Alchemy Emperor of the Divine Dao 1113

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1113 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ แต่ตอนนี้พวกเขากลับหวาดกลัวจนใจสั่น

ทั้งที่พวกเขาจ้องมองอย่างไม่กะพริบตา แต่เงานั่นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!” เซี่ยอู๋เฉียนชี้นิ้วใส่หลิงฮัน “ถ้าเจ้าไม่โจมตี เจ้าสิ่งมีชีวิตลึกลับนั่นจะหายไปหรือไม่?”

เขาใช้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข้ออ้างเพื่อใส่ร้ายหลิงฮัน

สุ่ยเยี่ยนยวี่เริ่มโกรธเกรี้ยวและพูดว่า “ถ้าไม่ได้หลิงฮันช่วย พวกเจ้าคงไม่รู้ว่ามีเงาตามพวกเราอยู่!”

อย่างไรก็ตาม เซี่ยอู๋เฉียนก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง แม้เขาจะหลงรักสุ่ยเยี่ยนยวี่มากแค่ไหน แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเขาก็ละทิ้งเรื่องพวกนั้นไปก่อน และพูดอย่างเย็นชาว่า “ในฐานะที่พวกเราอยู่กลุ่มเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการร่วมมือกัน แต่เขากลับคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น! ถ้าเขาไม่โจมตี สิ่งมีชีวิตลึกลับนั่นจะหายไปหรือไม่?

หลิงฮันเริ่มรำคาญและพูดว่า “หลังจากออกไปจากที่นี่ ข้าจะสังหารเจ้า!”

เซี่ยอู๋เฉียนแสยะยิ้ม “จุดแข็งของอีกฝ่ายมีแค่ร่างกายและความยืดหยุ่นเท่านั้น เจ้าคิดว่าจะสังหารข้าได้งั้นรึ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าว่าพวกเราทุกคนสนใจที่จะหาเงานั่นก่อนจะดีกว่า” หลิวจิงเหรินลุกขึ้นยืนเพื่อให้ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกัน ถึงแม้เขาจะไม่สนใจการต่อสู้ของทั้งสองคน แต่ตอนนี้ทุกคนเป็นกลุ่มเดียวกัน หากมีอะไรเกิดขึ้นก็จะส่งผลกับทุกคนในกลุ่ม

ซู่จิงครุ่นคิดถึงเรื่องพวกนั้นและพูดว่า “พวกเจ้าทุกคนเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตพวกนั้นหรือไม่? มันเป็นเพียงแค่เงา?”

ทุกคนส่ายหัว เรื่องแบบนั้นเหนือกรอบความรู้ของพวกเขา

“ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม เป้าหมายความพวกเราคือออกไปจากที่นี่และเมื่อเห็นว่าพวกเรากำลังจะออกไปจากที่นี่ได้สำเร็จ เจ้าเงาลึกลับนั่นจะต้องเข้าโจมตีพวกเราอย่างแน่นอน” ตู่อันกล่าว

ทุกคนยอมรับความคิดเห็นของเขา หากเงาลึกลับนั่นต้องการหยุดพวกเขาออกไปจากที่นี่ มันจะต้องโจมตีพวกเขาอย่างแน่นอน

พวกเขาเดินหน้าต่ออีกครั้ง แต่ครั้งนี้สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่พื้นดิน

แสงของที่นี่มาจากเสาหินเรือนแสง ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่เคลื่อนที่ผ่านเสาหินเรือนแสงรูปร่างเงาของพวกเขาจะเปลี่ยนไป

แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาทั้งสิบคนก็หยุดเคลื่อนที่อย่างกะทันหันและเผยสีหน้าหวาดผวา

เงาบนพื้นดินเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และไม่ใช่สิบเอ็ด…แต่เป็นสิบสอง!

สิ่งมีชีวิตลี้ลับ?

สุ่ยเยี่ยนยวี่รีบเกาะแขนหลิงฮันทันที ในฐานะที่นางเป็นผู้หญิงจึงเป็นธรรมดาที่จะกลัวสิ่งลี้ลับ

ทุกคนยังคงหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าเงาทั้งสองร่างเป็นสิ่งมีชีวิตอะไรกันแน่

“แยกย้าย!”

ทุกคนรีบถอยห่างจากคนที่อยู่ด้านข้าง ทำให้เงานั่นถูกปลีกตัวออกมา

“ฆ่ามัน!” ทั้งสิบคนโจมตีพร้อมกัน แต่ละคนก็แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา

ปัง!

“มันอยู่ตรงนั้น!” หลิงฮันใช้เนตรแห่งสัจธรรมและติดตามการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตลี้ลับ

มันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ก่อนหน้านี้มันอยู่ในรูปร่างของมนุษย์ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นจุดสีดำเล็กๆที่แทบจะมองไม่เห็น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมก่อนหน้านี้มันถึงหนีไปได้

หลิงฮันนำดาบอสูรนิรันดร์ออกมาและใช้ทักษะดาบบัญญัติเร็วกลายเป็นลำแสงที่พุ่งออกไปเร็วเกินกว่าจะอธิบายได้

ตู้ม ปลายดาบแทงทะลุจุดสีดำ แต่กลับรู้สึกเหมือนแทงทะลุร่างกายมนุษย์

ทันใดนั้น ปราณสีดำนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้อง

ไม่ มันไม่ใช่เสียง แต่เป็นสัมผัสสวรรค์ที่แพร่กระจายเข้ามาในห่วงวิญญาณของหลิงฮัน ทำให้เขาได้รับผลกระทบ

หึ่ม นี่เจ้าต้องการเขย่าดวงวิญญาณของข้าอย่างนั้นรึ?

ไร้สาระ ถ้าต้องการโจมตีดวงวิญญาณของเขา อย่างน้อยจะต้องมีระดับบ่มเพาะพลังที่สูงกว่าเขา – มันเป็นแค่ระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดไม่มีทางที่จะสั่นคลอนดวงวิญญาณของหลิงฮันได้ ภายใต้การหล่อหลอมจากคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ทำให้ดวงวิญญาณของเขาแกร่งกล้ามาก

ราวกับปราณสีดำที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดพบกับเขื่อน มันก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

หลิงฮันเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย การโจมตีแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนเคยเจอมาก่อน

พรึบ ปราณสีดำเหล่านั้นรวมตัวกันอีกครั้งกลายเป็นเงาดำ มันสะบัดแขนออกมาและมีกรงเล็บห้าที่แหลมคมเหมือนกับดาบโผล่ออกมาจากมือของมัน

“หึ่ม ทักษะชั้นต่ำ!” กวงหลงอยู่ใกล้หลิงฮันเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ปล่อยให้หลิงฮันชิงผลงานไปคนเดียว และรีบปล่อยหมัดใส่มันทันที

กำปั้นของเขามีอักขระศักดิ์สิทธิ์มากถึงหกสิบแถว ซึ่งทำให้แขนของเขาเหมือนลงอักขระอาคม

ปัง!

หมัดของเขาปะทะกับกรงเล็บสิ่งมีชีวิตลี้ลับ และอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็เปล่งประกายสำแดงอำนาจพลังของมันออกมา ทำให้สิ่งมีชีวิตลี้ลับเริ่มสั่นสะเทือน

เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือพลังต่อสู้ สิ่งมีชีวิตลี้ลับห่างชั้นจากกวงหลงที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดมาก

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ความมั่นใจของกวงหลงก็เพิ่มสูงขึ้น

สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไรคือเรื่องที่น่าหวาดกลัวที่สุด แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตลี้ลับนี่ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร มันแค่แปลกประหลาดเท่านั้น ดังนั้นกวงหลงจึงไม่หวาดกลัวมันเหมือนแต่ก่อน

อย่างไรก็ตาม หลิงฮันดูเหมือนจะคุ้นเคยกับมัน มันมีความยืดหยุ่นที่น่าทึ่ง เมื่อปราณสีดำเคลื่อนไหว มันก็จะกลับไปอยู่ในรูปร่างเดิมของมันอีกครั้ง

เมื่อแสงที่หนาวเย็นกระพริบ มันก็ทำให้ดวงวิญญาณของทุกคนสั่นสะเทือนและหวาดผวา

ในจุดนี้ทำให้ทุกคนรู้ว่าร่างที่ถูกตัดก่อนหน้านี้ไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นวิญญาณ!

ทั้งที่มันถูกตัดออกเป็นหกส่วนในครั้งเดียว แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอมตะและไม่ควรประมาท

หลิงฮันติดตามมันและใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหาร

“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างกะทันหันในใจของทุกคน

ทุกคนเห็นวิญญาณไม่สามารถรักษารูปร่างเดิมของมันได้ และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นร่างมนุษย์ สัตว์ ปลา และก็กลายเป็นนก ในท้ายที่สุดมันก็สลายหายไป

เรื่องจริงงั้นรึ!

หลิงฮันพยักหน้าอยู่ในใจ เจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มันไม่เกรงกลัวต่อการโจมตีและสามารถฟื้นสภาพได้ทันทีหลังจากที่ถูกโจมตี แต่มันจะสลายหายไปเมื่อถูกโจมตีทางวิญญาณ

กวงหลงส่งเสียงหัวเราะทันทีและพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้กลัวการโจมตีทางวิญญาณ”

“หึ่ม รับดาบสลายวิญญาณของข้า!” เซี่ยอู๋เฉียนตะโกนและปล่อยดาบทองคำนับไม่ถ้วนออกมาจากดวงตา นี่ไม่ใช่การโจมตีที่เป็นรูปธรรม แต่เป็นการโจมตีทางวิญญาณ และเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่วิญญาณอีกตนจะหลบหนีไปได้และถูกตอกเข้ากับเสาหิน

มันเองก็ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนไม่หยุด และหลังจากที่รูปร่างของมันบิดเบี้ยวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดมันก็สลายหายไปอย่างสมบูรณ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด