ ดังนั้นเขาจึงมีความประทับใจต่อหลิงฮันมากกว่าคนอื่นๆ

สายตาของหลิงฮันกวาดผ่านหลัวอู้กับฟานหยงด้วยความเยือกเย็น ก่อนหน้านี้ที่เขาถูกสองคนนี้โจมตี หากไม่ใช่เพราะหอคอยทมิฬเขาคงจะลำบากไปแล้ว

ทั้งสองคนนี้… เขาต้องสังหารให้ได้

“เจ้ากำลังคิดอะไร?” หลัวอู้กล่าวอย่างเย็นชา ในตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งกับหลิงฮัน เพราะพวกเขาจะสามารถกลับขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยรึเปล่านั้นก็ยังไม่รู้

เหตุผลที่ตอนนี้พวกเขาต้องลอยซากเรือไปอย่างช้าๆเพราะถ้าพวกเขาไปดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรตัวอื่นเข้าอีกล่ะก็ พวกเขาอาจต้องตายกลางมหาสมุทรแห่งนี้ก็ได้

เหล่าคนจากเมืองจักรพรรดิต่างโทษให้เรื่องนี้เป็นความผิดของหลิงฮัน ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงฮันจะมาที่นี่ พวกเขาจะตามมาที่นี่รึไง?

“คอยดูว่าเจ้าจะตายอย่างไร!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา เขานำคันศรออกมาและควบแน่นปราณก่อเกิดเป็นลูกศรฆ่ามังกรทะลวงดาราพร้อมกับเล็งใส่หลัวอู้

เมื่อถูกเล็งด้วยลูกศร หลัวอู้ก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นทันที

กลุ่มของเขาสามคนที่มาจากเมืองจักรพรรดินั้น มีปรมาจารย์ระดับสุริยันจันทราเป็นผู้นำกลุ่มเพื่อมาสังหารหลิงฮัน แต่หลัวเซินหยุนที่เป็นผู้นำถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเรือมาด้วย หลัวยวี่ก็ตายด้วยปากของปลายักษ์ ในกลุ่มสามคนตอนนี้มีเขาอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว

อยู่ต่อหน้าลูกศรของหลิงฮัน เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับการโจมตีไว้ได้รึไม่

สภาพแวดล้อมในตอนนี้ย่ำแย่เกินไปสำหรับเขา ไม่เช่นนั้นด้วยความเร็วของเขาแล้วเขาไม่มีทางถูกเล็งเป็นเป้านิ่งแน่นอน แต่ปัญหาก็คือซากเรือนั้นมีขนาดจำกัด แล้วเขาจะหลบไปที่ไหนได้?

กระโดดลงมหาสมุทร? บางทีเขาอาจจะไม่รอดชีวิตกลับขึ้นมาเลย

ด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาเขยิบตัวไปหลบด้านหลังฟู่เทียน โดยหวังจะใช้เด็กหนุ่มคนนี้เป็นโล่

ฟู่เทียนโมโหทันที เขาแยกเขี้ยวราวกับสัตว์อสูรที่กำลังเกรี้ยวกราดและกล่าวออกมา “ไสหัวไป!”

“เจ้าหนู ไม่ต้องกังวล หมอนั่นไม่มีความบาดหมางอะไรกับเจ้า เขาไม่มีทางยิงใส่เจ้าแน่นอน!” หลัวอู้กล่าว ถ้าเป็นการต่อสู้บนพื้นดินเขาไม่หวาดกลัวหลิงฮันแน่นอน แต่ตอนนี้หากสู้ไปก็มีแต่จะพ่ายแพ้ ที่นี่ไม่มีพื้นที่ให้เขาหลบหลีกแม้แต่น้อยและแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมเสี่ยงรับการโจมตีแน่นอน

“เหอะ ช่างไร้ยางอาย!” หยางเทียนเฉิงเต้นเสียง เขาใช้มือขวาคว้าฟู่เทียนมาอยู่ด้านหลังของตัวเองและแยกตัวออกมาให้หลัวอู้ไปอยู่ด้านหน้าเขาแทน

หลัวอู้เปลี่ยนสีหน้า ตอนนี้เขากลายเป็นเป้าแล้ว!

เขารีบกล่าวออกไป “หัวหน้าหยาง ท่านรับค่าขึ้นเรือจากข้าไปแล้ว เป็นหน้าที่ของท่านในการคุ้มครองความปลอดภัยของข้า!”

“เรือถูกทำลายไปแล้ว หน้าที่ของข้าคือว่าสิ้นสุด และเมื่อข้ากลับไปถึงท่าเรือข้าจะคืนเงินที่ว่าให้กับเจ้าและจะมีค่าชดเชยให้อย่างเหมาะสม” หยางเทียนเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา

“ท่านกล่าวผิดแล้ว!” หลัวอู้ส่ายหัวและชี้ไปยังบริเวณเท้า “ดูเสีย พวกเรายังอยู่บนเรืออยู่ ต่อให้เป็นแค่เศษซากแต่มันก็ยังเป็นเรือ ท่านเป็นกัปตันเรือดังนั้นท่านจึงมีหน้าที่ในการรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้โดยสาร”

แม้จะไร้ยางอายแต่ก็มีเหตุผล หยางเทียนเฉิงที่ได้ยินก็รู้สึกลังเลอย่างช่วยไม่ได้

“หลิงฮัน อย่าเพิ่งยิง!” หยางเทียนเฉิงกล่าว

เขาเขยิบไปยืนด้านหน้าหลัวอู้

“ฮ่าๆๆๆ!” หลัวอู้หัวเราะด้วยท่าทีภาคภูมิใจ

บนเรือ เขามีการคุ้มครองจากหยางเทียนเฉิง และเมื่อเขารอดพ้นจากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ไปได้ ทำไมเขาจะต้องกลัวหลิงฮันอีกต่อไปด้วย

หยางเทียนเฉิงหันหลังและคว้าคอหลัวอู้

หยางเทียนเฉิงมีส่วนสูงที่มากกว่าหลัวอู้ และด้วยพลังต่อสู้สองดาวของเขาหลัวอู้จะสามารถต่อต้านได้?

“อั่ก” เสียงหัวเราะของหลัวอู้หยุกงักเนื่องจากถูกจับคอเอาไว้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ถึงแม้จอมยุทธจะไม่ต้องหายใจ แต่หากถูกบีบคอไว้ปราณก่อเกิดก็ไม่สามารถโจรได้สะดวก หากปล่อยไว้เช่นนี้นานๆวิญญาณของเขาจะไม่มีพลังไปหล่อเลี้ยงและจะต้องตาย

เขาดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นแต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ เขารู้สึกอึดอัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

“แม้ข้าจะไม่ยอมให้หลิงฮันสังหารเจ้า แต่เจ้าจงใจพลักหลิงฮันลงไปในมหาสมุทร เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยไปได้ง่ายๆ!” หยางเทียนเฉิงยื่นอีกมือนึงออกไปคว้าคอฟานหยง

ทั้งสองคนดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง แม้พวกเราจะออกแรงพร้อมกับก็ไม่อาจสู้แรงของหยางเทียนเฉิงและทำได้เพียงดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์

“ฮึ่ม หลังจากลงจากเรือไปแล้ว ข้าไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไปง่ายๆแน่!” หยางเทียนเฉิงกล่าวอย่างเย็นชาและปล่อยมือ ‘ตุบ’ ทั้งสองคนร่วงหล่นก้นกระแทกพื้น ทั่วร่างของพวกเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและรู้สึกราวกับว่าเพิ่งรอดพ้นมาจากประตูแห่งความตาย

ทั้งสองคนก้มหน้า ตอนนี้ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด