Alchemy Emperor of the Divine Dao 1178

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1178 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวจ่าฝูงประหลาดใจเล็กน้อย

มันมองมนุษย์เหล่านี้เอาไว้สูงมาก ดังนั้นมันรอดูท่าทีก่อนและไม่ได้เข้าไปสู้รบ เพียงแต่ว่าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว เผ่ามนุษย์เหล่านี้เป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจะต้องตายแน่นอน!

มีมนุษย์อยู่สองคนที่ยังไม่ลงมือ คนหนึ่งเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีไม่ผิดแน่ แถมยังเป็นขั้นสูงสุดอีกด้วย เพียงแต่ว่าระดับพลังเช่นนั้นหากให้อสูรพยัคฆ์เขาเดียวสักสิบตัวรุมก็น่าจะชนะได้

หรือว่ามันจะระวังตัวเกินไป?

มันฉุกคิดขึ้นมาว่าหลายพันปีที่ผ่านมา พวกมันสังหารและกินมนุษย์มาแล้วไม่รู้กี่คนต่อกี่คน อย่างมากพวกมันก็พบเจอความลำบากเล็กๆน้อยๆ เพราะอย่างไรเผ่ามนุษย์ก็อ่อนแอเป็นอย่างมาก

เมื่อคิดได้เช่นนี้อสูรพยัคฆ์เขาเดียวจ่าฝูงก็โล่งใจ มันคำรามเสียงดังก่อนจะกล่าว “พี่น้องทั้งหลาย ให้ข้าร่วมสู้ด้วย!”

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวหลายสิบตัวที่ยังไม่ลงมือก็คำรามและเข้าร่วมต่อสู้เช่นกัน

ด้วยการที่อสูรพยัคฆ์เขาเดียวอีกหลายตัวเข้าร่วมสู้ด้วย สถานการณ์ของพวกเมิ่งเหว่ยก็ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม

“พ่อรูปหล่อ ช่วยพวกเขาได้แล้ว!” เม่งเหว่ยกล่าวเรียก

“เจ้าหนู ดูเหมือนเข้าจะเป็นผู้นำของกลุ่มมนุษย์เหล่านี้สินะ” อสูรพยัคฆ์เขาเดียวจ่าฝูงจ้องมองไปยังหลิงฮัน “แน่นอนว่าข้าก็เป็นจ่าฝูงเหมือนกัน ราชาเช่นพวกเรามาตัดสินกันเองดีกว่า!”

“ย่อมได้!” หลิงฮันยิ้ม มือขวาของเขากำหมัดและชกออกไป

ตูม!

ปราณก่อเกิดระเบิดออกมา อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ถูกโคจรหลายเป็นเส้นลำแสง ‘ครืนน’ กำแพงรอบตำหนักถูกบดขยี้ แต่พลังของลำแสงไม่ได้หยุดเท่านี้ ‘ตูม ตูม ตูม’ กำแพงกว่าสิบเอ็ดชั้นหายไปด้วยหมัดของหลิงฮัน แต่ตัวตำหนักนั้นไม่ได้รับความเสียหาย

ลำแสงกลายเป็นจุดเล็กและสลายหายไป หลุมลึกถูกทิ้งเอาไว้บนพื้นแสดงให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของหมัดเมื่อครู่

สภาพแวดล้อมของดินแดนสวรรค์นั้นหนาแน่นมั่นคง เป็นเรื่องยากมากหากจอมยุทธระดับภูผาวารีคิดจะทำให้สภาพแวดล้อมของดวงดาวได้รับความเสียหาย แต่หลิงฮันที่มีพลังระดับภูผาวารีนั้นมีพลังต่อสู้ถึงแปดดาว พลังทำลายของเขาจึงทรงพลังจนน่ากลัว

หัวของอสูรพยัคฆ์เขาเดียวจ่าฝูงกระตุก เหงื่ออันเย็นเฉียบไหลหยดลงมาจากร่างของมัน

“ข้าชกพลาดเสียได้” หลิงฮันพึมพำก่อนจะยิ้ม “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าอะไรนะ? ต้องการจะสู้กับข้าตัวต่อตัวในฐานะราชา?”

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวจ่าฝูงจะร้องไห้ มันไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้

การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อครู่นั้น ไม่ต้องกล่าวถึงตัวมันตัวเดียวเลย ต่อให้พี่น้องอสูรพยัคฆ์เขาเดียวของเขามารวมกัน เกรงว่าร่างของพวกมันทุกตัวคงหายไปในพริบตาเดียว

มันเข้าใจในที่สุดว่าเผ่ามนุษย์เหล่านี้ไม่ธรรมดา… โดยเฉพาะบุรุษตรงหน้ามัน!

“ขอยอมแพ้! สงบศึก!” มันรีบโอดครวญออกมา

“สายไปแล้ว พอดีว่าข้าอยากกินเนื้อพยัคฆ์” หลิงฮันลงมือทันที เขาจัดการอสูรพยัคฆ์เขาเดียวจ่าฝูงด้วยนิ้วเดียว

เขาอยากเล่นสนุกนานกว่านี้อีกหน่อย แต่เมื่อคิดว่ามีภารกิจตามหาสมบัติเม็ดยาอยู่ เขาก็ไม่คิดจะเสียเวลาอีกต่อไป

อสูรพยัคฆ์เขาเดียวเหล่านี้สังหารและกินมนุษย์มามากมาย มีเหตุผลที่เขาต้องเมตตาพวกมันด้วย?

ปราณดาบบินออกไปทุกที่ที่หลิงฮันก้าวเดิน อสูรพยัคฆ์เขาเดียวทุกตัวถูกสังหาร ร่างของพวกมันถูกนำเข้าไปในหอคอยทมิฬ นี่เป็นรางวัลส่วนของเขาที่ไม่ต้องแบ่งให้เมิ่งเหว่ย

“ง่ายเช่นนี้เลย!” เมิ่งเหว่ยและลูกน้องกล่าว พวกเขาคิดว่าการต่อสู้จะดุเดือดกว่านี้เสียอีก

เมิ่งเหว่ยเดินนำทุกคนเข้าไปยังส่วนลึกของตำหนัก ที่นั่นมีห้องลับที่ถูกผนึกเอาไว้

“ข้าค้นพบที่นี่เมื่อร้อยปีก่อน” เมิ่งเหว่ยกล่าว เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนนางพบที่นี่ด้วยทักษะลับของนางและได้เห็นว่าด้านในมีเม็ดยาอยู่มากมาย

“กลุ่มอสูรพยัคฆ์เขาเดียวเป็นผู้ปกครองที่นี่ เกรงว่าพวกมันก็คงอยากเปิดผนึกห้องนี้เช่นกัน” หลิงฮันรู้ว่าหลังจากที่ทะลวงผ่านระดับพระเจ้าแล้ว สัตว์อสูรก็ไม่ต่างกับมนุษย์ในด้านการบ่มเพาะพลัง สัตว์อสูรสามารถดูดซับเม็ดยาเพื่อเพิ่มพลังได้เช่นกัน

“เพียงแต่ว่าผนึกที่นี่ก็ยังคงมั่นคงอยู่” เขาตรวจสอบและพบว่าแม้เวลาจะผ่านไปนาน ผนึกของห้องนี้ก็ยังคงทรงพลัง ไม่เช่นนั้นอสูรพยัคฆ์เขาเดียวมากมายเช่นนั้นคงรวมพลังกันทำลายผนึกไปแล้ว

“เจ้าสามารถปลดผนึกได้รึไม่?” เมิ่งเหว่ยถาม

“ข้าจะลองดู” หลิงฮันไม่รอข้าและเดินไปรอบๆเพื่อตรวจสอบผนึกอย่างคร่าวๆ

หลังจากนั้นเขาก็ได้ข้อสรุปว่าด้วยความสามารถของเขา จำเป็นต้องใช้เวลาราวๆสิบปีในการปลดผนึก

ในสถานการณ์ปกติไม่มีทางที่จะปลดผนึกได้ทันเวลาเลย เนื่องจากหากเวลาผ่านไปครึ่งปี เขตแดนลี้ลับแห่งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้ที่มาจากโลกภายนอกจะถูกสังหารไม่เหลือ

แต่ว่าหลิงฮันมีต้นสังสารวัฏ!

เขากล่าวไปว่าเขาต้องการมีสมาธิกับการศึกษาผนึกไม่อาจถูกรบกวนได้และไล่เมิ่งเหว่ยกับคนอื่นๆออกไป เขาให้จักรพรรดิจอมอสูรเฝ้าประตูตำหนักเอาไว้และเขาไปในหอคอยทมิฬเพื่อทำความเข้าใจผนึกใต้ต้นสังสารวัฏ

สองวัน สามวัน… สิบเอ็ดวันผ่านไปในที่สุดหลิงฮันก็ยิ้มขึ้นมาอย่างมั่นใจ

เขาเรียกทุกคนเข้ามา

“พ่อรูปหล่อ เจ้าสามารถปลดผนึกได้แล้ว?” เมิ่งเหว่ยมีท่าทีตะลึง

เวลาผ่านไปเพียงสิบเอ็ดวันเท่านั้น!

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “แน่นอน ข้าเป็นอัจฉริยะ!”

ทุกคนหัวเราะ แต่พวกเขาก็รู้ว่าหลิงฮันไม่ได้โอ้อวด การที่สามารถแก้ผนึกที่ซับซ้อนเช่นนั้นได้ในเวลาเพียงสิบเอ็ดวันเรียกได้ว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ

หลิงฮันไม่พูดเล่นอีกต่อปะเคลื่อนไหวมือไปทางนู้นทีทางนี้ที ท่าทีของเขาราวกับว่ากำลังไล่จับผี

หูเฟยหยินหาวด้วยความเบื่อหน่าย ความอดทนของนางมีน้อยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ชั่วโมงนึงผ่านไป ทุกคนรู้สึกว่าร่างของตนเองเบาหวิวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ พวกเขามองไปรอบๆก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแท้ๆ

“คลายผนึกสำเร็จแล้ว” หลิงฮันยิ้มอย่างมั่นใจ เขาเดินไปยังประตูห้องเม็ดยาโดยไม่ถูกโจมตี

เขาผลึกประตูหินขนาดใหญ่ให้เปิดออก ประตูหินนี้ดูแล้วค่อนข้างนักมาก แต่ด้วยแรงจากการดันของเขา ประตูก็ค่อยๆถูกเปิดออกย่างช้าๆ

ทุกคนเปิดตากว้างตั้งตารออย่างมีความหวัง

เมื่อประตูเปิดออก ภายในห้องก็เต็มไปด้วยความมืดมิด

เพียงแต่ว่าสายตาของจอมยุทธระดับพระเจ้าสามารถมองเห็นโดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟอยู่แล้ว พวกเขามองเห็นขวดมากมายวางเรียงอยู่บนชั้นตู้ในห้อง ขวดแต่ละอวดอัดแน่นไปด้วยเม็ดยา

“รวยแล้ว! พวกเรารวยแล้ว!” เมิ่งเหว่ยและคนอื่นๆตะโกนด้วยความตื่นเต้น

หลิงฮันเดินเข้าห้องไปเป็นคนแรกคนอื่นค่อยเดินตามมา

“เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์มากมาย!”

“นี่มันเม็ดยาขัดกระดูกที่สามารถช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กระดูก”

“เม็ดยาพันแปรผัน มันสามารถทำให้จอมยุทธเมินเฉยต่อกฎแห่งสวรรค์และปฐพี จอมยุทธจะสามารถเหาะเหินได้ชั่วครู่แม้ไม่ใช้ทักษะใดๆ”

“เม็ดยาต้านเหมันต์ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆต่อทักษะธาตุน้ำแข็งในระยะเวลาสั้นๆ”

“อ๊า!”

ทุกคนกำลังมองอ่านฉลากที่แปะไปบนขวดเม็ดยาทีละขวด แต่เมื่อเมิ่งเหว่ยเปิดฝาขวดออกมานางกลับส่งเสียงกรีดร้อง

“หัวหน้า มีอะไรงั้นรึ?”

“หรือว่าท่านจะอดกลั้นความอยากเมื่อหลายวันก่อนไม่ไหวแล้ว?”

เหล่าลูกน้องกล่าวหยอกล้อ

“เม็ดยา เม็ดยาสลายเป็นผุยผง!” ใบหน้าของเมิ่งเหว่ยซีดเผือด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด