Alchemy Emperor of the Divine Dao 1156

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1156 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงฮันพยักหน้าอย่างลับๆ ในที่สุดดาบอสูรนิรันดร์ก็แสดงพลังอำนาจสูงสุด

ท้ายที่สุด ในเมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กกลืนกิน แล้วมันจะไม่ทรงพลังได้อย่างไร?

หลิงฮันไม่จำเป็นต้องควบคุมดาบเลย เพราะเจตจำนงต่อสู้ของเขานั้นได้ตราตรึงอยู่ในดาบแล้ว เพียงแค่ใช้ความคิดควบคุมก็ไม่แตกต่างการกวัดแกว่งดาบด้วยมือ

นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก ดาบเล่มนี้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของหลิงฮัน แล้วในเมื่อมันถูกใช้โดยหลิงฮัน เช่นนั้นการโจมตีของเขาจะทรงพลังแค่ไหน?

ช่วยไม่ได้ที่อู๋เจ๋อจะรู้สึกเสียใจ

ก่อนหน้านี้ทุกคนต่อสู้กันโดยไม่ใช่อาวุธ แต่หลิงฮันกลับต้องทำให้เขาต้องเอาจริงและนำดาบสามบุปผาสามเมฆาออกมา นั่นเป็นเพราะเขากระหายชัยชนะและอยากจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด เพื่อทวงศักดิ์ศรีของตัวเองกลับมา

แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับมีอาวุธที่ทรงพลังเทียบเท่าดาบสามบุปผาสามเมฆา และมันเข้ากับหลิงฮันอย่างสมบูรณ์

สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ตรงกับสำนวนที่ว่าขโมยไก่ไมได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ

ดาบอสูรนิรันดร์นั้นเคลื่อนที่ด้วยตัวของมันเอง ในขณะเดียวกันหลิงฮันก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งต่อยใส่อู๋เจ๋อ ถึงแม้เขาจะเลือกต่อสู้ระยะกลางหรือไกลได้ แต่ยังไงเขาก็ต้องการต่อสู้ระยะประชิด    เพราะเขาฝึกฝนทักษะคัมภีรสวรรค์นิรันดร์ ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งจนเรียกได้ว่าอาวุธมนุษย์ แล้วด้วยทักษะเก้ามังกรทรราชย์ มันทำให้พลังของเขานั้นไม่มีที่สิ้นสุดและการต่อสู้ในระยะประชิดนั้นเหมาะสมมากกว่า

หมัด เท้า ศอก และกระทั่งหัวก็เป็นอาวุธที่อันตรายถึงตายได้!

ดาบอสูรนิรันดร์นั้นระเบิดแสงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา ขณะเดียวกันหลิงฮันก็ต่อยหมัดออกไปพร้อมกับใช้อาคมศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิง ทำให้หมัดของเขาทรงพลังเหมือนกับจักรพรรดิพิรุณ

ใครก็ตามที่ทำให้ข้าไม่พอใจ จะต้องถูกข้าบดขยี้!

หมัดของหลิงฮันพุ่งตรงเข้าหาอู๋เจ๋อ โดยไม่คิดที่จะออมมือ หากอีกฝ่ายคิดจะตอบโต้จะต้องประสบกับความทุกข์ทรมาน

อู๋เจ๋อส่งเสียงคำราม เขาจับดาบในมือขวาแน่นและใช้ต้านรับดาบอสูรนิรันดร์ แล้วเปลี่ยนมือขวาเป็นหมัดเพื่อแลกหมัดกับหลิงฮัน

ในฐานะที่เขาเป็นหนึ่งในหกราชา เขาไม่เกรงกลัวผู้ใดที่อยู่ในระดับเดียวกัน

ปัง! ปัง! ปัง!

ทั้งสองคนโจมตีใส่กันไม่หยุด และทั้งสองคนมีพลังเกือบจะเท่ากัน แม้ว่าอู๋เจ๋อจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย แต่พลังของเขานั้นก็มีขีดจำกัด

หมัดของพวกเขาทั้งสองคนนั้นรวดเร็วมาก เพียงแค่ต่อสู้กันไม่กี่ลมหายใจ พวกเขาก็แลกหมัดกันไปมาหนึ่งร้อยหมัดแล้ว จนในที่สุดก็มีฝ่ายหนึ่งถูกต่อยกระเด็นไปด้านหลังและสิ้นสุดการต่อสู้ระยะประชิด

แน่นอนว่าหลิงฮันไม่เป็นอะไร แต่ที่แขนซ้ายของอู๋เจ๋อนั้นชโลมไปด้วยโลหิตที่หยุดเป็นสาย แม้แต่แขนของเขาก็ยังสั่นไปมา

การต่อสู้ระยะประชิดนั้นเกราะป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังปราณจะไม่สามารถต้านทานได้มากนัก – นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจอมยุทธส่วนใหญ่ถึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระยะประชิด แล้วจอมยุทธที่ฝึกฝนบ่มเพาะกายานั้นค่อนข้างมีน้อย

ดังนั้น หลิงฮันจึงเป็นฝ่ายชนะเพราะเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่า!

ปากของอู๋เจ๋อกระตุก เขารู้สึกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แค่พลังวิญญาณของหลิงฮันก็น่าสะพรึงแล้ว แล้วนี่เขายังมีกายหยาบที่ผิดปกติอีก

มันจะมีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่ได้ยังไง?

ทุกคนเองก็รู้สึกตกตะตึง!

เมื่อทั้งสองคนต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมด มันกลับกลายเป็นอู๋เจ๋อที่ได้รับบาดเจ็บ

ใครจะคิดกันล่ะว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?

ร่างของกังสือหยุนสั่นไม่หยุด ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าตัวเองนั้นได้ยั่วยุสัตว์ประหลาดเข้าให้แล้ว

ตราบใดที่ชายคนนี้ไม่ตายไปซะก่อน ความสำเร็จของเขาในอนาคตจะทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง!

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ศิษย์น้องอู๋ เจ้ายอมรับความพ่ายแพ้หรือยัง?”

สีหน้าของอู๋เจ๋อกลายเป็นซีดขาว แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เขาเป็นหนึ่งในหกราชาที่ไม่มีใครกล้าไม่ไว้หน้าเขา แต่เจ้ากลับทำตัวอวดดีขนาดนี้คิดดีแล้วหรือ?

“ฮันหลิน เจ้าชักจะมากเกินไปแล้ว!” อู๋เจ๋อกัดฟันแน่น

แม้ว่าเขาจะยังมีไพ่ลับเหลืออยู่บ้าง แต่เมื่อคำนึงถึงกายหยาบที่น่าสะพรึงกลัวของอีกฝ่ายแล้ว ไพ่ลับของเขาจะเอาชนะกายหยาบของอีกฝ่ายได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนวรยุทธเท่านั้น

ดังนั้น เขาจึงหวังว่าหลิงฮันจะผ่อนปรนและไม่สร้างปัญหามากไปกว่านี้

“เรียกข้าว่าศิษย์พี่ แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป” หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย อีกฝ่ายเล่นสกปรกกับจักรพรรดิพิรุณ แล้วคิดว่าเขาจะปล่อยตัวไปง่ายๆได้อย่างไร?

ดวงตาของอู๋เจ๋อกลายเป็นมืดมน เขากำหมัดขวาแน่นและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

“เจ้าคิดว่าเอาชนะข้าได้แล้วงั้นรึ?” ทันใดนั้นตรงหน้าผากของอู๋เจ๋อก็มีอักขระบางอย่างเปล่งแสงสลัวออกมา

“นั่นมันอะไรกัน!”

ผู้คนที่อยู่รอบข้างตกใจ

เพียงแค่จ้องมองก็ทำให้จิตใจของพวกเขาเหมือนถูกดาบนับไม่ถ้วนกระหน่ำแทง มันทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูก

“นี่มัน…นี่มัน…มันคือทักษะฝันร้ายอันสิ้นหวัง!” ใครบางคนอุทาน “พระเจ้า ศิษย์พี่อู๋ได้เรียนรู้ทักษะโบราณนี้แล้ว!”

“มันเป็นหนึ่งในทักษะลับของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง และเป็นทักษะที่ยากจะฝึกฝน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีผู้ใดเคยฝึกสำเร็จมาก่อนและไม่คิดว่าอู๋เจ๋อจะใช้ทักษะนี้”

กลิ่นอายของอู๋เจ๋อเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขาราวกับเขากลายเป็นนกเค้าแมวที่จะนำพาฝันร้ายที่ไม่มีที่สิ้นสุดมา

แต่หลิงฮันจำเป็นต้องกลัวหรือไม่? เขาไร้พ่ายในระดับเดียวกันตั้งแต่แรก แต่ที่แตกต่างคือวิธีที่เขาจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามต่างหาก

“ทักษะของเจ้าไม่เลวเลย” หลิงฮันดูสนใจมาก ทักษะนี่ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว

“แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ!” อู๋เจ๋อกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ต่อยหมัดใส่หลิงฮัน ทำให้เกิดแสงสว่างสลัวๆนับไม่ถ้วน

หลังจากพ่ายแพ้หลิงฮันเมื่อครู่ ทำให้เขาได้รับบทเรียน และไม่คิดที่จะต่อสู้ระยะประชิดกับหลิงฮันต่อไป ในทางกลับกันเขาเริ่มต่อสู้เปิดระยะมากยิ่งขึ้น

หลิงฮันกำหมัดแน่นและต้านรับการโจมตีของอู๋เจ๋อ

ปัง!

น่าทึ่ง!

การโจมตีของอู๋เจ๋อได้ทิ้งรอยเลือดไว้บนมือของเขา

หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ ต้องทราบก่อนว่ากายหยาบของเขาในปัจจุบันเทียบได้กับแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ห้า ซึ่งเทียบได้กับการป้องกันของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้น แต่มันกลับทิ้งรอยเลือดไว้ให้เขาได้ นี่แสดงให้เห็นว่าการโจมตีของอู๋เจ๋อทรงพลังแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม อู่เจ๋อดูมึนงง

ระดับพลังของเขาในตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะใช้ทักษะฝันร้ายอันไร้ที่สิ้นสุด แล้วการที่เขาใช้ทักษะนี้ออกมานั้น ราคาที่เขาต้องจ่ายคือเขาจะไม่สามารถใช้พลังปราณได้เป็นเวลาสามเดือน!

ราคาที่เขาต้องจ่ายไปนั้นสูงมาก แต่ผลลัพธ์กลับทำได้แค่ทิ้งรอยเลือดไม่กี่จุดบนหมัดของหลิงฮัน แล้วมันจะทำให้เขาไม่รู้สึกมึนงงได้อย่างไร?

“การโจมตีของเจ้าทรงพลังดี แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ!” หลิงฮันหัวเราะและโจมตีออกไปด้วยดาบอสูรนิรันดร์เพื่อปิดการต่อสู้กับอู๋เจ๋อ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด