Alchemy Emperor of the Divine Dao 1206

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1206 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อะไรนะ!

จูเทียนโฉวและหยีสือตกตะลึง หลิงฮันเป็นแค่เหยื่อล่ออย่างนั้นรึ?

แล้วพวกเขามาเสียเวลาจัดการหลิงฮันไปทำไม?

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหยดเซียนหยวนทั้งสี่หยด แต่ตอนนี้หยดเซียนหยวนทั้งสี่หยดได้ถูกส่งมอบให้กับร้านค้าตระกูลโม่เพื่อนำไปประมูลแล้ว

ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะจัดการหลิงฮันสำเร็จแล้วจะได้อะไรขึ้นมา?

เสียเวลาเปล่า!

“อย่าทำหน้าเหมือนกับศพแบบนั้น พวกเจ้าก็รู้ดีว่าหยดเซียนหยวนเป็นของข้า และดูเหมือนพวกเจ้าจะเป็นห่วงเรื่องของข้านัก ข้าควรขอบคุณพวกเจ้าหรือไม่?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

ก่อนหน้านี้เขาส่งของที่จะนำไปประมูลอย่างเช่นหยดเซียนหยวนให้กับติงผิง เขาคิดว่ากองกำลังก่าวจะต้องมุ่งเป้ามาที่เขาอย่างแน่นอน ดังนั้นหลิงฮันจึงตัดสินใจเป็นตัวล่อซะเองเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกมัน

-ในเมื่อเขาเสนอตัวเป็นเหยื่อล่อแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ติดกลับได้อย่างไร?

“เจ้าโกหก!” จูเทียนโฉวตะโกน

“ถูกต้อง เจ้าแค่พยายามหลอกล่อพวกเราให้กลับเมือง แล้วใช้โอกาสนั้นเพื่อหลบหนี!” หยีสือกล่าว

หลิงฮันยักไหล่และพูดว่า “โอ้ มันช่วยไม่ได้ที่พวกเจ้าจะคิดว่าตัวเองทำล้มเหลว เอาล่ะ ถ้างั้นพวกเจ้าก็พาตัวข้าไปได้แล้ว ข้าไม่อยากมีความผิดติดตัว ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ข้อสงสัยก็ตาม!”

จูเทียนโฉวและหยีสือมองหน้ากัน ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่พวกเขาจะไปที่งานประมูล อย่างน้องถ้าพวกเขาพาตัวหลิงฮันกลับภารกิจของพวกเขาก็จะบรรลุล่วง

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เดินทางมาถึงวิหารหยกขาวที่อยู่บนยอดเขาหลัก

วิหารหยกขาวคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสถานที่ที่จะพิพากษาคนในนิกาย

เมื่อรู้ว่าหลิงฮันถูกนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็มีผู้อาวุโสหลายคนมาที่นี่ พวกเขาคือผู้พิพากษา

ผู้พิพากษามีทั้งหมดห้าคนและมีระดับพลังอยู่ที่ระดับสุริยันจันทราขั้นสูง

จอมยุทธระดับดาราจะไม่เป็นคนตัดสินโทษของจอมยุทธระดับภูผาวารีด้วยตัวเอง ใครจะว่างขนาดนั้น? ในเมื่อจอมยุทธระดับดารายังไม่ว่าง เช่นนั้นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึง ปรมาจารย์วิถีปิดด่านฝึกตนเกือบทั้งปีและมีไม่กี่ครั้งที่เขาจะปลีกตัวออกมา

ดังนั้น การพิพากษาจอมยุทธระดับภูผาวารี แค่ถึงมือจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงมันก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ?

“ฮันหลิน เจ้าเห็นข้าแล้วแต่ยังไม่คุกเข่าอีกงั้นรึ?” หัวหน้าผู้พิพากษาตะโกน

เขามีนามว่าเฉินคั่วและเป็นหัวหน้าผู้พิพากษา

หลิงฮันพูดเบาๆ “ข้าไม่ได้ละเมิดกฎของนิกาย แล้วข้ามีความผิดอะไร? ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นศิษย์เมล็ดพันธุ์ที่ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าต่อผู้อาวุโส”

เขายืนกอดอกและยืนประชันหน้ากับผู้พิพากษาทั้งห้าคน

“เจ้าบ้าไปแล้ว!” ผู้พิพากษาอีกหนึ่งคนที่มีชื่อว่าหม่าไกกล่าว “คนที่ทำตัวอวดดีเช่นเจ้าไม่เคยมีจุดจบที่ดี”

“โอ้ หรือว่าผู้อาวุโสกำลังพูดถึงหยางฮ่าว?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม “อืม เขาเป็นคนที่บ้าจริงๆ ทั้งที่เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา แต่กล้าโจมตีใส่จอมยุทธระดับภูผาวารีอย่างเปิดเผย โดยเพิกเฉยต่อกฎเกณฑ์ การที่เขาไม่ถูกทำโทษช่างไร้เหตุผลซะเหลือเกิน”

อึก!

ผู้พิพากษาทั้งห้าคนถึงกับพูดไม่ออก ราวกับถูกตบหน้า

หยางฮ่าวเป็นคนที่บ้าบิ่นจริง แต่เขาก็เป็นอัจริยะที่หาตัวจับได้ยาก และมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะได้รับการยอมรับเป็นศิษย์จากปรมาจารย์สามวิถี ยิ่งไปกว่านั้นเขาอาจกลายเป็นจอมยุทธระดับดาราในอนาคต

“ฮันหลิน อย่าพูดพาดพิงถึงคนอื่น! เฉินคั่วพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม ครั้งนี้เป็นพวกเขาต่างหากที่จะซักถามความจริงจากหลิงฮันว่าเขามีความผิดหรือไม่ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าตระหนักถึงความผิดของตนเองหรือไม่?”

“ข้าทำอะไรผิด?” หลิงฮันถามด้วยรอยยิ้ม

“ในเขตแดนลี้ลับ เจ้าสังหารผู้คนจากกองกำลังก่าวและปล้นหยดเซียนหยวนจากพวกเขา!” ใบหน้าของเฉินคั่วกลายเป็นเคร่งขรึมและยังใช้แรงกดดันของจอมยุทธระดับสุริยันจันทรากดทับหลิงฮัน

แต่น่าเสียดายที่หลิงฮันฝึกฝนเทคนิคคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ทำให้จิตใจของเขามั่นคงและแน่วแน่ การที่จะสยบเขาได้นั้นอย่างน้อยจะเป็นคนจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง

จอมยุทธระดับสุริยันจันทรา? ยังไม่เพียงพอ!

หลิงฮันยืนยืดอกอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “พวกท่านพูดถึงอะไร? กองกำลงกำลังอะไร ข้าไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน!”

“เหลวไหล!” ผู้พิพากษาหม่าตะคอก “ถ้าเจ้าคิดว่าตัวเองไม่มีความผิด แล้วทำไมเจ้าต้องหลบหนีด้วย? เหตุใดพวกข้าถึงตามหาตัวเจ้าไม่เจอ?”

“ผู้อาวุโสชอบพูดอะไรตลกเสียจริง ในเมื่อข้าเป็นจอมยุทธ ข้าจะปิดด่วนฝึกตนบ้างมิได้หรือ?” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าผู้อาวุโสคิดจะปิดด่านฝึกตน พวกท่านจะต้องรายงานเรื่องนี้ให้นิกายทราบหรือไม่?”

ผู้พิพากษาหม่าอยากจะระเบิดความโกรธออกมา แน่นอนว่าศิษย์ของนิกายสามารถปิดด่านฝึกตนได้ทุกเมื่อ แต่เวลาที่เจ้าปิดด่านฝึกตนนั้นมันเหมาะเจาะเกินไป เจ้าก็แค่กลัวความผิดและหลบหนี!

เฉินคั่วโบกมือโบกมือให้หยุดและพูดว่า “วันนี้เป็นวันพิพากษาว่าเจ้ามีความผิดหรือไม่ ดังนั้นพวกข้าจะยังไม่ใส่เครื่องมือทรมานเจ้า แต่ถ้าเจ้ายังไม่รีบพูดความจริงออกมา อย่าหาว่าข้าไร้ความยุติธรรม!”

“ผู้อาวุโส ตัวข้าได้พูดความจริงออกไปหมดแล้ว!” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเชื่อเขา

เฉินคั่วอยากจะโยนหลิงฮันเข้าคุก แต่อีกฝ่ายเป็นศิษย์เมล็ดพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหลิงฮันเป็นผู้บริสุทธิ์จริง เขาจะจัดการกับผลที่ตามมาได้อย่างไร?

ศิษย์เมล็ดพันธุ์คนใดที่จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับจอมยุทธระดับดารา?

เขากลับมาสงบสติอารมณ์ลงอีกครั้งและพูดว่า “ถึงเจ้าจะไม่ได้กระทำความผิด แต่ก็ยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับหยดเซียนหยวนว่าใครเป็นเจ้าของ ดังนั้น ก่อนอื่นข้าต้องการให้เจ้าส่งหยดเซียนหยวนมา ถ้ามันเป็นของเจ้าจริง พวกข้าจะส่งมันคืนให้เจ้าทีหลัง”

หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ผู้อาวุโสต้องต้องการที่จะสื่อว่าวิธีการที่ข้าได้รับหยดเซียนหยวนมานั้นน่าสงสัยอย่างนั้นหรือ? ท่านนี่ช่างพูดตลก กลุ่มที่อ่อนแออย่างกับไก่อ่อนพวกนั้นจะคว้าหยดเซียนหยวนมาได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นตั้งสี่หยด!”

“จะว่าไป ข้าได้ยินมาว่าครั้งก่อนหยางฮ่าวเองก็คว้ามาได้สองหยด ถ้าคนเหล่านั้นเป็นเจ้าของหยดเซียนหยวนทั้งสี่หยดจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าเหนือกว่าหยางฮ่าวหรอกหรือ?”

ก…ไก่อ่อน?

ใบหน้าของผู้พิพากษาทั้งห้าคนถึงกับกระตุก ในความเป็นจริงพวกเขาทั้งห้าคนมาจากกองกำลังก่าว แม้ว่าหลิงฮันจะไม่ได้พูดถึงพวกเขา แต่ก็เป็นการพาดพิงถึงพวกเขาในทางอ้อม นี่เหมือนกับว่าพวกเขาถูกจอมยุทธระดับภูผาวารีชี้หน้าด่า แล้วพวกเขาจะไม่รู้สึกอายได้อย่างไร?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด