Alchemy Emperor of the Divine Dao 1082

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1082 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหล่ากองทัพกบฏบุกเข้าไปในพระราชวัง องครักษ์ที่เฝ้าปราสาทอยู่ไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านและถอยเปิดทาง

เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ทำให้กองทัพกบฏรู้สึกฮึกเหิม พวกเขาคงทรงพลังเป็นแน่ องครักษ์ถึงได้หวาดกลัวจนทำได้เพียงล่าถอย

ถึงแม้จอมยุทธของห้านิกายโบราณจะสงสัยที่ทำไมการคุ้มกันปราสามถึงหละหลวมเช่นนี้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ เพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดแถมยังมีปรมาจารย์ระดับพระเจ้าถึงสามสิบเจ็ดคน

สำหรับเฮ่อเหลียนเทียนหยุน พวกเขาจะใช้ปรมาจารย์สามสิบคนในการจัดการ ในขณะที่อีกเจ็ดคนจะทำหน้าที่กวาดล้าง

ติงผิงรู้อยู่ในใจว่านี่คือแผนการหลอกล่อของหลิงฮันเพื่อให้เหล่ากบฏมารวมตัวกันให้มากที่สุด

ใช้เวลาไม่นานกองทัพกบฏก็บุกไปถึงส่วนลึกที่สุดของปราสาทและหยุดอยู่ตรงหน้า ‘ตำหนักใจกลาง’

ที่นี่คือศูนย์กลางของทั้งปราสาท ในห้องโถงนี้มีอารามตั้งอยู่ซึ่งบนอารามมีเสาหินที่สลักสัญลักษณ์เอาไว้

อารามแห่งนี้คือแหล่งรวมพลังของจักรวรรดิต้าหลิง เมื่อใดที่อารามแห่งนี้พังทลายก็จะไม่สามารถใช้อำนาจแห่งจักรภพได้อีกต่อไป

เฟิงโปหยุน จักรพรรดิพิรุณ มู่หลงชิง เฮ่อเหลียนเทียนหยุนปรากฏตัวโดยมีองครักษ์ของปราสาทยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาทั้งสี่ เหล่าองครักษ์ต่างถือกระบี่อยู่ในมือและแสดงท่าทีว่าพวกเขาพร้อมสู้จนตัวตาย

“เหอะ ก็แต่ฝูงไก่ฝูงสุนัข!” ชายชราคนหนึ่งของห้านิกายโบราณกล่าว เขามีชื่อว่าซื่อถูเจี่ยน เขาจำศีลมาเป็นเวลากว่าพันปี ในตอนนี้ที่หม่าตั่วเปาทำลายห้านิกายโบราณเขาที่จำศีลอยู่ก็ไม่ถูกปลุกขึ้นมา

กว่าเขาจะตื่นก็เมื่ออยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วดังนั้นเขาจึงไม่รู้แท้ถึงพลังของหลิงฮัน สิ่งที่เขารู้สึกมีเพียงแค่ว่าคนรุ่นหลังนั้นช่างอ่อนแอที่แพ้ให้กับหลิงฮัน

“เจ้าพวกสุนัข มอบชีวิตของพวกเจ้ามาเสีย!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนคำราม ในกลุ่มสี่คน เขาเป็ฯคนที่ปากจัดที่สุด

“โอ้ ทายาทของมังกรที่แท้จริงงั้นรึ พลังต่อสู้ของเจ้าคงสูงได้ถึงสี่ดาวหรือห้าดาวที่กล่าวขานกันในตำนานสินะ?” ซื่อถูเจี่ยนสะบัดมือ “อย่างที่วางแผนกันเอาไว้ มาช่วยกันจัดการมังกรตนนี้ โลหิตมังกรนับว่าเป็นยาบำรุงชั้นเลิศ!”

ทันใดนั้นปรมาจารย์ยี่สิบเก้าคนก็เดินหน้าขึ้นมายืนเคียงข้างซื่อถูเจี่ยน พวกเขาวางแผนกันเอาไว้แล้วว่าใครบ้างจะร่วมมือกันจัดการเฮ่อเหลียนเทียนหยุน

“เหอะ ก็แค่ฝูงจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต่ำชั้นต้น!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนแสยะยิ้ม “พวกเจ้าเล่นผิดคนแล้ว ฝั่งของพวกข้าจอมยุทธระดับภูผาวารีไม่ได้มีเพียงหนึ่ง!”

เฟิงโปหยุน จักรพรรดิพิรุณ มู่หลงชิงและจิตวิญญาณศิลาเดินขึ้นหน้าและไม่ปกปิดพลังของตนเองอีกต่อไป แรงกดดันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพระเจ้าถูกปลดปล่อยออกมาโอบล้อมจอมยุทธทุกคนทันที

อะไรกัน!

ห้านิกายโบราณและเหล่ากบฏสุนัขรับใช้อุทานออกมา เป็นไปได้อย่างไรที่จู่ๆจักรวรรดิต้าหลิงมีจอมยุทธระดับพระเจ้าโผล่ขึ้นมาอีกสี่คน? เรื่องที่ทำให้แผนของพวกเขายุ่งเหยิงไปหมด

“นี่พวกเจ้า พวกเจ้ามีความกตัญญูกันบ้างรึเปล่า?” จักรพรรดิพิรุณถาม “ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสี่เปิดสวรรค์ได้สำเร็จ พวกเจ้าก็มีชะตะตกตายอยู่บนโลกใบเล็กโดยการถูกหลอมเป็นเม็ดยา! แต่ตอนนี้พวกเจ้ากลับเข้าร่วมกับคนของห้านิกายโบราณเสียนี่”

เมื่อถูกถามเช่นนี้กบฏบางคนก็แสดงท่าทีละอายใข แต่ก็มีบางคนที่แสดงท่าทีอวดดีแสยะยิ้ม

พวกเขาคิดว่านี่แหละคือทางเลือกของคนฉลาด!

หลิงฮันถูกจับกุมเป็นตัวประกัน แถมจักรวรรดิต้าหลิงก็มีจอมยุทธระดับพระเจ้าเพียงคนเดียวคอยคุ้มกัน หากเทียบกับจำนวนจอมยุทธระดับพระเจ้าของห้านิกายโบราณแล้วช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว

เช่นนั้นแล้วระหว่างตายไปพร้อมกับต้าหลิงกับเข้าร่วมกับห้านิกายโบราณจะให้เลือกอะไร?

ที่นี่คือดินแดนศักดิ์ศิทธิ์ พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอมกลายเป็นเม็ดยา ที่นี่พวกเขาไม่มีเรื่องอะไรให้ขัดแย้งกับห้านิกายโบราณจึงสามารถให้ร่วมมือกันได้

“เกิดคาดไปเล็กน้อยที่พวกเจ้าบรรลุระดับพระเจ้าแล้ว เหอๆ แต่ก็แค่ระดับพระเจ้าเพียงห้าคน” ถึงแม้ซื่อถูเจี่ยนจะตกตะลึงเขาก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว

เขาไม่ใช่จอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของห้านิกายโบราณแต่แค่มีสถานะอาวุโสที่สุด ดังนั้นเขาจึงถูกแต่งตั้งเป็นผู้นำของแผนการบุกลุกครั้งนี้

“พวกเจ้ามีคนแค่นี้เองงั้นรึ?” จักรพรรดิพิรุณกวาดสายตามอง เขารู้ว่านานแล้วว่ามีความวุ่นวายบางอย่างเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลังความสงบสุขของเมืองจักรพรรดิ การที่กองทัพกบฏปราฏตัวขึ้นในตอนนี้ก็อยู่ในการคาดการณ์ของเขา มีบางกลุ่มที่ก่อนหน้านี้หลบซ่อนตัวได้อย่างมิดชิดไม่ยอมโผล่หางแม้แต่นิดเดียว

“จำนวนเท่านี้ก็เพียงพอที่จะจัดการพวกเจ้าแล้ว!” ซื่อถูเจี่ยนแสยะยิ้ม “แต่ก่อนหน้านั้นคงต้องสังหารคนหัวรั้นทิ้งเสียก่อน!” แววตาของเขามองไปยังติงผิง

จักรวรรดิต้าหลิงฮันมีจอมยุทธระดับพระเจ้าอยู่อีกสี่คน แต่ติงผิงไม่ยอมบอกข้อมูลเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าติงผิงจงใจหลอกพวกเขา

ตุบ!

ติงผิงถูกโยนออกมา ถึงแม้เขาจะมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ต่อหน้าพระเจ้าเขาก็ไม่อาจขัดขืนได้

“จงคุกเข่า!” ซื่อถูเจี่ยนกล่าวอย่างเย็นชา เขาจะตัดหัวติงผิงต่อหน้าทุกคนที่นี่

“ปึ๊ด!” ติงผิงถุยน้ำลายอย่างไม่เกรงกลัว

“งั้นข้าจะทำให้เจ้าคุกเข่าเอง!” ซื่อถูเจี่ยนกล่าวขึ้นเสียง แววตาของเขาจ้องเขม็งพร้อมกับปลดปล่อยออร่าที่เป็นเอกลักษณ์ของพระเจ้าออกมาเพื่อสยบจิตใจของติงผิง

“ฮึ่ม เจ้าข้าข่มขู่ลูกศิษย์ของข้างั้นรึ?” เสียงของหลิงฮันดังขึ้น

“อะไรกัน?” “หืม?” “นะ…นี่มัน?

ราชาดาบ จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ และคนอื่นๆมีสีหน้าตกตะลึง พวกเขาเคยเจ็บปวดกับฝันร้ายที่เรียกว่าหลิงฮันมาก่อน เพราะงั้นพวกเขาจึงจำเสียงของหลิงฮันได้แม่นมาก พวกเขาสั่งสะท้านทั่วร่างในทันที

“ใครกัน?” ซื่อถูเจี่ยนคำรามและมองไปยังต้นทางของเสียง

หลิงฮันเดินออกมาโดยมีรอยยิ้มประดับไว้บนใบหน้า

“เจ้าเป็นใคร?” ซื่อถูเจี่ยนถามอีกครั้ง

“หลิงฮัน!”

ทั้งราชันดาบ จอมยุทธรุ่นอาวุโสหรือจางโม่และจอมยุทธรุ่นเยาว์ต่างอุทานออกมา พวกเขามีเงาของหลิงฮันติดอยู่ในจิตใจ เพียงแค่ได้ยินเสียงพวกเขาก็ตัวสั่นจนร่างแทบจะล้ม

การที่ทำให้จอมยุทธระดับพระเจ้าและรับทลายมิติหวาดกลัวเช่นนี้ได้ก็บ่งบอกแล้วว่าหลิงฮันมีอิทธิพลต่อจิตใจของคนเหล่านี้มากขนาดไหน

“เจ้าคือหลิงฮัน?” ซื่อถูเจี่ยนมองไปยังหลิงฮัน เขาไม่เคยสัมผัสกับ ‘ยุคสมัยของหลิงฮัน’ มาก่อน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่รู้ถึงความน่ากลัวที่ไม่สามารถจินตนาการได้ของหลิงฮัน

‘โพล๊ะ!’

ร่างของหลิงฮันเคลื่อนไหวในพริบตาพร้อมกับปล่อยหมัดออกไป ทันใดนั้นหัวของซื่อถูเจี่ยนก็ระเบิดกลายเป็นศพไร้หัว

ทั่วพื้นที่เปลี่ยนเป็นนิ่งเงียบทันที

ถึงแม้ซื่อถูเจี่ยนจะไม่ใช่จอมยุทธระดับพระเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่จอมยุทธของห้านิกายโบราณ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นถึงระดับพระเจ้าอยู่ดี!

ระเบิดหัวในหนึ่งหมัด?

นี่มันบ้าไปแล้ว!

หลิงฮันดึงมือกลับและยิ้ม “ในเมื่อพวกกบฏมารวมตัวกันแล้ว ก็คิดบัญชีรวดเดียวเลยแล้วกัน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด