Alchemy Emperor of the Divine Dao 1319

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1319 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ฉึบ’ จุดแสงแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งเข้าใสฉือหวง

“คิดว่ามีเพียงเจ้าที่ครอบครองอาวุธเซียน?” ฉือหวงแสดงท่าทีเหยียดหยาม ‘พรึบ’ ชุดคลุมของเขาส่องแสงสว่างเจิดจ้ากลายเป็นโล่คุ้มกันอันแข็งแกร่ง

‘ปัง’ ลำแสงเข้าปะทะกับโล่คุ้มกันของฉือหวงและสลายไป

อย่างที่รู้ว่าชุดคลุมนี้ถูกถอขึ้นจากเส้นใยที่ทำจากหยดโลหิตนกอมตะที่เป็นวัตถุดิบเซียน ดังนั้นชุดคลุมนี้ถึงแฝงเอาไว้ด้วยเจตจำนงแห่งเซียน หากถูกกระตุ้นใช้งานมันจะน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน?

เมื่อเป็นการปะทะกันของอาวุธเซียน ฉือหวงจึงไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย หรืออาจจะได้เปรียบด้วยซ้ำ

“ข้าคร้านจะรังแกเจ้าแล้ว ไสหัวไป!” ฉือหวงคำราม ด้วยพลังระดับดาราขั้นสูงสุดและอาวุธเซียน พลังต่อสู้ของเขาจึงเหนือกว่าอย่างไม่น่าแปลกใจ

แม้ว่าฉื้อหวงจี่่จะไร้เทียมทานในป่าภูผาวารี แต่เขาก็ไม่ใช่อัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกภายนอก

อย่างเช่นหลิงฮันที่เป็นผู้ชนะอันดับหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนเป็นที่โลกภายนอกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเป่ยหวง ฉือหวง อู่เมี่ยนหรือราชาคนอื่นๆก็แข็งแกร่งกว่าเขาทั้งนั้น เพราะอย่างไรเขาก็ยังขัดเกลาระดับสุริยันจันทราไม่บรรลุขั้นสมบูรณ์เลย

ฉื้อหวงจี่่กัดฟัน เขามีอาวุธแห่งเซียนที่ทำให้เขาสังหารจอมยุทธระดับดาราได้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครแท้ๆ แต่เหตุใดเขาถึงไม่สามารถจอมยุทธระดับสุริยันจันทราตัวจ้อยได้?

‘ครืนนน’ ในทันใดนั้นเอง ใต้เท้าของทุกคนก็เกิดสั่นสะเทือนจนทรงตัวไม่อยู่

เกิดอะไรขึ้นกัน?

‘ครืน’ ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งตัวได้ พื้นดินใต้เท้าของพวกเขาก็ทรุดตัวพร้อมกับดึงร่างทุกคนลงไป

ใต้เท้าของพวกเขากลายเป็นนรกที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง!

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนตื่นตระหนก เหล่าจอมยุทธระดับดาราพยายามลอยตัวแต่ก็พบว่าอำนาจกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพีกำลังปั่นป่วน ส่งผลให้พวกเขาร่วงสู่เหวนรกไม่ต่างกับเหล่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทราหรือระดับดารา

มีเพียงระดับวารีนิรันดร์เท่านั้นที่พยุงร่างลอยตัวขึ้นมาได้ แต่ด้วยความตื่นตระหนกพวกเขาจึงไม่มีเวลาพอจะคว้าร่างช่วยเหลือใคร

จอมยุทธมากมายที่ร่วงลงไปราวกับเป็นลูกศรที่ดิ่งลงเหว ภายใต้แรงโม้มถ่วง ร่างของพวกเขาดิ่งแกนกลางโลกด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เหวนี้ลึกเป็นอย่างมาก หัวใจของพวกเขาเต้นไปนับร้อยครั้งแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะถึงก้นเหวเสียที ในทางกลับกัน เสียงล้มที่ย้อนขึ้นมาเริ่มดังขึ้น

ณ ตอนนี้คนที่มีสายเลือดสัตว์อสูรที่สามารถบินได้ต่างกางปีกออกเพื่อพยายามต่อต้านแรงโน้มถ่วงให้ร่วงช้าลง

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กางปีกนกอมตะออกมา แต่เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นบาดเจ็บ นางจึงกางปีกออกเพียงสามฟุตเท่านั้น นางกระพือปีกไปหาหลิงฮันและกอดเขาเอาไว้

“ข้าบินไม่ได้!” นางตกตะลึง

หลิงฮันพยักหน้า “ก่อนอื่นลงไปด้านล่างก่อน คาดว่าแรงที่ดึงพวกเราลงสู่ก้นเหวนี้คงไม่ได้มีอยู่ตลอดไป เมื่อใดที่แรงดูดอ่อนตัวลงพวกเขาค่อยลองบินกลับขึ้นไป”

“อืม!” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์พยักหน้า และเปลี่ยนทิศทางกระพือปีกบินลงไปสู่หุบเหวเพื่อดูว่านรกด้านล่างลึกขนาดไหน

หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม พื้นหุบเหวก็ปรากฏให้เห็น ที่ก้นเหวมีแท่งหินแหลมมากมายยื่นออกมา จอมยุทธหลายคนที่ร่วงลงมือถึงก่อนถูกแท่งหินเหล่านี้เสียทะลุท้องด้วยสภาพน่าอนาถ

โชคดีที่พวกเขาเป็นจอมยุทธระดับพระเจ้า บาดแผลแค่นี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาถึงตายและพยายามดึงร่างของตัวเองออกจากแท่งหิน

ครืนน!

ลมได้ถูกดูดอย่างรุนแรงจากปากถ้ำที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าพวกเขา ถ้ำด้านหน้านี้เป็นต้นเหตุให้เกิดแรงดูดที่รุนแรง

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์หุบปีก นางกับหลิงฮันคว้าจับแท่งหินเอาไว้เพื่อต่อต้านแรงดูด

หลิงมองไปยังถ้ำและพบเพียงว่ามันคือถ้ำขนาดมหึมา แม้แต่ดวงตาของเขาก็ไม่อาจบอกได้ว่าถ้ำนี้ลึกขนาดไหน

‘ครืนนน’ ลมได้ถูกดูดอย่างรุนแรง

“อ้ากก” ใครบางคนร้องโอดครวญเนื่องจากไม่สามารถต่อต้านแรงลมได้และลอยตามแรงดูดหายเข้าไปในถ้ำอันมืดมิด

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ตูม!

ตรงบริเวณที่ไม่ไกลจากที่หลิงฮันอยู่ มีบางสิ่งขนาดเท่าฝ่ามือตกลงมา แม้จะมีขนาดเล็กแต่น้ำหนักกลับหนักจนน่าตะลึง พื้นดินที่ถูกกระแทกก่อให้เกิดคลื่นสะท้อนจนแท่งหินรอบๆพังทลาย

“ให้ตายเถอะ ข้าเกือบตายแล้ว!” ใครบางคนคลานออกมา เขาเป็นคนที่มีขนาดตัวเพียงสามนิ้ว จะไปใครอื่นได้นอกจากฉือหวง?

เขาที่มีสายเลือดของจิตวิญญาณศิลานั้น แม้ร่างกายจะมีขนาดเล็กแต่น้ำหนักนั้นราวกับขุนเขา ดังนั้นต่อให้ไม่ต้องใช้พลังปราณต่อต้าน แรงดูดจากถ้ำก็ไม่สามารถดูดเขาเข้าไปได้

“ที่นี่แปลกมาก!” เป่ยหวงเดินเข้ามา เขากระตุ้นใช้งานกระบี่ในมือซึ่งเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบห้า อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับนี้คือระดับที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้อาวุธเซียน แต่ด้วยระดับพลังของเป่ยหวงทำให้ยังไม่สามารถแสดงอำนาจของกระบี่เล่มนี้ได้อย่างเต็มที่

เย่วหยิง แม่นางหยุน หยางหลินและราชาคนอื่นๆก็เดินเข้ามา พวกเขาปลดปล่อยปราณก่อเกิดออกมาเต็มกำลังเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคว้าจับแท่งหินเอาไว้โดยที่ไม่โดดลมประหลาดดูดเข้าไป ในขณะเดียวกัน เหล่าอัจฉริยะของดินแดนใต้พิภพก็รวมตัวกันอยู่อีกมุมหนึ่ง

เหล่าสิ่งมีชีวิตใต้พิภพคิดว่านี่คือกับดักของทางดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่คิดจะกำจัดพวกเขา

“อ้ากก” เสียงของใครบางคนที่โดนลมประหลาดดูดเข้าไปในถ้ำยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คนที่ถูกดูดเข้าไปคือเหล่าจอมยุทธระดับภูผาวารี พวกเขามีพลังไม่มากพอที่จะต่อต้านลมประหลาด

หลิงฮันสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้หลิงฮันและคนอื่นๆตกตะลึงเช่นกัน แม้ระดับสุริยันจันทราจะไม่นับเป็นอันใดในสายตาพวกเขา แต่เพียงแค่สายลมยังน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ หรือว่าบางทีบางสิ่งบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวกำลังจะเกิดขึ้น?

“พรึบ!” ตัวตนระดับวารีนิรันดร์สี่คนปรากฏตัว สองคนเป็นฝ่ายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก็คือนักพรตกว่างฉิงและราชันสวรรค์เฉินเฟิง ส่วนทางด้านของดินแดนใต้พิภพนั้นไม่อาจรู้ว่าทั้งสองเป็นใคร หนึ่งคือคนที่ดูเหมือนนักปราชชุดขาวในขณะที่อีกคนคือชายร่างใหญ่ที่มีหัวเป็นหมาป่า

“เลิกทำเป็นลึกลับแล้วเผยตัวออกมา!” ราชันสวรรค์เฉินเฟิงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและปล่อยฝ่ามือ วิถีดาราจักรลอยพุ่งเข้าไปยังทางเข้าถ้ำอันมืดมิด

ในวิถีดาราจักรมีดวงดาวระยิบระยับอย่างน้อยหนึ่งร้อยดวง วิถีดาราจักรลอยเข้าไปในถ้ำพร้อมกับส่องสว่างเจิดจ้า

พรึบ!

ไม่รู้ว่าในถ้ำลึกเกิดอะไรขึ้น แต่วิถีดาราจักรที่ลอยเข้าไปได้ถูกทำให้สลายในพริบตาจนถ้ำกลับมามืดอีกครั้ง

สีหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นตกตะลึง เขาโคจรเนตรแห่งสัจธรรมทำให้มองเห็นได้ชัดเจน ฉือหวงและราชาคนอื่นๆที่มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าเขาและมีทักษะตรวจสอบที่คล้ายๆกันก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงพริบตาในถ้ำลึกเมื่อครู่เช่นกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด