Alchemy Emperor of the Divine Dao 1035

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1035 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นี่คือถ้ำใต้น้ำที่ถูกสร้างโดยเผ่ามนุษย์!” สัตว์อสูรเต่ากล่าว

“ผิดแล้ว แต่เดิมที่นี่ควรจะเป็นทางเข้าหุบเขา แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของมันถูกทำลายไปแล้วทำให้มีสภาพเหมือนถ้ำเช่นนี้” สัตว์อสูรม้าน้ำกล่าวแทรก

“จะต้องมีสมบัติอยู่แน่นอน!” สัตว์อสูรตนอื่นๆมีความเห็นตรงกัน

พวกมันใช้สัมผัสสวรรค์ในการสื่อสาร ดังนั้นจึงสามารถข้ามกำแพงภาษาและพูดคุยกันได้โดยตรง

“สมบัติของเผ่ามนุษย์คงไม่มีประโยชน์ต่อข้าเท่าไหร่” สัตว์อสูรปูกล่าว มันคือปูหน้าผีเนื่องจากมันมีลวดลายบนเปลือกเหมือนกับภูติผี ในตอนนี้มันเปลี่ยนมาอยู่รูปร่างของมนุษย์ แต่กล้ามปูขนาดใหญ่ทั้งสองข้างของมันยังคงอยู่ในสภาพเดิม

สำหรับสัตว์อสูรแล้ว ร่างกายอันแข็งแกร่งเปรียบเสมือนอาวุธที่พระเจ้าประทานมาให้

“เหอะๆ ถ้างั้นเจ้าก็ไสหัวไปซะสิ สำหรับข้าต่อให้มันเป็นสมบัติของเผ่ามนุษย์ข้าก็คิดดีจะใช้มัน!” สัตว์อสูรกุ้งกล่าว มันคือกุ้งทมิฬที่ทั่วร่างเป็นสีดำ เปลือกของมันนั้นแข็งแกร่งจนยากจะหาใครเทียบ เปลือกของมันนั้นทนทานเทียบได้กับแร่โลหะระดับเดียวกันกับพลังบ่มเพาะ

มันเองก็อยู่ในรูปร่างมนุษย์เช่นกัน โดยที่สวมเกราะสีดำซึ่งแปลงมาจากเกาะของตนเองเอาไว้

ที่แห่งนี้คือสถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งไม่เหมาะกับรูปร่างขนาดใหญ่ดั้งเดิมของพวกมัน แถมที่นี่ยังไม่มีสภาพแวดล้อมเป็นน้ำอีกด้วย ดังนั้นการแปลงเป็นมนุษย์จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด

ปูหน้าผีเค้นเสียงและกล่าว “ข้าจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาบอก”

“เอาน่า เอาน่า ก่อนอื่นพวกเราต้องตามหาสมบัติกันก่อน จากนั้นค่อยคิดว่าจะแบ่งกันอย่างไรดี” สัตว์อสูรปลาหมึกกล่าว นางเป็นคนเดียวที่เป็นสัตว์อสูรเพศเมีย ผมของนางนั้นเป็นสีเทาและถูกมัดเป็นเปียขนาดใหญ่หลายสิบเส้น

แต่หากมองให้ดีจะพบว่าเปียแต่ละเส้นของนางนั้นแท้จริงคือหนวดปลาหมึกที่กระดิกไปมาเล็กน้อยอยู่ตลอด

นางคือหมึกหมอกเมฆา

“อืม มาค้นหากันก่อนว่าที่นี่มีอะไรอยู่กันแน่!” สัตว์อสูรใต้สมหาสมุทรทุกตัวตกลงเห็นพ้องต้องกัน

“แต่ด้วยเวลาที่ผ่านพ้นมานาน บางทีหลายๆอย่างอาจจะสลายกลายเป็นเศษฝุ่นไปแล้วก็ได้”

“หืม นั่นหญ้าจิตดารา สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า! ตราบใดที่กินหญ้านี่เข้าไปในจำนวนที่มากพอ ข้าก็จะสามารถทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้!”

“นี่มันศิลาที่ช่วยในการเสริมแกร่งกระดูก โชคร้ายที่มันสลายเป็นเศษซากไปแล้ว ไม่เช่นนั้นมันจะช่วยยกระดับพลังป้องกันของเปลือกเกราะข้าได้หนึ่งระดับ!”

“สวรรค์! นี่มันเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่!”

เหล่าสัตว์อสูรอุทานออกมาอย่างต่อเนื่องเนื่องจากตกตะลึงในความล้ำค่าของสมบัติที่นี่ แต่พวกมันก็ต้องผิดหวังเนื่องจากสมบัติส่วนใหญ่ได้สลายเป็นเศษฝุ่นหรือไม่ก็มีสภาพไม่สมบูรณ์

ห้องสมบัติถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆหลายห้อง พวกมันตรวจสอบทีละห้องจนในที่สุดก็มาถึงห้องสุดท้ายซึ่งมีแผ่นหินวางเอาไว้เพียงแผ่นเดียว

แผ่นหินที่ดูธรรมดา

‘ธรรมดา’ นี่คือความรู้สึกแรกของเหล่าสัตว์อสูร แต่แผ่นหินนี่กลับไม่มีร่องรอยสึกหรอใดๆแถมดูแล้วยังไม่ใช่สมบัติแบบเดียวกันกับเศษซากสมบัติที่กองอยู่บนพื้นด้วย

หรือหินนั่นจะเป็นสมบัติของห้องนี้?

ที่นี่คือห้องสมบัติของตัวตนระดับสุริยันจันทรา แต่สิ่งที่วางอยู่กลับเป็นหินที่ดูธรรมดา ใครบ้างจะไม่รู้สึกสงสัย?

“มันคืออะไร?” สัตว์อสูรทุกตัวต่างสงสัย

“ยังไงก็ไปดูกันก่อนว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร” ปูหน้าผีกล่าว

“อืม!”

อสูรทุกตัวเข้าไปพร้อมกัน เนื่องจากพวกเขาตกลงกันแล้วจึงไม่มีใครกล้าลงมือฉกชิง ไม่เช่นนั้นคนที่ลงมือก่อนจะต้องกลายเป็นเป้าหมายของทุกคน

แผ่นหินนี้ไม่ว่าดูอย่างไรก็ธรรมดามาก

หลังจากลองเคาะและสัมผัสดูสองสามครั้ง แผ่นหินนี้ก็ไร้การตอบสนองใดๆ

เหล่าสัตว์อสูรลองโจมตีดูซึ่งนั่นก็ทำให้พวกมันเปลี่ยนสีหน้า การโจมตีทั้งหมดของพวกมันเมื่อสัมผัสโดนแผ่นหินก็ราวกับถูกทำให้สลายหายไปและแผ่นหินก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย

“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าหินแผ่นนี้คืออะไร แต่การที่มันสามารถดูดซับการโจมตีของพวกเราได้แสดงว่ามันล้ำค่ามาก” หมึกหมอกเมฆาตกตะลึงและกล่าวออกมา

แผ่นหินที่ดูไม่ทนทานนี้ การที่สามารถดูดซับการโจมตีของพวกมันได้แสดงว่ามันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของที่นี่

สัตว์อสูรทุกตัวแสดงท่าทางละโมบออกมา ต่อให้แผ่นหินนี้ไม่มีประโยชน์อย่างอื่น แต่คุณสมบัติที่สามารถดูดซับการโจมตีได้ก็ถือว่าน่าสะพรึงกลัวมากพอแล้ว

พรึบ!

ทันใดนันเองมือหลายข้างก็คว้าไปยังแผ่นหินพร้อมกัน เมื่อรู้ว่าแผ่นหินสามารถดูดซับการโจมตีได้ทุกคนก็ต้องการมัน หากมีแผ่นหินนี้ พวกมันจะมีความสามารถในการป้องกันตนเองเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่า

“ส่งมาให้ข้า!”

“มันเป็นของข้า!”

เหล่าสัตว์อสูรเริ่มลงมือแย่งชิงกัน

เป้าหมายของพวกมันคือการแย่งชิงแผ่นหินไม่ใช่การสังหาร แต่ตราบใดที่มีใครคนหนึ่งคว้าแผ่นหินไปได้ พวกมันก็จะพร้อมใจกันล้อมสัตว์อสูรตนนั้นเอาไว้

‘ตูม!’

แต่ทันใดนั้น ร่างของสัตว์อสูรฉลามทองคำก็ระเบิดกระจุย

เหตุการณ์นี้ทำให้สัตว์อสูรทุกตัวตกตะลึง เป็นไปได้อย่างไร? ไม่มีใครคนไหนลงมือสังหารฉลามทองคำเลยแท้ๆ แต่ทำไมจู่ๆร่างของมันถึงระเบิดได้?

หลังจากนั้นเอง พวกมันก็เห็นร่างหนึ่งปรากฏตัวและคว้าแผ่นหินไป

ร่างนั้นคือหลิงฮัน!

ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาถูกฉลามทองคำเขมือบ เขาได้เข้าอยู่ในหอคอยทมิฬทันที และเมื่อครู่เขาได้ออกมาจากหอคอยทมิฬแปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาจึงทำให้ร่างของฉลามทองคำระเบิดออก

ต่อให้เป็นสัตว์อสูร อวัยวะภายในก็ยังคงอ่อนนุ่มไม่ทนทานอยู่ดี

“เผ่ามนุษย์!”

“น่ารังเกียจ!”

เหล่าสัตว์อสูรที่ท่าทีรังเกียจ ถึงแม้พวกมันจะต่างเผ่าพันธ์และไม่ได้เป็นมิตรสหายกัน บางครั้งเมื่อเจอหน้ากันพวกมันยังเข้าปะทะกันเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังเป็นสัตว์อสูรเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเจอเผ่ามนุษย์ที่แปลกแยก พวกมันจึงมองหลิงฮันเป็นศัตรู

ยิ่งกว่านั้นคือหลิงฮันได้คว้าแผ่นหินไปแล้ว!

เหล่าสัตว์อสูรลงมือโจมตีเข้าใส่หลิงฮันพร้อมกัน

‘ปัง!’

การโจมตีของพวกมันปะทะเข้ากับแผ่นหลังหลิงฮัน การโจมตีของสัตว์อสูรทั้งห้าตัวผสานเป็นหนึ่งเดียว พวกมันทุกตัวเป็นสัตว์อสูรระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด หากเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางทั่วไปก็คงร่างระเบิดตายไปแล้ว

หลิงฮันกระอักโลหิตออกมา แต่เขาก็ยังคงเคลื่อนได้รวดเร็วเช่นเดิมและไม่ปล่อยให้แผ่นหินหลุดจากมือ

อะไรกัน!

สัตว์อสูรทั้งห้าตกตะลึง นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? อีกฝ่ายเป็นเพียงจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลาง ต่อให้พวกเขาไม่ร่วมมือกันแค่พวกมันสักตัวลงมือก็สมควรจะสามารถสังหารเผ่ามนุษย์คนนั้นได้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงได้บาดเจ็บแค่กระอักโลหิต?

มีคำกล่าวว่าสัตว์อสูรนั้นมีร่างกายที่ทนทาน แต่ทำไมเผ่ามนุษย์ผู้นี้ถึงได้ดูเหมือนสัตว์อสูรมากกว่าพวกมันอีก

หลิงฮันหยุดเคลื่อนที่และพยายามยืนอย่างโซซัดโซเซ เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบ่นแผ่นหลัง

ถึงแม้เขาจะมีกายหยาบที่เทียบได้กับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม แต่การที่ถูกสัตว์อสูรระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดห้าตัวรุมโจมตีพร้อมกันก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บอยู่ดีเขาจึงต้องกระอักโลหิตออกมาเพื่อให้สบายตัว

โคตรเจ็บเลย!

หลิงฮันคำรามในใจ แต่สุดท้ายเขาก็ได้แผ่นหินมาอยู่ในมือแล้ว ต่อเป็นอยู่ต่อหน้าปรมาจารย์ระดับดาราเขาก็ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะแย่งแผ่นหินไปจากเขาได้

“ขอโทษที แต่สิ่งนี้ขาขอรับไปแล้วกัน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด