Alchemy Emperor of the Divine Dao 1271

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1271 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อู่เมี่ยนจริงจังยิ่งขึ้นและดีดสายพิณอย่างรวดเร็ว ‘ตึง ตึง ตึง’ เสียงพิณส่งเสียงดังด้องพร้อมกับปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมาทีละระลอก คลื่นเสียงแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของยุทธภัณฑ์มากมายโจมตีใส่หลิงฮัน

ท้องฟ้าแทบจะถูกปกคลุมไปด้วยยุทธภัณฑ์ บรรยากาศโดยรอบกลายเป็นเย็นยะเยือก

หลิงฮันไม่เกรงกลัว นอกจากขั้นพลังแล้ว กายหยาบของเขาก็ยกระดับสูงขึ้นจนเทียบเท่ากับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด ต่อให้เป็นการโจมตีของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดอย่างมากเขาก็แค่กระอักโลหิต

อีกฝ่ายลดขั้นพลังของตนเองลงมาเหลือเพียงระดับสุริยันจันทราขั้นกลางชั้นกลาง ต่อให้ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีพลังต่อสู้มากกว่าหกดาวก็ยังถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้กายหยาบของเขาบาดเจ็บ

‘ตูม’ หลิงฮันตอบโต้ทำลายคลื่นเสียงด้วยหมัดและค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้อู่เมี่ยน

อู่เมี่ยนแสดงท่าทีตะลึงเล็กน้อย ในการต่อสู้ระดับเดียวกัน คู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก! แต่คนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นก็ทำให้โลหิตของเขาเดือดพล่าน เขาใช้ของมือดัดพิณปล่อยคลื่นเสียงเพิ่มขึ้นหลายระลอก ครั้งนี้คลื่นเสียงไม่ได้แปรเปลี่ยนเป็นยุทธภัณฑ์แต่เปลี่ยนเป็นรูปร่างมนุษย์

มันคือยักษ์ที่สูงสิบฟุต ทั่วร่างสวมใส่เกราะเหล็กโดยที่หนึ่งมือถือขวาน หากมองให้ดีจะเห็นว่ายักษ์ตนนี้เป็นซากศพที่เน่าเปื่อยจนเห็นโครงกระดูก ดวงตาของมันส่องสว่างราวกับดวงไฟที่ลุกโชน

ทันทีที่ยักษ์ตนนี้ปรากฏตัวมันเหวี่ยงขวานในมือโจมตีใส่หลิงฮันทันที เกราะบนร่างของมันปลดปล่อยรูปแบบอารมศักดิ์สิทธิ์ลึกลับออกมาทำให้ยักษ์ตนนี้ดูราวกับเป็นของจริง

เพียงแค่คลื่นเสียง เหตุใดถึงได้ให้ความรู้สึกเหมือนจริงขนาดนี้?

แต่ถึงอย่างไรหลิงฮันก็ไม่หวั่นเกรง เขากำหมัดตอบโต้ขวานขนาดมหึมา คลื่นปะทะที่เกิดขึ้นส่งผลให้พื้นดินรอบด้านพังทลายไม่เหลือซาก

เพียงแต่ว่าสถานที่แห่งนี้คือเขตรกร้าง ต่อให้จะเกิดความเสียหายมากขนาดไหนก็ไม่เป็นอะไร

ที่น่าตกใจก็คือยักษ์ตนนั้นสามารถป้องกันการโจมตีของหลิงฮัน

เรื่องนี้ทำให้หลิงฮันอดคิดไม่ได้จริงๆว่าเพียงแค่คลื่นเสียงเหตุใดถึงได้ทรงพลังเพียงนี้?

หลิงฮันหัวเราะสนุกและรัวหมัด รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายบนหมัดและแขนของเขา พลังทำลายของหมัดถูกยกขึ้นไปอีกระดับและทำลายยักษ์ทิ้งทันที

แต่เพียงอู่เมี่ยนดีดสายพิณอีกไม่กี่ครั้ง ยักษ์อีกตัวก็ปรากฏออกมาและโจมตีใส่เขา

ไม่จบไม่สิ้น!

หลิงฮันส่ายหัว เขาโคจรทักษะย่างก้าวไล่ตามดาราเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าไปประจันหน้ากับอู่เมี่ยน

“หืม?” อู่เมี่ยนชะงัก นึกไม่ถึงว่าหลิงฮันจะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็แค่ตะลึงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาหยิบดาบเล่มบางออกมาจากพิณและแทงเข้าใส่หลิงฮัน

ดาบถูกซ่อนอยู่ในพิณ? ช่างเป็นการโจมตีสังหารฉับพลันที่คาดไม่ถึงจริงๆ

ช้าไปแล้วที่หลิงฮันจะเปลี่ยนวิถีของทักษะย่างก้าวไล่ตามดารา เขาพยายามฮึดเบี่ยงร่างของตัวเอง

‘พรึบ’ ร่างของเขาเบี่ยงลอยถอยหลังราวกับใบไม้ที่ร่วงจากต้น

‘ฉัวะ’ ปลายดาบเฉียดจมูกของหลิงฮัน หากเขาเบี่ยงหลบน้อยกว่านี้อีกนิดเดียวจมูกของเขาคงถูกเฉือนแน่ ถึงแม้ดาบจะฟันไม่เข้าแต่ก็คงเจ็บไม่น้อย

ด้านหลังของหลิงฮัน ยักษ์ได้เตรียมโจมตีเอาไว้แล้ว ขวาของมันฟาดลงมายังหลังของเขา

อู่เมี่ยนไม่ปล่อยให้หลิงฮันมีโอกาสตั้งตัว เขาโจมตีจากด้านหน้าอีกทางเพื่อกดดันหลิงฮัน

‘ปัง ปัง ปัง’ เขากับยักษ์ร่วมมือกันผสานการโจมตีกระหน่ำใส่หลิงฮัน

รุนแรงมาก!

จิตใจของหลิงฮันรู้สึกบีบรัด ในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกไล่ต้อนเช่นนี้ ที่จริงต่อให้บอกว่าระดับพลังเท่ากัน แต่ความจริงขั้นพลังของอีกฝ่ายสูงกว่าเขาหนึ่งขั้นย่อย แถมต่อให้อู่เมี่ยนลดพลังของตัวเองลงมา ความเข้าใจในการควบคุมอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของอีกฝ่ายก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พลังต่อสู้ของทั้งสองแตกต่างกันอย่างมาก

แต่ในโลกนี้จะมีการต่อสู้ที่ยุติธรรมอย่างแท้จริงรึไง? หากจะโทษก็สมควรโทษตัวเขาเองที่มีพลังไม่มากพอ

หลิงฮันไม่บ่นร้องขอความเป็นธรรม ในเมื่ออีกฝ่ายใช้อาวุธเขาก็ไม่จำเป็นต้องออมมืออีกต่อไป เขาคำรามและจับดาบอสูรนิรันดร์

ทันใดนั้นเอง พลังปราณอันเข้มข้นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ดาบอสูรนิรันดร์ยกระดับเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกแล้ว พลังของมันเรียกได้ว่าชั้นหนึ่ง และเมื่อผสานพลังเข้ากับอำนาจสวรรค์ พลังทำลายของมันจึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม หลิงฮันสะท้านดาบออกไป ‘ฉัวะ’ ยักษ์ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนในพริบตา คลื่นดาบยังไม่สลายไปและบดขยี้ร่างที่ถูกผ่าครึ่งของยักษ์จนไม่เหลือซาก

“เป็นดาบที่ดี!” อู่เมี่ยนไม่ลืมที่จะเอ่ยชมพร้อมกับกวัดแกว่งดาบของตนไปพร้อมๆกัน

ปัง!

ดาบของทั้งคู่ปะทะเข้าหากันก่อให้เกิดประกายลุกโชน

ดาบของอู่เมี่ยนนั้นเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับแปด แต่มันไม่สามารถกำราบดาบอสูรนิรันดร์ลงได้ ดาบเล่มนี้อยู่กับอู่เมี่ยนมานานจนเจตจำนงของเขาถูกสลักลงบนตัวดาบแล้วอย่างสมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถชิงความได้เปรียบจากดาบอสูรนิรันดร์ได้เลย

อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกที่สามารถต่อกรกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดได้… อู่เมี่ยนจะต้องการมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ปัง! ปัง! ปัง!

อู่เมียนจะต้องเป็นรุ่นเยาว์ระดับราชาที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ผิดแน่ พลังต่อสู้ของเขาน่ากลัวเกินจะบรรยาย

เขาเชี่ยวชาญอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ยิ่งกว่าหลิงฮัน ส่วนหลิงฮันก็มีกายหยาบที่ทนทานราวกับสัตว์ประหลาด คนหนึ่งมีพลังโจมตีที่รุนแรงกับอีกคนหนึ่งมีพลังป้องกันที่ทนทาน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้นยากที่จะคาดเดา

เพียงแต่ว่า หากการต่อสู้ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้ชนะที่ยืดหยัดเป็นคนสุดท้ายสมควรเป็นหลิงฮัน

นั่นเพราะพลังป้องกันของเขาคือกายหยาบที่คงสภาพอยู่ตลอด ในขณะเดียวกันเมื่อใดที่อู่เมี่ยนใช้พลังปราณจนแห้งเหือด แค่อีกฝ่ายถูกโจมเล็กน้อยเล็กก็ตัดสินการต่อสู้ได้แล้ว

“ฮ่าๆๆๆ” เสียงเราะลากยาวดังขึ้น อู่เมี่ยนเป็นฝ่ายหยุดสู้ก่อนและกล่าว “ในการต่อสู้ระดับเดียวกันข้าเอาชนะเจ้าไม่ได้จริงๆ”

“ข้าก็ชนะเจ้าไม่ได้เช่นกัน” หลิงฮันกล่าวตอบ

“ถ้าระดับพลังของเจ้าเท่ากับข้าจริงๆ เจ้าอาจจะเอาชนะข้าได้ เพราะอย่างไรข้าก็แค่ลดระดับพลังลงมาเท่านั้น ความเชี่ยวชาญในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของข้ายังเหนือกว่าเจ้าอยู่ดี” อู่เมี่ยนกล่าวตามตรง

“แต่…” เขาหยุดพูดไปชั่วครู่ “นั่นก็แค่การสู้ประลองเท่านั้น ถ้าเป็นการฆ่าฟันของจริงก็ไม่มีใครรู้ว่าฝ่ายใดจะรอดหรือตาย”

หลิงฮันพยักหน้า อัจฉริยะเช่นพวกเขาจะไม่มีไพ่ลับซ่อนเอาไว้ได้อย่างไร?

การต่อสู้เมื่อครู่เขาไม่ได้ใช้อำนาจแห่งสวรรค์ แถมต่อให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเขาก็ยังมีหยดวารีอมตะที่สามารถฟื้นฟูบาดแผลทันที และต่อให้จะเป็นโอกาสหนึ่งในร้อยส่วนก็ตามเขาก็ยังสามารถกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านได้อีก

และแน่นอนว่าไพ่ลับก้นหีบที่แท้จริงย่อมเป็นหอคอยทมิฬ หากสถานการณ์ย่ำแย่จริงๆต่อให้เขาเข้าไปซ่อนในนั้นแม้แต่เซียนก็หาเขาไม่พบ!

ทั้งสองคนมีความรู้สึกเหมือนกับเป็นสหายเก่าที่พบเจอกันอีกครั้ง ทั้งสองนั่งลงสนทนาคุยกันอย่างสนิทสนม แม้อู่เมี่ยนจะมีระดับพลังที่สูงกว่า แต่ความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธของหลิงฮันก็ทำให้เขาได้รับรู้สิ่งใหม่ๆอย่างคาดไม่ถึง

หลิงฮันก็ได้เรียนรู้จากการสนทนากับอีกฝ่ายเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็มีระดับพลังที่สูงกว่าเขา

พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรสจนแม้จะผ่านไปสามวันแล้วก็ยังไม่หยุด พวกยังคุยกันราวกับว่าต่อให้ผ่านไปอีกเจ็ดถึงแปดวันพวกเขาก็ยังมีเรื่องให้คุยกันต่อได้

“ฮ่าๆๆ ในที่สุดข้าก็เจอตัวเจ้าแล้ว!” น้ำเสียงที่ฟังดูโกรธแค้นดังขึ้นพร้อมกับร่างของเชี่ยตงหลายที่เดินเข้ามา ด้านหลังของเขาตามมาด้วยคนรับใช้ชราสองคนและสตรีวัยกลางคนคนหนึ่ง

จูหลี่หยุน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด