Alchemy Emperor of the Divine Dao 1208

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1208 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฮวาหยางเหวิน เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ก่าวฮวงตะโกนออกมาทันที

“ฮ่าๆ ทีนี่ไม่ใช่บ้านของเจ้าเสียหน่อย ทำไมข้าจะมาไม่ได้?” แน่นอนว่าฮวาหยางเหวินย่อมไม่ถูกกับก่าวฮวง พวกเขามีกองกำลังของตัวเอง มีสถานะ มีระดับพลังบ่มเพาะและมีพลังที่ทัดเทียมกัน

ก่าวฮวงจ้องมองอีกฝ่าย ตอนนี้ไม่สามารถช่วงชิงหยดเซียนหยวนได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเกลียดและคิดจะลงดาบหลิงฮัน สิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นที่สุดในตอนนี้คือการที่มีคนอื่นเข้ามาปกป้องหลิงฮัน

“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้มาเพื่อปกป้องหมอนั่น” ฮวาหยางเหวินชี้ไปยังหลิงฮัน แววตาของเขาส่องประกายอาฆาต

ก่าวฮวงชะงักทันที ก่อนหน้านี้กองกำลังฮวาเสนอตัวคุ้มครองหลิงฮัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำข้อตกลงอะไรบางอย่างกันเอาไว้ ซึ่งนั่นสมควรเป็นส่วนแบ่งหยดเซียนหยวน ไม่เช่นนั้นฮวาหยางเหวินจะกระตือรือร้นขนาดนั้นได้อย่างไร?

แต่ทำไมจู่ๆกองกำลังฮวากลับยกเลิกการคุ้มครองหลิงฮันแล้ว

หากคิดดูให้ดี ในตอนที่เขานำหลิงฮันเข้าสู่กระบวนการพิพากษา กองกำลังฮวาไม่มีท่าทีจะขัดขวางเลยแม้แต่น้อยและเลือกที่จะนิ่งเงียบอยู่ในความมืด

ถ้าต้องการจะพิพากษาศิษย์เมล็ดพันธุ์ จำเป็นต้องได้รับการเห็นด้วยจากผู้อาวุโสระดับดารามากกว่ายี่สิบสี่คน ดังนั้นหากกองกำลังฮวาคิดจะคุ้มครองหลิงฮันไม่ให้ถูกไต่สวน พวกเขาย่อมทำได้แน่นอนแม้จะต้องจ่ายค่าตอบแทนไปบ้าง

ก่าวฮวงพยักหน้าและกล่าวต่อ “ในเมื่อมีพยานหลักฐานเช่นนี้ ก็ไม่ถือว่าเร็วเกินไปหากจะประกาศเพิกถอนสถานะของคนคนนี้!”

ฮวาหยางเหวินยิ้มอย่างเย็นชา เป็นเพียงจอมยุทธตัวเล็กๆอย่างระดับภูผาวารีแต่กลับกล้าปฏิเสธข้อเสนอของเขา ช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่งนัก ตอนนี้เขามาเพื่อดูความทรมานของหลิงฮันที่เลือกทางเดินผิด

หลิงฮันจ้องมองอย่างเย็นชา ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยรังหนูและงู เขาไม่สามารถรับความยุติธรรมให้กับตนเอง สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงสบถด่าคนเหล่านี้ด้วยความพูดเยาะเย้ยเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไรผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

“แค่ก แค่ก!” เฉินคั่วรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย เขาเป็นหัวหน้าผู้พิพากษาแต่ต้องถูกก่าวฮวงออกคำสั่ง เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะปั้นหน้า “ฮันหลิง เจ้าสังหารศิษย์สำนักเดียวกัน พยานหลักฐานก็เป็นที่ประจักษ์ ข้าขอประกาศเพิกถอนสถานะศิษย์เมล็ดพันธุ์ของเจ้าบัดเดี๋ยวนี้ เจ้าจะไม่ศิษย์ของสำนักสวรรค์เยือกแข็งอีกต่อไป!”

“เจ้าสังหารศิษย์สำนักเดี๋ยวกัน ความผิดนี้ใหญ่หลวงนัก ตามกฎของนิกายแล้ว…”

“ฮ่าๆๆ!” ก่าวฮวงหัวเราะขัดจังหวะการประกาศของเฉินคั่วทำให้สีหน้าของเฉินคั่วเปลี่ยนเป็นมืดมน

“ฮันหลิง ทีนี้เจ้ารู้สึกเสียใจรึยัง?” ก่าวฮวงกล่าวอย่างเย็นชา “มดปลวกระดับภูผาวารีแถมยังมาจากโลกใบเล็กเช่นเจ้ากล้าขัดขืนข้า? เจ้าคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอรึอย่างไร?”

“ตอนนี้ข้าจะยังให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า คุกเข่าและอ้อนวอนซะ นี่อาจจะเป็นวิธีเดียวที่เจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป!”

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ก่าวฮวง เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ด้วยนิสัยของเจ้าที่แสดงให้เห็นว่าหากข้าไม่อ้อนวอนเชื่อฟังก็จะถูกเจ้าสังหาร… เจ้าไม่กลัวว่าผู้ที่ติดตามเจ้าอยู่จะหวาดหวั่นบ้างรึไง?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ใบหน้าของเฉินคั่วและคนอื่นๆก็เปลี่ยนไปทันที

ก่าวฮวงไม่แยแส ในความคิดของเขา นอกจากเขาและบิดาแล้ว คนอื่นๆล้วนแต่เป็นเพียงสุนัขรับใช้ หากพวกเขาขัดขืนก็แค่สังหารทิ้งก็พอ… ในโลกนี้ไม่ขาดแคลนสุนัขรับใช้อยู่แล้วไม่ใช่รึไง?

เขายังคงหัวเราะและกล่าว “นี่เป็นวิธีเดียวที่เจ้าจะมีชีวิตรอด ยอมเป็นสุนัขรับใช้แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”

“ถ้าต้องการเช่นนั้นเจ้าคงต้องรอชาติหน้า!” หลิงฮันส่ายหัว “ในชาตินี้ คนที่จะคุกเข่าร้องขอความเมตตาคือเจ้า!”

“ช่างโอหัง!” ก่าวฮวงคำราม เขาไม่รู้ว่าหลิงฮันเอาความกลัวไปซ่อนไว้ที่ไหน ขนาดสถานะศิษย์เมล็ดพันธุ์ถูกเพิกถอนไปแล้วแท้ๆ

หลิงฮันกวาดสายตามองใบหน้าของก่าวฮวงและฮวาหยางเหวิน “ข้าจะจดจำรูปลักษณ์ของพวกเจ้าเอาไว้ พวกเจ้าจงเจ้าเหตุการณ์ในวันนี้เอาไว้ให้ดี ไม่เกินสิบปีข้าจะกลับมาทวงคืนหนี้กับพวกเจ้า!”

เขาตัดสินใจเข้าไปหลบตัวในหอคอยทมิฬและออกจากนิกายสวรรค์เยือกแข็ง

ให้เวลาเขาสิบปี เขาจะบรรลุระดับดาราและกลับมาแก้แค้น

เขาไม่กังวลเรื่องติงผิงและสุ่ยเยี่ยนยวี่ พวกเขาเป็นศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง ต่อให้ก่าวฮวงต้องการกำจัดพวกเขาก็ต้องยื่นเรื่องพิพากษาเหมือนครั้งนี้เสียก่อน

แต่หลิงฮันไม่มีทางปล่อยให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น เขาบอกให้สุ่ยเยี่ยนยวี่กับคนอื่นๆไปยังร้านค้าโม่ในวันนี้เรียบร้อยแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันพวกเขาจะหลบออกจากที่นี่ไปด้วยกัน

อีกก้าวเดียวเขาก็จะทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทรา ซึ่งเมื่อทะลวงผ่านเสร็จเขาได้ตั้งใจจะเดินทางตามหาตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์และทำเรื่องอื่นๆ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะออกจากนิกาย

ที่จริงเขาได้ขอให้ร้านค้าโม่ตามหาสถานที่ตั้งของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์และนิกายดาบสวรรค์เอาไว้แล้ว เมื่อใดที่เขาได้รับข่าวเขาก็จะออกเดินทางทันที

“ฮึ่ม ยังอวดดีอยู่อีกรึ!” เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น ชายที่มีกลิ่นอายสูงส่งเดินเข้ามาจากประตู เงาดำยาวพาดผ่านเข้าอย่างองอาจ ราวกับทุกคนทำได้เพียงคุกเข่าต่อหน้าเงานี้

หยางฮ่าว!

“คะ คารวะศิษย์พี่หยาง!” ก่าวฮวงและฮวาหยางเหวินมองหน้ากันก่อนจะโค้งให้กับหยางฮ่าว

ทำไมต้องเรียกศิษย์พี่หยาง?

สมควรรู้ก่อนว่าทั้งก่าวฮวงและฮวาหยางเหวินต่างก็มีพลังบ่มเพาะระดับสุริยันจันทราสูงสุด โดยที่หยางฮ่าวพลังเพียงขั้นสูงเท่านั้น เหตุใดเขาถึงได้มีสถาะนะ ‘อาวุโส’ กว่าทั้งสองคน?

“ศิษย์พี่หยางถูกรับเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการคนที่สิบของผู้นำนิกายเมื่อวานนี้!” ก่าวฮวงอธิบาย หากไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้คนที่ยิ่งยโสเช่นเขาจะยอมแสดงความเคารพต่อจอมยุทธที่ระดับพลังต่ำกว่าตนเองได้อย่างไร

การได้เป็นศิษย์คนที่สิบของปรมาจารย์สามวิถีนั้นทำให้สถานะของหยางฮ่าวแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง อย่ามองว่าระดับพลังของเขายังต่ำต้อย ต่อให้ตัวตนระดับดาราพบเจอเขา ท่าทีของอีกฝ่ายก็ต้องสุภาพนอบน้อม

หากไม่ไว้หน้าหยางฮ่าวก็หมายถึงไม่ไว้หน้าปรมาจารย์สามวิถี หากทำตัวทัดเทียมกับหยางฮ่าวก็ไม่ใช่ว่าคนคนนั้นทำตัวทัดเทียมกับปรมาจารย์สามวิถีรึอย่างไร? ในจักรวาลแห่งนี้ใครกันจะมีคุณสมบัติเช่นนั้น?

ทุกคนตกตะลึง แม้จะมีข่าวลือเช่นนั้นอยู่บ้าง แต่ใครกันจะกล้าแสดงความคิดเห็นต่อตัวตนระดับวารีนิรันดร์? ตอนนี้ข่าวลือที่ว่าได้รับการยืนยันแล้ว ทุกคนจะตกตะลึงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หยางฮ่าวได้กลายเป็นศิษย์คนที่สิบของปรมาจารย์สามวิถีแล้วจริงๆ

ตอนนี้สถานะของหยางฮ่าวก้าวกระโดดเหนือยิ่งกว่าจอมยุทธระดับดาราเสียอีก

หยางฮ่าวมองไปยังหลิงฮันด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยมบนใบหน้า แววตาลึกๆของเขาส่องประกายอาฆาตที่รุนแรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด