Alchemy Emperor of the Divine Dao 1160

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1160 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยางฮ่าวเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกล่าว “ถึงแม้พละกำลังของเจ้าจะทัดเทียมกับข้า แต่พละกำลังก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังต่อสู้!”

คำพูดของเขาไม่ผิดนัก ยันต์อาคมราชสีห์คลั่งช่วยเพิ่มพละกำลังของหลิงฮันเท่านั้น มันไม่ได้ช่วยเพิ่มความเร็วหรือพลังป้องกัน ยิ่งกว่านั้นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขาก็ยังเป็นเพียงของระดับภูผาวารี

ดังนั้นระหว่างเขากับหยางฮ่าวจึงยังมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ดี

การโจมตีเมื่อครู่ของหยางฮ่าวเป็นเพียงการโจมตีออกมาลวกๆ แม้เขาจะใช้พลังของระดับสุริยันจันทราแต่เขาก็ไม่ได้ใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาไม่ยอมอ่อนข้อแล้ว เขาปลดปล่อยอำนาจอันไร้ขีดจำกัดออกมารอบกาย ตัวเขาราวกับเป็นจักรพรรดิที่จุติลงมายังยอดเขาแห่งนี้

“กำราบ!” หยางฮ่าวปล่อยหมัด รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์อันส่องสว่างทะลักออกมาจากมือเขาราวกับจะเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นสีขาวโพลน

เขาถูกทำให้ล่าถอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขามีพละกำลังพอที่จะป้องกันตัวเองจากหยางฮ่าวเท่านั้น เพียงแต่ว่าความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขาด้อยกว่าอีกฝ่ายหลายขุม

เขานำดาบอสูรนิรันดร์ออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เขาจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดที่มี ถ้าเขาเอาแต่ปะทะกับหยางฮ่าวโดยตรง ชะตาของเขาคงหนีไม่พ้นความพ่ายแพ้

“เจ้ายังไม่ยอมจำนนต่อข้าอีก?” หยางฮ่าวยกมือขึ้น มือปราณก่อเกิดขนาดมหึมาปรากฏขึ้นกลางอากาศและคว้าไปยังหลิงฮัน คราวนี้มือปราณก่อเกิดมีการสลักรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนเอาไว้มากมาย มันไม่ใช่มือปราณก่อเกิดที่จะถูกทำลายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

หลิงฮันปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำราม

ฉัวะ!

ความเร็วของเขาน่าตกตะลึงมาก ด้วยการสนับสนุนจากยันต์อาคมการโจมตีครั้งนี้ของเขาจึงสามารถทดแทนความต่างของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ เพียงแต่ว่ากายหยาบของเขาไม่สามารถทนทานต่อการโจมตีที่ใช้ออกไป

แกร่ก แกร่ก แกร่ก

เมื่อดาบฟ้าคำรามถูกใช้ออกไป กระดูกหลายส่วนของเขาก็เกิดเสียงแตกร้าว ผิวหนังและกล้ามเนือของเขาฉีกขาดพร้อมกับโลหิตที่สาดกระจายกลางอากาศ

หยางฮ่าวตกตะลึงเล็กน้อย เขายกมือขึ้นมาบังใบหน้าเอาไว้ก่อนที่จะพบว่าบนมือของเขามีรอยเลือดติดอยู่

เพลงดาบเมื่อครู่ของหลิงฮันทำให้เขาบาดเจ็บและทิ้งรอยขีดข่วนเอาไว้ที่ใบหน้า

แม้จะเป็นเพียงบาดแผลเล็กๆน้อยๆ แต่หยางฮ่าวก็ไม่มีทางยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้เด็ดขาด

เขาเป็นราชาผู้ไร้เทียมทานที่แท้จริง แถมพลังบ่มเพาะของเขาก็ยังสูงกว่าหลิงฮันหลายเท่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถูกทำให้ได้รับบาดแผล… นี่มันเป็นความอัปยศที่สุดในชีวิต!

แม้หลิงฮันจะทำให้หยางฮ่าวให้รับบาดเจ็บได้ แต่สภาพของเขาย่ำแย่กว่าหยางฮ่าวมากนัก ร่างของเขาชุ่มไปด้วยเลือดราวกับถูกทุบตีมาหลายร้อยครั้ง หยางฮ่าวรู้ดีว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำให้หลิงฮันบาดเจ็บแต่หลิงฮันได้รับบาดเจ็บเองจากการที่ไม่สามารถต้านทานพลังของตัวเองไหว

‘ข้าดูถูกเขามากไปหน่อย’ หยางฮ่าวคิดในใจ

เขายืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหว แต่ถึงอย่างนั้นรอบกายของเขากลับปลดปล่อยออร่าแสงสีแดงที่ทรงอำนาจออกมาทำให้ผู้คนโดยรอบหายใจไม่ทั่วท้อง

เขาลงมืออีกครั้งโดยการปล่อยฝ่ามือออกไป

หลิงฮันต้องการจะใช้ทักษะบัญญัติดาบไว แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าการเคลื่อนไหวของเขาถูกผนึกเอาไว้

‘นี่เป็นทักษะลับของหยางฮ่าว?’

ตูม!

ฝ่ามือของหยางฮ่าวเข้าปะทะ ตำแหน่งที่เขาโจมตีเกิดระเบิดราวกับปล่องภูเขาไฟปะทุ หลิงฮันกระอักโลหิตหลายครั้งในขณะที่ร่างของเขาถูกส่งลอยกระเด็นออกไป

เมื่อครู่เขาใช้ยันต์อาคมเหล็กไหลเตรียมเอาไว้ ถ้าไม่ทำเช่นนั้นเกรงว่าสภาพของเขาคงไม่จบอยู่ที่กระอักโลหิต แต่กระดูกทั่วร่างคงแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี

“หืม? ดูเหมือนเจ้าจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่ไม่น้อยนะ!” หยางฮ่าวอุทานด้วยท่าทีประหลาดใจ มดปลวดระดับภูผาวารีสามารถดิ้นรนต่อสู้และรับการโจมตีของเขาได้เพียงเพราะยันต์อาคมสองแผ่น เรื่องแบบนี้มันน่าตกตะลึงมากจริงๆ

หลิงฮันโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ กระดูกที่แตกหักของเขาฟื้นสภาพอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่คิดจะฟื้นฟูบาดแผลตามร่างกายให้เปล่าประโยชน์ เมื่อกระดูกของเขาใกล้จะฟื้นสภาพเสร็จเขาก็หัวเราะเสียงดังและกล่าว “ข้าจะมีสมบัติอะไรแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า? หยางฮ่าว จงรับดาบของข้า!”

เขาปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำรามอีกครั้ง ทักษะดาบเปล่งประกายเยือกเย็นเชือดเฉือนผ่านชั้นฟ้า

ครั้งนี้หยางฮ่าวเตรียมตัวเอาไว้แล้ว เขาไขว้แขนป้องกันร่างเอาไว้พร้อมกับสร้างโซ่พลังปราณเป็นรูปกากบาทเพื่อเป็นโล่คุ้มกัน

หลิงฮันใช้ยันต์อาคมเหล็กไหล พลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นเป็นระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดทำให้ร่างของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของตัวเอง

ดาบของเขาตัดผ่านโซ่พลังปราณรูปกากบาทก่อนที่เม็ดโลหิตจะลอยออกมากลางอากาศ

ใบหน้าของหยางฮ่าวเปลี่ยนเป็นมืดมน เขาถูกทำให้ได้รับบาดแผลอีกแล้ว ครั้งนี้เขามีรอยขีดข่วนที่มือ

แม้แผลจะไม่ลึก แต่เขาถูกทำให้บาดเจ็บถึงสองครั้งจากคนคนเดียว ในมุมมองของเขา เรื่องเช่นนี้เขายอมรับไม่ได้เด็ดขาด!

ถ้าหลิงฮันเป็นจอมยุทธระดับดาราก็ยังพอว่า แต่ประเด็นก็คือเขาไม่ใช่! มดปลวกระดับภูผาวารีทำให้เขามีบาดแผลถึงสองครั้ง นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกสิ้นดี!

หยางฮ่าวกัดฟันแค้น ความโกรธของเขาแปรเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงพิโรธ เขาโจมตีอีกครั้งโดยการขยับมือเล็กน้อย ทันใดนั้นเมฆสีดำก็ก่อตัวกันบนท้องฟ้าเหนือหัวหลิงฮัน

เปรี๊ยะ…

เส้นสายฟ้าแวบผ่านท้องฟ้า หยางฮ่าวเรียกใช้อำนาจแห่งอัสนี!

ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้ หยางฮ่าวน่าสะพรึงกลัวเกินไป! เขาสามารถเรียกใช้ได้แม้กระทั่งอำนาจของสายฟ้า!

ตูม!

เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนกระหน่ำพุ่งลงใส่หลิงฮันราวกับอสรพิษกำลังเริงระบำ

แม้หลังจากที่เมฆสีดำสลายไปหลิงฮันจะยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกขาดกระเซอะกระเซิง ผิวของเขาถูกเผาไหม้เป็นแถบจนเกรียม

ถ้าไม่ใช่เพราะยันต์อาคมเหล็กไหล เป็นไปได้ว่าเขาคงถูกสังหารจากการโจมตีเมื่อครู่แล้ว

หลิงฮันใช้สัมผัสสวรรค์สื่อสารกับจักรพรรดิพิรุณและติงผิงไม่ให้ทั้งสองเข้ามาช่วยเหลือเขาเพราะพลังของพวกเขาด้อยกว่าหยางฮ่าวมาก มันจะเป็นการกระทำที่โง่มากหากพวกเขาระงับอารมณ์ไม่อยู่และเข้ามายุ่งกับการต่อสู้นี้

แต่เขาก็รู้สึกสับสนไม่น้อยเช่นกัน นิกายมีกฎว่าห้ามศิษย์ที่ระดับพลังสูงกว่าทำร้ายศิษย์ที่ระดับพลังต่ำกว่า เพียงแต่ว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดก็เริ่มมาสักพักแล้ว เขาทำใจเชื่อไม่ลงว่าจะไม่มีผู้อาวุโสคนใดสังเกตเห็น

เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ก้าวออกมาเพื่อห้ามการต่อสู้ทั้งๆที่สังเกตเห็นแล้ว นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

ร่างของหลิงฮันโงนเงนก่อนที่จะกระอักโลหิตคำโตออกมา

เขาไม่ใช่ระดับสุริยันจันทราที่แท้จริง ดังนั้นเมื่อต้องสู้กับอัจฉริยะอย่างหยางฮ่าวเขาจึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก

แต่ว่าไม่มีใครเลยที่จะดูถูกเขาเพราะเรื่องนี้ ในทางกลับกันทุกคนรู้สึกยกย่องเขาด้วยซ้ำ เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง! เขาสามารถและเปลี่ยนกระบวนท่ากับหยางฮ่าวได้แถมยังทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดแผลถึงสองครั้ง!

ถ้าระดับพลังของทั้งคู่เท่ากัน… หลิงฮันจะต้องมีพลังที่สามารถบดขยี้หยางฮ่าวที่เป็นตำนานไร้เทียมทานได้อย่างไม่เหลือซากแน่นอน!

“เจ้ายังไหวรึไม่?” หยางฮ่าวถามด้วยรอยยิ้มเย็นชา เขาไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อยที่สู้กับคนที่อ่อนแอกว่า ในสายตาของเขา เขาแค่กำลังเหยียบย่ำมดปลวกให้ตายเท่านั้น ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นมดปลวกทำไมเขาจะต้องเก็บมาใส่ใจด้วย?

หลิงฮันหัวเราะลั่นก่อนจะกล่าว “ทำไมข้าจะไม่ไหวล่ะ?”

จิตวิญญาณต่อสู้ของเขาลุกโชน

หยางฮ่าวเค้นเสียงด้วยความไม่พอใจ ที่จริงเขาหวังให้หลิงฮันยอมสยบต่อเขา เขายอมรับว่าต่อให้หลิงฮันจะอ่อนแอกว่าเขาแต่อีกฝ่ายก็ทิ้งความหวาดกลัวไว้ในจิตใจของเขาเช่นกัน ถ้าในอนาคตพลังบ่มเพาะของพวกเขาเท่ากันล่ะ? ดังนั้นเขาจึงต้องการให้อีกฝ่ายสยบต่อเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่นึกว่าหลิงฮันจะดื้อด้านเพียงนี้

เขารู้สึกปราบปลื้มกับการที่นิกายปฏิบัติต่อเขาเป็นพิเศษมาก แต่ถึงอย่างนั้นนิกายก็ไม่มีทางยอมให้เขาสังหารใครโดยพลการ ที่เขาสามารถโจมตีหลิงฮันให้ก็เป็นเพราะเขามีเหตุผลอันสมควร ผู้ติดตามของเขาถูกหลิงฮันสังหาร ดังนั้นนิกายจึงยอมให้เขาลงมือบ้างเล็กน้อย แต่พวกเขาไม่มีทางยอมให้เขาสังหารศิษย์นิกายเดียวกันแน่นอน

หลิงฮันเป็นสุดยอดอัจฉริยะ นิกายได้ตั้งความหวังไว้กับเขาสูงมาก นี่เป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมนิกายถึงยอมให้หยางฮ่าวโจมตีหลิงฮัน พวกเขาไม่ต้องการให้หลิงฮันอวดดีในพลังของตนเองจนเกินไป

‘เอาเถอะ ข้าจะเหยียบย่ำอัจฉริยะตรงหน้าให้เขาลืมบทเรียนในวันนี้ไม่ลงเลย ข้าจะบดขยี้เขาให้ถึงขนาดที่ว่าเขาจะต้องหวาดกลัวข้าทุกครั้งที่พบหน้าในอนาคต!’

หยางฮ่าวขยับแขนทั้งสองข้างควบคุมโซ่พลังปราณให้เคลื่อนไหวไปมากลางอากาศ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด