Alchemy Emperor of the Divine Dao 1145

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1145 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำไมข้าจะต้องอธิบายให้เจ้าฟัง?” จักรพรรดินีแห่งดารากล่าวอย่างหยิ่งยโส

เพี๊ยะ!

เสียงตีดังขึ้นอีกครั้ง

หลิงฮันสะบัดมือและกล่าว “ดูเหมือนว่าท่านจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองเลยนะ!”

การตีเมื่อครู่ทำให้ความรู้สึกปวดแสบแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนาง ความรู้สึกประหลาดที่ผุดขึ้นมาของนางยิ่งชัดเจนขึ้นราวกับจะปะทุออกมา นางไม่กล้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่เช่นนั้นหากนางถูกกระตุ้นจนเกิดเรื่องไม่ขาดฝัน ในอนาคตนางจะต้องถูกจับมาอยู่ในสภาพเช่นนี้อีกแน่

“เมื่อพลังบ่มเพาะของร่างนี้บรรลุระดับสวรรค์ เจตจำนงของข้าจะค่อยๆตื่นขึ้นและผสานเข้ากับนาง” จักรพรรดินีกล่าว “ทักษะลับของเผ่าเก้าอสรพิษเป็นเช่นนี้ทั้งหมด ถ้าข้ามีพลังระดับภูผาวารี ร่างแยกก็จะมีปลุกพลังได้เพียงภูผาวารี แต่ถ้าข้ามีพลังระดับวารีนิรันดร์ ร่างแยกของข้าก็จะปลุกพลังได้ถึงระดับวารีนิรันดร์”

หลิงฮันครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะถาม “งั้นก็หมายถึงนางไม่รู้ถึงตัวตนความเป็นมาของท่าน?”

“นางไม่รู้” จักรพรรดินี้แห่งดารากล่าว

สีหน้าของหลิงฮันมืดมนกว่าเดิม “หมายความว่านางจะหายไปเมื่อเจตจำนงของท่าถูกปลุกขึ้นมาอย่างสมบูรณ์?”

“นิสัยที่แตกต่างกันของร่างแยกทั้งเก้าต่างก็แยกออกมาจากตัวข้า” จักรพรรดินีแห่งดารากล่าวในเชิงปลอบใจ “หรือก็คือพวกนางเป็นส่วนหนึ่งของข้า ข้ายังสามารถสร้างร่างแยกได้อีกเมื่อบรรลุะดับวารีนิรันดร์”

หลิงฮันโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขามีความรู้สึกผูกพันธุ์กับราชินีที่เก้าที่แสนไร้เดียงสา

แต่ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของเขาทำให้สีหน้าเขาดูแปลกประหลาดไปจากเดิม

“มีอะไรงั้นรึ?” จักรพรรดินีแห่งดาราถาม

หลิงฮันลังเลอยู่สักพักก่อนจะกล่าว “ไม่ใช่ว่าถ้าข้าแต่งงานกับท่าน ข้าจะได้ภรรยาเพิ่มมาอีกเก้าคนโดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงเลยไม่ใช่รึไงกัน? นี่มันบ้าไปแล้ว! ข้าจะเผด็จศึกพวกท่านทุกคนพร้อมกันอย่างไรดี?”

“จะ เจ้าคนโรคจิต!” จักรพรรดินีแห่งดาราคำรามด้วยความโกรธและทุบร่างหลิงฮันจนลอยกระเด็น

แน่นอนว่าหลิงฮันจงใจให้นางทำเช่นนี้ เขารังแกนางมานานพอสมควรแล้ว หากให้นางระบายอารมณ์เมื่อออกจากหอคอยทมิฬ ความโกรธของนางอาจจะลดลงบ้าง

เขาเดินกลับมาและกล่าว “เอ่อ ภรรยาข้า…”

“ใครเป็นภรรยาเจ้า?” จักรพรรดิแห่งดารากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ นางเพียงแค่ให้โอกาสเขาเท่านั้น สำหรับตอนนี้หลิงฮันยังไม่มีสิทธิ์สู่ขอนางแต่งงาน

หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “งั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าอะไรดี? ยอดรัก? สุดที่รัก?”

จักรพรรดินีแห่งดาราจ้องมองไปที่เขาด้วยความมึนงง ก่อนหน้านี้นางคิดว่าหลิงฮันจะเป็นคนจริงจัง แต่ใครจะไปนึกว่าที่แท้เขากลับกลายเป็นคนทะเล้นเช่นนี้? นางส่ายหัวในขณะที่คิดว่านางตัดสินใจผิดพลาดไปรึเปล่า

“เรียกข้าว่าองค์จักรพรรดินี!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำ

“…”

หลิงฮันพยักหน้า “ก็ได้!”

‘ข้าอาจจะเรียกเจ้าว่าองค์จักรพรรดินีในตอนนี้ แต่ในอนาคตเจ้าจะต้องเรียกข้าว่าท่านสามี!’

“งั้นก็ เอ่อ องค์จักรพรรดินี…”

“ตอนนี้มีแค่พวกเราสองคน มีความจำเป็นต้องเรียกข้าเช่นนั้น?”

“ท่านนี่ไม่น่ารักเอาเสียเลย!” หลิงฮันถอนหายใจก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “แล้วเผ่าสวรรค์บรรพกาลคืออะไร? พวกเขาดูเหมือนจะทรงพลังอย่างมาก”

“เรื่องนี้ข้ารู้!” เซียนหวู่เซียงกล่าว เขาเริ่มทำให้ตนเองเป็นจุดใจอีกครั้ง เขาเป็นถึงเซียนแท้ๆแต่ทั้งสองคนกลับไม่แยแสและเลือกที่จะเมินเฉยเขาอย่างไม่เห็นค่า นี่พวกเขารู้รึเปล่าว่าการจะได้รับคำชี้แนะจากเขานั้นเป็นโอกาสที่หาได้ยากขนาดไหนถึงได้ไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้?

จักรพรรดินีแห่งดาราชำเลืองไปยังก้อนแสง ดูเหมือนสิ่งนี้จะเป็นเซียนที่รู้ดีไปเสียทุกอย่างและนางคงไม่สามารถปิดบังความลับนี้เอาไว้ได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้วนางเป็นฝ่ายเล่าเองเลยดีกว่า “เผ่าสวรรค์บรรพกาลเป็นชื่อเรียกรวมของเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง พวกเขาปรากฏตัวขึ้นเมื่อยุคสมัยบรรพกาล ซึ่งเผ่าสวรรค์บรรพกาลทุกคนต่างก็ครอบครองความสามารถที่อัศจรรย์”

“เจ้าหนู เจ้าเองก็อาจจะมาจากเผ่าสวรรค์บรรพกาลก็เป็นได้” เซียนหวู่เวียงกล่าวแทรก กายหยาบของหลิงฮันนั้นทรงพลังเป็นอย่างมากและเขารู้สึกว่าการจะมีกายหยาบเช่นนี้ได้ต้องเป็นเผ่าสวรรค์บรรพกาลเท่านั้น

จักรพรรดินีแห่งดาราพยักหน้าเห็นด้วย

แต่ในขณะเดียวกันหลิงฮันส่ายหัวปฏิเสธ เขามาจากตระกูลธรรมดาทั่วไป จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาเป็นหนึ่งในเผ่าสวรรค์บรรพกาล? เหตุผลเดียวที่กายหยาบและจิตวิญญาณของเขาไร้เทียมคือคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์

แม้หลิงฮันจะไม่เคยเห็นเผ่าสวรรค์บรรพกาลคนอื่น แต่จากที่เห็นจักรพรรดนีแห่งดาราแล้วก็รับรู้ได้ว่าพวกเขามีความสามารถที่เหลือเชื่อขนาดไหน เผ่าเก้าอสรพิษสามารถแยกร่างออกมาเก้าร่างได้ ซึ่งหมายถึงพวกเขาจะมีชีวิตสำรองเพิ่มขึ้นเก้าชีวิต ด้วยความสามารถนี้ก็เรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์เกินบรรยายแล้ว

“เวลาจะหมดแล้ว ข้าคงต้องไปก่อน” จู่ๆจักรพรรดินีก็กล่าวขึ้นมา

หลิงฮันชะงักก่อนจะกล่าว “งั้นข้าจะพาท่านออกไปเอง”

จักรพรรดินีแห่งดาราสามารถรับรู้สถานการณ์ของหูเฟยหยินได้ แต่นั่นก็เป็นจักรพรรดินีฝ่ายเดียว ในขณะที่หูเฟยหยินนั้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่จักรพรรดินีเป็นคนคำควบคุมร่างของนางและสังหารสัตว์อสูร แต่หูเฟยหยินกลับคิดว่าเป็นหลิงฮันที่สังหารสัตว์อสูร

จักรพรรดินีแห่งดาราพยักหน้า ทั้งสองคนออกจากหอคอยทมิฬด้วยกัน

“ที่ข้าเป็นอากาศธาตุรึไง?” เซียนหวู่เซียงพึมพำด้วยท่าทีหม่นหมอง ทำไมพวกเขาถึงได้เมินเขาทั้งคู่เลย?

“ผู้อาวุโส ข้ามีคำถาม!”

“ข้าด้วย!”

ชางเย่และคนอื่นๆเดินเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นเองความภาคภูมิใจของเซียนหวู่เซียงก็กลับมาและช่วยชี้แนะพวกเขา

หลังจากออกจากหอคอยทมิฬจักรพรรดินีแห่งดาราก็หลับตาลงก่อนจะเปิดตาอีกครั้ง การกระทำเช่นนี้แม้จะใช้เวลาเพียงพริบตาแต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก บรรยากาศยิ่งยโสรอบกายของนางหายไปและกลายเป็นสตรีที่ไร้เดียงดาแทน

“หือ? ทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่?” หูเฟยหยินถามด้วยสีหน้ามึนงง นางกัดนิ้วและใช้มืออีกข้างเกาหัวแสดงออกถึงความสับสนอย่างมากที่สุด

“รอข้าอยู่ที่นี่ก่อน” หลิงฮันกล่าว เมื่ออีกฝ่ายหยักหน้าเขาก็เดินไปหาสุ่ยเยี่ยนยวี่ เมื่อพบนางแล้วเขาก็พานางกลับมาด้วย

สุ่ยเยี่ยนยวี่อดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกหวาดกลัวต่อหูเฟยหยินผุดขึ้นมาครู่หนึ่ง “ทำไมออร่าของนางถึงได้น่ากลัวเพียงนั้น?” นางกระซิบถามหลิงฮัน

“ข้าจะอธิบายให้ฟังทีหลัง” หลิงฮันส่ายหัว เขายิ้มไปยังราชินีที่เก้าและกล่าว “ราชินีที่เก้า ข้าจะพาเจ้าไปสถานที่สนุกๆ”

“ได้เลย! ไปกันเลย!” หูเฟยหยินปรบมือด้วยความตื่นเต้น ด้วยนิสัยไร้เดียงสาของนาง นางไม่เคยคิดถึงเลยว่าจะมีใครแอบล่อนางไปขายรึไม่

หลิงฮันใช้สัมผัสสวรรค์โอบคลุมสตรีทั้งสองเอาไว้และพาพวกเขาไปยังต้นสังสารวัฏในหอคอยทมิฬ

“นี่คือต้นสังสารวัฏ” หลิงฮันกล่าวกับหูเฟยหยิน “ตั้งแต่วันนี้เจ้าจะต้องมาบ่มเพาะพลังที่นี่ทุกคืน หากทำเช่นนี้ระดับพลังของเจ้าจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

“ข้าต้องบ่มเพาะพลังอีกแล้ว?!” สีหน้าบูดบึ้งปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของหูเฟยหยิน “ข้าเกลียดการบ่มเพาะพลัง! มันทั้งเหนื่อยและน่าเบื่อ!”

หลิงฮันเผลอคิดขึ้นมาว่าหูเฟยหยินนั้นเป็นนิสัยที่แยกออกมาจากจักรพรรดินีแห่งดารา นางคือความไร้เดียงสาที่จักรพรรดินีในตอนนี้ไม่มีเพราะแยกออกมาแล้ว

เช่นนั้นหากตอนที่นางผสานร่างแยกทั้งเก้ากลับสู่ร่างต้น นิสัยของจักรพรรดินีจะเป็นอย่างไรกัน?

“ห้ามอิดออดนะตกลงไหม?” หลิงฮันลูบหัวหูเฟยหยิน “เจ้าต้องตั้งใจบ่มเพาะพลังให้ดี”

หูเฟยหยินพแงแก้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น เพียงแต่นางก็ไม่ได้รังเกียจที่หลิงฮันลูบหัวนาง ในขณะเดียวกันสุ่ยเยี่ยนยวี่แสดงออกถึงสีหน้าที่ตกตะลึง อีกฝ่ายคือราชินีที่เก้านะ! จักรพรรดินีกล่าวว่าให้มองราชินีทั้งเก้าเหมือนกับที่มองนาง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นหลิงฮันไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้ลูบหัวนาง?!

สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่รับรู้แม้แต่น้อยเลยว่าหลิงฮันนั้น แม้แต่ตีบั้นท้ายของจักรพรรดินีเขาก็ทำมาแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด