Alchemy Emperor of the Divine Dao 1356

Now you are reading Alchemy Emperor of the Divine Dao Chapter 1356 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ซือหม่าหลิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หลี่ลั่วถงตะโกนทันที

ซือหม่าหลิงมองไปยังติงผิงและกล่าว “เจ้าหนูนั่นเป็นเพียงคนนอกเหตุใดเจ้าถึงไปพลอดรักกันโดยไม่ไว้หน้าข้า?”

ที่แท้ก็เป็นรักสามเศร้า

หลิงฮันกับคนอื่นๆไม่กล่าวอะไรและให้พวกเขาจัดการปัญหาเรื่องนี้เอาเอง

“ข้าจะทำอะไรกับใครแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” หลี่ลั่วถงไม่สบอารมณ์

“เจ้าลืมไปแล้วรึว่าตระกูลตั้งใจจะให้พวกเราสองคนแต่งงานกัน?” ซือหม่าหลิงพยายามอดกลั้นความโกรธและกล่าวออกมา

“แล้วมันอย่างไร? คุณหนูผู้นี้ไม่เคยเคยเจ้าแม้แต่น้อย!” หลี่ลั่วถงกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า

ซือหม่าหลิงระเบิดอารมณ์ออกมา “หมอนั่นดีกว่าข้าตรงไหน? ในแง่ของพรสวรรค์ ข้ามีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดของตระกูลซือหม่าในช่วงล้านปีนี้ เจ้าหนูนั่นจะทัดเทียมข้าได้? ในแง่ของพลังบ่มเพาะข้าเองก็บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดแล้ว ข้าแข็งแกร่งกว่าหมอนั่นไม่รู้กี่ร้อยล้านเท่า ยิ่งกว่านั้นในแง่ของรูปลักษณ์ข้าเองก็หล่อเหลากว่าเยอะ รูปลักษณ์ของหมอนั่นแค่ธรรมดาสามัญ!”

พรวด!

เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย พวกหลิงฮันก็เผยรอยยิ้ม

ขอโทษนะ… เจ้าที่ตัวเป็นสีฟ้าแบบนั้นกล้าเรียกตนเองว่าหล่อเหลางั้นรึ? เจียนเยว่ซวนตลกจนเผลอหัวเราะออกมา

“บัดซบ!” ซือหม่าหลิงเกรี้ยวกราดและปล่อยหมัดที่ปกคลุมไปด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ใส่เจียนเยว่ซวน

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์สะบัดมือเบาๆ ‘ปัง’ รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์บนหมัดสลายไปทันที

พลังบ่มเพาะของนางในตอนนี้คือระดับสุริยันจันทราขั้นสมบูรณ์ นางแข็งแกร่งกว่าซือหม่าหลิงไม่รู้กี่เท่า

“อาจารย์หญิงช่างแข็งแกร่ง!” เจียนเยว่ซวนชูมือขึ้นและตะโกน

แววตาของซือหม่าหลิงกลายเป็นขึงขัง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความหลงใหล สตรีผู้นี้ไม่เพียงแข็งแกร่งแต่ยังงดงามมากด้วย ซึ่งทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้าน เขากำหมัดและกวาดตามอง “พวกเจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลซือหม่า”

“ซือหม่าหลิง เจ้าไม่ได้ค่าพอจะเป็นตัวแทนของตระกูลซือหม่าทั้งหมด!” หลี่ลั่วถงกล่าว

ซือหม่าหลิงเค้นเสียงและกล่าว “ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเรื่องที่ตระกูลของพวกเราตัดสิน เจ้าที่เล่นชู้กับเด็กนั่นไม่เพียงแต่จะกระตุ้นความโกรธของตระกูลซือหม่า… แม้แต่ตระกูลเจ้าเองก็ไม่มีทางเข้าข้างเจ้า!”

สีหน้าของหลี่ลั่วถงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตระกูลตั้งแต่จะมอบตัวนางให้กับซือหม่าหลิงซึ่งนางได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เมื่อนางตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับติงผิง หากผู้อาวุโสตระกูลรู้เข้าจะต้องเกรี้ยวกราดเป็นแน่

“ไม่ต้องไปใส่ใจ ต่อให้ท้องฟ้าร่วงหล่นข้าก็จะแบกรับเอาไว้ให้เอง” ในที่สุดหลิงฮันก็เปิดปาดพูด “ในเมื่อเจ้าตกลงปลงใจกับติงผิงแล้ว ในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์ของเขานี่ถือเป็นของขวัญต้อนรับ” เขาสะบัดนิ้วโยนขวดเม็ดยาให้กับหลี่ลั่วถง

หลี่ลั่วถงรับขวดเอาไว้ นางรู้สึกว่าคำพูดของหลิงฮันแฝงไปด้วยอำนาจอันทรงพลังที่ต้องเชื่อฟัง

นางเปิดฝาขวดออกและเทเม็ดยาสีแดงเพลิงที่ปกคลุมไปด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ลงบนฝ่ามือ ทันทีที่เม็ดยาถูกเทออกจากขวด เม็ดยาก็สั่นไหวราวกับพยายามจะหลบหนีออกจากฝ่ามือของนาง

นี่มัน!

ในตอนแรกหลี่ลั่วถงไม่คาดคิดว่าหลิงฮันจะมอบเม็ดยาที่ยอดเยี่ยมอะไรมากให้เป็นของขวัญ ในฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่ สายตาของนางย่อมเฉียบคม นางดูออกว่าเม็ดยาเม็ดนี้เกือบจะมีสติปัญญาในตัวเอง!

เม็ดยาชนิดนี้จะไม่สูญเสียประสิทธิภาพไปตามกาลเวลา

“เม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง!” สายตาของนางเฉียบคมมากและจำแนกเม็ดยาได้ทันที นางมีความสุขเป็นอย่างมาก ด้วยเม็ดยานี้ ระยะเวลาบ่มเพาะพลังของนางจะย่นลงมาถึงหมื่นปี

“ว่าไงนะ!” ซือหม่าหลิงตกตะลึงไม่แพ้กัน เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งเป็นเม็ดยาที่ราคาสูงลิบลิ่วในตลาดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เขาก็เพียงแค่เคยได้ยินชื่อของเม็ดยาชนิดนี้แต่ไม่มีโอกาสได้กินสักครั้ง

หากเขาได้ครอบครองเม็ดยาเช่นนี้สักจำนวนหนึ่ง เขาจะบรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดได้ภายในระยะเวลาแสนปีและมีเวลาเหลือเฝือในการทะลวงผ่านระดับดารา

หลี่ลั่วถงทั้งตกตะลึงและมีความสุข นางกุมเม็ดยาเอาไว้โดยไม่รู้จะกล่าวอะไรดี

“เหตุใดถึงยังไม่ขอบคุณท่านอาจารย์ของข้า” ติงผิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ขอขอบคุณท่านอาจารย์!” หลี่ลั่วถงรีบโค้งคำนับ

หลิงฮันสะบัดมือ ในฐานะจักรพรรดิปรุงยาที่มีหอคอยทมิฬ เขาไม่สนใจเรื่องมูลค่าของเม็ดยามากเท่าไหร่

ซือหม่าหลิงถลึงตาจ้องหลิงฮันเขม็ง

ทั้งหนึ่งพันผลึกก่อเกิด เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งและความโกรธที่มีคนแย่งคนรักไป ความแค้นของเขาในตอนนี้เดือดดาลเป็นอย่างมาก

“ฮึ่ม!” ซือหม่าหลิงหันหลังเดินจากไป

ตอนนี้เขาไม่อาจทำอะไรได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องแย่งตัวหลี่ลั่วถงกลับมาเลย แค่สตรีงดงามของอีกฝ่ายก็มีพลังเหนือกว่าเขาแล้ว ดื้อรั้นลงมือต่อไปก็มีแต่จะทำให้ตัวเองเป็นตัวโง่งม

“ไม่ต้องไปใส่ใจ หลังจากการประมูลจบพวกเขาจะออกจากเมืองนี้” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส แม้เขาจะมีพลังระดับดาราขั้นต้น แต่หากเอาจริงก็ใช่ว่าจะไม่สามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุด

ตอนนี้เขาให้ความสนใจทั้งหมดไปกับแก่นไขกระดูกหยกที่ให้สัญญากับเฒ่าสวีเอาไว้

หลิงฮันไม่ปล่อยเวลาว่างให้เสียเปล่าและศึกษาหลอมเม็ดยาชนิดใหม่ ตอนนี้เขาบรรลุระดับดาราแล้ว ระดับของเม็ดยาที่สามารถหลอมได้ก็เพิ่มขึ้น ตอนนี้ขีดจำกัดในการหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ของเขาคือระดับเก้าถึงสิบสอง

เขานำขวดที่ใส่หยดพลังวิญญาณของฉือหวงออกมาและผสมลงไปกับเม็ดยาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพเม็ดยาให้สูงขึ้น

ฉือหวงคือจิตวิญญาณศิลา โลหิตของเขาบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ดังนั้นหยดพลังวิญญาณที่ได้จากเขาจึงเป็นยาบำรุงชั้นเลิศ หลิงฮันเผลอเกิดความคิดชั่ววูบว่า หากไปขอให้สหายของเขาคนนี้รีดเค้นหยดพลังวิญญาณออกมาอีกซักเล็กน้อยจะเป็นอะไรไหม?

แต่เขาก็ส่ายหัวสลัดความคิดนี้ทิ้ง หากสิ่งที่เขาคิดถูกบิดาของฉือหวงล่วงรู้เข้า เกรงว่าเขาคงถูกทุบตีจนหน้าบวมเป็นหมูแน่

สิบวันต่อมา พลังบ่มเพาะของหลิงฮันยกระดับขึ้นอย่างมั่นคงแต่ยังอีกไกลกว่าจะบรรลุขั้นต้นชั้นกลาง

ณ ตอนนี้ในที่สุดก็ถึงเวลาที่การประมูลจะเริ่มแล้ว

……

ณ ตระกูลซือหม่า

ซือหม่าหลิงเดินติดสอยห้อยตามรุ่นเยาว์ผู้หนึ่งอย่างเคารพ หากไม่ใช่เพราะแก่นไขกระดูกหยกถูกนำประมูลคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญแขกคนนี้มายังตระกูล

ถ้าหลิงฮันอยู่ที่นี่เขาจะต้องจำแขกคนนี้ได้เพียงแค่ชำเลืองมองแน่นอน… แขกผู้มีเกียรติที่ว่าก็คือจ้าวขู่

“นายน้อยขู่ เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าพบเห็นสตรีที่งดงามมากคนหนึ่ง นางเป็นสตรีที่มีเสน่ห์ยั่วยวนเป็นอย่างยิ่ง!” ซือหม่าหลิงหัวเราะในใจ เขาต้องการจะนำพาจ้าวขู่ไปหาหลิงฮัน นายน้อยเจ้าสําราญเช่นจ้าวขู่จะต้องสนใจในตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์แน่ และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นของความบาดหมางระหว่างจ้าวขู่กับหลิงฮัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด